"the mask singer โค้งสุดท้าย ดูจบได้อะไร"

ครั้งนึงเราเคยตัดสินคนอื่นจากสื่อ หรือเราไม่ชอบคนนั้นตามเพื่อน
ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักตัวตนเค้าจริงๆด้วยซ้ำ แต่พอมาวันนึงเราลองได้สัมผัสเค้า
ได้รู้จักเค้า เรากลับหลงรักเค้าเข้าไปแล้ว อย่างเช่นแตงโม
เชื่อว่าหลายคนไม่ชอบเค้า หมั่นไส้เค้า แต่ภายใต้หน้ากากพยาบาล
แตงโมดูมีเสน่ห์และน่ารักมาก ยอมรับเลยว่าเริ่มดูรายการนี้เพราะหน้ากากพยาบาล
ในกรุ๊ปไลน์คุยกันถึงแต่เรื่องนี้ คนที่เคยไม่ชอบ กลับพูดว่า จริงๆแตงโมก็น่ารักดีนะ
เราถามมันว่า เอ้า..ไหนเมื่อก่อนไม่ชอบไง มันบอก ก็ไม่ชอบตามไอ...
เนี่ยแหล่ะครับโลกความจริง บางคนถูกตัดสินว่าเป็นแบบไหนจากคำพูดคนอื่น
เมื่อศึกษาชีวิตแต่ละคนในรายการ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผ่านอะไรมาบ้าง การได้มา
ว่ายากแล้ว แต่การรักษามันไว้ยิ่งยากกว่า

-ได้หวนคิดถึงอดีต นักร้องคุณภาพหลายๆคนที่เคยโลดแล่นอยู่ในยุค 90 อย่าง
  นิค เดอะสตาร์ - โป้ โยคีเพลย์บอย - ออดี้ - กวาง AB - แนนซี่ (ราฟฟี่-แนนซี่)
  หลายคนยังทำตามความฝัน บางคนเปลี่ยนเส้นทางชีวิตไปทำอย่างอื่น

-จ๊ะจ๋า อยากเป็นนักร้องมาก แต่เพราะความกลัวในใจตัวเอง เลยหยุดฝันไว้แค่นั้น

-แปม ไกอา ถูกมองว่าเป็นเกิลล์กรุ๊ปธรรมดา อาศัยขายหน้าตา
แต่รางวัลระดับเอเชียการันตรีความสามารถของเธอ

-อาร์ม กรกันต์ แสดงความถ่อมตัวออกมาขอโทษแฟนคลับโตโน่ ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง
แต่ความสามารถของเค้าทำให้เราได้รู้จักนักร้องคุณภาพอีกคนนึง

-บุ๋มปนัดดา เลือกที่จะเป็นด็อกเตอร์เพื่อคุณพ่อ เลือกจะเป็นนางสาวไทยเพื่อคุณแม่
แล้วหยุดความฝันตัวเองเพราะโดนคนอื่นตัดสินว่า เป็นพิธีกรดีอยู่แล้ว
ผมรู้สึกเศร้าไปกับแววตาคุณบุ๋ม เวลาที่คุณบุ๋มบอกว่าได้แต่ยืนมองคนอื่นทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
แต่ตัวเองทำได้แค่ร้องตามเบาๆหลังเวที

-ซี เจ้าหญิงไอที ผู้ผ่านงานมาแล้วทั้งละคร พิธีกร โฆษณา ผู้ประกาศข่าว คอลัมนิสต์ และดีเจ
เวทีขาอ่อนอย่างมิสไทยแลนด์เวิลล์ก้เข้ารอบ 30 คน และเจ้าของรางวัลเมขลา สาขาพิธีกร
ข่าวเทคโนโลยีดีเด่นยอดนิยม (เก่งไปแล้วววว) แต่เปิดหน้าหลายคนบ่น "ใครวะ" ซีเริ่มจากการ
เป็นคนชอบเกี่ยวกับไอที หัดเขียนสคริปต์พูดเอง พูดผิดบ้างถูกบ้าง ซีทำแทบจะทุกอย่าง
แต่ที่อยากทำมากที่สุดคือร้องเพลง ถึงจะร้องไม่เก่ง แต่ด้วยความรักและความตั้งใจฝึกฝน
ทำให้ผมยอมรับว่าเสียงเธอเพราะมาก

-พีเค เจ้าพ่องานอีเวนท์ กว่า 80 เปอร์เซ็นต์เสียงสปอตโฆษณาคือเสียงเค้า ผู้ที่กันต์ยอมรับว่านี่คือ
หนึ่งในอาจารย์ของเค้าที่ทำให้เค้ามีวันนี้ พีเคหลงรักเสียงดนตรีตั้งแต่เด็ก เค้ากลับมาเมืองไทยพื่อเป็นศิลปิน
เคยมีวงของตัวเองในชื่อ Sane แต่เค้ารู้ว่าเค้าทำอย่างอื่นได้ดีกว่า เค้าจึงเลือกทำ

หรือแม้กระทั่งกรรมการแต่ละท่าน เมื่อเราได้สัมผัสเค้าจริงๆ
กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ แต่ละคนต้องผ่านอะไรมาบ้าง

-ครูอ้วน กรรมการสายวิชาการที่หลายคนว่าแกพูดมาก แต่ผมชอบนะ รู้สึกได้ความรู้ดี
ชอบฟังเวลาท่านพูดให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขัน รางวัลมากมายในอดีตที่หลายคนไม่เคยรู้
ต้องขึ้นเวทีประกวดในวันที่พ่อเสียชีวิต ผมนับถือจิตใจคุณครู และต้องยอมรับว่าการพูด
อะไรยาวๆ เป็นสีสันอย่างนึงของรายการ วันไหนไม่มา ดูเหงาไปเลย

-แอบเห็นสายตาตั๊ก ศิริพรที่มองคุณบุ๋มด้วยความชื่นชม แต่สัมผัสได้ในความน้อยใจตัวเอง
ของน้ำเสียงว่า ทำไมไม่เป็นตัวเองที่ไปยืนอยู่ตรงนั้น การยอมรับออกมาว่า พี่เป็นนักร้องแท้ๆ
ยังรักการร้องเพลงไม่เท่าน้องเลย มันเท่มาก วันนี้คุณตั๊กคงเสียใจที่ตัวเองไม่ได้ทำเต็มที่

-เสนาหอยที่ครั้งนึงเคยมีเพลงฮิตอย่าง แอบเหงา และเคยเป็นโปรดิวเซอร์รายการแคนดิด
อันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ชื่อสาระแนจัง ทำร่วมกับเปิ้ลนาคร และวิลลี่ แมคอินทอช
หลายเสียงหัวเราะเกิดขึ้นเพราะเค้า

-หนึ่ง จักรวาล จากเด็กสลัมสู่โปรดิวเซอร์มือทอง ไม่มีใครสอนเปียโนให้
เพียงแค่ลักจำจากคนอื่นเล่น และฝึกหัดเองจนเป็นโปร แทบจะทุกเพลงในรายการเค้าออกแบบให้

-ป๋าเต็ด ยุทธนา ผู้เคยทำงานเป็นอยู่ในค่ายG ผันตัวเองมาเป็นดีเจคลื่นวิทยุ เปิดแต่เพลงนอกกระแส
หรือในสมัยนั้นเรียกว่าเพลงอินดี้ เบื้องหลังคอนเสิร์ตบิ๊กเมาเท่น ก็ได้เค้าคนนี้เป็นหัวเรือใหญ่
หรือจะไปดูหนังนอกกระแสอย่างที่ house rama rca ก็เป็นเค้าอีกนั่นแหล่ะ สมฉายาเจ้าพ่ออินดี้จริงๆ

-ดี้ นิติพงษ์ ผู้ชายพูดน้อย ต่อยหนัก อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการค่ายG
นักแต่งเพลงที่อยู่เบื้องหลังศิลปินดังมากมาย ถ้าให้ลิสต์คงนาน แต่ถ้าเอ่ยถึงเพลง
"ต้นไม้ของพ่อ" "รูปที่มีทุกบ้าน" ผมน้ำตาคลอทุกครั้งที่ได้ฟัง

สิ่งที่ดีของรายการอีกอย่างคือผู้ชายที่ชื่อ กันต์ กันตถาวร ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์เสื้อผ้า Monkey Surf
และแบรนด์รองเท้าสีสันแสบจี๊ดอย่าง 2morrow เวลานี้เค้าถูกยกให้เป็นพิธีกรเบอร์ต้นๆของเมืองไทย
อย่างไม่ต้องสงสัย น้ำเสียง ลีลา จังหวะ มันลื่นไหลไปหมด ไม่ต้องมีคำหยาบ คำด่าที่ออกแนวน่ารัก
มากกว่าจะฟังแล้วโกธร ความอบอุ่นหลายๆครั้งที่ผู้เข้าแข่งขันได้รับ ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นผู้หญิงแกร่ง
อย่างบุ๋ม ปนัดดา ซบอกใครร้องไห้ แต่กันต์ทำได้ พิธีกรคนเดียวที่ขณะรายการออกอากาศ ในทวิตเตอร์
ถูกพูดถึงเป็นอันดับ 2 ของโลก แฮ็ทแท็ค #themasksinger เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีคนดูรายการ
สดทางโซเชียลถึง 10 ล้านคน ต้นแบบการทำงานของเค้าคือคุณปัญญา นิรันดร์กุล ซึ่งเป็นคนที่กันต์เคารพมาก

เวลาได้ยินคนบ่นว่า เอาใครมา ไม่เห็นรู้จักเลย ผมจะยิ้มแบบขำๆทุกที
ไม่ใช่ความผิดของรายการที่เอาคนที่คุณไม่รู้จักมา ไม่ใช่ความผิดคุณ
ที่ไม่รู้จักคนทั้งโลก แต่เราเลือกปล่อยผ่านได้ และเลือกจะยอมรับได้
ถ้าคุณชอบเสียงร้องเค้า คุณก็เปิดใจยอมรับเค้าติดตามเค้าได้
เบื้องหลังคนทุกคนมีโปรไฟล์ ลองเปิดใจดู ว่าเราจะเอามาปรับให้เข้ากับเรายังไง
ไม่ต้องเดินตามเค้าทุกอย่าง แค่ใช้เค้าเหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจก็ได้
ดูจบเคยถามตัวเองมั้ย ว่าดูเพื่ออะไร ทายถูกแล้วได้อะไร หรือคุณแค่
อยากเห็นศิลปิน สตาร์ที่คุณชอบ มาทำสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วว่าเค้าทำได้
หรือจะดูแค่ความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ก็ตามสบาย ไม่มีใครว่าอะไร
ลองหลับตา นึกถึงฝันที่เคยอยากทำ วันนี้ได้เริ่มทำรึยัง ทำถึงไหนแล้ว
จะหยุดหรือจะเดินต่อ เลี้ยวไปจะเจออะไร ปลายทางเป็นอย่างที่ฝันรึเปล่า
การมีฝันมันสนุกนะ จะปล่อยให้เป็นแค่ฝัน หรือจะทำฝันให้เป็นเรื่องจริง
ลืมตา...โลกความจริงอยู่ตรงหน้า ถามตัวเอง เราเริ่มทำอะไรบ้างรึยัง?