บทความนี้จะขอแชร์ในสิ่งที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ อาจจะมีบางส่วนที่ดูเกินไป แต่ก็สามารถสังเกตเห็นได้จริงในตัวหนังครับ พยายามจะพิมพ์ให้เป็นภาษาคนและเข้าใจง่ายๆ หากมีส่วนไหนผิดพลาด ก็ต้องขออภัยด้วยครับ และทั้งหมดนี้เป็นความเห็นและความเข้าใจส่วนตัวนะครับ คนอื่นอาจจะเห็นต่างก็ได้นะครับ (ในส่วนของชื่อตัวละครบางทีอาจจะพิมพ์ทับศัพท์ และเนื้อหาอาจจะวกไปวนมาบ้างนะครับ ต้องขออภัย)
*ถ้าใครไม่อยากอ่านยาวๆ อ่านสรุปตอนท้ายก่อนได้เลยครับ
Logan (2017)
เนื้อเรื่อง – ตัวเอกของ X- men ที่พลังของตัวเองอ่อนแอลง กำลังสิ้นหวัง รู้สึกว่าตนเองทำอะไรไม่ดีไว้เยอะ แยกออกมาอาศัยนอกเมืองกับ Charles Xavier มีเป้าหมายจะซื้อเรือลำหนึ่งแล้วออกสู่มหาสมุทร แต่บังเอิญมีผู้หญิงมาขอความช่วยเหลือเรื่องเด็กที่เธอพาหนีมาจากสถานวิจัยแห่งหนึ่ง โดยขอให้ไปส่งเด็กให้ถึงจุดหมายที่เธอต้องการจะไป เรื่องราวก็ดำเนินไปแบบ Road movie
ในส่วนของเนื้อเรื่อง แบ่งเป็น 3 ประเด็นก็แล้วกัน เพราะเลข 3 ดูมีความหมายกับเรื่องนี้นะครับ หลักๆน่าจะพูดถึงความเป็นมนุษย์กับเสรีภาพ ศาสนาและ ความเป็นอเมริกันชน
ประเด็นแรก เรื่องของโลแกน หรือ James Howlett หรือ Wolverine เป็นมนุษย์หมาป่า จะเห็นว่าในชื่อ มี "Wolve" กับ "Howl" ถ้าพูดถึงมนุษย์หมาป่าหรือ Werewolf แล้ว อาจจะเคยได้ยินว่าวันพระจันทร์เต็มดวงจะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด แต่กลางวันก็จะเป็นคนธรรมดา ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย (เหมือนโลแกน) วิธีเดียวที่จะฆ่าได้ก็คือ "Silver bullet" หรือกระสุนเงิน ถ้าเทียบกับในเรื่องก็คือ Adamantium นั่นเอง (ฉากอื่นๆที่แสดงถึงตัวตนของโลแกน คือ "Dog tag" , สุนัขที่เห่าจากริมน้ำฝั่งตรงข้าม ตอนฝังศพชาร์ล , และที่คนดำพูดกับโลแกนก่อนเข้าไร้ข้าวโพด พูดถึงสุนัขเฝ้าไร่ที่ถูกมนุษย์ฆ่าตาย )
ด้วยความที่หมาป่าก็เป็นสัตว์ป่า เป็นพวกล่าเนื้อทำให้ดูดุร้าย แต่ในเรื่องจะเห็นว่าโลแกนไม่เคยทำร้ายใครก่อน สังเกตได้จากฉากแรกที่โลแกนถูกแย่งล้อรถไป โลแกนก็ไม่ได้ทำร้ายใครก่อนแต่ถูกมนุษย์รุกรานก็เลยทำร้ายผู้อื่น อีกฉากก็จะเป็นที่งานศพ ตอนพยาบาลมาขอความช่วยเหลือแล้วโลแกนเดินไปที่หลังรถทำท่าเหมือนจะหยิบปืนออกมาแต่จริงๆ ก็เป็นร่ม
และด้วยความที่เป็นหมาป่า พอเข้ามาอยู่ในเมืองเหมือนผิดธรรมชาติ การที่โลแกนต้องมาขับรถรับใช้คนอื่นก็คงจะทำให้ดูว่ามันทำให้ดูผิดธรรมชาติของหมาป่า เหมือนหมาบ้านมากกว่า ในตอนท้ายการที่โลแกนตายในป่า ก็เป็นการกลับสู่ธรรมชาติ ทำให้ฉากที่สู้กันเป็นป่า ซึ่งเป็นเหมือนบ้านของตน ก็มีส่วนสอดคล้องกับ Quote จากเรื่อง Shane ที่ลอร่าพูดในตอนท้าย
ในเรื่องก็จะพูดถึง เสรีภาพ และความเป็นมนุษย์ เห็นได้จากจุดหมายของชาร์ลและโลแกน ต้องการจะหาเงินเพื่อซื้อ เรือลำหนึ่งเพื่อออกสู่มหาสมุทร มหาสมุทรน่าจะสื่อถึงความมี เสรีภาพ โดยชื่อเรือ คือ Sunseeker ถ้าพูดถึงความเป็นมนุษย์แล้วการที่พบแสงอาทิตย์ ช่วงระหว่างวันมนุษย์หมาป่าก็จะกลายเป็นคนธรรมดา ซึ่งการไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดและอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ เป็นสิ่งที่หนังเรื่อง X-men มักจะนำมาเกี่ยวข้องเกือบทุกภาค (มีคำพูดหนึ่งของคาลิบันที่พูดเรื่องเรือกับโลแกนว่า Sun is the keyword และใบปิดหนังเกือบทุกใบมีดวงอาทิตย์ให้เห็น นอกจากนี้ ดวงอาทิตย์น่าจะสื่อความหมายอื่นๆด้วยจะอธิบายในส่วนต่อไปครับ)
ในเรื่องของ เสรีภาพ / Liberty นั้นมีการกล่าวถึงอยู่หลายอย่าง เช่น
- ตอนโลแกนถูกเรียกให้ไปรับผู้โดยสารที่โมเต็ล โลแกนมองขึ้นไปที่ชื่อ เป็นคำว่า Liberty แต่ไฟตรงคำว่า Ber มันดับไป ก็เหมือน Liberty ไม่เต็มคำ
- ตอนที่ Charles บอกโลแกน ว่าพลังของชาร์ลเห็น พยาบาลกาเบรียลกับลอร่ารออยู่ที่ Statue of liberty โลแกนบอกว่ามันเป็นสถานที่เมื่อนานมาแล้ว เหมือนไม่มีอยู่จริงแล้ว
- วอลเปเปอร์ “รูปนก” ในห้องนอนที่ชาร์ลตาย
- โมบิลรูปปลา คู่กับ ขวดน้ำเกลือ ตอนที่โลแกนตื่นขึ้นมา อาจจะสื่อถึง มหาสมุทร และเสรีภาพอีกเช่นกัน
(ก่อนจะเป็นฉากนี้ คำพูดสุดท้ายของชาร์ลบอกให้หาเรือ Sunseeker ให้เจอ จากนั้นโลแกนฝังศพ ชาร์ลแล้วพูดว่า ที่นี่ก็มีน้ำ.. แล้วก็ร้องไห้ คลุ้มคลั่ง คิดว่าน่าจะหมายถึง ที่นี่ก็มีน้ำแต่ไม่เห็นมีสิ่งที่จะพาเราไปสู่เสรีภาพและความเป็นมนุษย์เลย อีกนัยหนึ่งอาจจะหมายถึง Eden ซึ่งเป็นที่ตั้งของแม่น้ำหลายสาย ว่าไม่เห็นมีอยู่จริง)
การที่ไม่ถูกผู้อื่นแทรกแซง รุกราน ก้าวก่าย ก็แสดงถึงความมีเสรีภาพ ซึ่งในฉากเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการรุกรานของฝ่ายหนึ่งต่อฝ่ายหนึ่ง หรือการไร้ซึ่งเสรีภาพนะครับ
- การที่โลแกนต้องอาศัยอยู่นอกพรมแดน ที่แท็งค์น้ำ ที่มีรั้วรอบขอบชิด จะเห็นได้ว่าตอนเอายาจากในเมืองไปให้ชาร์ล ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกไป
- ฉากแรกที่กำลังถูกพวกโจรจะมา ขโมยล้อ โลแกนบอกว่า อย่ายิงรถ ดูเหมือนว่าจะเป็นการบุกรุกถิ่นที่อยู่ ( เช่นเดียวกับตอนที่มนุษย์ รุกรานพื้นที่เข้าไปในป่าไล่ล่าพวกเด็กๆ ทำให้โดนัลด์ที่ผมทองๆ ถูกเด็กๆใช้พลังพิเศษ ซึ่งต่างก็เป็นพลังธรรมชาติ ฆ่าตาย เหมือนถูก ธรรมชาติลงโทษ)
- ฉากรถไฟที่กั้นระหว่างมนุษย์กับ X- men ตอนหนีพวกรีฟเวอร์
- การที่เด็ก ๆ ถูกขังอยู่ในอาคารทดลอง
- การพูดถึงพรมแดน ของเด็กๆ ระหว่างแคนาดากับอเมริกา
- ลอร่าไปขโมยขนมกินในมินิมาร์ท เป็นการรุกรานผู้อื่น ซึ่งโลแกนสอนไม่ให้ทำ (สอนให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์)
- ลอร่าปาบอลไปโดนห้องเจ้าของโมเต็ล เจ้าของจึงออกมาทำร้ายพยาบาลกาเบรียลล่า
- ลอร่าจะทำลายม้าโยกที่เหรียญหมดแล้วไม่โยกต่อ โลแกนมาห้าม อาจจะหมายถึงความป่าเถื่อไม่มีอารยธรรมแบบมนุษย์
- การที่พวกคนดำถูกกลั่นแกล้งเพื่อให้ออกไปจากพื้นที่
- ชาร์ลรวบรวมม้ากลับมา ที่จริงใช้พลังได้แต่ไม่ใช้ อาจจะคิดว่าเป็นอันตรายกับคนอื่น
(นอกจากนี้ม้าที่วิ่งแตกฝูงอาจจะสื่อถึงเหล่า X-men ที่อยู่คนละทิศทางและชาร์ลเป็นผู้รวบรวมมาอยู่ด้วยกัน)
ประเด็นที่สอง เรื่องของศาสนา เรื่องนี้ผมไม่ค่อยถนัดนะครับเพราะว่าไม่ใช่คริสศาสนิกชนนะครับ ถ้าอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วย อย่าให้เป็นดราม่าเลยครับ ดูที่เจตนาที่จะพูดในหนังก็แล้วกันครับ
Charles Xavier -> Saviour , เรื่องราวหนังสื่อถึง Trinity พระบิดา คือโลแกน พระบุตรคือ ลอร่า พระจิตก็คือ ชาร์ล พระจิตทำให้พระบิดากับพระบุตรเข้ากันได้
พยาบาลชื่อ กาเบรียลล่า = เทวทูต Gabriel ที่นำสารมาบอกกับพระแม่มารีว่าจะมีบุตรมาเกิดในท้อง ซึ่งเป็นบุตรที่ไม่ได้เกิดจากการร่วมรัก ในหนังก็เป็นพยาบาลนำสารมาถึงโลแกน แล้วลอร่าที่เกิดมาก็ไม่ได้เกิดจากการร่วมรักของมนุษย์เช่นเดียวกัน
คัมภีร์ ไบเบิล = Marvel comic ในกระเป๋าของลอร่า ที่บอกที่ตั้งของ Eden ซึ่งเป็นสวนที่มีแต่ความสันติสุข และเป็นที่กำเนิดของมนุษย์อาดัมกับอีฟ ซึ่งลอร่าก็เป็นเหมือนความหวังเป็นว่าจะต้นกำเนิดของมิวแตนท์ต่อ ๆไปอีกด้วย
โลแกนก็เหมือนคนที่รู้สึกผิดบาป ในตอนแรกไม่เชื่อในไบเบิล/คำสอนหรือหนังสือนั้นว่า Eden มีอยู่จริง ก็เหมือนการที่ไม่เชื่อในคำสอนของพระเจ้า จะเห็นได้ว่าโลแกนพูดกับลอร่าว่าจะพิสูจน์ให้ดูว่า Eden ไม่มีอยู่จริง ซึ่งในตอนสุดท้ายโลแกนก็ได้ประจักษ์กับตัวเอง ว่าความรู้สึกที่มีพระเจ้าอยู่ในจิตใจ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เหมือนเชื่อแล้วว่าพระเจ้ามีอยู่จริง จากนั้นก็ได้ไปอยู่กับพระเจ้าเลย (ตอนที่โลแกนตายแล้วพูดกับลอร่าว่ามันรู้สึกแบบนี้นี่เอง) ซึ่งความรู้สึกที่บอกมานั้นชาร์ลเป็นคนบอกโลแกนในห้องนอนว่า คืนนี้เป็นคืนที่มีความสุขที่สุดของชาร์ล ชาร์ลเฝ้ารอความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ความรู้สึกที่เหมือนบ้าน เหมือนมีความปลอดภัย และทุกคนต่างรักกันช่วยเหลือกัน (ในส่วนนี้หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งที่โลแกนพูดหมายถึงความตาย หรือความรักระหว่างพ่อลูก ซึ่งถ้าตามบทในหนังแล้วผมคิดว่าเป็นอย่างที่อธิบายนะครับ)
Charles เรียกลอร่าว่า Child แต่คนอื่นเรียกว่า Girl/Kid , มีการสวดขอพรก่อนกินข้าว มีการพูดถึงพระเจ้าของโลแกนกับ Charles ในแท็งค์น้ำ , มีการพูดถึงพระเจ้าที่โต๊ะอาหาร และ บทสนทนาของชาร์ลและโลแกนเกี่ยวกับพระเจ้าตอนที่อยู่ในแท็งค์น้ำ
แสงอาทิตย์หรือแสงสว่าง ที่ส่องลงมาที่ชาร์ล มี 3 ครั้ง ที่แท็งค์น้ำ ที่โรงแรมและที่ห้องนอนในบ้าน แสงน่าจะหมายถึงพระเจ้า พระตอนที่ชาร์ลชักในโรงแรมหันหน้าออกแล้วมีแสงส่องเข้ามาก็เหมือนคนใกล้ตายที่กำลังจะไปหาพระเจ้าแล้ว หรือตอนก่อนตายในห้องนอน ชาร์ลได้สารภาพบาปว่าตนเองได้ทำสิ่งที่เลวร้ายเหลือเกิน แล้วชาร์ลก็บอกว่าเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้ ระหว่างฉากนี้จะได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน อาจจะสื่อว่ามันถึงเวลาของชาร์ลแล้วก็ได้ครับ จากนั้นชาร์ลก็ได้ไปพบกับพระเจ้าเลย
มีบทของ Caliban ที่พูดกับพวก Reaver หรือตัวโกงว่า Beware the light , มีเรือที่ตั้งชื่อ Sunseeker ในนัยหนึ่งน่าจะหมายถึงการตามหาพระเจ้า อีกนัยหนึ่งจะอยู่ในส่วนแรกของบทความนะครับ Caliban พูดกับโลแกนเรื่องที่จะซื้อเรือในบ้านแท็งค์น้ำว่า Sun is the keyword
ไม้กางเขนตอนท้ายเรื่องและการฝังศพ มีบทพูดของโลแกนกล่าวถึง Six feet under เป็นการฝังศพของชาวคริสต์ หรือชาร์ลบอกโลแกนว่าตัวกับลอร่าคุยกัน ใช้คำว่า We communicate และชาร์ลพูดถึงเรื่อง Purpose ระหว่างทางที่บนทางด่วน พวกนี้คิดว่าเป็นศัพท์ที่สื่อถึงทางศาสนานะครับ และเพลงประกอบหนังมีเพลง Amazing grace ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับพระเจ้าที่ไถ่บาปให้กับมนุษย์ ในเนื้อหาเพลงก็เข้ากับเรื่องราวของหนังพอดีครับ
* นอกจากนี้ การกลับกางเขนเป็น ตัว X น่าจะหมายถึง X เป็นอักษรกรีก ว่า Chi หรือ Christ ด้วยก็ได้ครับ
ความเป็นคาวบอย และอเมริกันชน
อ้างอิงจากเรื่อง Shane นะครับเป็นหนังคาวบอยว่าด้วย คาวบอยชื่อเชน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความหลังที่ไม่ดี ผ่านไปพักม้าที่บ้านของชาวไร่ แล้วพบว่าชาวไร่ถูกรังแกโดยพวกต้อนวัว ทำให้เชนช่วยเหลือชาวไร่ กลายเป็นฮีโร่ขึ้นมา ด้วยความที่มีความหลังที่ไม่ดี จึงบอกโจอี้ประมาณว่า อย่าเดินตามรอยตน เพราะชีวิตจะมาเป็นแบบที่ตนเป็นอยู่ จะเห็นว่าเหมือนกับในเรื่องที่ไปบ้านคนดำเลย และในเรื่องจะเห็นว่า
- ผู้โดยสารคนแรกของโลแกนใส่ชุดคาวบอย
- กลุ่มผู้โดยสารชายในฉากต่อมาตะโกน USA USA
- ในคลินิกที่ลอร่าพาโลแกนไป ตัวประกอบที่นั่งรอตรวจ ก็ใส่ชุดคาวบอย
- ลอร่าขี่เครื่องเล่นม้าโยกสีแดง (ในฉากที่เหรียญหมด พอไม่ได้ดังใจก็จะทำลายข้าวของ โลแกนจึงสอนไม่ให้ทำ )
- ลอร่าก่อนขึ้นลิฟต์มองเห็นชุดคาวบอยพ่อลูกจับมือกันในกระจก โลแกนจึงซื้อชุดพ่อให้ตัวเองใส่ แล้วลอร่าก็ใส่ชุดลูก
โดยเสื้อของลอร่าเป็นม้าสีแดง
- ครอบครัวคนดำเป็นครอบครัวเลี้ยงม้า และถูกกลั่นแกล้ง
- นอกจากนี้ยังพูดถึงการอพยพเข้ามาในอเมริกาของชาวเมกซิกัน ซึ่งก็คือลอร่า ที่มีจุดมุ่งหมายจะไปที่พรมแดนแคนาดา
- คาลิบันใส่ชุดเม็กซิกันกับหมวกคาวบอย ตอนออกมากลางแจ้ง
- ในบางฉากจะมีธงชาติอเมริกาโผล่ออกมา ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่าแต่ในหนังฮีโร่มาร์เวลที่ผ่านมาก็จะมีเน้นเรื่องนี้ครับ
*มีต่อความเห็นที่ 1 นะครับ
Logan (2017) [ กระทู้สปอยล์มากๆ]
*ถ้าใครไม่อยากอ่านยาวๆ อ่านสรุปตอนท้ายก่อนได้เลยครับ
Logan (2017)
เนื้อเรื่อง – ตัวเอกของ X- men ที่พลังของตัวเองอ่อนแอลง กำลังสิ้นหวัง รู้สึกว่าตนเองทำอะไรไม่ดีไว้เยอะ แยกออกมาอาศัยนอกเมืองกับ Charles Xavier มีเป้าหมายจะซื้อเรือลำหนึ่งแล้วออกสู่มหาสมุทร แต่บังเอิญมีผู้หญิงมาขอความช่วยเหลือเรื่องเด็กที่เธอพาหนีมาจากสถานวิจัยแห่งหนึ่ง โดยขอให้ไปส่งเด็กให้ถึงจุดหมายที่เธอต้องการจะไป เรื่องราวก็ดำเนินไปแบบ Road movie
ในส่วนของเนื้อเรื่อง แบ่งเป็น 3 ประเด็นก็แล้วกัน เพราะเลข 3 ดูมีความหมายกับเรื่องนี้นะครับ หลักๆน่าจะพูดถึงความเป็นมนุษย์กับเสรีภาพ ศาสนาและ ความเป็นอเมริกันชน
ประเด็นแรก เรื่องของโลแกน หรือ James Howlett หรือ Wolverine เป็นมนุษย์หมาป่า จะเห็นว่าในชื่อ มี "Wolve" กับ "Howl" ถ้าพูดถึงมนุษย์หมาป่าหรือ Werewolf แล้ว อาจจะเคยได้ยินว่าวันพระจันทร์เต็มดวงจะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด แต่กลางวันก็จะเป็นคนธรรมดา ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย (เหมือนโลแกน) วิธีเดียวที่จะฆ่าได้ก็คือ "Silver bullet" หรือกระสุนเงิน ถ้าเทียบกับในเรื่องก็คือ Adamantium นั่นเอง (ฉากอื่นๆที่แสดงถึงตัวตนของโลแกน คือ "Dog tag" , สุนัขที่เห่าจากริมน้ำฝั่งตรงข้าม ตอนฝังศพชาร์ล , และที่คนดำพูดกับโลแกนก่อนเข้าไร้ข้าวโพด พูดถึงสุนัขเฝ้าไร่ที่ถูกมนุษย์ฆ่าตาย )
ด้วยความที่หมาป่าก็เป็นสัตว์ป่า เป็นพวกล่าเนื้อทำให้ดูดุร้าย แต่ในเรื่องจะเห็นว่าโลแกนไม่เคยทำร้ายใครก่อน สังเกตได้จากฉากแรกที่โลแกนถูกแย่งล้อรถไป โลแกนก็ไม่ได้ทำร้ายใครก่อนแต่ถูกมนุษย์รุกรานก็เลยทำร้ายผู้อื่น อีกฉากก็จะเป็นที่งานศพ ตอนพยาบาลมาขอความช่วยเหลือแล้วโลแกนเดินไปที่หลังรถทำท่าเหมือนจะหยิบปืนออกมาแต่จริงๆ ก็เป็นร่ม
และด้วยความที่เป็นหมาป่า พอเข้ามาอยู่ในเมืองเหมือนผิดธรรมชาติ การที่โลแกนต้องมาขับรถรับใช้คนอื่นก็คงจะทำให้ดูว่ามันทำให้ดูผิดธรรมชาติของหมาป่า เหมือนหมาบ้านมากกว่า ในตอนท้ายการที่โลแกนตายในป่า ก็เป็นการกลับสู่ธรรมชาติ ทำให้ฉากที่สู้กันเป็นป่า ซึ่งเป็นเหมือนบ้านของตน ก็มีส่วนสอดคล้องกับ Quote จากเรื่อง Shane ที่ลอร่าพูดในตอนท้าย
ในเรื่องก็จะพูดถึง เสรีภาพ และความเป็นมนุษย์ เห็นได้จากจุดหมายของชาร์ลและโลแกน ต้องการจะหาเงินเพื่อซื้อ เรือลำหนึ่งเพื่อออกสู่มหาสมุทร มหาสมุทรน่าจะสื่อถึงความมี เสรีภาพ โดยชื่อเรือ คือ Sunseeker ถ้าพูดถึงความเป็นมนุษย์แล้วการที่พบแสงอาทิตย์ ช่วงระหว่างวันมนุษย์หมาป่าก็จะกลายเป็นคนธรรมดา ซึ่งการไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดและอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ เป็นสิ่งที่หนังเรื่อง X-men มักจะนำมาเกี่ยวข้องเกือบทุกภาค (มีคำพูดหนึ่งของคาลิบันที่พูดเรื่องเรือกับโลแกนว่า Sun is the keyword และใบปิดหนังเกือบทุกใบมีดวงอาทิตย์ให้เห็น นอกจากนี้ ดวงอาทิตย์น่าจะสื่อความหมายอื่นๆด้วยจะอธิบายในส่วนต่อไปครับ)
ในเรื่องของ เสรีภาพ / Liberty นั้นมีการกล่าวถึงอยู่หลายอย่าง เช่น
- ตอนโลแกนถูกเรียกให้ไปรับผู้โดยสารที่โมเต็ล โลแกนมองขึ้นไปที่ชื่อ เป็นคำว่า Liberty แต่ไฟตรงคำว่า Ber มันดับไป ก็เหมือน Liberty ไม่เต็มคำ
- ตอนที่ Charles บอกโลแกน ว่าพลังของชาร์ลเห็น พยาบาลกาเบรียลกับลอร่ารออยู่ที่ Statue of liberty โลแกนบอกว่ามันเป็นสถานที่เมื่อนานมาแล้ว เหมือนไม่มีอยู่จริงแล้ว
- วอลเปเปอร์ “รูปนก” ในห้องนอนที่ชาร์ลตาย
- โมบิลรูปปลา คู่กับ ขวดน้ำเกลือ ตอนที่โลแกนตื่นขึ้นมา อาจจะสื่อถึง มหาสมุทร และเสรีภาพอีกเช่นกัน
(ก่อนจะเป็นฉากนี้ คำพูดสุดท้ายของชาร์ลบอกให้หาเรือ Sunseeker ให้เจอ จากนั้นโลแกนฝังศพ ชาร์ลแล้วพูดว่า ที่นี่ก็มีน้ำ.. แล้วก็ร้องไห้ คลุ้มคลั่ง คิดว่าน่าจะหมายถึง ที่นี่ก็มีน้ำแต่ไม่เห็นมีสิ่งที่จะพาเราไปสู่เสรีภาพและความเป็นมนุษย์เลย อีกนัยหนึ่งอาจจะหมายถึง Eden ซึ่งเป็นที่ตั้งของแม่น้ำหลายสาย ว่าไม่เห็นมีอยู่จริง)
การที่ไม่ถูกผู้อื่นแทรกแซง รุกราน ก้าวก่าย ก็แสดงถึงความมีเสรีภาพ ซึ่งในฉากเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการรุกรานของฝ่ายหนึ่งต่อฝ่ายหนึ่ง หรือการไร้ซึ่งเสรีภาพนะครับ
- การที่โลแกนต้องอาศัยอยู่นอกพรมแดน ที่แท็งค์น้ำ ที่มีรั้วรอบขอบชิด จะเห็นได้ว่าตอนเอายาจากในเมืองไปให้ชาร์ล ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกไป
- ฉากแรกที่กำลังถูกพวกโจรจะมา ขโมยล้อ โลแกนบอกว่า อย่ายิงรถ ดูเหมือนว่าจะเป็นการบุกรุกถิ่นที่อยู่ ( เช่นเดียวกับตอนที่มนุษย์ รุกรานพื้นที่เข้าไปในป่าไล่ล่าพวกเด็กๆ ทำให้โดนัลด์ที่ผมทองๆ ถูกเด็กๆใช้พลังพิเศษ ซึ่งต่างก็เป็นพลังธรรมชาติ ฆ่าตาย เหมือนถูก ธรรมชาติลงโทษ)
- ฉากรถไฟที่กั้นระหว่างมนุษย์กับ X- men ตอนหนีพวกรีฟเวอร์
- การที่เด็ก ๆ ถูกขังอยู่ในอาคารทดลอง
- การพูดถึงพรมแดน ของเด็กๆ ระหว่างแคนาดากับอเมริกา
- ลอร่าไปขโมยขนมกินในมินิมาร์ท เป็นการรุกรานผู้อื่น ซึ่งโลแกนสอนไม่ให้ทำ (สอนให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์)
- ลอร่าปาบอลไปโดนห้องเจ้าของโมเต็ล เจ้าของจึงออกมาทำร้ายพยาบาลกาเบรียลล่า
- ลอร่าจะทำลายม้าโยกที่เหรียญหมดแล้วไม่โยกต่อ โลแกนมาห้าม อาจจะหมายถึงความป่าเถื่อไม่มีอารยธรรมแบบมนุษย์
- การที่พวกคนดำถูกกลั่นแกล้งเพื่อให้ออกไปจากพื้นที่
- ชาร์ลรวบรวมม้ากลับมา ที่จริงใช้พลังได้แต่ไม่ใช้ อาจจะคิดว่าเป็นอันตรายกับคนอื่น
(นอกจากนี้ม้าที่วิ่งแตกฝูงอาจจะสื่อถึงเหล่า X-men ที่อยู่คนละทิศทางและชาร์ลเป็นผู้รวบรวมมาอยู่ด้วยกัน)
ประเด็นที่สอง เรื่องของศาสนา เรื่องนี้ผมไม่ค่อยถนัดนะครับเพราะว่าไม่ใช่คริสศาสนิกชนนะครับ ถ้าอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วย อย่าให้เป็นดราม่าเลยครับ ดูที่เจตนาที่จะพูดในหนังก็แล้วกันครับ
Charles Xavier -> Saviour , เรื่องราวหนังสื่อถึง Trinity พระบิดา คือโลแกน พระบุตรคือ ลอร่า พระจิตก็คือ ชาร์ล พระจิตทำให้พระบิดากับพระบุตรเข้ากันได้
พยาบาลชื่อ กาเบรียลล่า = เทวทูต Gabriel ที่นำสารมาบอกกับพระแม่มารีว่าจะมีบุตรมาเกิดในท้อง ซึ่งเป็นบุตรที่ไม่ได้เกิดจากการร่วมรัก ในหนังก็เป็นพยาบาลนำสารมาถึงโลแกน แล้วลอร่าที่เกิดมาก็ไม่ได้เกิดจากการร่วมรักของมนุษย์เช่นเดียวกัน
คัมภีร์ ไบเบิล = Marvel comic ในกระเป๋าของลอร่า ที่บอกที่ตั้งของ Eden ซึ่งเป็นสวนที่มีแต่ความสันติสุข และเป็นที่กำเนิดของมนุษย์อาดัมกับอีฟ ซึ่งลอร่าก็เป็นเหมือนความหวังเป็นว่าจะต้นกำเนิดของมิวแตนท์ต่อ ๆไปอีกด้วย
โลแกนก็เหมือนคนที่รู้สึกผิดบาป ในตอนแรกไม่เชื่อในไบเบิล/คำสอนหรือหนังสือนั้นว่า Eden มีอยู่จริง ก็เหมือนการที่ไม่เชื่อในคำสอนของพระเจ้า จะเห็นได้ว่าโลแกนพูดกับลอร่าว่าจะพิสูจน์ให้ดูว่า Eden ไม่มีอยู่จริง ซึ่งในตอนสุดท้ายโลแกนก็ได้ประจักษ์กับตัวเอง ว่าความรู้สึกที่มีพระเจ้าอยู่ในจิตใจ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เหมือนเชื่อแล้วว่าพระเจ้ามีอยู่จริง จากนั้นก็ได้ไปอยู่กับพระเจ้าเลย (ตอนที่โลแกนตายแล้วพูดกับลอร่าว่ามันรู้สึกแบบนี้นี่เอง) ซึ่งความรู้สึกที่บอกมานั้นชาร์ลเป็นคนบอกโลแกนในห้องนอนว่า คืนนี้เป็นคืนที่มีความสุขที่สุดของชาร์ล ชาร์ลเฝ้ารอความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ความรู้สึกที่เหมือนบ้าน เหมือนมีความปลอดภัย และทุกคนต่างรักกันช่วยเหลือกัน (ในส่วนนี้หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งที่โลแกนพูดหมายถึงความตาย หรือความรักระหว่างพ่อลูก ซึ่งถ้าตามบทในหนังแล้วผมคิดว่าเป็นอย่างที่อธิบายนะครับ)
Charles เรียกลอร่าว่า Child แต่คนอื่นเรียกว่า Girl/Kid , มีการสวดขอพรก่อนกินข้าว มีการพูดถึงพระเจ้าของโลแกนกับ Charles ในแท็งค์น้ำ , มีการพูดถึงพระเจ้าที่โต๊ะอาหาร และ บทสนทนาของชาร์ลและโลแกนเกี่ยวกับพระเจ้าตอนที่อยู่ในแท็งค์น้ำ
แสงอาทิตย์หรือแสงสว่าง ที่ส่องลงมาที่ชาร์ล มี 3 ครั้ง ที่แท็งค์น้ำ ที่โรงแรมและที่ห้องนอนในบ้าน แสงน่าจะหมายถึงพระเจ้า พระตอนที่ชาร์ลชักในโรงแรมหันหน้าออกแล้วมีแสงส่องเข้ามาก็เหมือนคนใกล้ตายที่กำลังจะไปหาพระเจ้าแล้ว หรือตอนก่อนตายในห้องนอน ชาร์ลได้สารภาพบาปว่าตนเองได้ทำสิ่งที่เลวร้ายเหลือเกิน แล้วชาร์ลก็บอกว่าเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้ ระหว่างฉากนี้จะได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน อาจจะสื่อว่ามันถึงเวลาของชาร์ลแล้วก็ได้ครับ จากนั้นชาร์ลก็ได้ไปพบกับพระเจ้าเลย
มีบทของ Caliban ที่พูดกับพวก Reaver หรือตัวโกงว่า Beware the light , มีเรือที่ตั้งชื่อ Sunseeker ในนัยหนึ่งน่าจะหมายถึงการตามหาพระเจ้า อีกนัยหนึ่งจะอยู่ในส่วนแรกของบทความนะครับ Caliban พูดกับโลแกนเรื่องที่จะซื้อเรือในบ้านแท็งค์น้ำว่า Sun is the keyword
ไม้กางเขนตอนท้ายเรื่องและการฝังศพ มีบทพูดของโลแกนกล่าวถึง Six feet under เป็นการฝังศพของชาวคริสต์ หรือชาร์ลบอกโลแกนว่าตัวกับลอร่าคุยกัน ใช้คำว่า We communicate และชาร์ลพูดถึงเรื่อง Purpose ระหว่างทางที่บนทางด่วน พวกนี้คิดว่าเป็นศัพท์ที่สื่อถึงทางศาสนานะครับ และเพลงประกอบหนังมีเพลง Amazing grace ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับพระเจ้าที่ไถ่บาปให้กับมนุษย์ ในเนื้อหาเพลงก็เข้ากับเรื่องราวของหนังพอดีครับ
* นอกจากนี้ การกลับกางเขนเป็น ตัว X น่าจะหมายถึง X เป็นอักษรกรีก ว่า Chi หรือ Christ ด้วยก็ได้ครับ
ความเป็นคาวบอย และอเมริกันชน
อ้างอิงจากเรื่อง Shane นะครับเป็นหนังคาวบอยว่าด้วย คาวบอยชื่อเชน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความหลังที่ไม่ดี ผ่านไปพักม้าที่บ้านของชาวไร่ แล้วพบว่าชาวไร่ถูกรังแกโดยพวกต้อนวัว ทำให้เชนช่วยเหลือชาวไร่ กลายเป็นฮีโร่ขึ้นมา ด้วยความที่มีความหลังที่ไม่ดี จึงบอกโจอี้ประมาณว่า อย่าเดินตามรอยตน เพราะชีวิตจะมาเป็นแบบที่ตนเป็นอยู่ จะเห็นว่าเหมือนกับในเรื่องที่ไปบ้านคนดำเลย และในเรื่องจะเห็นว่า
- ผู้โดยสารคนแรกของโลแกนใส่ชุดคาวบอย
- กลุ่มผู้โดยสารชายในฉากต่อมาตะโกน USA USA
- ในคลินิกที่ลอร่าพาโลแกนไป ตัวประกอบที่นั่งรอตรวจ ก็ใส่ชุดคาวบอย
- ลอร่าขี่เครื่องเล่นม้าโยกสีแดง (ในฉากที่เหรียญหมด พอไม่ได้ดังใจก็จะทำลายข้าวของ โลแกนจึงสอนไม่ให้ทำ )
- ลอร่าก่อนขึ้นลิฟต์มองเห็นชุดคาวบอยพ่อลูกจับมือกันในกระจก โลแกนจึงซื้อชุดพ่อให้ตัวเองใส่ แล้วลอร่าก็ใส่ชุดลูก
โดยเสื้อของลอร่าเป็นม้าสีแดง
- ครอบครัวคนดำเป็นครอบครัวเลี้ยงม้า และถูกกลั่นแกล้ง
- นอกจากนี้ยังพูดถึงการอพยพเข้ามาในอเมริกาของชาวเมกซิกัน ซึ่งก็คือลอร่า ที่มีจุดมุ่งหมายจะไปที่พรมแดนแคนาดา
- คาลิบันใส่ชุดเม็กซิกันกับหมวกคาวบอย ตอนออกมากลางแจ้ง
- ในบางฉากจะมีธงชาติอเมริกาโผล่ออกมา ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่าแต่ในหนังฮีโร่มาร์เวลที่ผ่านมาก็จะมีเน้นเรื่องนี้ครับ
*มีต่อความเห็นที่ 1 นะครับ