สวัสดี นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของเรา แต่การไปเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก รอบนี้เป็นรอบที่3 ที่เราไป แต่ครั้งนี้จะพิเศษตรงที่เราไปกับพี่ที่ทำงานทั้งหมด 8คน ทริปนี้มีชื่อด้วยนะ "ทริปเพลียขาพาเพื่อน(ร่วมงาน)เที่ยว" ความหมายตรงตัวเลย เพราะว่าวันหนึ่งเราเดินตกวันละ 30,000 ก้าว (3ก้าว =~1เมตร) แต่เชื่อเราเถอะเดินไหวเพราะพี่ที่ไปกับเราอายุขึ้นเลขสามก็หกคนแล้ว ^^ เดินกันเพลินๆไม่มีใครบ่นเลย
ที่เลือกสิงคโปร์ก็เพราะว่า ไม่ต้องลางานเยอะ มีอะไรให้ดู ให้ชม ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สำคัญใช้เงินไม่มากเท่าไร
มาดูค่าใช้จ่ายคร่าวๆกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
-ค่าตั๋วเครื่องบิน Air Asia (กดช่วงโปร) อู่ตะเภา-สิงคโปร์ 2,255฿
-ค่าที่พัก Bed and Dream Inn Hostel @ China town 2คืน คนล่ะ 1,225฿
-เก็บกองกลาง ค่ากินค่าเข้าชม คนล่ะ 90$ (rate 1$=25฿) 2,250฿
-เติมบัตรรถไฟ Ez-link 20$ = 500฿
-AIS fly2sim internet 3gb unlimited 399฿ หาร8 คนล่ะ 50฿
-ค่าจอดรถที่สนามบินอู่ตะเภาวันล่ะ 140฿ สองวันก็ 280฿/6 (อีก2คนมีคนไปส่ง) 45฿
-รวมแล้ว 6,325฿
Day#1 ในวันที่ฝนตก
เช้าวันศุกร์นี้มันช่างสดชื่นดีเหลือเกิน เราตื่นเช้ากว่าวันไปทำงานอีก 55+ เราได้มุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา(ระยอง-พัทยา) ออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังสิงคโปร์ 10:30 - 13:50 (+1Hr.) และแล้วเราก็มาถึงซึ่งฝนก็ได้ตกรอเราอยู่แล้ว (น้ำตาจะไหล) ลงจากเครื่องแล้วก็ทำการผ่าน ตม. เราลงที่เทอร์มินอล1 ต้องต่อSky train ไปยังเทอร์มินอล3 แล้วเดินตามป้าย Train to city เพื่อขึ้นรถไฟไปยังที่พัก เราได้ทำการเติมเงินบัตร Ez-link คนละ 20$ (ส่วนบัตรก็ยืมเพื่อนมาได้6ใบ อีก2คนซื้อใหม่ ก็12$ แต่เงินในบัตรจะใช้ได้7$)
@@@@@@
ที่พักของเราอยู่ที่สถานี China town Exit A (พอขึ้นมาแล้วให้หันหน้าเข้าสถานีแล้วเดินตรงไปเจอซอยแรกเลี้ยวซ้ายเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกที มองตรงไปจะเห็นร่มบ่อสร้างหน้าโฮสเทลเยอะๆ) ที่นี่ก็เหมือนโฮสเทลทั่วไป ห้องนอนเล็กๆห้องน้ำเล็กๆ ชากาแฟขนมปังฟรีตลอดวัน ผ้าห่มที่นอนนุ่มสบาย ปลั๊กไฟสามารถเสียบได้เลย ไม่มีผ้าขนหนูให้ รวมแล้วโอเคนะเพราะอยู่ไม่ไกลสถานีรถ


หลังจากเราเช็คอินเสร็จแล้วเราก็จะไปหาอะไรกินกันที่ Songfa Bak Kut Teh สาขา China point ใกล้ๆที่พัก เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตกเลยใช้ทางเชื่อมในสถานีเพื่อหลบฝนโดยไปออกที่ Exit D ร้านอยู่ข้างๆ Mc Donald ไม่ต้องรอคิวด้วย ดีไปอีก พอเข้าไปในร้านเราก็จิ้มๆ (กระดูก 2 ตับ2 หมู2 พะโลหรือป่าว2 ผักดอง2 ผักผัด3 ชาจีน1หม้อ) จำได้ว่าน้ำซุปร้อนๆ แต่ซดเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นมาก^^ ส่วนค่าเสียหาย ลืมเก็บใบเสร็จไว้ ที่จำได้น่าจะประมาณ 136$

เมื่อกินกันอิ่มเรียบร้อยแล้วเราก็ข้ามสะพานลอยไปร้าน Sea wheel ที่ห้าง people park ฝั่งตรงข้าม ร้านจะอยู่ชั้น3 ร้านสีเขียวๆ ที่นี่มีพนักงานเป็นคนไทยด้วยนะ เราซื้อตั๋ว Garden by the bay ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ ใบล่ะ 18$ (ถ้าซื้อที่หน้างาน ใบล่ะ 28$ เราประหยัดได้ 10$ ลองคิดเป็นเงินไทย 8คนก็ 2,000฿ เลย)
หลังจากเสร็จธุระที่นี่แล้วเราจะไปต่อ แผนที่วางไว้คือไป เมอร์ไลออนที่เซ็นโตซา แต่ฝนยังไม่หยุด เปิดพยากรณ์อากาศดูบอกว่าฝนจะหยุดประมาณหนึ่งทุ่มแต่วันพรุ่งนี้เหมือนฝนจะตกทั้งวันTT ดังนั้นเราเลยตัดสินใจลัดคิวไป Super tree ก่อน เพราะส่วนตัวเราชอบที่นี่ที่สุด บรรยากาศ การแสดง สวยดี เลยอยากให้พี่ๆที่มาด้วยได้เห็น เราเลยขึ้นรถไฟ ไปยัง Bay front (ทางออกตามป้าย garden by the bay) ไปถึง 18:30 ฝนยังไม่หยุดแต่เริ่มเบาแล้ว เราก็ถ่ายรูปเล่นในทางเชื่อมไปพลางๆ พอฝนหยุด เราก็มุ่งตรงไปยัง super tree รอชมการแสดงรอบ 19:45 เราอยู่ที่นี่พักใหญ่ๆ เพราะเพลินกับการถ่ายรูป มีการจัดแจง ปนบังครับถ่ายรูปพี่ๆที่ไปด้วย ให้เหมือนไปถ่ายพรีเวดดิ้ง 55+ นายแบบนางแบบก็เขิน แต่คนเชียร์ก็จัดท่าให้กันสนุก


จากนั้นเราเราได้เดินตรงไปที่ตึกเรือ เพื่อจะไปชมการแสดง wonder full-lights & water ที่ marina bay sand รอบ 21:30 เราเลือกดูจากด้านล่างแต่ไม่ได้แอบสงสัยว่าเอ๊ะทำไมไม่มีใครลงมาแล้วเลย พอการแสดงเริ่มขึ้นก็เข้าใจแล้วว่าทำไม ลมแรงมาก โดนละอองน้ำเต็มๆ เลยหลบมาข้างบน ก็ยังโดน -.- แต่พี่ๆสู้กันมาก หลังจากโชว์จบ ผมนี่เปียกกันเลยทีเดียว

จากนี้เราควรกลับที่พักไปพักผ่อนแต่ทุกคนยังไหวอยู่ และมีพี่บ่นว่าอยากกินเบียร์ตั้งแต่ลงเครื่องแล้วเลยเปลี่ยนจากที่นอนมุ่งตรงไปยัง Clarke quay ที่ร้าน Brewerkz ที่นี่มีเบียร์เยอะมาก เราเลยสั่งมาลองชิมก่อน 5แก้ว 5รส ส่วนอีก3คนดื่มโค๊ก และก็สั่งอาหารมาเติมพลังสักหน่อย ก็มี พิซซ่าหน้าเมอร์ไลออน(ทะเล)1 ฮาวาเอี้ยน1 สลัดไก่1 ไก่สะเต๊ะ1 waffle2 เค้ก1 มื้อนี้ค่าเสียหายโดนไป ~236$

เดินกลับที่พักเพราะว่ารถไฟหมดแล้ว แต่เดินไม่ไกลเท่าไร ~900 เมตรได้ กลับถึงที่พัก อาบน้ำพักผ่อน พรุ้งนี้ลุยต่อ
Day#2 ข้าวมันไก่
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ยังไม่มีแววฝนจะตก เราเริ่มต้นตอน 10โมง ไปน้ำพุแห่งความมั่งคั่งกัน Fortune of Wheel เพื่อไปสัมผัสน้ำพุตรงกลาง วิธีไปนั่งรถไปไปลง promenade ทางออก suntec city (เราจะจำnumberไม่ค่อยได้) มองตรงไป แล้วเราก็เดินเข้าไปในห้างเพื่อหาทางเข้าน้ำพุ เมื่อได้สัมผัสเราก็เดินขึ้นมาถ่ายรูปด้านบน เพราะด้านล่างอยู่ได้ไม่นาน


เริ่มหิวแล้ว เราจะไปกินข้าวมันไก่กัน ร้าน Boon Tong Kee ใกล้ๆ สถานี Boonkeng ทางออก B ออกมาแล้วหันขวา เดินตรงไปจะเห็นคนหน้าร้านเยอะๆ เราไปถึงช่วงเที่ยงคนเยอะเลย แต่รอคิวไม่นาน เราสั่งมา4 อย่าง มีไก่2 ผัดผัก2 กระดูกหมูหวานๆ 2 ผัดเต้าหู้2 ข้าว8 กินคู่กับโค๊ก อ่าส์ ชื่นใจ กินจนลืมอ้วน55+ อร่อยนะเรามาทุกครั้งเลย จานใหญ่ได้ของเยอะอยู่ มื้อนี้ค่าเสียหายทั้งหมด ~ 102

เราจะไปGarden by the bay กันต่อ แต่มีที่นึงที่อยากไปและก็อยู่สถานีทางผ่านพอดี นั่นก็คือ Fort canning park มันจะมีบันใดวนที่เป็นเหมือนอุโมงค์สวยดี วิธีไป ลงที่สถานี Dolby Ghaut ทางออกB ขึ้นมาแล้ว ซ้ายหัน เดินตรงไปแล้วข้ามถนน จากนั้นซ้ายหัน แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นทางเข้า ตามกระทู้นี้เลย รีวิวไว้ละเอียดมาก
https://m.pantip.com/topic/34886451? เราเดินวนนานมากเพราะหาห้างไม่เจอ คือเขาปิดปรับปรุง แล้วเค้าบอกให้เลี้ยวซ้ายเราดันไปเลี้ยวขวา แล้วก็ไม่มีใครทักเราเลย55+

สถานที่ถัดมาเราจะไป garden by the bay กันเราได้ซื้อตั๋วมาก่อนแล้วเมื่อวาน ตั้งใจเลือกที่นี่เพราะจากประสบการณ์หลายๆครั้งที่สิงคโปร์ร้อนมาก เลยหาที่เที่ยวที่เย็นๆ สบายๆ เอาไว้หลบแดด นอกจากการเดินห้างเราก็ว่าที่นี่แหละ เพราะเป็นสวนติดแอร์ อากาศเย็นสบายแถมรู้สึกสดชื่นมาก เราใช้เวลากับทั้ง2โดม ตั้งแต่ 14:00 -18:00 โดยเข้า Could Forest ต่อด้วย Flower dome จากที่หลบแดดกลายเป็นที่หลบฝน เพราะเข้าไปได้ซักพักฝนก็ตกทำให้ข้างในเย็นไปอีก



เสร็จแล้วเราจะไปดู Merlion กัน แต่ที่เป็นตัวหลักปิดปรับปรุงอยู่ TT เราเลยไปดูอีกตัวที่อยู่ที่เซนต์โตซ่า นั่งรถไฟไปลงที่ Harbor front เดินไปยังชั้น3 ของห้าง Vivo city เราใช้ Sentosa Express 3$ ไปลงที่สถานี Water front เราแวะถ่ายรูปที่ Universal แป๊บนึง แล้วเดินไปที่ Merlion เหมือนคนหลงทางเพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหนเลยเปิด GPS เหมือนไกลมากเลยจะขึ้น sentosa express ไปลงอีกสถานีแต่คนต่อแถวเยอะสงสัยเป็นช่วงเวลากลับ แต่มีพี่สายตายาวมองเห็นสิงโตตัวใหญ่ๆ ถ้าเราหันหน้าเข้าสถานี
ให้มองไปทางขวามือ จะมองเห็น merlion ตัวใหญ่ๆ เดินไปไม่ไกล และขากลับเราก็ขึ้นที่สถานีนี้เลยคนไม่เยอะไม่ต้องไปต่อคิว

ดูเหมือนว่า Merlion ตัวหลักจะถอดผ้าคลุมออกแล้วเรา เช็คจาก Instagram เลยมุ่งหน้าไปยัง Merlion park และหาข้าวกินแถวๆนั้น เราลงสถานี Raffle place ทางออกไรจำไม่ได้เดินตามไปทางMerlion เลย ออกมาก็เปิดGPSเอา เพราะเราถามทาง พี่ รปภ ความจริงออกมาต้องเลี้ยวขวา พี่แกให้เราเลี้ยวซ้าย เลยต้องเดินย้อนกลับมาอีกTT เราเดินผ่านMerlion park ไปก่อนเพื่อไปกินข้าวที่ makansutra gluttons bay ให้เราเดินเลาะอ่าวไปทาง esplanade เลาะอ่าวไปเรื่อยผ่านซุ้มดนตรี เดินไปอีกนิดเดียวจะเจอศูนย์อาหารกลางแจ้งทางซ้ายมือ ถ้ากลัวหลงให้พยายามไปตามกลิ่น เราใช้วิธีนั้น 555
เราสั่งอาหารไป 3 อย่าง เพราะเงินกองกลางใกล้หมด มีข้าวผัดปู ไก่สะเต๊ะ ปีกไก่ย่าง ค่าเสียหาย 77$

เมื่อกินอิ่มเราก็กลับมาหาคุณ Merlion ทางฝั่ง Marina Bay Sand ก็มีการแสดงพอดี มองจากมุมนี้ก็สวยไปอีกแบบ เราว่าริมอ่าว marina bay มองจากมุมไหนก็สวยไปหมด เรากลับมาถ่ายรูปที่ Merlion ที่ถอดผ้าคลุมเสร็จแล้วแต่ยังไม่พ้นน้ำน่าเสียดายแทนพี่ๆ แต่ไม่เป็นไรดูตัวเล็กพ่นน้ำไปแทนแล้วกัน


วันนี้พอก่อนกับไปนอนดีกว่า แต่ขากลับเราเดินกลับอีกทางเพื่อไปสถานี เราเดินเลาะไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ จะได้เห็นวิวอีกด้าน โดยใช้ทางลอดมาออกตรงสตาร์บัค เดินขึ้นมาบนถนน เดินข้ามไปฝั่งโรงแรมแล้วอ้อมไปทางขาว ก็จะเจอสะพานสวยดี
Day#3 กลับ
วันนี้เราตื่นเช้า 10โมงไปวัดพระเขี้ยวแก้วจากนั้นก็ซื้อของฝากที่china town เที่ยงเราก็ไปสนามบิน จบทริป
สิงคโปร์ 3วัน2คืน ทริปเพลียขาพาเพื่อน(ร่วมงาน)เที่ยว งบ~6,000฿ บินอู่ตะเภา
ที่เลือกสิงคโปร์ก็เพราะว่า ไม่ต้องลางานเยอะ มีอะไรให้ดู ให้ชม ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สำคัญใช้เงินไม่มากเท่าไร
มาดูค่าใช้จ่ายคร่าวๆกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
-ค่าตั๋วเครื่องบิน Air Asia (กดช่วงโปร) อู่ตะเภา-สิงคโปร์ 2,255฿
-ค่าที่พัก Bed and Dream Inn Hostel @ China town 2คืน คนล่ะ 1,225฿
-เก็บกองกลาง ค่ากินค่าเข้าชม คนล่ะ 90$ (rate 1$=25฿) 2,250฿
-เติมบัตรรถไฟ Ez-link 20$ = 500฿
-AIS fly2sim internet 3gb unlimited 399฿ หาร8 คนล่ะ 50฿
-ค่าจอดรถที่สนามบินอู่ตะเภาวันล่ะ 140฿ สองวันก็ 280฿/6 (อีก2คนมีคนไปส่ง) 45฿
-รวมแล้ว 6,325฿
Day#1 ในวันที่ฝนตก
เช้าวันศุกร์นี้มันช่างสดชื่นดีเหลือเกิน เราตื่นเช้ากว่าวันไปทำงานอีก 55+ เราได้มุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา(ระยอง-พัทยา) ออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังสิงคโปร์ 10:30 - 13:50 (+1Hr.) และแล้วเราก็มาถึงซึ่งฝนก็ได้ตกรอเราอยู่แล้ว (น้ำตาจะไหล) ลงจากเครื่องแล้วก็ทำการผ่าน ตม. เราลงที่เทอร์มินอล1 ต้องต่อSky train ไปยังเทอร์มินอล3 แล้วเดินตามป้าย Train to city เพื่อขึ้นรถไฟไปยังที่พัก เราได้ทำการเติมเงินบัตร Ez-link คนละ 20$ (ส่วนบัตรก็ยืมเพื่อนมาได้6ใบ อีก2คนซื้อใหม่ ก็12$ แต่เงินในบัตรจะใช้ได้7$)
@@@@@@
ที่พักของเราอยู่ที่สถานี China town Exit A (พอขึ้นมาแล้วให้หันหน้าเข้าสถานีแล้วเดินตรงไปเจอซอยแรกเลี้ยวซ้ายเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกที มองตรงไปจะเห็นร่มบ่อสร้างหน้าโฮสเทลเยอะๆ) ที่นี่ก็เหมือนโฮสเทลทั่วไป ห้องนอนเล็กๆห้องน้ำเล็กๆ ชากาแฟขนมปังฟรีตลอดวัน ผ้าห่มที่นอนนุ่มสบาย ปลั๊กไฟสามารถเสียบได้เลย ไม่มีผ้าขนหนูให้ รวมแล้วโอเคนะเพราะอยู่ไม่ไกลสถานีรถ
หลังจากเราเช็คอินเสร็จแล้วเราก็จะไปหาอะไรกินกันที่ Songfa Bak Kut Teh สาขา China point ใกล้ๆที่พัก เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตกเลยใช้ทางเชื่อมในสถานีเพื่อหลบฝนโดยไปออกที่ Exit D ร้านอยู่ข้างๆ Mc Donald ไม่ต้องรอคิวด้วย ดีไปอีก พอเข้าไปในร้านเราก็จิ้มๆ (กระดูก 2 ตับ2 หมู2 พะโลหรือป่าว2 ผักดอง2 ผักผัด3 ชาจีน1หม้อ) จำได้ว่าน้ำซุปร้อนๆ แต่ซดเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นมาก^^ ส่วนค่าเสียหาย ลืมเก็บใบเสร็จไว้ ที่จำได้น่าจะประมาณ 136$
เมื่อกินกันอิ่มเรียบร้อยแล้วเราก็ข้ามสะพานลอยไปร้าน Sea wheel ที่ห้าง people park ฝั่งตรงข้าม ร้านจะอยู่ชั้น3 ร้านสีเขียวๆ ที่นี่มีพนักงานเป็นคนไทยด้วยนะ เราซื้อตั๋ว Garden by the bay ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ ใบล่ะ 18$ (ถ้าซื้อที่หน้างาน ใบล่ะ 28$ เราประหยัดได้ 10$ ลองคิดเป็นเงินไทย 8คนก็ 2,000฿ เลย)
หลังจากเสร็จธุระที่นี่แล้วเราจะไปต่อ แผนที่วางไว้คือไป เมอร์ไลออนที่เซ็นโตซา แต่ฝนยังไม่หยุด เปิดพยากรณ์อากาศดูบอกว่าฝนจะหยุดประมาณหนึ่งทุ่มแต่วันพรุ่งนี้เหมือนฝนจะตกทั้งวันTT ดังนั้นเราเลยตัดสินใจลัดคิวไป Super tree ก่อน เพราะส่วนตัวเราชอบที่นี่ที่สุด บรรยากาศ การแสดง สวยดี เลยอยากให้พี่ๆที่มาด้วยได้เห็น เราเลยขึ้นรถไฟ ไปยัง Bay front (ทางออกตามป้าย garden by the bay) ไปถึง 18:30 ฝนยังไม่หยุดแต่เริ่มเบาแล้ว เราก็ถ่ายรูปเล่นในทางเชื่อมไปพลางๆ พอฝนหยุด เราก็มุ่งตรงไปยัง super tree รอชมการแสดงรอบ 19:45 เราอยู่ที่นี่พักใหญ่ๆ เพราะเพลินกับการถ่ายรูป มีการจัดแจง ปนบังครับถ่ายรูปพี่ๆที่ไปด้วย ให้เหมือนไปถ่ายพรีเวดดิ้ง 55+ นายแบบนางแบบก็เขิน แต่คนเชียร์ก็จัดท่าให้กันสนุก
จากนั้นเราเราได้เดินตรงไปที่ตึกเรือ เพื่อจะไปชมการแสดง wonder full-lights & water ที่ marina bay sand รอบ 21:30 เราเลือกดูจากด้านล่างแต่ไม่ได้แอบสงสัยว่าเอ๊ะทำไมไม่มีใครลงมาแล้วเลย พอการแสดงเริ่มขึ้นก็เข้าใจแล้วว่าทำไม ลมแรงมาก โดนละอองน้ำเต็มๆ เลยหลบมาข้างบน ก็ยังโดน -.- แต่พี่ๆสู้กันมาก หลังจากโชว์จบ ผมนี่เปียกกันเลยทีเดียว
จากนี้เราควรกลับที่พักไปพักผ่อนแต่ทุกคนยังไหวอยู่ และมีพี่บ่นว่าอยากกินเบียร์ตั้งแต่ลงเครื่องแล้วเลยเปลี่ยนจากที่นอนมุ่งตรงไปยัง Clarke quay ที่ร้าน Brewerkz ที่นี่มีเบียร์เยอะมาก เราเลยสั่งมาลองชิมก่อน 5แก้ว 5รส ส่วนอีก3คนดื่มโค๊ก และก็สั่งอาหารมาเติมพลังสักหน่อย ก็มี พิซซ่าหน้าเมอร์ไลออน(ทะเล)1 ฮาวาเอี้ยน1 สลัดไก่1 ไก่สะเต๊ะ1 waffle2 เค้ก1 มื้อนี้ค่าเสียหายโดนไป ~236$
Day#2 ข้าวมันไก่
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ยังไม่มีแววฝนจะตก เราเริ่มต้นตอน 10โมง ไปน้ำพุแห่งความมั่งคั่งกัน Fortune of Wheel เพื่อไปสัมผัสน้ำพุตรงกลาง วิธีไปนั่งรถไปไปลง promenade ทางออก suntec city (เราจะจำnumberไม่ค่อยได้) มองตรงไป แล้วเราก็เดินเข้าไปในห้างเพื่อหาทางเข้าน้ำพุ เมื่อได้สัมผัสเราก็เดินขึ้นมาถ่ายรูปด้านบน เพราะด้านล่างอยู่ได้ไม่นาน
เริ่มหิวแล้ว เราจะไปกินข้าวมันไก่กัน ร้าน Boon Tong Kee ใกล้ๆ สถานี Boonkeng ทางออก B ออกมาแล้วหันขวา เดินตรงไปจะเห็นคนหน้าร้านเยอะๆ เราไปถึงช่วงเที่ยงคนเยอะเลย แต่รอคิวไม่นาน เราสั่งมา4 อย่าง มีไก่2 ผัดผัก2 กระดูกหมูหวานๆ 2 ผัดเต้าหู้2 ข้าว8 กินคู่กับโค๊ก อ่าส์ ชื่นใจ กินจนลืมอ้วน55+ อร่อยนะเรามาทุกครั้งเลย จานใหญ่ได้ของเยอะอยู่ มื้อนี้ค่าเสียหายทั้งหมด ~ 102
เราจะไปGarden by the bay กันต่อ แต่มีที่นึงที่อยากไปและก็อยู่สถานีทางผ่านพอดี นั่นก็คือ Fort canning park มันจะมีบันใดวนที่เป็นเหมือนอุโมงค์สวยดี วิธีไป ลงที่สถานี Dolby Ghaut ทางออกB ขึ้นมาแล้ว ซ้ายหัน เดินตรงไปแล้วข้ามถนน จากนั้นซ้ายหัน แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นทางเข้า ตามกระทู้นี้เลย รีวิวไว้ละเอียดมาก https://m.pantip.com/topic/34886451? เราเดินวนนานมากเพราะหาห้างไม่เจอ คือเขาปิดปรับปรุง แล้วเค้าบอกให้เลี้ยวซ้ายเราดันไปเลี้ยวขวา แล้วก็ไม่มีใครทักเราเลย55+
สถานที่ถัดมาเราจะไป garden by the bay กันเราได้ซื้อตั๋วมาก่อนแล้วเมื่อวาน ตั้งใจเลือกที่นี่เพราะจากประสบการณ์หลายๆครั้งที่สิงคโปร์ร้อนมาก เลยหาที่เที่ยวที่เย็นๆ สบายๆ เอาไว้หลบแดด นอกจากการเดินห้างเราก็ว่าที่นี่แหละ เพราะเป็นสวนติดแอร์ อากาศเย็นสบายแถมรู้สึกสดชื่นมาก เราใช้เวลากับทั้ง2โดม ตั้งแต่ 14:00 -18:00 โดยเข้า Could Forest ต่อด้วย Flower dome จากที่หลบแดดกลายเป็นที่หลบฝน เพราะเข้าไปได้ซักพักฝนก็ตกทำให้ข้างในเย็นไปอีก
เสร็จแล้วเราจะไปดู Merlion กัน แต่ที่เป็นตัวหลักปิดปรับปรุงอยู่ TT เราเลยไปดูอีกตัวที่อยู่ที่เซนต์โตซ่า นั่งรถไฟไปลงที่ Harbor front เดินไปยังชั้น3 ของห้าง Vivo city เราใช้ Sentosa Express 3$ ไปลงที่สถานี Water front เราแวะถ่ายรูปที่ Universal แป๊บนึง แล้วเดินไปที่ Merlion เหมือนคนหลงทางเพราะไม่รู้จะเดินไปทางไหนเลยเปิด GPS เหมือนไกลมากเลยจะขึ้น sentosa express ไปลงอีกสถานีแต่คนต่อแถวเยอะสงสัยเป็นช่วงเวลากลับ แต่มีพี่สายตายาวมองเห็นสิงโตตัวใหญ่ๆ ถ้าเราหันหน้าเข้าสถานี
ให้มองไปทางขวามือ จะมองเห็น merlion ตัวใหญ่ๆ เดินไปไม่ไกล และขากลับเราก็ขึ้นที่สถานีนี้เลยคนไม่เยอะไม่ต้องไปต่อคิว
ดูเหมือนว่า Merlion ตัวหลักจะถอดผ้าคลุมออกแล้วเรา เช็คจาก Instagram เลยมุ่งหน้าไปยัง Merlion park และหาข้าวกินแถวๆนั้น เราลงสถานี Raffle place ทางออกไรจำไม่ได้เดินตามไปทางMerlion เลย ออกมาก็เปิดGPSเอา เพราะเราถามทาง พี่ รปภ ความจริงออกมาต้องเลี้ยวขวา พี่แกให้เราเลี้ยวซ้าย เลยต้องเดินย้อนกลับมาอีกTT เราเดินผ่านMerlion park ไปก่อนเพื่อไปกินข้าวที่ makansutra gluttons bay ให้เราเดินเลาะอ่าวไปทาง esplanade เลาะอ่าวไปเรื่อยผ่านซุ้มดนตรี เดินไปอีกนิดเดียวจะเจอศูนย์อาหารกลางแจ้งทางซ้ายมือ ถ้ากลัวหลงให้พยายามไปตามกลิ่น เราใช้วิธีนั้น 555
เราสั่งอาหารไป 3 อย่าง เพราะเงินกองกลางใกล้หมด มีข้าวผัดปู ไก่สะเต๊ะ ปีกไก่ย่าง ค่าเสียหาย 77$
เมื่อกินอิ่มเราก็กลับมาหาคุณ Merlion ทางฝั่ง Marina Bay Sand ก็มีการแสดงพอดี มองจากมุมนี้ก็สวยไปอีกแบบ เราว่าริมอ่าว marina bay มองจากมุมไหนก็สวยไปหมด เรากลับมาถ่ายรูปที่ Merlion ที่ถอดผ้าคลุมเสร็จแล้วแต่ยังไม่พ้นน้ำน่าเสียดายแทนพี่ๆ แต่ไม่เป็นไรดูตัวเล็กพ่นน้ำไปแทนแล้วกัน
วันนี้พอก่อนกับไปนอนดีกว่า แต่ขากลับเราเดินกลับอีกทางเพื่อไปสถานี เราเดินเลาะไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ จะได้เห็นวิวอีกด้าน โดยใช้ทางลอดมาออกตรงสตาร์บัค เดินขึ้นมาบนถนน เดินข้ามไปฝั่งโรงแรมแล้วอ้อมไปทางขาว ก็จะเจอสะพานสวยดี
Day#3 กลับ
วันนี้เราตื่นเช้า 10โมงไปวัดพระเขี้ยวแก้วจากนั้นก็ซื้อของฝากที่china town เที่ยงเราก็ไปสนามบิน จบทริป