ในช่วงนี้มีข่าวทยอยออกมาเรื่อย ๆ ถึงเรื่องการเร่งให้มีการดำเนินการเอาผิดกับหลวงพ่อธัมมชโย ล่าสุดนายไพบูลย์ นิติตะวัน คนดียุคนี้ ที่ไม่เคยผ่านการบวชมาก่อน และมีคดีเกี่ยวข้องกับกบฏก็ออกมาเร่งให้มหาเถรสมาคม(ม.ส.) นำเอากฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศมาใช้กับหลวงพ่อ เราคงต้องมาดูกันสักนิดว่า กฎดังกล่าวมีเนื้อหาว่าอย่างไร
3. ในกรณีพระภิกษุรูปใด
(3.1) ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ให้เจ้าอาวาสซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัยมีอำนาจหน้าที่ แนะนำ ชี้แจง ตักเตือน ให้พระภิกษุรูปนั้นประพฤติตามพระธรรมวินัยเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกำหนดเวลาให้ปฏิบัติ หากพระภิกษุรูปนั้นไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ชี้แจง ตักเตือน ภายในเวลาที่กำหนด ให้เจ้าอาวาสวัดซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัย รายงานโดยลำดับจนถึงเจ้าคณะอำเภอเจ้าสังกัด เพื่อวินิจฉัยให้สละสมณเพศต่อไป
(3.2) ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองวัดหรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้น มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้
จากกฎข้อนี้ เป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ต้องเป็นเรื่องการประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ซึ่งกรณีของหลวงพ่อธัมมชโยนั้นไม่เข้าข่ายตามกฎนี้แต่อย่างใด
หากเราจำกันได้ นายไพบูลย์ผู้นี้แหละที่อ้างกฎหมายศุลกากรเพื่อเล่นงานสมเด็จวัดปากน้ำโดยอ้างว่าการรับของไม่ได้เสียภาษีไม่ต้องมีเจตนาก็ถือเป็นความผิดตาม ม. 27
ซึ่งตามหลักกฎหมาย ม. 27 ทวิ จะเป็นความผิดได้ต่อเมื่อรู้ว่าของนั้นผิดกฎหมาย
ก็หวังว่าสังคมและผู้มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้จะรู้ทันเกมของคน ๆ นี้ และอย่าได้หลงเข้าไปในเกมของคนพาลเลยนะครับ
อนาคาริก
03/08/17
รู้ทันเกมคนพาล ???
3. ในกรณีพระภิกษุรูปใด
(3.1) ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ให้เจ้าอาวาสซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัยมีอำนาจหน้าที่ แนะนำ ชี้แจง ตักเตือน ให้พระภิกษุรูปนั้นประพฤติตามพระธรรมวินัยเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกำหนดเวลาให้ปฏิบัติ หากพระภิกษุรูปนั้นไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ชี้แจง ตักเตือน ภายในเวลาที่กำหนด ให้เจ้าอาวาสวัดซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัย รายงานโดยลำดับจนถึงเจ้าคณะอำเภอเจ้าสังกัด เพื่อวินิจฉัยให้สละสมณเพศต่อไป
(3.2) ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองวัดหรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้น มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้
จากกฎข้อนี้ เป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ต้องเป็นเรื่องการประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ซึ่งกรณีของหลวงพ่อธัมมชโยนั้นไม่เข้าข่ายตามกฎนี้แต่อย่างใด
หากเราจำกันได้ นายไพบูลย์ผู้นี้แหละที่อ้างกฎหมายศุลกากรเพื่อเล่นงานสมเด็จวัดปากน้ำโดยอ้างว่าการรับของไม่ได้เสียภาษีไม่ต้องมีเจตนาก็ถือเป็นความผิดตาม ม. 27
ซึ่งตามหลักกฎหมาย ม. 27 ทวิ จะเป็นความผิดได้ต่อเมื่อรู้ว่าของนั้นผิดกฎหมาย
ก็หวังว่าสังคมและผู้มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้จะรู้ทันเกมของคน ๆ นี้ และอย่าได้หลงเข้าไปในเกมของคนพาลเลยนะครับ
อนาคาริก
03/08/17