เกวัฏฏะ ! นี่ปาฏิหาริย์สามอย่าง ที่เราได้ทำ
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ได้.
๓ อย่างอะไรเล่า ? ๓ อย่าง คือ :-
๑. อิทธิปาฏิหาริย์
๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์
๓. อนุศาสนีปาฏิหาริย์
(๑) เกวัฏฏะ !
อิทธิปาฏิหาริย์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
เกวัฏฏะ ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำอิทธิวิธีมี
ประการต่างๆ : ผู้เดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคน
เป็นคนเดียว, ทำที่กำบังให้เป็นที่แจ้ง ทำที่แจ้งให้เป็นที่
กำบัง, ไปได้ไม่ขัดข้อง ผ่านทะลุฝา ทะลุกำแพง ทะลุภูเขา
ดุจไปในอากาศว่างๆ, ผุดขึ้นและดำรงอยู่ในแผ่นดินได้
เหมือนในน้ำ, เดินไปได้เหนือน้ำเหมือนเดินบนแผ่นดิน,
ไปได้ในอากาศเหมือนนกมีปีก ทั้งที่ยังนั่งสมาธิคู้บัลลังก์,
ลูบคลำดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อันมีฤทธิ์อานุภาพมาก
ได้ด้วยฝ่ามือ และแสดงอำนาจทางกายเป็นไปตลอดถึง
พรหมโลกได้. เกวัฏฏะ ! กุลบุตรผู้มีศรัทธาเลื่อมใสได้
เห็นการแสดงนั้นแล้ว เขาบอกเล่าแก่กุลบุตรอื่นบางคน
ที่ไม่ศรัทธาเลื่อมใสว่าน่าอัศจรรย์นัก. กุลบุตรผู้ไม่มีศรัทธา
เลื่อมใสนั้น ก็จะพึงตอบว่า วิชาชื่อคันธารี1 มีอยู่ ภิกษุนั้น
แสดงอิทธิวิธีด้วยวิชานั่นเท่านั้น. เกวัฏฏะ ! ท่านจะเข้าใจ
ว่าอย่างไร : ก็คนไม่เชื่อ ไม่เลื่อมใส ย่อมกล่าวตอบผู้เชื่อ
ผู้เลื่อมใสได้อย่างนั้น มิใช่หรือ ?
“พึงตอบได้ พระเจ้าข้า !”.
เกวัฏฏะ !
เราเห็นโทษในการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ดังนี้แล
จึงอึดอัด ขยะแขยง เกลียดชัง ต่ออิทธิปาฏิหาริย์.
1. คันธารี ชื่อมนต์ แต่งโดยฤษีมีนามคันธาระ, อีกความหมายหนึ่งหมายถึง
คำแปลว่าในแคว้นคันธาระ.
ปาฏิหาริย์ สาม #อิทธิปาฏิหาริย์
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ได้.
๓ อย่างอะไรเล่า ? ๓ อย่าง คือ :-
๑. อิทธิปาฏิหาริย์
๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์
๓. อนุศาสนีปาฏิหาริย์
(๑) เกวัฏฏะ !
อิทธิปาฏิหาริย์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
เกวัฏฏะ ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำอิทธิวิธีมี
ประการต่างๆ : ผู้เดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคน
เป็นคนเดียว, ทำที่กำบังให้เป็นที่แจ้ง ทำที่แจ้งให้เป็นที่
กำบัง, ไปได้ไม่ขัดข้อง ผ่านทะลุฝา ทะลุกำแพง ทะลุภูเขา
ดุจไปในอากาศว่างๆ, ผุดขึ้นและดำรงอยู่ในแผ่นดินได้
เหมือนในน้ำ, เดินไปได้เหนือน้ำเหมือนเดินบนแผ่นดิน,
ไปได้ในอากาศเหมือนนกมีปีก ทั้งที่ยังนั่งสมาธิคู้บัลลังก์,
ลูบคลำดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อันมีฤทธิ์อานุภาพมาก
ได้ด้วยฝ่ามือ และแสดงอำนาจทางกายเป็นไปตลอดถึง
พรหมโลกได้. เกวัฏฏะ ! กุลบุตรผู้มีศรัทธาเลื่อมใสได้
เห็นการแสดงนั้นแล้ว เขาบอกเล่าแก่กุลบุตรอื่นบางคน
ที่ไม่ศรัทธาเลื่อมใสว่าน่าอัศจรรย์นัก. กุลบุตรผู้ไม่มีศรัทธา
เลื่อมใสนั้น ก็จะพึงตอบว่า วิชาชื่อคันธารี1 มีอยู่ ภิกษุนั้น
แสดงอิทธิวิธีด้วยวิชานั่นเท่านั้น. เกวัฏฏะ ! ท่านจะเข้าใจ
ว่าอย่างไร : ก็คนไม่เชื่อ ไม่เลื่อมใส ย่อมกล่าวตอบผู้เชื่อ
ผู้เลื่อมใสได้อย่างนั้น มิใช่หรือ ?
“พึงตอบได้ พระเจ้าข้า !”.
เกวัฏฏะ !
เราเห็นโทษในการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ดังนี้แล
จึงอึดอัด ขยะแขยง เกลียดชัง ต่ออิทธิปาฏิหาริย์.
1. คันธารี ชื่อมนต์ แต่งโดยฤษีมีนามคันธาระ, อีกความหมายหนึ่งหมายถึง
คำแปลว่าในแคว้นคันธาระ.