นึกขึ้นมาได้ .. ว่าตอนไปยุโรปปีที่แล้ว (April 2016) มีเงิบเรื่องบัตรเครดิตหลายรอบมาก รอบนี้เลยอยากหาข้อมูลว่าสรุปมันยังไงกันแน่
คราวที่แล้วเราคิดว่าจริงๆเรามี PIN แต่เราลืมขอธนาคารมาใหม่ นึกว่าเป็นอันเดียวกันกับที่เวลาธนาคารส่งบัตรเครดิตมาให้ใหม่ แล้วอีก 7 วันจะมีรหัสส่งมาให้ตามหลัง แต่เท่าที่หาข้อมูลอีกที ปรากฎว่ารหัสที่ให้มานั้นไม่ใช่นะคะ นั่นมัน PIN สำหรับกดเงินสดจากบัตรเครดิต คิดดอกเบี้ยมหาโหดเลยล่ะค่ะ เงิบบบบบอีก ความจริงเป็นยังไง ต้องเอาให้กระจ่างละ ฮึ่มๆๆ
นั่งนึกถึงรอบที่แล้วที่ไปยุโรป เท่าที่จำได้คือ จะซื้อตั๋วรถไฟจากตู้ เพราะเคาท์เตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว คนต่อคิวยาวมาก ไอ้เราก็รีบด้วย ก็เลยลองต่อแถวซื้อจากตู้เอา ซึ่งก็ไม่ได้สั้นหรอก แต่ก็สั้นกว่าเคาท์เตอร์เยอะ
พอถึงคิว ก็กดเลือกภาษา (ถ้าหาคำว่า ENGLISH ไม่เจอ ให้มองหารูปธงประเทศอังกฤษก่อนเลย) เลือกเอาว่าจะไปลงสถานีปลายทางที่ไหน ตั๋วแบบไหน กี่ใบอะไรว่าไป เนื่องจากเราจะจ่ายด้วยการรูดการ์ด ก็เสียบบัตรเข้าไป (จำได้ว่าลองทุกบัตรที่เอาติดไป น่าจะมีทั้ง Visa, Mastercard แต่เป็นบัตรที่ออกโดยธนาคารในไทยทั้งหมด) ปรากฎว่ามันขึ้นหน้าจอว่าให้ใส่ PIN 4 หลัก O_o ลองใส่รหัสอะไรก็ใส่ไม่ได้ สรุปซื้อผ่านตู้อัตโนมัติไม่ได้ ไปต่อแถวซื้อกับเจ้าหน้าที่เหมือนเดิม -_-"
อีกครั้งคือตอนซื้อของในสวิส .. จำได้ว่าเข้าร้าน Victorinox ที่ขายมีดนั่นล่ะค่ะ ซื้อเสร็จจะรูดการ์ด นึกว่าไม่มีอะไรละนะ ปรากฎว่าให้ใส่ PIN 4 หลักอีกแล้ว (แต่ก่อนหน้านี้มีซื้อของร้านอื่นไปแล้ว ก็รูดได้ปกติ ปริ้นท์สลิปออกมาเซ็นเอาตามปกติ) ก็เลยต้องบอกน้องพนักงานว่าไม่มี PIN ขอเซ็นแทนได้มั้ย แต่เหมือนน้องงงๆ สรุปเปลี่ยนบัตรรูด เปลี่ยนเครื่องรูดด้วย ถึงได้ปริ้นท์สลิปออกมาเซ็นแทน – -” (ความจริงคืออะไรเหรอออ งงมาก)
เลยเป็นที่มาของวันนี้ ที่มานั่งหาข้อมูลก่อนไปรอบนี้ ว่าสรุปมันยังไงกันแน่
======================================
กระทู้นี้ต้องออกตัวก่อนว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลเอาจากอินเตอร์เนทมา บวกกับที่เคยเจอมา ของจริงจะเป็นยังไง ไว้ไปเที่ยวกลับมา แล้วจะมาอัพเดทว่ามันเป็นอย่างนี้จริงหรือเปล่า? ^_^

FB: Go Together With Hana (
fb.me/gotogetherwithhana) ชอบ ถูกใจ กดติดตาม กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันได้นะค๊า ;)
แชร์ข้อมูลการรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศ .. บัตรไหนดี คิดเรทยังไง?
คราวที่แล้วเราคิดว่าจริงๆเรามี PIN แต่เราลืมขอธนาคารมาใหม่ นึกว่าเป็นอันเดียวกันกับที่เวลาธนาคารส่งบัตรเครดิตมาให้ใหม่ แล้วอีก 7 วันจะมีรหัสส่งมาให้ตามหลัง แต่เท่าที่หาข้อมูลอีกที ปรากฎว่ารหัสที่ให้มานั้นไม่ใช่นะคะ นั่นมัน PIN สำหรับกดเงินสดจากบัตรเครดิต คิดดอกเบี้ยมหาโหดเลยล่ะค่ะ เงิบบบบบอีก ความจริงเป็นยังไง ต้องเอาให้กระจ่างละ ฮึ่มๆๆ
นั่งนึกถึงรอบที่แล้วที่ไปยุโรป เท่าที่จำได้คือ จะซื้อตั๋วรถไฟจากตู้ เพราะเคาท์เตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว คนต่อคิวยาวมาก ไอ้เราก็รีบด้วย ก็เลยลองต่อแถวซื้อจากตู้เอา ซึ่งก็ไม่ได้สั้นหรอก แต่ก็สั้นกว่าเคาท์เตอร์เยอะ
พอถึงคิว ก็กดเลือกภาษา (ถ้าหาคำว่า ENGLISH ไม่เจอ ให้มองหารูปธงประเทศอังกฤษก่อนเลย) เลือกเอาว่าจะไปลงสถานีปลายทางที่ไหน ตั๋วแบบไหน กี่ใบอะไรว่าไป เนื่องจากเราจะจ่ายด้วยการรูดการ์ด ก็เสียบบัตรเข้าไป (จำได้ว่าลองทุกบัตรที่เอาติดไป น่าจะมีทั้ง Visa, Mastercard แต่เป็นบัตรที่ออกโดยธนาคารในไทยทั้งหมด) ปรากฎว่ามันขึ้นหน้าจอว่าให้ใส่ PIN 4 หลัก O_o ลองใส่รหัสอะไรก็ใส่ไม่ได้ สรุปซื้อผ่านตู้อัตโนมัติไม่ได้ ไปต่อแถวซื้อกับเจ้าหน้าที่เหมือนเดิม -_-"
อีกครั้งคือตอนซื้อของในสวิส .. จำได้ว่าเข้าร้าน Victorinox ที่ขายมีดนั่นล่ะค่ะ ซื้อเสร็จจะรูดการ์ด นึกว่าไม่มีอะไรละนะ ปรากฎว่าให้ใส่ PIN 4 หลักอีกแล้ว (แต่ก่อนหน้านี้มีซื้อของร้านอื่นไปแล้ว ก็รูดได้ปกติ ปริ้นท์สลิปออกมาเซ็นเอาตามปกติ) ก็เลยต้องบอกน้องพนักงานว่าไม่มี PIN ขอเซ็นแทนได้มั้ย แต่เหมือนน้องงงๆ สรุปเปลี่ยนบัตรรูด เปลี่ยนเครื่องรูดด้วย ถึงได้ปริ้นท์สลิปออกมาเซ็นแทน – -” (ความจริงคืออะไรเหรอออ งงมาก)
เลยเป็นที่มาของวันนี้ ที่มานั่งหาข้อมูลก่อนไปรอบนี้ ว่าสรุปมันยังไงกันแน่
======================================
กระทู้นี้ต้องออกตัวก่อนว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลเอาจากอินเตอร์เนทมา บวกกับที่เคยเจอมา ของจริงจะเป็นยังไง ไว้ไปเที่ยวกลับมา แล้วจะมาอัพเดทว่ามันเป็นอย่างนี้จริงหรือเปล่า? ^_^
FB: Go Together With Hana (fb.me/gotogetherwithhana) ชอบ ถูกใจ กดติดตาม กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันได้นะค๊า ;)