หนังเก่าเล่าใหม่ 049: The Perks of Being a Wallflower (Stephen Chbosky,2012)

" เราเรียนรู้อะไรได้บ้างกับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต " ถ้าจัดหนังแนว 'coming of age' สักเรื่องคงบอกได้ว่า 'The Perks of Being a Wallflower' คือหนึ่งในนั้นโดยปฏิเสธไม่ได้ ด้วยพล็อตเรื่องและการเล่าเรื่อง ที่พาคนดูเรียนรู้และโตไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง ไม่เฉพาะสำหรับเด็กวัยเดียวกับตัวละครแต่ยังรวมไปถึงคนที่ผ่านเรื่องราววัยรุ่นมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังสร้างบรรยากาศให้เราซึมซับช่วงเวลาของวัยรุ่นได้อย่างสวยงาม แม้จุดเริ่มต้นจะเริ่มจากรอยแผลในใจของตัวละครแต่การบรรจงรักษาแผลนั้นก็ทำได้อย่างแนบเนียน การสำรวจสภาวะจิตใจของตัวละครที่หนังทำนั้นช่วยให้เราเข้าถึงสภาวะของ 'ชาร์ลี' เด็กหนุ่มขี้อาย ไร้เพื่อน มีปมในวัยเด็ก ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป 'ชาร์ลี' ได้พบกับ 'แซม' และ 'แพททริค' รุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนั้นและเป็นปีเดียวกันที่ชาร์ลีได้เริ่มต้นชีวิตมัธยมปลาย ชาร์ลีนับวันรอคอยที่จะผ่านช่วงชีวิตนี้ สิ่งพิเศษสำหรับชาร์ลี คือการได้พบ แซมและแพททริค ซึ่งทั้งสองทำให้ชาร์ลีก้าวกระโดดในบทเรียนของชีวิต ได้รู้จักความรัก ได้จูบครั้งแรก มีแฟนคนแรก ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสมือนดอกไม้ที่โตก่อนวัย เสมือนดอกไม้ที่อยู่บนกำแพงที่เข้ามามีส่วนร่วมแบบไม่รู้ตัวและสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมดก็คือสิ่งที่ชาร์ลีจะต้องยอมรับและก้าวข้ามความรู้สึกเหล่านั้นไปให้ได้

'คงไม่มีใครเกิดมาในโลกนี้แล้วโตเป็นผู้ใหญ่เลย' เราทุกคนคงผ่านบทเรียนที่ทำให้เราเติบโต บทเรียนที่ทุกคนต้องเผชิญล้วนแตกต่างกันไป บททดสอบที่ต้องผ่านไปให้ได้เพื่อ 'เติบโต' ไปเป็นผู้ใหญ่ คือภาคบังคับที่เราทุกคนต้องประสบพบเจอ สำหรับช่วงวัยรุ่นเราคิดว่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามานั้นเกือบทุกเรื่องสะกิดใจเราได้ทั้งนั้น อาจเป็นเพราะประสาทสัมผัสในช่วงวัยรุ่นส่งผลและตอบสนองได้ไวกว่าช่วงอื่นๆ แรงสั่นสะเทือนในใจเลยเยอะกว่าและจำได้แม่นย้ำกว่า ฝังใจกว่าช่วงเวลาไหนๆ ระหว่างที่เราหยิบเรื่องนี้กลับมาดูเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เรายังคงมีความรู้สึกว่าการได้ดูเรื่องราวของ 'ชาร์ลี' เสมือนการได้ย้อนดูอดีตที่ผ่านมา สำรวจการกระทำของตัวเองในช่วงเวลานั้น เราเสียใจเรื่องอะไร เราท้อแท้เรื่องอะไร เราไม่ไหวแล้วกับสิ่งไหน และเราจัดการพาตัวเองผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง

ไดอะล็อกและบทสนทนาของเรื่องดีงามมาก ฉากบรรยากาศ ดนตรีประกอบเพราะมาก การแสดงที่เป็นธรรมชาติ มิตรภาพภายใต้คำว่า 'อิสระ' ยังคงสวยงามและโลดแล่นให้เราหวนคิดถึงความทรงจำในวัยรุ่นอยู่เสมอ บางทีเราก็อยากเก็บช่วงเวลานั้นไว้ แต่ใครเล่าจะเก็บเวลานั้นใส่กระเป๋าแล้วพกไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา เราทำได้เพียงคิดถึงช่วงเวลานั้นเพียงแค่นั้น ช่วงเวลาที่เรามีความสุข ช่วงเวลานั้นแหละคือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิต แล้วสุดท้ายมันก็จะผ่านไป...เป็นเพียงเรื่องราวธรรมดาที่แสนพิเศษเพียงครั้งหนึ่ง

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง

ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
หนังเก่าเล่าใหม่ 049: The Perks of Being a Wallflower (Stephen Chbosky,2012)
" เราเรียนรู้อะไรได้บ้างกับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต " ถ้าจัดหนังแนว 'coming of age' สักเรื่องคงบอกได้ว่า 'The Perks of Being a Wallflower' คือหนึ่งในนั้นโดยปฏิเสธไม่ได้ ด้วยพล็อตเรื่องและการเล่าเรื่อง ที่พาคนดูเรียนรู้และโตไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง ไม่เฉพาะสำหรับเด็กวัยเดียวกับตัวละครแต่ยังรวมไปถึงคนที่ผ่านเรื่องราววัยรุ่นมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังสร้างบรรยากาศให้เราซึมซับช่วงเวลาของวัยรุ่นได้อย่างสวยงาม แม้จุดเริ่มต้นจะเริ่มจากรอยแผลในใจของตัวละครแต่การบรรจงรักษาแผลนั้นก็ทำได้อย่างแนบเนียน การสำรวจสภาวะจิตใจของตัวละครที่หนังทำนั้นช่วยให้เราเข้าถึงสภาวะของ 'ชาร์ลี' เด็กหนุ่มขี้อาย ไร้เพื่อน มีปมในวัยเด็ก ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป 'ชาร์ลี' ได้พบกับ 'แซม' และ 'แพททริค' รุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนั้นและเป็นปีเดียวกันที่ชาร์ลีได้เริ่มต้นชีวิตมัธยมปลาย ชาร์ลีนับวันรอคอยที่จะผ่านช่วงชีวิตนี้ สิ่งพิเศษสำหรับชาร์ลี คือการได้พบ แซมและแพททริค ซึ่งทั้งสองทำให้ชาร์ลีก้าวกระโดดในบทเรียนของชีวิต ได้รู้จักความรัก ได้จูบครั้งแรก มีแฟนคนแรก ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสมือนดอกไม้ที่โตก่อนวัย เสมือนดอกไม้ที่อยู่บนกำแพงที่เข้ามามีส่วนร่วมแบบไม่รู้ตัวและสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมดก็คือสิ่งที่ชาร์ลีจะต้องยอมรับและก้าวข้ามความรู้สึกเหล่านั้นไปให้ได้
'คงไม่มีใครเกิดมาในโลกนี้แล้วโตเป็นผู้ใหญ่เลย' เราทุกคนคงผ่านบทเรียนที่ทำให้เราเติบโต บทเรียนที่ทุกคนต้องเผชิญล้วนแตกต่างกันไป บททดสอบที่ต้องผ่านไปให้ได้เพื่อ 'เติบโต' ไปเป็นผู้ใหญ่ คือภาคบังคับที่เราทุกคนต้องประสบพบเจอ สำหรับช่วงวัยรุ่นเราคิดว่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามานั้นเกือบทุกเรื่องสะกิดใจเราได้ทั้งนั้น อาจเป็นเพราะประสาทสัมผัสในช่วงวัยรุ่นส่งผลและตอบสนองได้ไวกว่าช่วงอื่นๆ แรงสั่นสะเทือนในใจเลยเยอะกว่าและจำได้แม่นย้ำกว่า ฝังใจกว่าช่วงเวลาไหนๆ ระหว่างที่เราหยิบเรื่องนี้กลับมาดูเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เรายังคงมีความรู้สึกว่าการได้ดูเรื่องราวของ 'ชาร์ลี' เสมือนการได้ย้อนดูอดีตที่ผ่านมา สำรวจการกระทำของตัวเองในช่วงเวลานั้น เราเสียใจเรื่องอะไร เราท้อแท้เรื่องอะไร เราไม่ไหวแล้วกับสิ่งไหน และเราจัดการพาตัวเองผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง
ไดอะล็อกและบทสนทนาของเรื่องดีงามมาก ฉากบรรยากาศ ดนตรีประกอบเพราะมาก การแสดงที่เป็นธรรมชาติ มิตรภาพภายใต้คำว่า 'อิสระ' ยังคงสวยงามและโลดแล่นให้เราหวนคิดถึงความทรงจำในวัยรุ่นอยู่เสมอ บางทีเราก็อยากเก็บช่วงเวลานั้นไว้ แต่ใครเล่าจะเก็บเวลานั้นใส่กระเป๋าแล้วพกไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา เราทำได้เพียงคิดถึงช่วงเวลานั้นเพียงแค่นั้น ช่วงเวลาที่เรามีความสุข ช่วงเวลานั้นแหละคือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิต แล้วสุดท้ายมันก็จะผ่านไป...เป็นเพียงเรื่องราวธรรมดาที่แสนพิเศษเพียงครั้งหนึ่ง
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/