หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[Travel] บุกโอมาน ตามหารัก : ตอนที่ 3 กินเที่ยวในมัสกัต
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
และแล้วก็ถึงวันที่ 3 ของการเดินทางนะครับ วันนี้ขอเน้นการกิน/เที่ยวในตัวเมืองมัสกัตกันซักหน่อย เพราะออกจากเมืองหลายวันแล้วค่อนข้างเหนื่อยเลยทีเดียว อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าตัวโรมแรมที่ผมพักนั้น (Somerset Panorama Muscat) อยู่ใกล้กับสถานที่เที่ยวหลายๆที่เลย จึงขอเริ่มที่แรกด้วยการไป the Sultan Qaboos Grand Mosque ก่อนละกัน เพราะที่นี่เปิดเวลา 8 โมงเช้าถึง 11 โมงเท่านั้น (ปิดทุกวันศุกร์ด้วย) จากตัวโรงแรมมาที่นี่ก็เสียค่า Taxi ไปในราคา 2 OMR และไม่ต้องตกใจไปถ้าเกิดเห็น Taxi ที่นี่ขับรถไปเล่นโทรศัพท์มือถือไป เพราะเป็นกันเกือบทุกคัน แต่พวกเค้าก็ไม่ได้ขับรถอันตรายนะ
พอลง Taxi มาก็จะเจอจุดแรกเป็นจุดสำหรับซื้อของฝากและมีบริการให้เช่าชุดประจำชาติของที่นี่ด้วย (Dishdasha และ Abaya) ในราคา 5 OMR เนื่องจากว่าการเข้าไปในตัวมัสยิดนั้นเราจะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดไปถึงข้อมือและข้อเท้า เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิงหลายคนใส่กางเกงขาเต่อๆจะต้องใส่ถุงเท้าให้ปิดเนื้อหนังให้มิดด้วย (อารมณ์ถุงเท้าลูกเสือเลย) ส่วนผู้ชายใส่กางเกงขายาวและเสื้อสุภาพก็พอ อ้อ…ที่นี่สามารถเข้าชมได้ฟรีนะครับ
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินผ่านซุ้มประตูที่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเรา พอผ่านประตูนี้มาได้ก็จะพบเจอกับสวนขนาดใหญ่ประดับไปด้วยต้นไม้และดอกไม้จำนวนมาก ให้บรรยากาศแตกต่างไปจากที่อื่นๆในกรุงมัสกัตลิบลับ
พ้นบริเวณสวนมาแล้วเราจะต้องถอดรองเท้ากันก่อนเข้าไปในมัสยิดด้วยนะครับ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเท้าจะดำ เพราะที่นี่สะอาดมากจริงๆ พริบตาแรกที่เห็นมัสยิดใกล้ๆนั้นบอกเลยว่างดงามมากๆ
ถ่ายรูปกันไปเยอะแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้าไปด้านในมัสยิดกันแล้วครับ เข้ามาแว๊บแรกขนลุกเลยครับ แอร์ข้างในนี้เย็นมาก สภาพภายในมัสยิดนั้นทำออกมาอย่างปราณีตและดูยิ่งใหญ่สุดๆ ด้านล่างจะเป็นพรมขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาทอถึง 4 ปีด้วยหญิงพรหมจรรย์ล้วนๆ ส่วนตรงกลางห้องละหมาดจะมีแชนเดอเลียขนาดใหญ่ ความสูงกว่า 14 เมตรประดับอยู่ด้านบน
พอถึง 11 โมงก็จะมีเจ้าหน้าที่ออกมาเตือนว่าหมดเวลาแล้ว เพราะที่นี่จะมีการทำพิธีในช่วงบ่ายครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาไปหาของกินแล้วสิ เราเริ่มจากการไปเรียก Taxi ที่หน้ามัสยิด แต่โดนฟันด้วยราคา 5 OMR จึงปฎิเสธไป แล้วก็จบด้วยการเรียก Taxi เจ้าเดิมจาก WhatsApp แทน (อย่างที่บอกไว้ในตอนแรกว่าถ้าเจอ Taxi ดีๆอย่าลืมเก็บเบอร์เค้าไว้ด้วยนะ ช่วยได้เยอะมากเลย) พอกลับมาโรงแรมเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินไป Muscat Grand Mall ที่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที อากาศเย็นสบายครับ เดินได้เรื่อยๆ คราวนี้เราก็ได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองมัสกัตซักที
สภาพบ้านเรือนในกรุงมัสกัตจะไม่สูงเท่าไหร่ สะอาดมาก แทบไม่เจอขยะเลย ตึกก็จะตกแต่งด้วยสีโทนเดียวกันหมด จะมีก็แต่ตอนกลางคืนที่จะเห็นร้านต่างๆเปิดไฟนีออนสีตัดกันอย่างสะดุดตา รอบๆเมืองก็จะรายล้อมไปด้วยภูเขา ชนิดที่เรียกว่ามองไปทางไหนก็เห็นได้ทุกมุม คนที่นี่เป็นมิตรมากเดินผ่านก็อาจจะมียิ้มให้หรือทักทายมาบ้าง หนักๆหน่อยเปิดกระจกรถมาทักทายเลยก็มี ไม่น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ และน้ำใจอีกอย่างนึงของคนที่นี่คือเวลาเราจะข้ามถนนไม่ว่าจะถนนหลักหรือซอยแคบๆ ส่วนใหญ่เค้าจะชะลอความเร็วให้ ไม่ใช่ยิ่งเร่งเข้ามาเหมือนบ้านเรา ประเทศนี้เค้าจะหยุดกันวันศุกร์-เสาร์ต่างจากที่อื่น ส่วนรถก็จะติดเป็นบางช่วงครับโดยเฉพาะตอนเช้าและเย็นแต่ก็ยังไม่เท่ากรุงเทพ ทางม้าลายที่นี่ก็ไม่ค่อยมีคนใช้กันเท่าไหร่ บางคนวิ่งข้ามถนน 8 เลนก็เคยเห็นมาแล้ว
ทีนี้ก็ถึง Muscat Grand Mall กันแล้ว ที่นี่จะเป็นห้างที่คนเข้ามาหาอะไรกินกัน หรือซื้อของที่ Carrefour ซะมากกว่า เพราะเสื้อผ้าหรือสินค้าต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ Local อาจไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ ที่นี่ยังมีร้านอาหารไทยอย่าง Shang Thai ใครไม่ถูกปากกับอาหารพื้นเมืองก็มาลองที่นี่ได้ แต่เราก็ไม่ได้มากินข้าวที่นี่กันหรอก เราจะไปกินที่ Muscat Avenue ตึกที่อยู่ใกล้ๆต่างหาก
พอเดินผ่านตึกมาก็จะเจอป้าย Lulu สีแดงแจ๋ ที่นี่จะเป็น Hypermarket ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองมัสกัต และสามารถเดินทะลุไป Muscat Avenue ที่อยู่ติดกันได้ด้วย และแล้วก็ได้เวลาอาหารของวันนี้ มาถึงตะวันออกกลางแล้วก็ต้องกินนี่สิครับ “อาหารญี่ปุ่น” อ่านไม่ผิดครับ แฟนผมพามากินอาหารญี่ปุ่นในประเทศโอมาน
มื้อนี้เราก็มาฝากท้องกันที่ร้าน Zen Asian Bistro ชั้น 3 ของ Muscat Avenue คราวนี้เราก็ได้สั่งเมนู Godzilla, Crunchy Spicy Tuna และ Suno Mono Salad รสชาติก็ถือว่าพอผ่าน แต่ก็ไม่ได้อร่อยจนอยากกลับไปกินอีก มื้อนี้ก็เสียไปก็ราวๆ 13 OMR ครับ
พอกินอิ่มก็กะว่าจะเดินย่อยซักหน่อย แต่ยังเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ต้องมาหยุดอยู่หน้าร้าน Pinkberry เพราะสายตาอ้อนวอนของแฟน ถ้วยนี้ก็โดนไปอีก 2.1 OMR ครับ
พออิ่มจริงๆจนท้องไม่สามารถรับอาหารใดๆเพิ่มเติมได้อีก คราวนี้ต้องเดินจริงจังกันแล้ว ต้องแวะซื้อของที่ Lulu ซักหน่อยเพราะจะได้มีอะไรติดไม้ติดมือกับไปทำกับข้าวบ้าง ด้านหน้าก็จะมีตะกร้ารถเข็นไซส์จัมโบ้จอดเรียงไว้ ขนาดที่สามารถลากกระสอบข้าว 10 กิโลกลับบ้านได้สบายๆ
เข้ามาแล้วก็ตรงดิ่งมาด้านหลังจะเจอมุมของสด ที่นี่จะมีเนื้อไก่แบบที่หมักเรียบร้อยแล้ว สามารถเอาไปทอดได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรุงเพิ่ม รสชาติจะออกเผ็ดๆอร่อยดีเหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามก็จะมีอาหารสดที่กำลังร้อนๆเลย ผมก็ลองสั่งติดไม้ติดมือกลับบ้านไป 3 อย่าง ได้แก่ Chicken Kadai Paratha, Chicken Samosa และ Chicken Shawarma สั่งเสร็จเค้าก็จะห่อใส่ถุงกระดาษให้เลย
เดินถัดมาด้านซ้ายก็จะเจอกับซุ้มขนมหวานที่เป็นของพื้นเมืองของอินเดีย ก็เลยลองสั่งมา 3 อย่างเหมือนกัน มี Gulab Jamun, Rasagulla และ Balushahi พนักงานที่นี่ก็ใจดีส่ง Dry Fruit Sweets มาให้ลองชิมด้วย อันนี้ทำมาจากอินทผาลัมผสมกับลูกเกดและถั่วต่างๆ ถึงจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็พยายามกินให้หมดเพราะกลัวจะไปทำลายรอยยิ้มของพนักงานชาวอินเดียที่กำลังส่งมาให้เรา
ชอปปิ้งเสร็จก็มืดซะแล้ว รีบเดินกลับโรงแรมดีกว่า ตอนกลางคืนบรรยากาศจะแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง เมืองที่สะอาดตาจะประดับประตาไปด้วยแสงสี เป็นอีกมุมที่น่าหลงใหลเหมือนกัน ตอนกลางคืนที่นี่ไม่ได้น่ากลัวนะครับ ถึงแม้จะมืดหน่อยแต่ก็ยังปลอดภัย
พอกลับถึงโรงแรมแล้วก็ได้เวลากินอีกรอบ แผ่นสี่เหลี่ยมๆที่ดูเหมือนมะตะบะเรียกว่า Chicken Kadai Paratha ครับ รสชาติจะเผ็ดๆคล้ายๆกะเพรา ส่วนชิ้นที่เหมือนกะหรี่ปั๊บจะเรียกว่า Chicken Samosa รสจะเหมือนแกงกะหรี่เลย ชิ้นสุดท้ายคือ Chicken Shawarma จะเป็นแป้งห่อไก่และเฟรนฟราย อันนี้อร่อยจนอยากจะกินอีก
ของคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวาน ขอเริ่มต้นด้วย Gulab Jamun กับ Rasagulla ก่อนละกัน ทั้งสองอันนี้มีรสคล้ายๆกันแต่กลิ่นต่างกันนิดหน่อย จะเป็นก้อนแป้งที่เอาไปทอดแล้วไปแช่ในน้ำเชื่อม รสหวานๆ เวลากินแล้วจะเหมือนขนมปุยฝ้ายร่วนๆเปียกๆ กินได้แค่คำเดียวก็หยุดเลยเพราะมันหวานมาก แล้วก็ต่อด้วย Balushahi ซะเลย อันนี้คล้ายๆขนมเปี๊ยครับ ไม่หวานมากกำลังดี มื้อนี้ทั้งคาวทั้งหวานรวมๆกันอยู่ที่ 1.3 OMR เท่านั้น แต่ของแค่นี้จะไปพอยาไส้ได้ยังไง ทนไม่ไหวครับ ต้องเรียก Taxi แล้วขอร้องให้แฟนหาร้านอร่อยมาด่วนๆเลย
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
[รีวิว] โอ้โห...โ อ ม า น • เที่ยวเอง • ยกก๊วน • วิวปัง • อลังเว่อร์ (รูปเยอะ+มีคลิป)
“ โ อ ม า น ” ประเทศที่ไม่เคยคิดว่าจะไป... ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอเที่ยวกลับมาแล้วรู้สึกว่า... หลงไหลเมืองนี้จนหมดใจเลยหละ : ) สวัสดีครับ กันต์กวี Chill Reporter เอง ขอบอกว่าไปเที
สมาชิกหมายเลข 1204232
กำเงิน1500เที่ยวมัสกัตหนึ่งวัน
เนื่องจากจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินโอมานแอร์ จึงได้ต่อเครื่องที่มัสกัตเลยได้เลือกเวลาต่อเครื่องนานๆเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวในเมืองได้ โอมานสามารถทำ Visa on arrival ได้ทำได้ที่สนามบินเลยไม่ต้องทำออนไลน
สมาชิกหมายเลข 1470060
ดูอะไร...ที่โอมาน
เนื่องด้วยตอนนี้โอมานกําลังบุกเรื่องการเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเป็นอย่างมาก การเปิดสนามบินใหม่ที่ยิ่งใหญ่ และสวยงาม (สวยจริงๆ!!!) การให้ Visa on arrival แ
สมาชิกหมายเลข 5607072
OMAN 2023 เที่ยวเองทั่ว โอมาน รีวิว 1 : แผนการเดินทาง อากาศ และสายการบิน
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวโอมาน ผมมีประสบการณ์มาแบ่งปันนะครับ ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนไป การเดินทาง และเกร็ดเล็กน้อย รีวิว 1 : แผนการเดินทาง อากาศ และสายการบิน สำหร
GoBkk
1,000 กิโล ที่ OMAN สัมผัสวิถีชีวิตชาวตะวันออกกลาง ขี่อูฐ นอนแค้มป์ในทะเลทราย ชมหุบเขายิ่งใหญ่
เธอเธอเดือนตุลาคมเราจะไปโอมานนะ เพื่อนถามว่าจะไปทำอะไร ร้อนก็ร้อน อาหารการกินก็ไม่น่าจะเหมาะกับเราๆ วันนี้กลับมาแล้วจ้า อยากจะบอกทุกคนว่า อุ๊ต๊ะ! ดีกว่าที่คิด ทุกสิ่งดีงาม โลเคชั่นสวย เหมาะแก่กา
สมาชิกหมายเลข 2427752
72 ชั่วโมงในโอมาน โอเอซิส อูฐ ทะเลทราย...และดวงดาวบนท้องฟ้า
หลังจากส่องกระทู้มานานนับปีในที่สุดก็ถึงคราวที่หมีไทยอย่างพี่จะลุกขึ้นมาเขียนกระทู้กับเขาบ้างแล้ว! ออกตัวก่อนว่าการตั้งกระทู้ท่องเที่ยวเป็นมิชชั่นของหมีไทยในปีนี้ นี่ก็ใกล้จะหมดปีขอสักทีก็แล้วกัน ห
Thaibear (หมีไทยใจกล้า)
[CR] Instagramable Oman .. โอมาน ล้านรูป ^^ ไม่มีความรู้ ไม่มีข้อมูล มีแต่เงินกับใจ ถ้าเราไปได้ ใครๆ ก็ไปได้!!
“I told my boss I’m going to help my sister move out, I didn’t tell where” ทริปไปต่างประเทศครั้
wealthbeaw
[Travel] บุกโอมาน ตามหารัก : ตอนที่ 1 บินลัดฟ้าสู่แดนอาหรับ
หลังจากที่วันก่อนได้รีวิวสายการบิน Oman Air ให้เพื่อนๆได้ดูกันแล้ว วันนี้ผมก็จะขอมาเล่าเรื่องราวของการไปเที่ยวทริปที่ผ่านมาให้ได้ฟังกัน และประเทศที่ผมได้ไปเยือนในคราวนี้ก็คือโอมาน ประเทศที่กำลังฮิตในห
สมาชิกหมายเลข 1790593
เที่ยวอินเดียลุยๆ สไตล์เด็กศิลป์ Part 1
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวก่อนเลยละกัน เป็นผู้หญิงคะ ชื่อ ลูกตาล ตอนนี้เรียนอยู่ที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ชื่อจะยาวไปไหน!! เป็นคนชื่นชอบ และหลงไหลในการท่องเที่ย
สมาชิกหมายเลข 1775111
การเดินทางเข้าโอมานและตุรกี ( May 23-30,2023)
ก่อนเดินทางได้ตั้งกระทู้ถามไว้ https://pantip.com/topic/42008668/desktop เพิ่งบินกลับมาเมื่อวาน จึงคิดว่ามาตั้งกระทู้เผื่อจะมีประโยชน์แก่ท่านที่กำลังจะเดินทางค่ะ หนอนฯบินเส้นทาง BKK- Muscat Muscat-
หนอนแบกเป้
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 389
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[Travel] บุกโอมาน ตามหารัก : ตอนที่ 3 กินเที่ยวในมัสกัต
พอลง Taxi มาก็จะเจอจุดแรกเป็นจุดสำหรับซื้อของฝากและมีบริการให้เช่าชุดประจำชาติของที่นี่ด้วย (Dishdasha และ Abaya) ในราคา 5 OMR เนื่องจากว่าการเข้าไปในตัวมัสยิดนั้นเราจะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดไปถึงข้อมือและข้อเท้า เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิงหลายคนใส่กางเกงขาเต่อๆจะต้องใส่ถุงเท้าให้ปิดเนื้อหนังให้มิดด้วย (อารมณ์ถุงเท้าลูกเสือเลย) ส่วนผู้ชายใส่กางเกงขายาวและเสื้อสุภาพก็พอ อ้อ…ที่นี่สามารถเข้าชมได้ฟรีนะครับ
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินผ่านซุ้มประตูที่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเรา พอผ่านประตูนี้มาได้ก็จะพบเจอกับสวนขนาดใหญ่ประดับไปด้วยต้นไม้และดอกไม้จำนวนมาก ให้บรรยากาศแตกต่างไปจากที่อื่นๆในกรุงมัสกัตลิบลับ
พ้นบริเวณสวนมาแล้วเราจะต้องถอดรองเท้ากันก่อนเข้าไปในมัสยิดด้วยนะครับ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเท้าจะดำ เพราะที่นี่สะอาดมากจริงๆ พริบตาแรกที่เห็นมัสยิดใกล้ๆนั้นบอกเลยว่างดงามมากๆ
ถ่ายรูปกันไปเยอะแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้าไปด้านในมัสยิดกันแล้วครับ เข้ามาแว๊บแรกขนลุกเลยครับ แอร์ข้างในนี้เย็นมาก สภาพภายในมัสยิดนั้นทำออกมาอย่างปราณีตและดูยิ่งใหญ่สุดๆ ด้านล่างจะเป็นพรมขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาทอถึง 4 ปีด้วยหญิงพรหมจรรย์ล้วนๆ ส่วนตรงกลางห้องละหมาดจะมีแชนเดอเลียขนาดใหญ่ ความสูงกว่า 14 เมตรประดับอยู่ด้านบน
พอถึง 11 โมงก็จะมีเจ้าหน้าที่ออกมาเตือนว่าหมดเวลาแล้ว เพราะที่นี่จะมีการทำพิธีในช่วงบ่ายครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาไปหาของกินแล้วสิ เราเริ่มจากการไปเรียก Taxi ที่หน้ามัสยิด แต่โดนฟันด้วยราคา 5 OMR จึงปฎิเสธไป แล้วก็จบด้วยการเรียก Taxi เจ้าเดิมจาก WhatsApp แทน (อย่างที่บอกไว้ในตอนแรกว่าถ้าเจอ Taxi ดีๆอย่าลืมเก็บเบอร์เค้าไว้ด้วยนะ ช่วยได้เยอะมากเลย) พอกลับมาโรงแรมเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินไป Muscat Grand Mall ที่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที อากาศเย็นสบายครับ เดินได้เรื่อยๆ คราวนี้เราก็ได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองมัสกัตซักที
สภาพบ้านเรือนในกรุงมัสกัตจะไม่สูงเท่าไหร่ สะอาดมาก แทบไม่เจอขยะเลย ตึกก็จะตกแต่งด้วยสีโทนเดียวกันหมด จะมีก็แต่ตอนกลางคืนที่จะเห็นร้านต่างๆเปิดไฟนีออนสีตัดกันอย่างสะดุดตา รอบๆเมืองก็จะรายล้อมไปด้วยภูเขา ชนิดที่เรียกว่ามองไปทางไหนก็เห็นได้ทุกมุม คนที่นี่เป็นมิตรมากเดินผ่านก็อาจจะมียิ้มให้หรือทักทายมาบ้าง หนักๆหน่อยเปิดกระจกรถมาทักทายเลยก็มี ไม่น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ และน้ำใจอีกอย่างนึงของคนที่นี่คือเวลาเราจะข้ามถนนไม่ว่าจะถนนหลักหรือซอยแคบๆ ส่วนใหญ่เค้าจะชะลอความเร็วให้ ไม่ใช่ยิ่งเร่งเข้ามาเหมือนบ้านเรา ประเทศนี้เค้าจะหยุดกันวันศุกร์-เสาร์ต่างจากที่อื่น ส่วนรถก็จะติดเป็นบางช่วงครับโดยเฉพาะตอนเช้าและเย็นแต่ก็ยังไม่เท่ากรุงเทพ ทางม้าลายที่นี่ก็ไม่ค่อยมีคนใช้กันเท่าไหร่ บางคนวิ่งข้ามถนน 8 เลนก็เคยเห็นมาแล้ว
ทีนี้ก็ถึง Muscat Grand Mall กันแล้ว ที่นี่จะเป็นห้างที่คนเข้ามาหาอะไรกินกัน หรือซื้อของที่ Carrefour ซะมากกว่า เพราะเสื้อผ้าหรือสินค้าต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ Local อาจไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ ที่นี่ยังมีร้านอาหารไทยอย่าง Shang Thai ใครไม่ถูกปากกับอาหารพื้นเมืองก็มาลองที่นี่ได้ แต่เราก็ไม่ได้มากินข้าวที่นี่กันหรอก เราจะไปกินที่ Muscat Avenue ตึกที่อยู่ใกล้ๆต่างหาก
พอเดินผ่านตึกมาก็จะเจอป้าย Lulu สีแดงแจ๋ ที่นี่จะเป็น Hypermarket ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองมัสกัต และสามารถเดินทะลุไป Muscat Avenue ที่อยู่ติดกันได้ด้วย และแล้วก็ได้เวลาอาหารของวันนี้ มาถึงตะวันออกกลางแล้วก็ต้องกินนี่สิครับ “อาหารญี่ปุ่น” อ่านไม่ผิดครับ แฟนผมพามากินอาหารญี่ปุ่นในประเทศโอมาน
มื้อนี้เราก็มาฝากท้องกันที่ร้าน Zen Asian Bistro ชั้น 3 ของ Muscat Avenue คราวนี้เราก็ได้สั่งเมนู Godzilla, Crunchy Spicy Tuna และ Suno Mono Salad รสชาติก็ถือว่าพอผ่าน แต่ก็ไม่ได้อร่อยจนอยากกลับไปกินอีก มื้อนี้ก็เสียไปก็ราวๆ 13 OMR ครับ
พอกินอิ่มก็กะว่าจะเดินย่อยซักหน่อย แต่ยังเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ต้องมาหยุดอยู่หน้าร้าน Pinkberry เพราะสายตาอ้อนวอนของแฟน ถ้วยนี้ก็โดนไปอีก 2.1 OMR ครับ
พออิ่มจริงๆจนท้องไม่สามารถรับอาหารใดๆเพิ่มเติมได้อีก คราวนี้ต้องเดินจริงจังกันแล้ว ต้องแวะซื้อของที่ Lulu ซักหน่อยเพราะจะได้มีอะไรติดไม้ติดมือกับไปทำกับข้าวบ้าง ด้านหน้าก็จะมีตะกร้ารถเข็นไซส์จัมโบ้จอดเรียงไว้ ขนาดที่สามารถลากกระสอบข้าว 10 กิโลกลับบ้านได้สบายๆ
เข้ามาแล้วก็ตรงดิ่งมาด้านหลังจะเจอมุมของสด ที่นี่จะมีเนื้อไก่แบบที่หมักเรียบร้อยแล้ว สามารถเอาไปทอดได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรุงเพิ่ม รสชาติจะออกเผ็ดๆอร่อยดีเหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามก็จะมีอาหารสดที่กำลังร้อนๆเลย ผมก็ลองสั่งติดไม้ติดมือกลับบ้านไป 3 อย่าง ได้แก่ Chicken Kadai Paratha, Chicken Samosa และ Chicken Shawarma สั่งเสร็จเค้าก็จะห่อใส่ถุงกระดาษให้เลย
เดินถัดมาด้านซ้ายก็จะเจอกับซุ้มขนมหวานที่เป็นของพื้นเมืองของอินเดีย ก็เลยลองสั่งมา 3 อย่างเหมือนกัน มี Gulab Jamun, Rasagulla และ Balushahi พนักงานที่นี่ก็ใจดีส่ง Dry Fruit Sweets มาให้ลองชิมด้วย อันนี้ทำมาจากอินทผาลัมผสมกับลูกเกดและถั่วต่างๆ ถึงจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็พยายามกินให้หมดเพราะกลัวจะไปทำลายรอยยิ้มของพนักงานชาวอินเดียที่กำลังส่งมาให้เรา
ชอปปิ้งเสร็จก็มืดซะแล้ว รีบเดินกลับโรงแรมดีกว่า ตอนกลางคืนบรรยากาศจะแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง เมืองที่สะอาดตาจะประดับประตาไปด้วยแสงสี เป็นอีกมุมที่น่าหลงใหลเหมือนกัน ตอนกลางคืนที่นี่ไม่ได้น่ากลัวนะครับ ถึงแม้จะมืดหน่อยแต่ก็ยังปลอดภัย
พอกลับถึงโรงแรมแล้วก็ได้เวลากินอีกรอบ แผ่นสี่เหลี่ยมๆที่ดูเหมือนมะตะบะเรียกว่า Chicken Kadai Paratha ครับ รสชาติจะเผ็ดๆคล้ายๆกะเพรา ส่วนชิ้นที่เหมือนกะหรี่ปั๊บจะเรียกว่า Chicken Samosa รสจะเหมือนแกงกะหรี่เลย ชิ้นสุดท้ายคือ Chicken Shawarma จะเป็นแป้งห่อไก่และเฟรนฟราย อันนี้อร่อยจนอยากจะกินอีก
ของคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวาน ขอเริ่มต้นด้วย Gulab Jamun กับ Rasagulla ก่อนละกัน ทั้งสองอันนี้มีรสคล้ายๆกันแต่กลิ่นต่างกันนิดหน่อย จะเป็นก้อนแป้งที่เอาไปทอดแล้วไปแช่ในน้ำเชื่อม รสหวานๆ เวลากินแล้วจะเหมือนขนมปุยฝ้ายร่วนๆเปียกๆ กินได้แค่คำเดียวก็หยุดเลยเพราะมันหวานมาก แล้วก็ต่อด้วย Balushahi ซะเลย อันนี้คล้ายๆขนมเปี๊ยครับ ไม่หวานมากกำลังดี มื้อนี้ทั้งคาวทั้งหวานรวมๆกันอยู่ที่ 1.3 OMR เท่านั้น แต่ของแค่นี้จะไปพอยาไส้ได้ยังไง ทนไม่ไหวครับ ต้องเรียก Taxi แล้วขอร้องให้แฟนหาร้านอร่อยมาด่วนๆเลย