สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ก็ไม่รู้นะว่าสาวประเภทสองต้องผ่านอะไรมามากแค่ไหน
แต่บลอสซั่มดูอ่อนแอมากกกก มากเหมือนกับไม่มีภูมิคุ้มกันความผิดหวัง
เหมือนชีวิตไม่ค่อยเจอเรื่องเสียใจ พอเจอแบบนี้เลยร้องไห้หนัก
ในขณะที่คนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ประสบการณ์มากควรจะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้หรือเปล่า
ใน ep นี้ก็สงสารบลอสซั่มนะ แต่ทับทิมก็เป็นอีกคนที่โดนตัดนะ
ทับทิมยังมีทัศนคติที่ดีเลยว่าต้องทำให้ดีที่สุด ตอนโดนเลือกเข้าห้องก็ไม่อะไร
บลอสซั่มนี่ตัดพ้อตลอด เป็นแบคเสตจกลับบ้านดีกว่า หรือส่ง 2 คนเลยมั้ย
(จุดนี้ ฮาน่ากับบลอสซั่มเหมือนกันเลย .... ตอนฮาน่าเข้าห้องดำกับมาญ่าก็ดูอาการหนัก ในขณะที่มาญ่าดูสตรอง ดูไฟท์มาก)
และตอนพูด บลอสซั่มพูดเหมือนการเป็นเพศที่สามทำให้ดูสถานภาพต่ำว่าคนอื่น ดูไม่มั่นใจ
แต่ในความเป็นจริง การกระทำของบลอสซั่มเหมือนกำลังจะเอาเพศสภาพตัวเองมาอ้างว่าคนอื่นต้อง treat ตัวเองให้ดี อ้างเพื่อเรียกร้องให้คนอื่นปฎิบัติกับตัวเองให้ดีมากกว่า
ส่วนตัว เราเชียร์สาวสองมากกว่าผู้หญิงจริงอีก
เราเชื่อว่ากว่าจะผ่านมาจุดนี้ สาวสองที่เข้ามาต้องฝ่าฟันอะไรมาเยอะ
แต่ด้วยทัศนคติ ใจของสาวสองแต่ละคนที่เข้ามา ทำให้รู้สึกว่าไม่ไหวและหมดแรงเชียร์ไปเรื่อยๆ
แต่บลอสซั่มดูอ่อนแอมากกกก มากเหมือนกับไม่มีภูมิคุ้มกันความผิดหวัง
เหมือนชีวิตไม่ค่อยเจอเรื่องเสียใจ พอเจอแบบนี้เลยร้องไห้หนัก
ในขณะที่คนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ประสบการณ์มากควรจะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้หรือเปล่า
ใน ep นี้ก็สงสารบลอสซั่มนะ แต่ทับทิมก็เป็นอีกคนที่โดนตัดนะ
ทับทิมยังมีทัศนคติที่ดีเลยว่าต้องทำให้ดีที่สุด ตอนโดนเลือกเข้าห้องก็ไม่อะไร
บลอสซั่มนี่ตัดพ้อตลอด เป็นแบคเสตจกลับบ้านดีกว่า หรือส่ง 2 คนเลยมั้ย
(จุดนี้ ฮาน่ากับบลอสซั่มเหมือนกันเลย .... ตอนฮาน่าเข้าห้องดำกับมาญ่าก็ดูอาการหนัก ในขณะที่มาญ่าดูสตรอง ดูไฟท์มาก)
และตอนพูด บลอสซั่มพูดเหมือนการเป็นเพศที่สามทำให้ดูสถานภาพต่ำว่าคนอื่น ดูไม่มั่นใจ
แต่ในความเป็นจริง การกระทำของบลอสซั่มเหมือนกำลังจะเอาเพศสภาพตัวเองมาอ้างว่าคนอื่นต้อง treat ตัวเองให้ดี อ้างเพื่อเรียกร้องให้คนอื่นปฎิบัติกับตัวเองให้ดีมากกว่า
ส่วนตัว เราเชียร์สาวสองมากกว่าผู้หญิงจริงอีก
เราเชื่อว่ากว่าจะผ่านมาจุดนี้ สาวสองที่เข้ามาต้องฝ่าฟันอะไรมาเยอะ
แต่ด้วยทัศนคติ ใจของสาวสองแต่ละคนที่เข้ามา ทำให้รู้สึกว่าไม่ไหวและหมดแรงเชียร์ไปเรื่อยๆ
แสดงความคิดเห็น
อยากฝากบอกบลอสซั่มประโยคเดียว "เธอควรได้รับโอกาสเพราะเธอเป็นคนมีความสามารถ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นเพศที่สาม"
คือย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนรอบออดิชั่นแล้วมีประกาศรับเพศที่สามเข้าร่วมแข่งขัน เราเข้าใจว่ามันต้องมีเหตุการณ์หรือเคสทำนองนี้เกิดแน่ๆ
เจตนาของตัวรายการเอง ถ้าเอาตามที่คุณเต้บอกก็เพื่อเปิด "โอกาส" ให้แก่เพศอื่นๆ เสมือนมีความเท่าเทียมกันในการแข่งขัน
แต่บนโลกของความเป็นจริง ความเท่าเทียมที่แท้จริงสำหรับผมคือความไม่เท่าเทียม
ไม่มีทางที่อะไรหรือสิ่งใดจะเท่าเทียมหรือเสมือนเสมอภาคกันทั้งหมด
บลอสซั่มเป็นคนที่พูดย้ำถึงเพศสภาพตนเองมากกว่าที่คนอื่นมองหรือพูดถึงบลอสซั่มอีกด้วยซ้ำ
บลอสซั่มพูดบ่อยๆว่า "ตัวเองเป็นตัวแทนของเพศที่สาม"
แต่ในความเป็นจริง ถ้าพูดกันแบบเปิดอกจริงๆ ที่เธอมารายการนี้ก็เพราะต้องการชนะ เพราะต้องการเป็นเดอะเฟสใช่ไหม ? พูดกันตามตรงทุกคนที่มาแข่งก็หวังชนะ หวังจะไปถึงตรงสุดนั้น ชื่อเสียง คอนเนคชั่น สิ่งอื่นๆที่จะได้จากการแข่งขัน ทั้งหมดนั้นตัวบลอสซั่มเองใช่ไหมที่เป็นคนได้ ไม่ใช่เพศที่สามคนอื่นๆ
บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลสวยหรูหรือคิดไปว่าทำเพื่อใครก็ได้ครับ
คนเรา ทำ "เพื่อตัวเอง" บ้าง มันไม่ผิดอะไร
ไม่ต้องคิดว่าเห้ยยย ฉันเป็นตัวแทนของใคร ฉันเป็นอะไร ฉันทำเพื่อใคร
ฉันมาสมัครเดอะเฟส เพราะอยากเป็นเดอะเฟส เพื่อตัวฉันเอง ...มันไม่ผิดอะไรเลยนะถ้าจะคิดแบบนั้น
เพราะบลอสซั่มเองก็เป็นได้แค่ตัวเธอเองเท่านั้น
อีกคำถามที่เราอยากจะถาม
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอคิดว่าเธอแตกต่างจาก "ผู้หญิง" คนอื่นในรายการ ?
เป็นผู้เข้าแข่งขันเหมือนกัน ลวดทรงองค์เอวเหมือนกัน ตรงไหนที่เธอไม่เป็น "ผู้หญิง" ?
ก่อนที่อยากจะให้ใครยอมรับในตัวเรา เราควรยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนถึงสิ่งที่เราเป็นจริงๆรึเปล่า?
ในสายตาของผม ทุกคนในรายการคือผู้แข่งขันที่เท่าเทียมกัน พวกคุณมาถึง 15 คนสุดท้ายของรายการได้ เอาตรงๆมันไม่มีใครอนาคตดับอยู่แล้ว มันมาถึงจุดที่สามารถต่อยอดไปได้หลากหลายมากขึ้นอยู่แล้ว
ทำไมต้องเอาเพศสภาพตัวเองมาเป็นข้อจำกัดตัวเองว่าตัวเองเป็นใคร ทั้งๆที่เธอสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นเธอ
อีกเรื่องคือในเรื่องของ "โอกาส"
พูดกันตามตรง สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำในหลายๆมีติมาก ทั้งเพศสาม ชนชั้นฐานะ การศึกษา หน้าที่การงาน และการเป็นเพศที่สามก็ทำให้คุณถูกแบ่งชนชั้นอย่างแท้จริงเช่นกัน ยิ่งในสายงานวงการบันเทิง มันยาก มันเหนื่อย มันมีอุปสรรคและข้อจำกัดหลายอย่างในสังคมที่ "ชายเป็นใหญ่" เรารู้ เราเข้าใจ ในฐานะเพศที่สามคนหนึ่งเรารู้ว่ามันหนัก มันเหนื่อยยังไง
แต่มันไม่ใช่มีแค่เราหรือแค่เพศเราที่เจออุปสรรค
ทุกคนไม่ว่าใครทำอะไรอายุเท่าไหร่เพศอะไรล้วนเจออุปสรรคในรูปแบบของตัวเองทั้งนั้น อย่างที่เม็ดพลอยบอกแหละ กว่าจะไปถึงตรงจุดๆนั้น ไม่ว่าใครก็เจอปัญหา เจออุปสรรค เจอสิ่งหนักๆที่ทำให้หมดกำลังใจกันทั้งนั้น ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศที่สาม
หรือเธอจะบอกว่า "เห้ยยย ฉันเจออุปสรรคที่หนักหน่วงกว่านะ ฉันต้องได้รับโอกาสมากกว่าสิ เพราะฉันเจอมาเยอะกว่า" ทั้งๆที่ไม่ว่าใครต่างก็มีอุปสรรคของตัวเองทั้งนั้นอ่ะนะ?
อย่างที่เรากล่าวไปในต้นกระทู้
เราอยากให้บลอสซั่มได้รับโอกาส ในทุกๆโอกาส ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่
เธอควรได้รับมันเพราะเธอเป็นคนมีความสามารถ มีความสามารถมากพอที่คนอื่นจะให้โอกาส มีความสามารถมากพอจะแสดงออกให้คนอื่นได้เห็น ไม่ใช่เพราะเธอเป็นเพศที่สาม ไม่ใช่เพราะเธอเจออุปสรรคที่มากกว่าคนอื่น
จริงๆไม่ใช่แค่บลอสซั่มหรอก เราอยากกล่าวถึงเพศที่สามทุกๆคนเลย
คือสำหรับเรา ถ้าคุณอยากให้เกิดความเท่าเทียม คุณต้องยอมรับก่อนว่า "มันไม่เท่าเทียม" และยอมรับต่อว่า "ไม่ใช่แค่เราที่เจอความไม่เท่าเทียมนี้"
ความเท่าเทียมที่มีในโลกของความเป็นจริง(สำหรับผม) คือความไม่เท่าเทียมที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องเผชิญกับมัน
คุณไม่ต้องทำอะไร คุณแค่ยอมรับมัน ต่อให้มันจะเป็นความจริงที่รู้สึกบัดซบแค่ไหน ยอมรับ เข้าใจ และปล่อยมันไป ทำในสิ่งที่เราทำได้ อะไรที่อันคอนโทรลก็ไม่จำเป็นต้องไปเดินตามมัน
เงยหน้าเข้าไว้ เชิ่ดหน้าให้กับความเป็นจริงแย่ๆ และก้าวเดินต่อไปในเส้นทางที่ความสามารถของเราจะพาไป
เราอยากเห็นธอมั่นใจและมีความภาคภูมิใจ “ในความเป็นตัวของตัวเธอเอง” มากกว่าจะคิดมากว่าตัวเองเป็นอะไร หรือทำอะไรเพื่อใคร
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เราเขียนถึงเธอจะทำให้เธอได้มีความคิดในแง่มุมอื่นมากขึ้นเกี่ยวกับตัวเธอเอง
ขอบคุณครับ