เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก ผมเป็นคนหนึ่งที่เคร่งในศาสนา(อิสลาม) เชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้า ไม่ว่าจะฝนตก ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว สริยุปราครา จันทรคราส หรือเหตุการณ์แปลกๆในเอกภพ ล้วนแล้วแต่เป็นอิทธิฤทธิ์ของพระองค์ทั้งสิ้น
แต่พอเริ่มโตขึ้น ได้เรียนรู้ได้ศึกษาถึงปรากฎการณ์ต่างๆในธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถหาคำตอบได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันเริ่มหักล้างกับความเชื่อตอนเด็กของผม พระผู้เป็นเจ้าเริ่มไร้ตัวตนขึ้นเรื่อยๆ
มันน่าลำบากใจนะครับ จากเด็กที่มีความเชื่อเรื่องศาสนาอย่างสุดโต่ง กลับต้องมารับรู้ความจริงในแบบที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เพราะสำหรับผมตอนนี้แล้ว จักรวาลที่เราอาศัยอยู่ มันก็แค่ความบังเอิญทางฟิซิกส์เคมีที่ลงตัวอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับอีกหลายจักรวาล ทำให้จักรวาลของเราสามารถมีพื้นที่ให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาได้ ทุกอย่างมันก็แค่ความบังเอิญ ไม่มีพระเจ้า ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรทั้งนั้น
จักรวาลของเรา ไม่มีพระผู้สร้าง
แต่พอเริ่มโตขึ้น ได้เรียนรู้ได้ศึกษาถึงปรากฎการณ์ต่างๆในธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถหาคำตอบได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันเริ่มหักล้างกับความเชื่อตอนเด็กของผม พระผู้เป็นเจ้าเริ่มไร้ตัวตนขึ้นเรื่อยๆ
มันน่าลำบากใจนะครับ จากเด็กที่มีความเชื่อเรื่องศาสนาอย่างสุดโต่ง กลับต้องมารับรู้ความจริงในแบบที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เพราะสำหรับผมตอนนี้แล้ว จักรวาลที่เราอาศัยอยู่ มันก็แค่ความบังเอิญทางฟิซิกส์เคมีที่ลงตัวอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับอีกหลายจักรวาล ทำให้จักรวาลของเราสามารถมีพื้นที่ให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาได้ ทุกอย่างมันก็แค่ความบังเอิญ ไม่มีพระเจ้า ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีอะไรทั้งนั้น