
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีรายงานจากแพลตฟอร์มตรวจสอบสถานะอินเทอร์เน็ตอย่าง Catchpoint ว่า บริการ Simple Storage Service หรือ S3 ของ Amazon Web Service (AWS) ได้เกิดดาวน์ไทม์เป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงกับอีก 39 นาที ซึ่งกระทบกับบริการบนคลาวด์อื่นๆ ของอเมซอนเกือบทั้งหมด รวมทั้งเว็บไซต์ที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มคลาวด์ชื่อดังนี้ด้วย
ดังนั้น ทาง NetworkWorld.com จึงเรียบเรียงบทเรียนต่างๆ ที่ผู้ใช้งานควรเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับอุบัติเหตุของอเมซอนครั้งต่อไป แม้ว่า AWS จะเป็นบริการที่ทั้งมีเสถียรภาพ และปลอดภัยมากที่สุดเจ้าหนึ่งก็ตาม แต่การล่มของระบบก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องเกิดไม่ว่าจะบ่อยหรือนานๆ ครั้งอยู่แล้ว ซึ่งสรุปได้เป็น 5 หัวข้อดังต่อไปนี้
1. ไม่ควรเอาทุกอย่างเก็บไว้บนคลาวด์เดียว
2. ค้นหาตำแหน่งต้นเหตุของระบบล่มให้เร็วที่สุด
3. สร้างระบบรีดันแดนซ์ตั้งแต่ตอนเริ่มแรก
4. สำรองข้อมูลอยู่เสมอ
5. ทดสอบระบบ
https://www.enterpriseitpro.net/?p=5718
นี่คือ 5 ทางรอด !! ในการรับมือกับ AWS ที่อาจจะล่มอีกในคราวหน้า ! (เผื่อไว้ก่อน ^^)
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีรายงานจากแพลตฟอร์มตรวจสอบสถานะอินเทอร์เน็ตอย่าง Catchpoint ว่า บริการ Simple Storage Service หรือ S3 ของ Amazon Web Service (AWS) ได้เกิดดาวน์ไทม์เป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงกับอีก 39 นาที ซึ่งกระทบกับบริการบนคลาวด์อื่นๆ ของอเมซอนเกือบทั้งหมด รวมทั้งเว็บไซต์ที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มคลาวด์ชื่อดังนี้ด้วย
ดังนั้น ทาง NetworkWorld.com จึงเรียบเรียงบทเรียนต่างๆ ที่ผู้ใช้งานควรเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับอุบัติเหตุของอเมซอนครั้งต่อไป แม้ว่า AWS จะเป็นบริการที่ทั้งมีเสถียรภาพ และปลอดภัยมากที่สุดเจ้าหนึ่งก็ตาม แต่การล่มของระบบก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องเกิดไม่ว่าจะบ่อยหรือนานๆ ครั้งอยู่แล้ว ซึ่งสรุปได้เป็น 5 หัวข้อดังต่อไปนี้
1. ไม่ควรเอาทุกอย่างเก็บไว้บนคลาวด์เดียว
2. ค้นหาตำแหน่งต้นเหตุของระบบล่มให้เร็วที่สุด
3. สร้างระบบรีดันแดนซ์ตั้งแต่ตอนเริ่มแรก
4. สำรองข้อมูลอยู่เสมอ
5. ทดสอบระบบ
https://www.enterpriseitpro.net/?p=5718