สวัสดีค่ะ นี่มันเป็นปัญหาของเราเองนะคะ เรากับแฟนคบกันมา 5 ปีแล้วค่ะ เรารับราชการใน รพ เค้ารับราชการในหน่วยงานท้องถิ่นค่ะ เราทั้งคู่ อายุ 31 ปีเท่ากันค่ะ เราเป็นลูกสาวคนเดียว เค้ามีพี่น้อง 3 คน ฐานะครอบครัวเราปานกลางค่ะ แม่เราเป็รครู พ่อทำบริษัทค่ะ ส่วนเค้าที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัวค่ะ พอคบกันได้ 2 ปีทางผู้ใหญ่ฝั่งเราก็ให้ทางฝั่ง ผช. มาคุย คืออยากให้มาคุยเป็นเรื่องเป็นราวน่ะค่ะ ถือว่าเป็นการให้เกียรติทางเรา และพูดคุยเรื่องสินสอดและวันแต่ง ตอนแรกยายเราเรียก 5 แสน ทอง 5 บาท ค่ะ แต่ทางเค้าขอเป็น 3 แสน ทอง 3 บาท ทางเราก็โอเคค่ะ แล้วทางเค้าก็บอกเองว่าจะมาแต่งปลายปี 60 ถ้าไม่มาแต่งก็เลิกได้เลย มาแต่งแน่นอน // หลังจากนั้น เราก็มาคุยกับเค้านอกรอบ ว่าเราจะช่วยเค้านะ คือช่วยกันเก็บเงินคนละ 2000 ต่อเดือน เค้าไม่ยอมค่ะบอกว่ามันหน้าที่เค้า (เค้าค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีหน่อยค่ะ) เราก็เลยอ่ะ โอเค เราเก็บในส่วนของเราก็แล้วกัน คือค่าจัดงานน่ะค่ะ ให้เค้ารับผิดชอบแค่ค่าสินสอดไป //จบไปจากวันนั้นจนล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว เราเกริ่นถามเค้าเรื่องงานแต่ง เค้าหงุดหงิดโมโหให้เรา ว่าเราเร่งเค้า บีบเค้า ... เราก็เฮ้ย กดดันอะไร ก็บอกเองว่าจะมาแต่ง แค่หาฤกษ์ปลายปีมา(ก็บอกเองนี่ว่าจะมาแต่งปลายปี เราก็ถามสิ) พ่อแม่ผู้ใหญ่ทางเราก็ต้องการคำตอบค่ะ ต้องการความชัดเจน เพราะมันครบ 3 ปีแล้วที่คุยกันมา จะได้เริ่มวางแผนเตรียมการอะไรๆต่ออะไรได้ เค้าก็บอกว่าไม่มีเงิน ถ้ามีเงินถึงจะคุย จนล่าสุดเมื่อไม่กี่วันนี้ เค้ามายื่นข้อเสนอให้เรา 3 ข้อ คือ 1.ไปกู้ยืมเงินมาเพื่อจัดงานแต่ง ให้เราไปกู้นะคะไม่ใช่เค้า 2.ขอยืมเงินแม่เรา 5 แสนเลย โดยเอาโฉนดที่ดินมาจำนองไว้ 3.รอเค้าขายที่ได้หลักล้านก่อนค่อยแต่ง ( ข้อ 1 กับ ข้อ 2 เค้าจะมาใช้หนี้ ก็ต่อเมื่อขายที่ข้อ 3 ได้ ไม่ให้คิดดอก ไม่รู้จะคืนได้วันไหนและถ้าจะกู้ที่อื่น ก็ให้เรากู้และจ่ายดอกไปก่อน)...เราเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟังท่านไม่พอใจมากค่ะ ท่านบอกว่า ถ้ามาพูดว่า แม่ครับ ผมตั้งใจเก็บแล้วได้แค่นี้นะครับ ส่วนที่เหลือแม่เรายินดีเพิ่มให้ คือน่าจะรู้สึกดีกว่านี้น่ะค่ะ //ทีนี้ แม่เราเลยยื่นข้อเสนอไปว่า ถ้าอย่างนั้น ยกที่จะจำน่ะให้เป็นชื่อเรา แล้วไม่ต้องไปหาเงิน คือแต่งได้เลย ค่างานทางเราออก เค้าก็ไม่เอาค่ะ เค้าบอกว่ากลัวเราเอาที่เค้าไปทำอย่างอื่น (ที่นี้เป็นที่นาค่ะ บ้านเราอยู่คนละจังหวัดอยู่แล้ว ถึงเป็นขื่อเรา แต่ก็ให้เค้าทำกินได้เหมือนเดิม ) เค้าบอกเค้าไม่ไว้ใจเราค่ะถ้าจะยกที่ให้เป็นชื่อเรา มันเป็นที่มรดก บลาๆๆๆๆๆ .... แล้วเราจะไว้ใจเค้าได้ยังไงคะ ว่าถ้าเค้ายืมเงิน 5 แสนไปแล้วจะได้คืน // สุดท้าย เค้ามาพูดกับเราว่า ถ้าแต่งงานไปแล้วมีลูก เราเงินเดือนเยอะกว่าเค้า ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบมากกว่าก็อย่าพูดอย่าบ่นเค้า ถ้าเค้าจุนเจือครอบครัวไม่ได้ เราห้ามดูถูกเค้า เพราะเค้าเป็นหัวหน้าครอบครัว ... เรื่องมันเป็นแบบนี้ เราควรดำเนินต่อไปแบบไหนดีคะ แม่ก็เริ่มไม่ชอบแล้ว แต่เค้าเป็นคนดีค่ะไม่เที่ยว ไม่เจ้าชู้
ปล.เค้ามีภาระผ่อนค่าบ้านที่สร้างให้พ่อแม่พี่น้องอยู่ เดือนละหกพัน รับภาระผ่อนคนเดียว เพราะถือว่าบ้านเป็นชื่อเค้า ส่วนเราผ่อนรถเดือนละหมื่นสองค่ะ ที่ผ่านมาค่าข้าวค่าเที่ยวจ่ายกันคนละครึ่งตลอด บางครั้งเราจ่ายเองหมดด้วยซ้ำ เค้าไม่เคยซื้อของอะไรให้ในวีนสำคัญ ไม่เคยมีของขวัญอะไร ก็เข้าใจค่ะว่าไม่มี (ส่วนมากเค้ามี เค้าจะทำอะไรให้พ่อแม่พี่น้องเค้าก่อนค่ะ เค้ารักครอบครัวคนในบ้านเค้ามาก โบนัสออก เงินอะไรออก ก็หมดไปกับพ่อแม่พี่น้องมากกว่า แต่กับเรา กินอะไรดีๆหน่อย ให้เราเลี้ยงนะๆ)
คิดยังไงคะถ้าแฟนขอยืมเงินแม่ฝ่ายหญิง มาแต่งงานลูกสาวตัวเอง
ปล.เค้ามีภาระผ่อนค่าบ้านที่สร้างให้พ่อแม่พี่น้องอยู่ เดือนละหกพัน รับภาระผ่อนคนเดียว เพราะถือว่าบ้านเป็นชื่อเค้า ส่วนเราผ่อนรถเดือนละหมื่นสองค่ะ ที่ผ่านมาค่าข้าวค่าเที่ยวจ่ายกันคนละครึ่งตลอด บางครั้งเราจ่ายเองหมดด้วยซ้ำ เค้าไม่เคยซื้อของอะไรให้ในวีนสำคัญ ไม่เคยมีของขวัญอะไร ก็เข้าใจค่ะว่าไม่มี (ส่วนมากเค้ามี เค้าจะทำอะไรให้พ่อแม่พี่น้องเค้าก่อนค่ะ เค้ารักครอบครัวคนในบ้านเค้ามาก โบนัสออก เงินอะไรออก ก็หมดไปกับพ่อแม่พี่น้องมากกว่า แต่กับเรา กินอะไรดีๆหน่อย ให้เราเลี้ยงนะๆ)