อ่านข่าวนี้แล้ว ยิ่งเห็นความหวังของบอลไทยเลย

เสร็จไปแล้วหนึ่ง! สมยศ เผย 6 ยุทธศาสตร์ นำบอลไทยสู่ระดับโลก

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยยุทธศาสตร์ของสมาคมจำนวน 6 ข้อที่จะนำไปสู่การเป็นระดับโลก ซึ่งตอนนี้ได้เสร็จไปแล้วในขั้นตอนแรก

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้แจงถึง 6 ยุทธศาสตร์ ในการนำวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปอยู่ในระดับโลก ซึ่งตอนนี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้วในขั้นตอนแรก

สมาคมกีฬาฟุตบอลภายใต้ยุคของ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาทำงานครบ 1 ปี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดได้มีการเปิดใช้ที่ทำการแห่งใหม่บริเวณ การกีฬาแห่งประเทศไทย

"ตามยุทธศาสตร์การวางแผนพัฒนากีฬาฟุตบอลของสมาคมฯ มียุทธศาสตร์ 5-6 ข้อที่ผมได้กำหนดไว้ และผมจะต้องทำตาม ยุทธศาสตร์แรกก็คือการจัดให้มีที่ทำการถาวร ก็เรียบร้อย ยุทธศาสตร์ต่อมาคือการจัดทำแผนพัฒนากีฬาฟุตบอลระยะยาว 20 ปี ซึ่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ" สมยศ กล่าวเริ่ม

นอกจากนี้ ล่าสุดทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้ลงนามเซ็นสัญญากับ บริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิช "ยุทธศาสตร์ต่อมาคือการเตรียมทีมหรือการพัฒนาเยาวชน เรามีการร่วมมือหรือว่าจ้างให้บริษัท เอคโคโน มาบริหารจัดการทีมฟุตบอลเยาวชนตั้งแต่อายุ 14 ปี - 21 ปี โดยจะเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์บริหารจัดการ พัฒนากีฬาฟุตบอลโดยตรง ทั้งในญี่ปุ่น, สเปน รวมถึงสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยรวมก็ถือว่าเป็นบริษัทที่มีโปรไฟล์ที่ดี"

"สัญญากับเอคโคโน จะมีสามช่วง ช่วงแรกคือปีแรก เราเจรจาว่าค่าดำเนินการต้องเป็นขั้นตอน จากระดับต่ำ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาคมฯ ฝ่ายต่างประเทศเจรจาต่อรอง ปีที่หนึ่งเท่านี้ ปีที่สองก็เพิ่มขึ้น ถ้าปีแรกไม่ดีก็เลิก แต่ถ้าดีต่อเนื่องเราก็ต่อสัญญากับไป"

"เขาทำสัญญากับญี่ปุ่น 2015-2020 ญี่ปุ่นก็เป็นเหมือนผู้ตรวจสอบให้เรา ถ้าไม่ดีเขาคงไม่เอา และทีมชาติญี่ปุ่นก็เห็นผลงาน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เขาไม่ได้มาฝึกเฉพาะนักฟุตบอล เขามาต้องฝึกอบรมโค้ช โปร ไลเซนส์ จนถึงซีไลเซนส์ รวมถึงอบรม สเกาท์ติ้ง ที่ประเทศไทยไม่เคยมีฝึกสอน ในเรื่องนี้ แต่เขาจะมาสอนเรา นี่คือสิ่งที่เราจะได้"

"วัตถุประสงค์ที่จ้างบริษัทต่างชาติเข้ามาเพื่อขจัดระบบอุปถัมภ์ให้หมดไปจากวงการกีฬาฟุตบอล เพราะผมเชื่อว่าความเป็นมืออาชีพของชาวต่างชาติ และคือเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสโมสรแน่นอน การคัดนักกีฬา การฝึกสอนก็จะเป็นแบบมืออาชีพ"

"อีกอย่างคือผมต้องการให้รูปแบบการสอนเป็นรูปแบบเดียวกัน มีการนำเอาเทคนิค แท็คติกใหม่ๆ เอาวิทยาศาสตร์การแพทย์ การกีฬา โภชนาการ มาใช้กับเด็ก วิวัฒนาการของเด็กจะได้ก้าวหน้าเหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว ตรงนี้ก็จะนำไปสู่รูปแบบการเล่น ต่อไปนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยจะเล่นเหมือนกัน ระบบเดียวกัน สไตล์เดียวกัน สไตล์ที่เหมาะกับนักฟุตบอลไทย"

"ถ้าเป็นระบบที่ดี เทคโนโลยีที่ดี จะสามารถพัฒนานักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ผมมองไปถึง 8 ปี ข้างหน้า ซึ่งเอเชียจะได้โควต้าในฟุตบอลโลกเพิ่มขึ้น ถ้าโอกาสรออยู่ แล้วเราไม่เตรียมพร้อมโอกาสก็จะหลุดลอยไป เด็กที่จะเล่นตอนนั้นตอนนี้เขาอายุ 15 ปี เพราะฉะนั้นเราต้องพัฒนา 14-16 ตั้งแต่วันนี้ นั่นคือเหตุที่ผม นำเอคโคโน เข้ามาบริหาร"


หมายเหตุ: ในส่วนต่อจากนี้ผมขอย่อเอาเฉพาะส่วนที่น่าสนใจนะครับ
"ยุทธศาสตร์ต่อไป คือเราต้องมีศูนย์ฝึกของสมาคมฯ หรือของประเทศ เราแบ่งเป็นสองระยะ ระยะสั้นคือต้องทำเลย เราก็ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ซึ่งเมื่อเราเซ็นสัญญากับเอคโคโน ก็จะนำเด็กมาฝึกที่นี่ทันที นั่นคือระยะสั้น ระยะยาวคือเราต้องมีของตัวเอง"

"ยุทธศาสตร์ต่อมาคือผมคาดหวังจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในด้านฟุตบอล ซึ่งถ้าโชคดี ในฤดูกาลหน้า เพื่อนในอาเซียน อาจจะได้ดูไทยลีก ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับต่างชาติว่า เขาสนใจจะถ่ายทอดสดคู่ไหนไหม"

"ยุทธศาสตร์สุดท้ายที่ผมคาดหวัง ที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน คือต้องมีสนามกีฬาเป็นของสมาคม ที่ไม่มีลู่วิ่งเป็นสนามฟุตบอลอย่างเดียว ซึ่งผมกำลังร่างหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอใช้ที่ดินบริเวณปริมณฑล โดยที่ถึงวันนั้นเราอาจจะตั้งบริษัทขึ้นมาและเชิญชวนคนไทย ทั้งภาครัฐ และ เอกชน เป็นหุ้นส่วนใช้เงินของพวกท่านสร้าง โดยที่ไม่ต้องรอการสนับสนุนจากรัฐบาล ถ้าทำได้ เราเห็น เหมือนที่ญี่ปุ่นทำ ผมชอบเลียนแบบญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเขาทำสนามโดยไม่ต้องใช้เงินของรัฐบาล"

รายละเอียดทั้งหมดของข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่