โจทย์หลักของทริปนี้คือ “เวลา” (ที่มีอย่างจำกัด) 4 วัน 3 คืน เราจะไปทำอะไรกันที่ไหนดี ? และที่สำคัญคือ “อยากพักผ่อน” จากงานที่ต้องทำตลอด 1 สัปดาห์เต็ม และนี้เป็น 5 เหตุผลหลักที่เราเลือก”ไทเป”
- ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด เวลาเดินทางถือว่าดี บินถึงไทเปตอนเช้า เที่ยวต่อได้เลย
- ค่าเงินก็เรทพอๆกับค่าเงินไทย
- ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง
- ฟรีวีซ่า
- ได้ยินว่าคนไทเปใจดี หน้าตาดีก็มีเยอะ หุหุ
ด้วยความที่ทริปนี้สุดยอดแห่งความกะทันหัน ไม่ทันได้เตรียมอะไรล่วงหน้า และในความโชคร้ายก็มีความโชคดีปนอยู่ ด้วยความที่ต้องไปทำงานที่ “งานไทยเที่ยวนอก”ทุกวันที่ศูนย์สิริกิติ์อยู่แล้ว ก็ขอแวบไปบูธไต้หวัน ขอข้อมูลกันกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นเลย มีหนังสือแจกเยอะดี หยิบๆติดไม้ติดมือมา ส่วนอุปกรณ์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ (แม้แต่เงินยังไม่ได้แลกไป) ก็คือ Pocket WiFi พกไปสักเครื่องสบายใจ
เสร็จอีเว้น เก็บบูธแล้วออกไปฉลองยอดขายกันสักนิด ก่อนจะรีบกลับบ้านอาบน้ำไปสนามบิน ครั้งแรกในชีวิตกับการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบบไม่ได้พับอะไรเลย (เอาเข้าจริงๆ เสื้อผ้าที่เตรียมมาแทบไม่ได้ใส่ เพราะเราไปซื้อใหม่แล้วใส่กันแบบไม่ซักกันที่โน้น)
ไปไต้หวันไปทำอะไร อันนี้เราก็แทบไม่มีไอเดียอะไรเลย เงินไต้หวันก็ไม่มีสักเหรียญ แต่พอมาถึงที่โรงแรมเท่านั้นแหละ ทริปต่างๆก็เกิดขึ้น จากรีวิว ไกด์ไลน์ต่างๆ ในพันทิพ และหนังสือที่ได้รับจากบูธการท่องเที่ยวไต้หวันที่เราพกติดตัวมาด้วย
1
“ช้อปและกิน” ใกล้โรงแรม
คงเป็นทริปอมตะที่ใครๆเค้าก็ทำ แต่ที่นี้มันเริ่ดตรงที่ “ถูกกว่าไทย” และเนื่องด้วยโรงแรมที่เราพัก Vendome Taipei Business Hotel (ติดกับรถไฟ MRT สถานี Zhongxiao Dunhua สายสีน้ำเงิน) ติดกับ Zara ตรงข้ามกับ Forever 21 เยื้องๆกับ Uniqo มี Adidas เดินไปอีกนิดมี Sogo 3 แห่ง และมีแบรนด์เกาหลีอีกหลายร้าน แค่นี้ก็ใช้เวลาไปครึ่งวันแล้ว หลังจากนนั้นก็กลับมานอนหลับให้หาย Jet Lag (จริงๆมันหายไปตั้งแต่ตอนช้อปแล้วละ)
* เราใช้เครดิตจ่ายค่าช้อปทั้งหมด * เรากดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เพื่อใช้สำหรับซื้ออาหารอร่อยๆกินกัน
2
“ชาบูใจดี” ที่ SHINJUKU PLAZA
ความหิวไม่เข้าใครออกใคร หลายๆคนถามไปถึงไทเป ทำไมไม่ไปกินอาหารโลคอล คือเราก็กินอะนะ แต่ชาบูนี้มันก็น่าลอง หลายต่อหลายคนบอก ของกินเค้าหลากหลาย ตบท้ายด้วย Häagen-Dazs แบบไม่อั้น เหตุผลที่เราเรียกว่าชาบูใจดี ก็เพราะตอนจกลับและจ่ายเงิน เราขอเค้าตักไอติมออกไปกินข้างนอก แล้วเค้าก็บอกว่า เยส ยูแคน แล้วยิ้มด้วยความใจดี
Zhongxiao Dunhua — 🚇—> Ximen Station | 20TWD | ~ 20 Minute | Exit 1,6
3
เข้าวัดเพื่อ “ดอกชากุระ”
สารภาพกันตรงนี้ว่านี้คือดอกซากุระที่เราเห็นในต่างประเทศเป็นครั้งแรในชีวิต ไปญี่ปุ่นก็ไม่เคยทันชมดอกซากุระกับเค้า ส่วนที่บ้านเราดอกพญาเสือโคร่งเห็นอยู่บ่อยๆ สุดท้ายเราก็คิดว่า “เอ๋…นี้ดอกพญาเสือโคร่งที่บ้านเราป่ะ” แต่ยังไงเราก็ชอบนะ ยืนถ่ายรูปเป็นร้อย สุดท้ายเลือกได้แค่รูปเดียว
เรามาชมดอกซากุระกันที่วัด Tianyuan Temple เดินทางด้วยรถไฟไปจนถึงสถานี Danshui station หลังจากนั้น ตอนแรกตั้งใจจะไปรถเมล์ แต่ลองดูจาก Google Map ระยะทางมันแค่ไม่กี่กิโลเมตร แต่รถเมล์ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง เลยตัดสินใจกระโดดขึ้น Taxi ราคา Start ที่ 100TWD สรุปไปจนถึงวัดจ่ายกันไป 215 TWD
Taipei Main Staion —-🚇—> Danshui station | ~ 40-80TWD | 1.30 Hr.
Danshui station —- 🚖 —> Tianyuan Temple | 15 Minute | ~215TWD
4
จิ่วเฟิ่น ถนนโบราณและอาหารตา
ออกจากตัวไทเปค่อนข้างไกล หลับๆตื่นๆ ในรถไฟ เกือบ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี Jiufen Old Street ตรงนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ เข้าไปสอบถามกันได้นะคะ หลังจากนั้นก็เดินทางต่อด้วยรถเมล์ ขึ้นไปยังจิ่วเฟิ่น ที่นี้มัน Korean Town รึป่าว โอป้าน่ารักมากมาย ตั้งแต่ยืนรอที่ป้ายรถเมล์ นั่งรถเมล์ขึ้นเขาไปด้วยกัน แถวยังเดินชนกันในถนนโบราณอีก (ที่เดินชนกันไม่ใช่อะไรหรอก คนเยอะมากๆ และส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเกาหลี ที่มากันกับแฟน) ที่นี้มีของอร่อยที่หลายๆคนแนะนำกับไอติมถั่วตัดใส่ผักชี ห้ามพลาดนะ เพราะเราเห็นแค่ที่นี่ที่มีขาย จะหากินในตลาดกลางคืนก็ไม่เจออีกเลย
Taipei Main Staion —-🚇—> Jiufen Old Street Station | ~ 115TWD | 1.25 Hr.
Jiufen Old Street Station —- 🚌 —> Jiufen Old Street | 15 Minute | ~15TWD (Last Bus 21.00pm)
5
เอาใจไปเลยกับ Bear 1 YAKINIKU
วันสุดท้ายแล้วสิ พรุ่งนี้ต้องบินกลับไทยแต่เช้า ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันมหาจ่ายอีกครั้ง แถมด้วยฝนตกทั้งวัน อะไรมันจะเมามันส์เท่ากับการไปกินบุฟเฟ่ต์ ที่เป็นอาหารมื้อแรกของวัน อ่าไปกินกันเถอะ J
Zhongxiao Dunhua — 🚇—> Ximen Station | 20TWD | ~ 20 Minute | Exit 1,6
ตอนจ่ายตัง แทบช๊อคนึกว่าจะต้องไปนั่งล้างจานอยู่หลังร้านซะแล้ว เพราะที่ร้านไม่รับบัตรเครดิต ตายละ บัตรเอทีเอ็มทิ้งไว้ที่โรงแรม ตอนนี้เงินไต้หวันมีกันไม่ถึงร้อย ในกระเป๋ามีแต่เงินไทย ทำไงดีละทีนี้ เดินไปบอกพนักงานว่าฉันไม่มีเงินจ่ายคุณทำไงดี โอ้ยยย…พนักงานใจดีที่สุด พาเดินไปแลกตัง แถวๆนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีเจ้าไหนรับแลก พนักงานเลยบอกว่า “งั้นแลกกับฉันก็ได้” แถมโคตรใจให้เรท 1:1 เรทดีกว่าที่แลกมาจากไทยอีก เอากับเค้าสิกับความใจดีของคนที่นี่
6
OMNI Night Club
แหมมมม ก็ดันมาอยู่ตึกเดียวกับโรงแรมที่เราพัก มันก็ต้องไปสำรวจกันหน่อยสิ ว่าไนต์คลับที่นี่จะสนุก เมามันส์เหมือนที่ไทยป่าว แถวคืนนั้นเป็น Lady Night (วันพุธ) ผู้หญิงสวยๆอย่างเราก็เข้าฟรี ดริ้งข้างในไม่ได้แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นที่แก้วละ 200TWD หนุ่มๆข้างใน อยากให้ไปสำรวจกันเอาเอง ส่วนเพลงจะเป็นแนว EDM Digital Screen สุดอลัง
Open : Wednesday, Friday and Staurday 10.30pm – 04.30am
Price : start from 200TWD per Glass
@ Zhongxiao Dunhua Station
7
ของกินที่เราชอบ
กับแอลกอฮอร์กระป๋อง 3% ที่เราไม่เคยพลาด ช้อปไปจิบไป รับรองได้เสื้อผ้ากลับไทยเต็มกระเป๋า พร้อมบิลเรียกเก็บที่ต้องกินมาม่าไปทั้งเดือน (ป่าว!…ไม่ได้เมา แค่ราคามันถูกเหลือเกิน)
ร้านอาหารข้างทาง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะต้องสั่งยังไง แต่พอเหลือบไปเห็นในสิ่งที่คนอื่นกิน เราก็เลยสั่งแบบนั้นคนละ 1 ชุด ตอนได้มานี้ตกใจ กินกันไม่หมด แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือราคา เพราะเราสังเกตเห็นว่าคนที่เราก๊อปปี้เมนูมาจากเค้าจ่ายในราคาไม่ถึง 100TWD แต่ทำไมตอนเก็บถึงได้แพงกว่าเป็น 2 เท่า
---------------------------------------------------------------------------
ความประทับใจ
ทุกๆทริปที่เราไป เรามักจะรวบรวมความประทับใจ เก็บไว้ในความทรงจำเสมอ สำหรับทริปไทเป 4 วัน 3 คืน แบบหลับไม่เต็มตื่น กะทันหันสุดๆทริปนี้ ทริปแรกในชีวิตที่ไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้า แต่ทุกอย่างจบลงด้วยความสมบูรณ์แบบ
- คนไต้หวัน ใจดีมากๆ (ยกเว้นคุณลุงเจ้าของร้านชา ด้วยความที่เราสื่อสารกันผิดตอนสั่งชา เลยทำให้ได้ชาไม่ตรงกับที่สั่ง น้องพนักงานจะทำให้ใหม่ แต่กลับโดนตาลุงเจ้าของร้านด่า …ขอโทษด้วยนะที่เราทำให้นายโดนด่าอ่ะ)
- อากาศดี (ยกเว้นมีฝนตกบางวัน) คนไต้หวัน แต่งตัวเหมือนหนาวมากๆ แต่ความจริงอากาศสบายๆ ใส่ยีนขาสั้น เสื้อยืดเดินสบายๆ แต่จะมีตอนกลางคืน และตอนที่ฝนตก อากาศหนาวเย็นกว่าปกติ
- เดินทางสะดวก ค่ารถไฟต่อเที่ยวก็ไม่แพง ซื้อบัตร iPass เสียค่าเปิดบัตร 100TWD แล้วก็เติมเงินเพิ่ม จะไปไหนก็ตึดๆ ส่วนรถ Taxi มิเตอร์ Start ที่ 100 TWD เช่นกัน แต่รวมๆก็ราคารับได้ ส่วนจากสนามบินมายังโรงแรมเราใช้บริการรถรับส่งจากสนามบิน เดินทางกัน 4 คน ได้รถ 1 คัน พร้อมคนขับ ในราคาเสร็จสับไม่เกิน 1,000 บาทไทย ส่งถึงหน้าโรงแรม ขากลับก็เช่นกัน ส่งข้อความมาปลุกกันแต่เช้า บอกว่าอยู่หน้าโรงแรมแล้วนะ
- ซื้อง่าย ขายคล่อง สินค้าราคาเบาหวิว จนกระเป๋าตังของเราก็เบาหวิวตามๆกันไป มีแบรนด์เกาหลีหลายแบรนด์ ในราคาที่น่าคบ เรทเงินพอๆกับเงินไทย
- คนไต้หวัน พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก สำหรับคนหนุ่มสาวในไทเป การสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายมากๆ (ยกเว้นอีตาหนุ่มตี๋ในไนต์คลับ ทำไมไม่พูดภาษาอังกฤษกับฉัน ไม่งั้นเราคงได้ไปต่อ)
*Happiness is lived short...Laugh when you can, apologize when you should and let go of what you can't change
ถ้างานคือข้ออ้าง งั้นเราต้องไปเปิดโลกกว้างที่ “ไทเป” กัน :)
- ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด เวลาเดินทางถือว่าดี บินถึงไทเปตอนเช้า เที่ยวต่อได้เลย
- ค่าเงินก็เรทพอๆกับค่าเงินไทย
- ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง
- ฟรีวีซ่า
- ได้ยินว่าคนไทเปใจดี หน้าตาดีก็มีเยอะ หุหุ
ด้วยความที่ทริปนี้สุดยอดแห่งความกะทันหัน ไม่ทันได้เตรียมอะไรล่วงหน้า และในความโชคร้ายก็มีความโชคดีปนอยู่ ด้วยความที่ต้องไปทำงานที่ “งานไทยเที่ยวนอก”ทุกวันที่ศูนย์สิริกิติ์อยู่แล้ว ก็ขอแวบไปบูธไต้หวัน ขอข้อมูลกันกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นเลย มีหนังสือแจกเยอะดี หยิบๆติดไม้ติดมือมา ส่วนอุปกรณ์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ (แม้แต่เงินยังไม่ได้แลกไป) ก็คือ Pocket WiFi พกไปสักเครื่องสบายใจ
เสร็จอีเว้น เก็บบูธแล้วออกไปฉลองยอดขายกันสักนิด ก่อนจะรีบกลับบ้านอาบน้ำไปสนามบิน ครั้งแรกในชีวิตกับการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบบไม่ได้พับอะไรเลย (เอาเข้าจริงๆ เสื้อผ้าที่เตรียมมาแทบไม่ได้ใส่ เพราะเราไปซื้อใหม่แล้วใส่กันแบบไม่ซักกันที่โน้น)
ไปไต้หวันไปทำอะไร อันนี้เราก็แทบไม่มีไอเดียอะไรเลย เงินไต้หวันก็ไม่มีสักเหรียญ แต่พอมาถึงที่โรงแรมเท่านั้นแหละ ทริปต่างๆก็เกิดขึ้น จากรีวิว ไกด์ไลน์ต่างๆ ในพันทิพ และหนังสือที่ได้รับจากบูธการท่องเที่ยวไต้หวันที่เราพกติดตัวมาด้วย
“ช้อปและกิน” ใกล้โรงแรม
คงเป็นทริปอมตะที่ใครๆเค้าก็ทำ แต่ที่นี้มันเริ่ดตรงที่ “ถูกกว่าไทย” และเนื่องด้วยโรงแรมที่เราพัก Vendome Taipei Business Hotel (ติดกับรถไฟ MRT สถานี Zhongxiao Dunhua สายสีน้ำเงิน) ติดกับ Zara ตรงข้ามกับ Forever 21 เยื้องๆกับ Uniqo มี Adidas เดินไปอีกนิดมี Sogo 3 แห่ง และมีแบรนด์เกาหลีอีกหลายร้าน แค่นี้ก็ใช้เวลาไปครึ่งวันแล้ว หลังจากนนั้นก็กลับมานอนหลับให้หาย Jet Lag (จริงๆมันหายไปตั้งแต่ตอนช้อปแล้วละ)
* เราใช้เครดิตจ่ายค่าช้อปทั้งหมด * เรากดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เพื่อใช้สำหรับซื้ออาหารอร่อยๆกินกัน
“ชาบูใจดี” ที่ SHINJUKU PLAZA
ความหิวไม่เข้าใครออกใคร หลายๆคนถามไปถึงไทเป ทำไมไม่ไปกินอาหารโลคอล คือเราก็กินอะนะ แต่ชาบูนี้มันก็น่าลอง หลายต่อหลายคนบอก ของกินเค้าหลากหลาย ตบท้ายด้วย Häagen-Dazs แบบไม่อั้น เหตุผลที่เราเรียกว่าชาบูใจดี ก็เพราะตอนจกลับและจ่ายเงิน เราขอเค้าตักไอติมออกไปกินข้างนอก แล้วเค้าก็บอกว่า เยส ยูแคน แล้วยิ้มด้วยความใจดี
เข้าวัดเพื่อ “ดอกชากุระ”
สารภาพกันตรงนี้ว่านี้คือดอกซากุระที่เราเห็นในต่างประเทศเป็นครั้งแรในชีวิต ไปญี่ปุ่นก็ไม่เคยทันชมดอกซากุระกับเค้า ส่วนที่บ้านเราดอกพญาเสือโคร่งเห็นอยู่บ่อยๆ สุดท้ายเราก็คิดว่า “เอ๋…นี้ดอกพญาเสือโคร่งที่บ้านเราป่ะ” แต่ยังไงเราก็ชอบนะ ยืนถ่ายรูปเป็นร้อย สุดท้ายเลือกได้แค่รูปเดียว
เรามาชมดอกซากุระกันที่วัด Tianyuan Temple เดินทางด้วยรถไฟไปจนถึงสถานี Danshui station หลังจากนั้น ตอนแรกตั้งใจจะไปรถเมล์ แต่ลองดูจาก Google Map ระยะทางมันแค่ไม่กี่กิโลเมตร แต่รถเมล์ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง เลยตัดสินใจกระโดดขึ้น Taxi ราคา Start ที่ 100TWD สรุปไปจนถึงวัดจ่ายกันไป 215 TWD
Danshui station —- 🚖 —> Tianyuan Temple | 15 Minute | ~215TWD
จิ่วเฟิ่น ถนนโบราณและอาหารตา
ออกจากตัวไทเปค่อนข้างไกล หลับๆตื่นๆ ในรถไฟ เกือบ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี Jiufen Old Street ตรงนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ เข้าไปสอบถามกันได้นะคะ หลังจากนั้นก็เดินทางต่อด้วยรถเมล์ ขึ้นไปยังจิ่วเฟิ่น ที่นี้มัน Korean Town รึป่าว โอป้าน่ารักมากมาย ตั้งแต่ยืนรอที่ป้ายรถเมล์ นั่งรถเมล์ขึ้นเขาไปด้วยกัน แถวยังเดินชนกันในถนนโบราณอีก (ที่เดินชนกันไม่ใช่อะไรหรอก คนเยอะมากๆ และส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเกาหลี ที่มากันกับแฟน) ที่นี้มีของอร่อยที่หลายๆคนแนะนำกับไอติมถั่วตัดใส่ผักชี ห้ามพลาดนะ เพราะเราเห็นแค่ที่นี่ที่มีขาย จะหากินในตลาดกลางคืนก็ไม่เจออีกเลย
Jiufen Old Street Station —- 🚌 —> Jiufen Old Street | 15 Minute | ~15TWD (Last Bus 21.00pm)
เอาใจไปเลยกับ Bear 1 YAKINIKU
วันสุดท้ายแล้วสิ พรุ่งนี้ต้องบินกลับไทยแต่เช้า ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันมหาจ่ายอีกครั้ง แถมด้วยฝนตกทั้งวัน อะไรมันจะเมามันส์เท่ากับการไปกินบุฟเฟ่ต์ ที่เป็นอาหารมื้อแรกของวัน อ่าไปกินกันเถอะ J
ตอนจ่ายตัง แทบช๊อคนึกว่าจะต้องไปนั่งล้างจานอยู่หลังร้านซะแล้ว เพราะที่ร้านไม่รับบัตรเครดิต ตายละ บัตรเอทีเอ็มทิ้งไว้ที่โรงแรม ตอนนี้เงินไต้หวันมีกันไม่ถึงร้อย ในกระเป๋ามีแต่เงินไทย ทำไงดีละทีนี้ เดินไปบอกพนักงานว่าฉันไม่มีเงินจ่ายคุณทำไงดี โอ้ยยย…พนักงานใจดีที่สุด พาเดินไปแลกตัง แถวๆนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีเจ้าไหนรับแลก พนักงานเลยบอกว่า “งั้นแลกกับฉันก็ได้” แถมโคตรใจให้เรท 1:1 เรทดีกว่าที่แลกมาจากไทยอีก เอากับเค้าสิกับความใจดีของคนที่นี่
OMNI Night Club
แหมมมม ก็ดันมาอยู่ตึกเดียวกับโรงแรมที่เราพัก มันก็ต้องไปสำรวจกันหน่อยสิ ว่าไนต์คลับที่นี่จะสนุก เมามันส์เหมือนที่ไทยป่าว แถวคืนนั้นเป็น Lady Night (วันพุธ) ผู้หญิงสวยๆอย่างเราก็เข้าฟรี ดริ้งข้างในไม่ได้แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นที่แก้วละ 200TWD หนุ่มๆข้างใน อยากให้ไปสำรวจกันเอาเอง ส่วนเพลงจะเป็นแนว EDM Digital Screen สุดอลัง
Price : start from 200TWD per Glass
@ Zhongxiao Dunhua Station
ของกินที่เราชอบ
กับแอลกอฮอร์กระป๋อง 3% ที่เราไม่เคยพลาด ช้อปไปจิบไป รับรองได้เสื้อผ้ากลับไทยเต็มกระเป๋า พร้อมบิลเรียกเก็บที่ต้องกินมาม่าไปทั้งเดือน (ป่าว!…ไม่ได้เมา แค่ราคามันถูกเหลือเกิน)
ร้านอาหารข้างทาง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะต้องสั่งยังไง แต่พอเหลือบไปเห็นในสิ่งที่คนอื่นกิน เราก็เลยสั่งแบบนั้นคนละ 1 ชุด ตอนได้มานี้ตกใจ กินกันไม่หมด แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือราคา เพราะเราสังเกตเห็นว่าคนที่เราก๊อปปี้เมนูมาจากเค้าจ่ายในราคาไม่ถึง 100TWD แต่ทำไมตอนเก็บถึงได้แพงกว่าเป็น 2 เท่า
ทุกๆทริปที่เราไป เรามักจะรวบรวมความประทับใจ เก็บไว้ในความทรงจำเสมอ สำหรับทริปไทเป 4 วัน 3 คืน แบบหลับไม่เต็มตื่น กะทันหันสุดๆทริปนี้ ทริปแรกในชีวิตที่ไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้า แต่ทุกอย่างจบลงด้วยความสมบูรณ์แบบ
- คนไต้หวัน ใจดีมากๆ (ยกเว้นคุณลุงเจ้าของร้านชา ด้วยความที่เราสื่อสารกันผิดตอนสั่งชา เลยทำให้ได้ชาไม่ตรงกับที่สั่ง น้องพนักงานจะทำให้ใหม่ แต่กลับโดนตาลุงเจ้าของร้านด่า …ขอโทษด้วยนะที่เราทำให้นายโดนด่าอ่ะ)
- อากาศดี (ยกเว้นมีฝนตกบางวัน) คนไต้หวัน แต่งตัวเหมือนหนาวมากๆ แต่ความจริงอากาศสบายๆ ใส่ยีนขาสั้น เสื้อยืดเดินสบายๆ แต่จะมีตอนกลางคืน และตอนที่ฝนตก อากาศหนาวเย็นกว่าปกติ
- เดินทางสะดวก ค่ารถไฟต่อเที่ยวก็ไม่แพง ซื้อบัตร iPass เสียค่าเปิดบัตร 100TWD แล้วก็เติมเงินเพิ่ม จะไปไหนก็ตึดๆ ส่วนรถ Taxi มิเตอร์ Start ที่ 100 TWD เช่นกัน แต่รวมๆก็ราคารับได้ ส่วนจากสนามบินมายังโรงแรมเราใช้บริการรถรับส่งจากสนามบิน เดินทางกัน 4 คน ได้รถ 1 คัน พร้อมคนขับ ในราคาเสร็จสับไม่เกิน 1,000 บาทไทย ส่งถึงหน้าโรงแรม ขากลับก็เช่นกัน ส่งข้อความมาปลุกกันแต่เช้า บอกว่าอยู่หน้าโรงแรมแล้วนะ
- ซื้อง่าย ขายคล่อง สินค้าราคาเบาหวิว จนกระเป๋าตังของเราก็เบาหวิวตามๆกันไป มีแบรนด์เกาหลีหลายแบรนด์ ในราคาที่น่าคบ เรทเงินพอๆกับเงินไทย
- คนไต้หวัน พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก สำหรับคนหนุ่มสาวในไทเป การสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายมากๆ (ยกเว้นอีตาหนุ่มตี๋ในไนต์คลับ ทำไมไม่พูดภาษาอังกฤษกับฉัน ไม่งั้นเราคงได้ไปต่อ)