ผมหงุดหงิดจนต้องยืมล็อคอินเพื่อนมาตั้งกระทู้
เรื่องของเรื่องคือแฟนผมมีเพื่อนอยู่คนนึง จะชอบโทรมายืมเงิน หรือให้ซื้อตั๋วเครื่องบิน บินกลับไทยอยู่บ่อยๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมทนไม่ได้ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมฟิวส์ขาดจริงๆคือ "เธอชวนแฟนผมไปทำงานต่างประเทศด้วยกัน"
คือถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นในรุ่นที่เธอคบด้วยผมไม่มีปัญหานะครับ เพราะพวกเขามีหน้าที่การงานทำกันอย่างชัดเจน แล้วไม่เคยมีประเด็นเรื่องยืมเงินเรื่องให้ทำนู่นนี่นั่นแม้แต่น้อย อยู่กันแบบแฟร์ๆมาก แต่ทีนี้มันมีปัญหาตรงที่ว่า หนึ่งในเพื่อนรุ่นเดียวกันกับเธอที่จบจากสถาบันเดียวกันมา ชอบชักชวนให้แฟนผมไปทำงานที่ต่างประเทศแบบ...ถ้ามาได้ก็มา มาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยให้รายละเอียดว่าไปทำงานเป็นแม่บ้านอยู่บริษัทสามีของเธอ *เพื่อนของแฟนผมบอกว่าสามีของเธอเปิดบริษัทไว้หลายประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่มาเลเซีย สำนักงานย่อยอยู่ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น อะไรทำนองนี้*
ซึ่งตัวผมก็ฟัง ไม่ได้ห้าม แต่ก็ไม่ได้สนับสนุน เพราะแฟนผมเป็นคนหัวอ่อน รอบตัวเธอมีแต่มิตรภาพดีๆก็จริง แต่กับเพื่อนคนนี้ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ ข้อสังเกตข้อแรกที่ทำให้ผมเฉลียวใจคือบางครั้งเธอจะหยิบมือถือผมไปล็อคอินแช็ทเฟสแล้วลืมล็อคอินออก เพื่อนเธอคนที่ว่าก็ทักมาพอดี ผมเลยได้เข้าไปดูรายละเอียดในนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนมากร้อยละ 90 ของแช็ทคือเพื่อนเธอคนนั้น ทักมา "ยืมเงิน" กับ "ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทยให้หน่อย" ซึ่งแฟนผมก็ตามสเต็ปครับ จัดให้ตามคำขอ ส่วนเรื่องได้คืนไม่ได้คืนผมขี้เกียจไปเค้นในส่วนที่แฟนผมทำไปแล้ว สุดท้ายผมจึงนั่งจับเข่าคุยกับเธอว่าถ้ามีอีกนี่บุคคลนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้วนะ เขาเรียกว่า เป-รต ขอส่วนบุญ อย่าไปยุ่งด้วยจะดีที่สุด เอาเงินส่วนนี้ไปช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆหรือซื้อความสุขให้ตัวเอง พ่อแม่ น่าจะดีกว่าเสียไปเปล่าๆ ไหนจะความรู้สึกอีก
แต่ก่อนที่ผมจะจับเข่าคุยถึงขั้นนั้นกับแฟน ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ยังคงอยู่ในลิมิตที่ว่าเขาคงเดือดร้อนจริงๆมั้ง แล้วอีกอย่างแอ็ปอื่นก็มี เบอร์โทรก็มี เขาอาจจะคุยกันเรื่องอื่นมาเยอะแยะมากมายกว่าในแช็ทเฟสอันนี้ก็ได้ ผมเลยปัดตกความสงสัยไป
วันต่อมาเพื่อนแฟนผมคนนั้นเขาแอดเฟสบุ๊คมาหาผม ผมก็รับแอ็ดไป พอไทม์ไลน์เชื่อมต่อกันเท่านั้นแหละ ถึงรู้ว่าชีวิตเธอบินบ่อยมาก วนเวียนกับไต้หวัน ฮ่องกง มาเลย์ แต่เหมือนกับจะอยู่มาเลย์นานสุด วันๆโพสต์ว่าทำงานเหนื่อย ทำบัญชีปวดหัว แต่มีรูปดูดบารากุ ไลฟ์สดในเฟสตอนกินเหล้าร้องเพลงในห้องสีขาวโล่งๆ เพื่อนที่แท็ก ที่เม๊นต์หากัน โปรไฟล์แต่ละคนดู... สุดกู่ เนื้อนมไข่รอยสักเสื้อผ้าหน้าผมการแต่งตัวนี่... ที่พีคสุดคือผมตามไปส่องถึงไอจีแล้วพบว่า เวลาเธอไปแถบไต้หวันหรือฮ่องกง จะแต่งชุดคอสเพลย์หลากหลายรูปแบบจนถึงขั้นนู้ดอัพลงทุกวัน ผมร้องอ๋อตั้งแต่ชุดเซ็ทแรกที่เห็น คือผมก็ผู้ชายอ่ะครับ เมื่อก่อนเจอมาประมาณนึงเหมือนกัน เลยดูคุ้นตาเหมือนกลับบ้านเก่า 555
ล่าสุดที่ทำให้ผมฟิวส์ขาดคือตอนที่เพื่อนแฟนผมกลับมาไทยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ผมสังเกตว่าเธอทำหนังสือเดินทางหายบ่อยมาก หรือไม่ก็เป็นนั่นเป็นนี่หลากหลายเหตุผลเพื่อที่จะทำใหม่ เธอเลยต้องบินกลับไทยบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อครั้งต่อไปเธอจะบินไปแถบเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผมขมวดคิ้ว แต่ที่ทำให้ผมเลือดขึ้นหน้ามากที่สุดคือเธอมักจะหว่านล้อมให้แฟนผมไปทำงานกับเธอให้ได้ มักจะมีมุขใหม่ๆมาหลอกล่อตลอด งานนู่นนี่นั่นเงินดีงานสบายไม่เหนื่อย แต่ต้องจ่ายค่านายหน้าค่าพาเข้าให้เธอก่อนคนกันเองเธอคิดไม่แพง คือตัวผมเนี่ยเวลาใครพยายามแสดงศักยภาพหรือเริ่มต้นโม้ผมจะทำหน้าให้ดูโง่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อ่ะครับ แล้วช่วงนั้นผมพึ่งไปกู้เงินก้อนโตมากๆกับธนาคารมาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว เธอก็พยายามโน้มน้าวใจแฟนผมด้วยเรื่องนี้อยู่ตลอดว่าถ้าไปทำปลดหนี้เร็ว, มีเงินหมุน, มีทุนสำรองฉุกเฉินไว้ใช้แน่นอน ผัวเมียช่วยกันทำมาหากินหนี้สินจะได้หมดไวๆ แต่ตอนนั้นผมก็แอบคิดในใจเล่นๆว่าเงินที่คุณยืมแฟนผมไปนี่คืนมาบ้างหรือยัง หรือมันแปรรูปเป็นชาแนล เป็นแอร์เมสที่ถ่ายอัพลงเฟสวันละสองสามรอบไปแล้ว
จุดพีคคือผมน่ะฟังให้เกียรติพอเป็นพิธี แต่แฟนผมสิคิดจริงจังไปแล้ว แถมแอบหนีผมไปด้วย โชคยังดีที่เพื่อนผมเจอที่สนามบินก่อนเพราะวันนั้นมันส่งแฟนไปออส แล้วเห็นแฟนผมกับเพื่อนคุณเธอ พอพูดคุยแล้วดูมีพิรุธหลายอย่าง*พฤติกรรมนี้คาดว่ามันติดมาจากแม่ทูนหัวของมัน* เลยรีบโทรหาผม ความรู้สึกวันนั้นยังฝังหัว เกือบถึงขั้นเลิกกันแบบถาวร ถ้าวันนั้นผมไม่เย็นแบบถึงที่สุดก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนี้ที่เรายังจับมือกันอยู่รึเปล่า
แฟนผมมีจุดอ่อนเรื่อง "เงิน" ครับ คือผมกับแฟนอาจจะเรียกกันว่าอยู่กินก่อนแต่งก็ได้ แล้วตัวผมกับธุรกิจที่ทำอยู่ตอนนี้ก็โอเค ถ้าเหลือกำไรมากก็ตัดต้นไปด้วยพร้อมดอก ไม่ได้ขัดสนอะไร คิดว่าพอหมดก็จะจัดงานแต่งแล้วมีลูกทันที ถึงจุดๆนั้นผมรู้สึกว่าเราจะมีอะไรหลายๆอย่างไว้เป็นฐานเริ่มต้นชีวิตคู่หลังแต่งงานและมีหลักประกันที่จะเลี้ยงคนๆนึงพร้อมกับลูกของเขาได้ แบบมั่นคง แล้วด้วยผมเป็นคนชอบกินข้าวบ้าน แฟนเป็นคนชอบทำกับข้าว ชอบงานครัว ผมเลยส่งเธอให้ไปเรียนตามความชอบตามความถนัด ค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างผมออกให้หมดไม่เกี่ยงว่าจะแพงแค่ไหน ถ้าคนข้างนอกมองเข้ามาอาจจะดูเหมือนว่าผมหาเงินตัวคนเดียว แต่กำไรชีวิตผมจริงๆคือคนที่อยู่ข้างๆนะครับ แต่เพราะไม่เคยคุยกันจริงจังหรือมีบางทีที่ผมทำงานเหนื่อยแล้วอาจจะบึ้งตึงใส่เธอไปบ้าง ผมเลยไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอเอาเรื่องนี้ไปพูดในแง่อื่นให้เธอเครียดรึเปล่า ตอนเปิดใจคุยกันเมื่อวานก่อนเธอเลยพรั่งพรูออกมาว่าตัวเองเหมือนผู้หญิงเกาะสามีกิน ช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ให้คำปรึกษา ผมนี่อยากจะตะโกนออกมาดังๆเลยว่าเกาะพี่กินตลอดชีวิตก็ยังได้ พี่ชอบ แต่อารมณ์ตอนนั้นติดอยากจะสอบสวนแฟนมากกว่าว่าคิดยังไงถึงหนีตามเพื่อนไปแบบนั้น เลยเก็บความมุ้งมิ้งเอาไว้ก่อน
ช่วงที่ผมถามแฟนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็บอกแค่ว่าเพื่อนเธอเป็นคนดำเนินการให้หมดทุกอย่าง แล้วรูปที่ทำงานที่เพื่อนเอาให้ดูก็ดี ไม่น่าผิดกฎหมายอะไร ผมเลยขอมือถือแฟนดูแช็ทในโปรแกรมไลน์ รูปที่เพื่อนเธอส่งมาให้เป็นรูปคอนโดที่ค่อนข้างหรูหรา มีสระว่ายน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวกเกือบทุกอย่างอยู่เต็มไปหมด แต่ส่วนมากเธอจะอัดเสียงคุยกับแฟนผม ส่วนแฟนผมก็ถนัดพิมพ์มากกว่า บางไฟล์บางอันก็ฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง ดูเธอระมัดระวังตัวมาก
แฟนผมบอกว่างานที่เธอจะไปทำคือไปเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่โรงแรมแถวคอนโดละแวกนั้น
ฟังจบปุ๊บผมนี่ลุกขึ้นยืนเลย
ยืนเพื่อเดินไปเอาแท็บเล็ตอีกเครื่องมาทำให้เธอตาสว่างครับ
เรื่องของเรื่องคือผมไปสืบดูที่มาที่ไปของเพื่อนเธอคนนี้ ปรากฎว่าเคยทำงานที่คลับในไทยมาก่อน แล้วค่อยอิมพอร์ตไปนอก มีแม่เล้าที่รับส่งเด็กไปขายระหว่างประเทศพาไป เมื่อก่อนเพื่อนแฟนผมจะขึ้นหัวในว็อทแอ็พหรือวีแช็ท ว่า V.I.P สัญลักษณ์นี้ผู้ชายเราๆรู้กันเลยว่ารับงาน โซเดมาคอม ร่วมด้วย เธอก็ไปมาระหว่างประเทศที่ผมว่ามาข้างต้นนั่นแหละครับ จนวิชาแก่กล้า เริ่มอยากจะเป็นแม่เล้าเอง เริ่มอยากกินค่าหัวคิว เริ่มหาเด็ก ชักชวนคนใกล้ตัวให้ไปทำ อันที่จริงผมก็ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรหรอกนะครับ แต่ผมเริ่มอธิบายจากไทม์ไลน์การโพสต์เฟสของเพื่อนเธอเอง รวมถึงมีความบังเอิญอีกหนึ่งอย่างร่วมด้วย
ตอนที่มีดราม่าเรื่องอุ้มบุญ แล้วมีการแค็ปโพสต์รับสมัครเด็กรุ่นๆมาขายไข่หรือมาอุ้มบุญจากกลุ่มลับกลุ่มนึงในเฟสบุ๊คที่ตั้งชื่อกลุ่มสวนทางกับสิ่งที่อยู่ในนั้นมาก ชื่อกลุ่มเฝ้าระวังอะไรสักอย่าง ฮะๆ แต่ความหมายที่แท้จริงน่าจะเป็นเฝ้าระวังอิเมเกรชั่นหรือตำรวจในประเทศนั้นๆเสียมากกว่า ผมเสิร์ชหาจากคำเดาต่อท้ายเล่นๆของตัวเองแล้วเจอเลยแอ็ดเข้าไป ซึ่งตอนนั้นผมใช้เฟสอวตารของตัวเองไว้วอร์กับชาวบ้านเล่นๆ เลยไปจ๊ะเอ๋เข้ากับเฟสของแฟนเพื่อนกำลังโพสต์หาเด็กไปทำงานต่างประเทศแถมให้รายละเอียดว่าบินพร้อมกับตัวเองอยู่พอดี เลยบรรลุถึงแก่นไปเลย ณ ตอนนั้น
เอาจริงๆนี่มันเรียกค้าประเวณีข้ามชาติ? ค้ามนุษย์? อะไรทำนองนี้รึเปล่าครับ แล้วเราสามารถแจ้งความ แจ้งเบาะแสอะไรที่ไทยได้ไหม คือผมรู้ยันที่อยู่บ้านเขานะครับว่าหลังไหนในต่างจังหวัด ตารางบิน การเช็คอิน รูปถ่าย ผมรับรู้หมด และความหมั่นไส้ก็พอกพูนขึ้นมาเรื่อยๆเมื่อเธอเริ่มอ้างว่าตัวเองมีสามีรวยเลี้ยง โชว์ของแบรนด์ถี่ๆ ทั้งที่เงินที่ยืมแฟนผมไปนั้นคืนมาแบบนับแบงค์ได้ว่ามีสีไหนบ้าง แต่ส่วนหลักฐานที่มันสามารถจะดำเนินการตามกฎหมายได้จริงๆผมก็ไม่รู้ว่ามันต้องใช้อะไรบ้าง ต้องสาวไปถึงขั้นไหนอะไรยังไง ถ้าตำรวจท่านไหนอยากมีผลงานเลื่อนขั้นประดับยศออกทีวีลองลุยวงการนี้นอกจากบุกธรรมกายก็ดูไม่เสียหายอะไรนะครับ ผมคิดว่าเงินที่หมุนเวียนอยู่ในวงการนี้ดูจะหลักหลายร้อยล้านอยู่เหมือนกัน
ล่าสุดก็เห็นว่าเริ่มเจาะตลาดตามพื้นที่ชนบทหาเด็กสาวหน้าตาดีๆผิวเกลี้ยงๆ แต่ฐานะยากจนต้องการทุนการศึกษา หาเงินมาปลูกบ้านให้พ่อแม่อยู่ อันที่จริงเรื่องพวกนี้สไตล์มันคุ้นๆเหมือนกับหลอกสาวเหนือมาขายบริการที่ใต้อะไรทำนองนั้น แต่นี่อัพเลเวลระหว่างประเทศ ถ้ามีสำนักข่าวไหนอยากเปิดโปงเส้นทางการค้านี้ดูท่าจะน่าสนุกไม่น้อยเลยนะครับ
อันนี้ผมจริงจังมากครับ เพราะเธอเกือบทำให้ผมเสีย แฟน เมีย ภรรยา เพื่อน น้อง แม่ของลูก ฯลฯ ไปแล้ว
แค้นฝังหุ่นมากครับเรื่องนี้บอกตรงๆ แต่ทำอะไรไม่ได้
อยากแจ้งความจับเพื่อนของแฟนทำยังไงดีครับ?
เรื่องของเรื่องคือแฟนผมมีเพื่อนอยู่คนนึง จะชอบโทรมายืมเงิน หรือให้ซื้อตั๋วเครื่องบิน บินกลับไทยอยู่บ่อยๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมทนไม่ได้ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมฟิวส์ขาดจริงๆคือ "เธอชวนแฟนผมไปทำงานต่างประเทศด้วยกัน"
คือถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นในรุ่นที่เธอคบด้วยผมไม่มีปัญหานะครับ เพราะพวกเขามีหน้าที่การงานทำกันอย่างชัดเจน แล้วไม่เคยมีประเด็นเรื่องยืมเงินเรื่องให้ทำนู่นนี่นั่นแม้แต่น้อย อยู่กันแบบแฟร์ๆมาก แต่ทีนี้มันมีปัญหาตรงที่ว่า หนึ่งในเพื่อนรุ่นเดียวกันกับเธอที่จบจากสถาบันเดียวกันมา ชอบชักชวนให้แฟนผมไปทำงานที่ต่างประเทศแบบ...ถ้ามาได้ก็มา มาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยให้รายละเอียดว่าไปทำงานเป็นแม่บ้านอยู่บริษัทสามีของเธอ *เพื่อนของแฟนผมบอกว่าสามีของเธอเปิดบริษัทไว้หลายประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่มาเลเซีย สำนักงานย่อยอยู่ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น อะไรทำนองนี้*
ซึ่งตัวผมก็ฟัง ไม่ได้ห้าม แต่ก็ไม่ได้สนับสนุน เพราะแฟนผมเป็นคนหัวอ่อน รอบตัวเธอมีแต่มิตรภาพดีๆก็จริง แต่กับเพื่อนคนนี้ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ ข้อสังเกตข้อแรกที่ทำให้ผมเฉลียวใจคือบางครั้งเธอจะหยิบมือถือผมไปล็อคอินแช็ทเฟสแล้วลืมล็อคอินออก เพื่อนเธอคนที่ว่าก็ทักมาพอดี ผมเลยได้เข้าไปดูรายละเอียดในนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนมากร้อยละ 90 ของแช็ทคือเพื่อนเธอคนนั้น ทักมา "ยืมเงิน" กับ "ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทยให้หน่อย" ซึ่งแฟนผมก็ตามสเต็ปครับ จัดให้ตามคำขอ ส่วนเรื่องได้คืนไม่ได้คืนผมขี้เกียจไปเค้นในส่วนที่แฟนผมทำไปแล้ว สุดท้ายผมจึงนั่งจับเข่าคุยกับเธอว่าถ้ามีอีกนี่บุคคลนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้วนะ เขาเรียกว่า เป-รต ขอส่วนบุญ อย่าไปยุ่งด้วยจะดีที่สุด เอาเงินส่วนนี้ไปช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆหรือซื้อความสุขให้ตัวเอง พ่อแม่ น่าจะดีกว่าเสียไปเปล่าๆ ไหนจะความรู้สึกอีก
แต่ก่อนที่ผมจะจับเข่าคุยถึงขั้นนั้นกับแฟน ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ยังคงอยู่ในลิมิตที่ว่าเขาคงเดือดร้อนจริงๆมั้ง แล้วอีกอย่างแอ็ปอื่นก็มี เบอร์โทรก็มี เขาอาจจะคุยกันเรื่องอื่นมาเยอะแยะมากมายกว่าในแช็ทเฟสอันนี้ก็ได้ ผมเลยปัดตกความสงสัยไป
วันต่อมาเพื่อนแฟนผมคนนั้นเขาแอดเฟสบุ๊คมาหาผม ผมก็รับแอ็ดไป พอไทม์ไลน์เชื่อมต่อกันเท่านั้นแหละ ถึงรู้ว่าชีวิตเธอบินบ่อยมาก วนเวียนกับไต้หวัน ฮ่องกง มาเลย์ แต่เหมือนกับจะอยู่มาเลย์นานสุด วันๆโพสต์ว่าทำงานเหนื่อย ทำบัญชีปวดหัว แต่มีรูปดูดบารากุ ไลฟ์สดในเฟสตอนกินเหล้าร้องเพลงในห้องสีขาวโล่งๆ เพื่อนที่แท็ก ที่เม๊นต์หากัน โปรไฟล์แต่ละคนดู... สุดกู่ เนื้อนมไข่รอยสักเสื้อผ้าหน้าผมการแต่งตัวนี่... ที่พีคสุดคือผมตามไปส่องถึงไอจีแล้วพบว่า เวลาเธอไปแถบไต้หวันหรือฮ่องกง จะแต่งชุดคอสเพลย์หลากหลายรูปแบบจนถึงขั้นนู้ดอัพลงทุกวัน ผมร้องอ๋อตั้งแต่ชุดเซ็ทแรกที่เห็น คือผมก็ผู้ชายอ่ะครับ เมื่อก่อนเจอมาประมาณนึงเหมือนกัน เลยดูคุ้นตาเหมือนกลับบ้านเก่า 555
ล่าสุดที่ทำให้ผมฟิวส์ขาดคือตอนที่เพื่อนแฟนผมกลับมาไทยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ผมสังเกตว่าเธอทำหนังสือเดินทางหายบ่อยมาก หรือไม่ก็เป็นนั่นเป็นนี่หลากหลายเหตุผลเพื่อที่จะทำใหม่ เธอเลยต้องบินกลับไทยบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อครั้งต่อไปเธอจะบินไปแถบเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผมขมวดคิ้ว แต่ที่ทำให้ผมเลือดขึ้นหน้ามากที่สุดคือเธอมักจะหว่านล้อมให้แฟนผมไปทำงานกับเธอให้ได้ มักจะมีมุขใหม่ๆมาหลอกล่อตลอด งานนู่นนี่นั่นเงินดีงานสบายไม่เหนื่อย แต่ต้องจ่ายค่านายหน้าค่าพาเข้าให้เธอก่อนคนกันเองเธอคิดไม่แพง คือตัวผมเนี่ยเวลาใครพยายามแสดงศักยภาพหรือเริ่มต้นโม้ผมจะทำหน้าให้ดูโง่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อ่ะครับ แล้วช่วงนั้นผมพึ่งไปกู้เงินก้อนโตมากๆกับธนาคารมาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว เธอก็พยายามโน้มน้าวใจแฟนผมด้วยเรื่องนี้อยู่ตลอดว่าถ้าไปทำปลดหนี้เร็ว, มีเงินหมุน, มีทุนสำรองฉุกเฉินไว้ใช้แน่นอน ผัวเมียช่วยกันทำมาหากินหนี้สินจะได้หมดไวๆ แต่ตอนนั้นผมก็แอบคิดในใจเล่นๆว่าเงินที่คุณยืมแฟนผมไปนี่คืนมาบ้างหรือยัง หรือมันแปรรูปเป็นชาแนล เป็นแอร์เมสที่ถ่ายอัพลงเฟสวันละสองสามรอบไปแล้ว
จุดพีคคือผมน่ะฟังให้เกียรติพอเป็นพิธี แต่แฟนผมสิคิดจริงจังไปแล้ว แถมแอบหนีผมไปด้วย โชคยังดีที่เพื่อนผมเจอที่สนามบินก่อนเพราะวันนั้นมันส่งแฟนไปออส แล้วเห็นแฟนผมกับเพื่อนคุณเธอ พอพูดคุยแล้วดูมีพิรุธหลายอย่าง*พฤติกรรมนี้คาดว่ามันติดมาจากแม่ทูนหัวของมัน* เลยรีบโทรหาผม ความรู้สึกวันนั้นยังฝังหัว เกือบถึงขั้นเลิกกันแบบถาวร ถ้าวันนั้นผมไม่เย็นแบบถึงที่สุดก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนี้ที่เรายังจับมือกันอยู่รึเปล่า
แฟนผมมีจุดอ่อนเรื่อง "เงิน" ครับ คือผมกับแฟนอาจจะเรียกกันว่าอยู่กินก่อนแต่งก็ได้ แล้วตัวผมกับธุรกิจที่ทำอยู่ตอนนี้ก็โอเค ถ้าเหลือกำไรมากก็ตัดต้นไปด้วยพร้อมดอก ไม่ได้ขัดสนอะไร คิดว่าพอหมดก็จะจัดงานแต่งแล้วมีลูกทันที ถึงจุดๆนั้นผมรู้สึกว่าเราจะมีอะไรหลายๆอย่างไว้เป็นฐานเริ่มต้นชีวิตคู่หลังแต่งงานและมีหลักประกันที่จะเลี้ยงคนๆนึงพร้อมกับลูกของเขาได้ แบบมั่นคง แล้วด้วยผมเป็นคนชอบกินข้าวบ้าน แฟนเป็นคนชอบทำกับข้าว ชอบงานครัว ผมเลยส่งเธอให้ไปเรียนตามความชอบตามความถนัด ค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างผมออกให้หมดไม่เกี่ยงว่าจะแพงแค่ไหน ถ้าคนข้างนอกมองเข้ามาอาจจะดูเหมือนว่าผมหาเงินตัวคนเดียว แต่กำไรชีวิตผมจริงๆคือคนที่อยู่ข้างๆนะครับ แต่เพราะไม่เคยคุยกันจริงจังหรือมีบางทีที่ผมทำงานเหนื่อยแล้วอาจจะบึ้งตึงใส่เธอไปบ้าง ผมเลยไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอเอาเรื่องนี้ไปพูดในแง่อื่นให้เธอเครียดรึเปล่า ตอนเปิดใจคุยกันเมื่อวานก่อนเธอเลยพรั่งพรูออกมาว่าตัวเองเหมือนผู้หญิงเกาะสามีกิน ช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ให้คำปรึกษา ผมนี่อยากจะตะโกนออกมาดังๆเลยว่าเกาะพี่กินตลอดชีวิตก็ยังได้ พี่ชอบ แต่อารมณ์ตอนนั้นติดอยากจะสอบสวนแฟนมากกว่าว่าคิดยังไงถึงหนีตามเพื่อนไปแบบนั้น เลยเก็บความมุ้งมิ้งเอาไว้ก่อน
ช่วงที่ผมถามแฟนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็บอกแค่ว่าเพื่อนเธอเป็นคนดำเนินการให้หมดทุกอย่าง แล้วรูปที่ทำงานที่เพื่อนเอาให้ดูก็ดี ไม่น่าผิดกฎหมายอะไร ผมเลยขอมือถือแฟนดูแช็ทในโปรแกรมไลน์ รูปที่เพื่อนเธอส่งมาให้เป็นรูปคอนโดที่ค่อนข้างหรูหรา มีสระว่ายน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวกเกือบทุกอย่างอยู่เต็มไปหมด แต่ส่วนมากเธอจะอัดเสียงคุยกับแฟนผม ส่วนแฟนผมก็ถนัดพิมพ์มากกว่า บางไฟล์บางอันก็ฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง ดูเธอระมัดระวังตัวมาก
แฟนผมบอกว่างานที่เธอจะไปทำคือไปเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่โรงแรมแถวคอนโดละแวกนั้น
ฟังจบปุ๊บผมนี่ลุกขึ้นยืนเลย
ยืนเพื่อเดินไปเอาแท็บเล็ตอีกเครื่องมาทำให้เธอตาสว่างครับ
เรื่องของเรื่องคือผมไปสืบดูที่มาที่ไปของเพื่อนเธอคนนี้ ปรากฎว่าเคยทำงานที่คลับในไทยมาก่อน แล้วค่อยอิมพอร์ตไปนอก มีแม่เล้าที่รับส่งเด็กไปขายระหว่างประเทศพาไป เมื่อก่อนเพื่อนแฟนผมจะขึ้นหัวในว็อทแอ็พหรือวีแช็ท ว่า V.I.P สัญลักษณ์นี้ผู้ชายเราๆรู้กันเลยว่ารับงาน โซเดมาคอม ร่วมด้วย เธอก็ไปมาระหว่างประเทศที่ผมว่ามาข้างต้นนั่นแหละครับ จนวิชาแก่กล้า เริ่มอยากจะเป็นแม่เล้าเอง เริ่มอยากกินค่าหัวคิว เริ่มหาเด็ก ชักชวนคนใกล้ตัวให้ไปทำ อันที่จริงผมก็ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรหรอกนะครับ แต่ผมเริ่มอธิบายจากไทม์ไลน์การโพสต์เฟสของเพื่อนเธอเอง รวมถึงมีความบังเอิญอีกหนึ่งอย่างร่วมด้วย
ตอนที่มีดราม่าเรื่องอุ้มบุญ แล้วมีการแค็ปโพสต์รับสมัครเด็กรุ่นๆมาขายไข่หรือมาอุ้มบุญจากกลุ่มลับกลุ่มนึงในเฟสบุ๊คที่ตั้งชื่อกลุ่มสวนทางกับสิ่งที่อยู่ในนั้นมาก ชื่อกลุ่มเฝ้าระวังอะไรสักอย่าง ฮะๆ แต่ความหมายที่แท้จริงน่าจะเป็นเฝ้าระวังอิเมเกรชั่นหรือตำรวจในประเทศนั้นๆเสียมากกว่า ผมเสิร์ชหาจากคำเดาต่อท้ายเล่นๆของตัวเองแล้วเจอเลยแอ็ดเข้าไป ซึ่งตอนนั้นผมใช้เฟสอวตารของตัวเองไว้วอร์กับชาวบ้านเล่นๆ เลยไปจ๊ะเอ๋เข้ากับเฟสของแฟนเพื่อนกำลังโพสต์หาเด็กไปทำงานต่างประเทศแถมให้รายละเอียดว่าบินพร้อมกับตัวเองอยู่พอดี เลยบรรลุถึงแก่นไปเลย ณ ตอนนั้น
เอาจริงๆนี่มันเรียกค้าประเวณีข้ามชาติ? ค้ามนุษย์? อะไรทำนองนี้รึเปล่าครับ แล้วเราสามารถแจ้งความ แจ้งเบาะแสอะไรที่ไทยได้ไหม คือผมรู้ยันที่อยู่บ้านเขานะครับว่าหลังไหนในต่างจังหวัด ตารางบิน การเช็คอิน รูปถ่าย ผมรับรู้หมด และความหมั่นไส้ก็พอกพูนขึ้นมาเรื่อยๆเมื่อเธอเริ่มอ้างว่าตัวเองมีสามีรวยเลี้ยง โชว์ของแบรนด์ถี่ๆ ทั้งที่เงินที่ยืมแฟนผมไปนั้นคืนมาแบบนับแบงค์ได้ว่ามีสีไหนบ้าง แต่ส่วนหลักฐานที่มันสามารถจะดำเนินการตามกฎหมายได้จริงๆผมก็ไม่รู้ว่ามันต้องใช้อะไรบ้าง ต้องสาวไปถึงขั้นไหนอะไรยังไง ถ้าตำรวจท่านไหนอยากมีผลงานเลื่อนขั้นประดับยศออกทีวีลองลุยวงการนี้นอกจากบุกธรรมกายก็ดูไม่เสียหายอะไรนะครับ ผมคิดว่าเงินที่หมุนเวียนอยู่ในวงการนี้ดูจะหลักหลายร้อยล้านอยู่เหมือนกัน
ล่าสุดก็เห็นว่าเริ่มเจาะตลาดตามพื้นที่ชนบทหาเด็กสาวหน้าตาดีๆผิวเกลี้ยงๆ แต่ฐานะยากจนต้องการทุนการศึกษา หาเงินมาปลูกบ้านให้พ่อแม่อยู่ อันที่จริงเรื่องพวกนี้สไตล์มันคุ้นๆเหมือนกับหลอกสาวเหนือมาขายบริการที่ใต้อะไรทำนองนั้น แต่นี่อัพเลเวลระหว่างประเทศ ถ้ามีสำนักข่าวไหนอยากเปิดโปงเส้นทางการค้านี้ดูท่าจะน่าสนุกไม่น้อยเลยนะครับ
อันนี้ผมจริงจังมากครับ เพราะเธอเกือบทำให้ผมเสีย แฟน เมีย ภรรยา เพื่อน น้อง แม่ของลูก ฯลฯ ไปแล้ว
แค้นฝังหุ่นมากครับเรื่องนี้บอกตรงๆ แต่ทำอะไรไม่ได้