[CR] Review เที่ยวญี่ปุ่นกับทัวร์ โตเกียว ฟูจิ 5 วัน 3 คืน

สวัสดีค่ะ

วันนี้จะมารีวิวการไปญี่ปุ่นกับทัวร์ไฟไหม้ ให้ดูกันนะคะ

นี่เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเราสองแม่ลูก

ที่เลือกไปกับทัวร์เพราะ คุณแม่เดินเยอะไม่ไหวค่ะ ซึ่งทัวร์นี้ถือว่าโอเคมากเลยค่ะ
เชิญไปดูกันดีกว่าค่ะ

ทัวร์นี้คือทัวร์ไฟไหม้ค่ะ คืออีกไม่กี่วันจะเดินทางแต่ยังมีที่นั่งเหลือ บริษัทเลยนำมาลดราคาค่ะ
เราจองที่
Facebook: ทัวร์เกาหลี-ญี่ปุ่นราคาถูกสุด
@tourtook  

ราคาทัวร์19,900บาท + ทิปไกด์และคนขับ3000เยน (ประมาณ1,000บาท)
รวมค่าทัวร์คือ 20,900บาทจ้า

รูปอาหารที่เราลงต่อไปนี้ คือ อาหารที่อยู่ในโปรแกรมทัวร์จ้า
รสติอาหาร จืดค่ะ ธรรมดามากค่ะ ไม่ว้าวค่ะ

เท่าที่เราสังเกต
ร้านอาหารไม่มีลูกค้าคนญี่ปุ่นเลยค่ะ
ร้านอาหารเหมือนรับแต่ทัวร์นะคะ

มีอาหารบางมื้อที่เราต้องจ่ายเองจ้า สามารถดูในโปรแกรมที่บริษัทโฆษณาได้เลยค่ะ
เราซื้ออาหารเอง อร่อยกว่าร้านในโปรแกรมทัวร์มากค่ะ

ที่ตัดสินใจเลือกบริษัทนี้เพราะ ราคาไม่แรงมาก อ่านใน Pantip และ Facebook แล้วมีการตอบรับที่ดี
และที่ทำ Reviewนี้ เพราะยังไม่ค่อยเห็นมีคนมา Review ของบริษัทนี้ และ ไกด์สาวน่ารัก อัธยาศัยดี จึงอยากมารีวิวให้ดูกันค่ะ
************Confirm ว่าไม่ได้เป็นหน้าม้าแต่อย่างใด************

จ่ายเองจริง เที่ยวเองจริงๆค่ะ

โปรแกรม 5 วัน 3คืน
23 – 27 ก.พ. 2017

วันที่ 1 - ออกจากสนามบินดอนเมือง ตอน 5 ทุ่ม 45
วันที่ 2 - Narita - วนอุทยานฮาโกเน่ – ล่องเรือทะเลสาบอาชิ 10 นาที – โอวาคุตานิ (ไข่ดำ) – ช้อปปิ้ง โกเทมบะ เอ้าเล็ต
– บุฟเฟ่ขาปูยักษ์ – แช่ออนเซ็น
วันที่ 3 – ฟูจิเท็น สกีรีสอร์ท – พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว – วัดอาซากุสะ – ช้อปปิ้งชินจูกุ
วันที่ 4 – Free Day – ศาลเจ้าเมจิ – ฮาราจูกุ – โอไดบะ
วันที่ 5 – ออกจาก Narita Airport ประมาณ 9 โมง 15 - ถึงดอนเมืองประมาณ บ่าย 2 โมง

1วันก่อนการเดินทาง – พี่ไกด์ได้โทรมาแนะนำตัว และ Confirm ว่าพรุ่งนี้เจอกันที่ดอนเมืองตอน 2ทุ่มครึ่ง ที่ ชั้น 3 ประตู 4 เค้าเตอร์4
สภาพอากาศ 2-12 องศา เอาร่มไปด้วย เพราะวันล่องเรือฝนอาจจะตก

เราก็เริ่มอุ่นใจละ ไม่น่าโดนหลอก

ณ. วันเดินทาง
วันที่ 1 – พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองตอน 2 ทุ่มครึ่ง ไกด์จะมอบเอกสารและใบ Immigration ต่างๆที่พิมพ์มาหมดแล้วให้ เหลือแค่ต้องเซ็นต์ชื่ออย่างเดียว แล้วไป Check-in แล้วก็เจอกันที่ Gate ด้านในเลยค่ะ
- เครื่องบินบินออกจากสนามบินดอนเมือง ตอน 5 ทุ่ม 45

วันที่ 2 - Narita - วนอุทยานฮาโกเน่ – ล่องเรือทะเลสาบอาชิ 10 นาที – โอวาคุตานิ (ไข่ดำ) – ช้อปปิ้ง โกเทมบะ เอ้าเล็ต – บุฟเฟ่ขาปูยักษ์ – แช่ออนเซ็น

- ถึง Narita Airport ประมาณ 8 โมงเช้า

- ทุกคนผ่าน Immigration มาอย่างง่ายดาย ไม่มีใครถูกถามแต่อย่างใดค่ะ

- ระหว่างรอรถบัสมารับ หิมะก็โปรยลงมา โอ๊ยยย โรแมนติกจัง (รถบัสถือว่าตามมาตรฐานญี่ปุ่นนะคะ ใหม่ สะดวก สะอาด นั่งสบายดีค่ะ)

- พอขึ้นรถบัสไปพี่ไกด์ก็แนะนำตัวว่า ชื่อ"รัก" นะคะ เรียก "น้องรัก" หรือ "ไกด์รัก" ก็ได้คะ ( พี่ไกด์ยังหน้าเด็กอยู่เลย) และ แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งอธิบายโปรแกรมอย่างละเอียด มีการอธิบายสิ่งที่จำเป็นต่างๆในญี่ปุ่นเช่น
เราสามารถทิ้งกระดาษชำระในห้องน้ำในญี่ปุ่น ลงในโถส้วมได้เลย เพราะกระดาษเค้าถูกออกแบบมาให้ย่อยสลายได้
เราควรยืนชิดซ้ายตอนขึ้นบันไดเลื่อน เพราะด้านขวาให้คนเดิน
เราควรยืนทาน เราไม่ควรเดินทาน
คนญี่ปุ่นซื่อสัตย์มากๆพร้อมยกตัวอย่าง บลาๆๆ

- เดินทางไปสักพักก็เข้าจุดแวะพัก เข้าห้องน้ำ ซื้อขนม 10 นาที (อยากบอกว่า ห้องน้ำที่จุดแวะพักสะอาดมาก!!! โถส้วมไฮเทค ร้านขนมก็น่าซื้อมากๆ นี้มันสวรรค์ของจุดแวะพักชัดๆ) (ขออภัย ไม่มีรูปนะคะ)



Cr. Google

- ขอบอกเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำสาธารณะยันห้องน้ำในห้าง เป็นแบบนี้หมดนะคะ เยี่ยมจริงๆ

- วนอุทยานฮาโกเน่ – ล่องเรือทะเลสาบอาชิ 10 นาที (พอไปถึงฝนตกเล็กน้อย)





- หุบเขาโอวาคุตานิ (หุบเขานรก) (ระหว่างทาง พี่ไกด์รัก ก็เล่าความเป็นมาของบ่อนี้ไปเรื่อยๆ) กลิ่นกำมะถันแรงมากค่ะ

- ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า หากได้ทานไข่ดำ 1 ฟอง (ไข่ที่ต้มในบ่อน้ำแร่กำมะถัน) จะสามารถทำให้อายุยืนยาวขึ้นอีก 7 ปี ค่ะ







- ไข่ดำ ดำแต่เพียงด้านนอกนะคะ ด้านในก็ขาวปกตินะคะ



- ทานข้าวเที่ยง (ข้าว อุด้ง หมูสไลด์ย่าง (มั้ง?))



- โกเทมบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต (ไม่มีรูปนะคะ)

- เข้าที่พักที่ Fuji Hakone Land Plaza Hotel – ใส่ชุดยูกาตะ – ทานบุฟเฟ่ขาปูยักษ์(ขาปูเย็นเจี๊ยบ) – แช่ออนเซ็น













วันที่ 3 – ฟูจิเท็น สกีรีสอร์ท – พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว – วัดอาซากุสะ – ช้อปปิ้งชินจูกุ

- ทานบุฟเฟ่อาหารเช้าที่โรงแรม (ลืมถ่ายมาค่ะ)



- เก็บของ ออกจากโรงแรมตอน 8 โมง

- เดินทางไป ฟูจิเท็น สกีรีสอร์ท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (หิมะตกอีกแล้ว วิวระหว่างทางเต็มไปด้วยหิมะสีขาวและต้นไม้สูงทรงแปลกตา)

- ใช้เวลาที่ ฟูจิเท็น สกีรีสอร์ท 1 ชั่วโมง ความจริงจาก Fujiten จะต้องมองเห็น Mt. Fuji อยู่เบื้องหลัง แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ หมอกมาบังฟูจิซังหมดเลยคะ T^T (พี่ไกด์รักบอกว่า หากเมื่อวานหิมะตก วันนี้จะหมอกลงเยอะ จนไม่สามารถมองเห็นฟูจิซังได้)









- ระหว่างทาง เธอเห็นภูเขาจางๆนั้นมั๊ยยยย ฟูจิซัง!!! เองจ้า

- พิพิธภัณฑ์ Earth Quake Museum + Duty Free ( ไม่มีรูปนะคะ)

- ทานอาหารกลางวัน มี สุกี้ ข้าว อุด้ง ปลาทอด



- ต่อด้วย เดินทางไปวัด Sensoji ย่าน Asakusa (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง พี่ไกด์เราก็อธิบายเกี่ยวกับวัดนนี้ไปเรื่อยๆ และนัดกันก่อนแยกย้าย)

- ใช้เวลาที่ วัด Sensoji 40 นาที









- เดินทางไปต่อกันที่ ชินจูกุ (ระหว่างทาง พี่ไกด์รักได้แจกแผนที่ขุมทรัพย์ ชินจูกุมาอย่างละเอียดเลยคะ ร้านอะไรอยู่ตรงไหน เดินไปอย่างไร)+ เลือกอาหารเย็นทานตามอัธยาศัย ใช้เวลาอยู่กันที่นี่ 2 ชั่วโมงครึ่ง









- คนญี่ปุ่นเป็นระเบียบมากเลยค่ะ เข้าแถวตลอด เช่น ซื้อของ ดูConcert ขนาดเป็นเวทีสาธารณะนะคะ ยังต่อคิวเป็นระเบียบมากๆ
สูบบุหรี่ในเขตสูบก็ดูเป็นระเบียบไปหมด (มีการตีเส้นที่พื้น ว่าตรงนี้คือเขตสูบบุหรี่ แล้วคนแน่นมาก ไหล่ชิดๆกันทุกคนเลยค่ะ ไม่มีใครยืนเอาเท้ายื่นออกมานอกเส้นเลยค่ะ)
ทุกอย่างเป็นระเบียบมากค่ะ

- จาก ชินจูกุ เดินทางไปโรงแรม ANA Crown Plaza Narita Hotel ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

วันที่ 4 – Free Day

- ทานบุฟเฟ่อาหารเช้าที่โรงแรม



- ออกจากโรงแรมตอน 8 โมงเช้า

- ถึง ฮาราจูกุ ตอนประมาน 9 โมง 20

- พอไปถึง ณ เวลานั้น ร้านค้ายังเปิดไม่ครบ เราเห็นศาลเจ้าเมจิที่อยู่ใกล้ๆก็เลยเข้าไป

- ซึ่งระหว่างทางเดินเข้าไปคือดีต่อใจมากๆๆๆ ทางเข้าจะเป็นเสาไม้ต้นใหญ่ ตลอดทางเดินไปศาลเจ้าคือร่มรื่นมาก อากาศเย็นๆ แบบนี้มันฟินจริงๆค่ะ (เท่าที่สังเกตดู คือชาวต่างชาติเยอะมาก)











- เดินไปเรื่อยๆ สักพักก็ถึงศาลเจ้า มีบ่อน้ำให้ล้างมือ ทำความสะอาดกันก่อน แล้วจึงไปโยนเหรียญ 5 เยน แล้วอธิฐานขอพรกันค่ะ

- ตอนนี้ก็ไปเดินฮาราจูกุกันต่อเลยคะ ทางเข้าคือคนเยอะ คึกคักดีค่ะ







- (พอเข้าไปจะมีร้านขายเครื่องสำอางอยู่ทางซ้ายมือ เราว่าร้านนี้ถูกที่สุดเลยค่ะ แต่ของไม่ได้เยอะมากนะคะ แต่ราคาถือว่าถูกที่สุดเท่าที่เข้ามาเลยค่ะ KitKat ประมาณ 179 Yen, ผงชาเขียว 80 กรัม ประมาณ 689 Yen, Whip Foam หมดค่ะ)

- เราใช้เวลาที่ฮาราจูกุ ถึงบ่าย 3 แล้วจึงไปต่อกันที่ Odaiba (Odaiba เป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นจากขยะ เนื่องจากญี่ปุ่นไม่สามารถขยายเมืองได้ เค้าจึงสร้างเกาะขึ้นมาค่ะ โดยการถม ขยะ ดิน ทราย)

- และแล้ว เราก็มาถึง Odaiba กันแล้วค่ะ

- เราใช้เวลาที่ Odaiba ถึงประมาณ 18:30 ค่ะ

- ที่ Odaiba มีห้างหลักๆอยู่ 2 ห้าง, กันดั้ม, Rainbow Bridge, เทพีเสรีภาพ และ Red Wheel Ferris (ชิงช้าสวรรค์)



- ด้านหน้าของห้าง Diver City มีหุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าตัวจริงตั้งอยู่ ส่วนด้านในของห้างก็เป็นเหมือนห้างทั่วๆไป มีหลายแบรนด์ให้ได้ช็อปกันค่ะ

- ด้านล่างของห้างจะเป็น Food Court มีอาหารญี่ปุ่นหลากหลายค่ะ เช่น ทาโกะยากิ ยากิโซบะ ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวหน้าเทมปุระ ไก่ทอด เครป ไอศกรีม และ Supermarket เล็กๆ ค่ะ

- Food Court ของที่นี่ เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ให้นำถาดไปเก็บที่ร้านนั้นๆ ตรงกลางมีน้ำเปล่าให้ดื่มฟรี และ มีก๊อกน้ำให้ล้างมือด้วยค่ะ



- ทางเดินไปดู เทพีเสรีภาพ และ Rainbow Bridge ก็บรรยากาศดีมากเลยค่ะ





- กลับโรงแรม – นอนที่ ANA Crown Plaza Narita Hotel เหมือนเดิมค่ะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นกับทัวร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่