เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนใกล้จะลาโรงครับ เลยมาชวนช้าไปหน่อย
หนังเหลือรอบฉายน้อยแล้ว เผื่อใครอยากดูก่อนออกจากโรง แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ขออนุญาตมาชวนดูครับ
ความรู้สึกส่วนตัวก่อนดูหนัง :
บอกตรงๆว่าไม่เคยตั้งใจจะดูเรื่องนี้เลย เห็นโฆษณาแล้วเฉยมาก เบื่อหน้าซันนี่ เบื่อหน้าเผือก
แต่แอบสะดุดกับหน้าตาน้องดิว(น้องหลิน มชณต)ที่เป็นนางเอกอยู่บ้าง
สำหรับชายหนุ่มอย่างเรา ต่อให้หนังแย่ แต่ถ้านางเอกน่ารักๆ ก็คงพอทำให้หนังดูสบายตาได้อยู่บ้าง
วันนี้เลยตัดสินใจดูครับ เพราะตั๋วราคาถูก อยากดูหนังเบาสมอง และไม่มีเรื่องอื่นจะดูแล้วครับ (ขอโทษทีมงานครับ แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ)
ความรู้สึกหลังจากดู :
ให้ตายเหอะ บทดีกว่าที่คิด เรียกว่าเป็น My Sassy Girl เวอร์ชั่นไทยได้เลย
อย่างแรกที่ชอบคือจังหวะหนังครับ เป็นหนังที่มีจังหวะเนิบ ไม่รีบร้อน ไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย
มันเหมือนอารมณ์ตอนเราอกหักแล้วทุกอย่างมันช้าไปหมด
ผมได้อ่านรีวิวในพันทิปนี่แหละครับ ที่บอกว่ามันน่าเบื่อ เรื่อยเปื่อย ผมเลยตัดสินใจไม่ดูในตอนแรก
นี่เป็นบทเรียนเลยว่าอย่าเชื่อรีวิวคนอื่นทั้งหมด เพราะผมดูแล้วชอบจังหวะหนังมาก
ผมไม่ชอบอะไรโป๊งชึ่ง ตึ่งโป๊ะ ตุ้งแช่ อ๊อดๆ แบบที่หนังไทยยุคหลังๆชอบทำครับ ชอบความนิ่มนวลแบบนี้แหละ
แล้วก็มุกตลกในหนัง ต้องเรียกว่าตลกแบบ Subtle (โทษทีครับ คิดคำไทยไม่ออก) คือตลกแบบนิ่มๆ ไม่โฉ่งฉ่าง ตลกแบบเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะเล่นตลก แต่ฟังแล้วแอบขำคิกๆ เรียกว่าขำแบบคนฉลาดเค้าขำกันครับ

และแน่นอน ส่วนที่ดึงดูดใจผมไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็คือนางเอกนั่นเอง น้องหลิน มชณต น้องช่างสว่างสไว และน่ารักมีสไตล์เหลือเกิน
น้องหลินทำให้ชายหนุ่มอย่างเราหลงรักได้ไม่ต่างจากที่จวน จีฮุนเคยทำไว้ใน My Sassy Girl เมือหลาย(สิบ)ปีก่อนโน้นครับ
จริงๆ ทีมงานคิดผิดที่โปรโมตซันนี่และเผือกมากเกินไป น่าจะขายนางเอกมากกว่านี้หน่อย ผมอาจจะตัดสินใจดูตั้งแต่แรกก็ได้
เพราะว่า ความดีงามส่วนใหญ่ในเรื่อง อยู่ที่นางเอกเลยครับ (ในมุมมองผู้ชายนะ)
แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่า ต่อให้ผมจะเบื่อหน้าซันนี่แหละเผือกยังไง แต่บทพระเอกในเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ซันนี่เล่น ก็คงจะไม่ได้เลยจริงๆ
มันเป็นบทของเขาจริงๆ รวมถึงจิมมี่ เดอะร็อคเก็ตด้วย ถ้าไม่ใช่เผือกเล่น ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันเป็นยุคของเขา (ฮา)
สรุปคือทีมแคสติ้งเก่งมากครับ เลือกนักแสดงได้เหมาะทุกคนเลย (ยกเว้นแอนนา ผมว่ายังเด่นน้อยไปหน่อย ยังไม่สมกับที่ดอนต้องหลงรักหัวปักหัวปำครับ)
ในส่วนของพล็อตหนัง ไม่มีอะไรให้เล่ามากครับ เหมือนที่โปรโมตนั่นแหละ จะเล่าเยอะไปก็กลัวสปอยล์
แต่หนังมันสนุกในรายละเอียด แล้วก็หนังโรแมนติกกว่าที่คิดครับ ไม่ได้ตลกโป๊งชึ่ง ถ้าใครดูไม่จบ อาจจะไม่เก็ทว่าบทมันดียังไง
แต่ผมคิดว่าในระดับของหนังโรแมนติกคอมเมดี้แล้ว ถือว่าเป็นหนังที่เขียนบทได้ดีมาก และทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีครับ ขอชื่นชมคนเขียนบท
อยากดูหนังไทยที่บทดีๆแบบนี้อีกครับ เพราะเบื่อหนังตุ้งแช่ ที่ถ่ายไปด้นสดไปแบบที่เห็นๆกันในช่วงหลัง
วันนี้เลยสละเวลามาเขียนชมเสียหน่อยครับ เผื่อใครที่ยังไม่ได้ดู จะได้ลองให้โอกาสหนังเรื่องนี้อีกสักทีเหมือนผมครับ
ปล. ไม่ใช่หน้าม้าครับ.. ไม่สิ ก็เป็นหน้าม้าแหละ แต่เค้าไม่ได้จ้างครับ ฮ่าๆ
เรื่องนี้ยังพอมีรอบฉายนะครับ ลองไปดูกันครับ ผมว่าสนุกและหนังดีกว่าที่คิดครับ
[CR] รีวิว Mr.Hurt มือวางอันดับเจ็บ : หนังดีที่อยากให้ดูกันก่อนออกโรงครับ
เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนใกล้จะลาโรงครับ เลยมาชวนช้าไปหน่อย
หนังเหลือรอบฉายน้อยแล้ว เผื่อใครอยากดูก่อนออกจากโรง แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ขออนุญาตมาชวนดูครับ
ความรู้สึกส่วนตัวก่อนดูหนัง :
บอกตรงๆว่าไม่เคยตั้งใจจะดูเรื่องนี้เลย เห็นโฆษณาแล้วเฉยมาก เบื่อหน้าซันนี่ เบื่อหน้าเผือก
แต่แอบสะดุดกับหน้าตาน้องดิว(น้องหลิน มชณต)ที่เป็นนางเอกอยู่บ้าง
สำหรับชายหนุ่มอย่างเรา ต่อให้หนังแย่ แต่ถ้านางเอกน่ารักๆ ก็คงพอทำให้หนังดูสบายตาได้อยู่บ้าง
วันนี้เลยตัดสินใจดูครับ เพราะตั๋วราคาถูก อยากดูหนังเบาสมอง และไม่มีเรื่องอื่นจะดูแล้วครับ (ขอโทษทีมงานครับ แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ)
ความรู้สึกหลังจากดู :
ให้ตายเหอะ บทดีกว่าที่คิด เรียกว่าเป็น My Sassy Girl เวอร์ชั่นไทยได้เลย
อย่างแรกที่ชอบคือจังหวะหนังครับ เป็นหนังที่มีจังหวะเนิบ ไม่รีบร้อน ไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย
มันเหมือนอารมณ์ตอนเราอกหักแล้วทุกอย่างมันช้าไปหมด
ผมได้อ่านรีวิวในพันทิปนี่แหละครับ ที่บอกว่ามันน่าเบื่อ เรื่อยเปื่อย ผมเลยตัดสินใจไม่ดูในตอนแรก
นี่เป็นบทเรียนเลยว่าอย่าเชื่อรีวิวคนอื่นทั้งหมด เพราะผมดูแล้วชอบจังหวะหนังมาก
ผมไม่ชอบอะไรโป๊งชึ่ง ตึ่งโป๊ะ ตุ้งแช่ อ๊อดๆ แบบที่หนังไทยยุคหลังๆชอบทำครับ ชอบความนิ่มนวลแบบนี้แหละ
แล้วก็มุกตลกในหนัง ต้องเรียกว่าตลกแบบ Subtle (โทษทีครับ คิดคำไทยไม่ออก) คือตลกแบบนิ่มๆ ไม่โฉ่งฉ่าง ตลกแบบเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะเล่นตลก แต่ฟังแล้วแอบขำคิกๆ เรียกว่าขำแบบคนฉลาดเค้าขำกันครับ
และแน่นอน ส่วนที่ดึงดูดใจผมไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็คือนางเอกนั่นเอง น้องหลิน มชณต น้องช่างสว่างสไว และน่ารักมีสไตล์เหลือเกิน
น้องหลินทำให้ชายหนุ่มอย่างเราหลงรักได้ไม่ต่างจากที่จวน จีฮุนเคยทำไว้ใน My Sassy Girl เมือหลาย(สิบ)ปีก่อนโน้นครับ
จริงๆ ทีมงานคิดผิดที่โปรโมตซันนี่และเผือกมากเกินไป น่าจะขายนางเอกมากกว่านี้หน่อย ผมอาจจะตัดสินใจดูตั้งแต่แรกก็ได้
เพราะว่า ความดีงามส่วนใหญ่ในเรื่อง อยู่ที่นางเอกเลยครับ (ในมุมมองผู้ชายนะ)
แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่า ต่อให้ผมจะเบื่อหน้าซันนี่แหละเผือกยังไง แต่บทพระเอกในเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ซันนี่เล่น ก็คงจะไม่ได้เลยจริงๆ
มันเป็นบทของเขาจริงๆ รวมถึงจิมมี่ เดอะร็อคเก็ตด้วย ถ้าไม่ใช่เผือกเล่น ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันเป็นยุคของเขา (ฮา)
สรุปคือทีมแคสติ้งเก่งมากครับ เลือกนักแสดงได้เหมาะทุกคนเลย (ยกเว้นแอนนา ผมว่ายังเด่นน้อยไปหน่อย ยังไม่สมกับที่ดอนต้องหลงรักหัวปักหัวปำครับ)
ในส่วนของพล็อตหนัง ไม่มีอะไรให้เล่ามากครับ เหมือนที่โปรโมตนั่นแหละ จะเล่าเยอะไปก็กลัวสปอยล์
แต่หนังมันสนุกในรายละเอียด แล้วก็หนังโรแมนติกกว่าที่คิดครับ ไม่ได้ตลกโป๊งชึ่ง ถ้าใครดูไม่จบ อาจจะไม่เก็ทว่าบทมันดียังไง
แต่ผมคิดว่าในระดับของหนังโรแมนติกคอมเมดี้แล้ว ถือว่าเป็นหนังที่เขียนบทได้ดีมาก และทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีครับ ขอชื่นชมคนเขียนบท
อยากดูหนังไทยที่บทดีๆแบบนี้อีกครับ เพราะเบื่อหนังตุ้งแช่ ที่ถ่ายไปด้นสดไปแบบที่เห็นๆกันในช่วงหลัง
วันนี้เลยสละเวลามาเขียนชมเสียหน่อยครับ เผื่อใครที่ยังไม่ได้ดู จะได้ลองให้โอกาสหนังเรื่องนี้อีกสักทีเหมือนผมครับ
ปล. ไม่ใช่หน้าม้าครับ.. ไม่สิ ก็เป็นหน้าม้าแหละ แต่เค้าไม่ได้จ้างครับ ฮ่าๆ
เรื่องนี้ยังพอมีรอบฉายนะครับ ลองไปดูกันครับ ผมว่าสนุกและหนังดีกว่าที่คิดครับ