เอาเรื่องง่ายๆ ก่อน

เรื่อง นิกายในประเทศไทย
อุ๋ย อธิบายเรื่องประวัติศาสนาพุทธ เรื่อง เถรวาท มหายาน หินยาน  ที่เป็นเรื่องพื้นๆ ที่รู้กันทั่วไป
อันนี้ ไม่แปลก
แต่ อุ๋ย ไม่ยัก วิจารณ์ว่า ทำไม และ ผลที่เกิดขึ้นจากการตั้ง ธรรมยุติ
ตั้งทำไม
เป็นเรื่อง ถูก หรือผิด ที่ตั้งนิกายขึ้นมาใหม่

สิ่งที่อุ๋ยพูดเรื่อง ประพฤติกรรมของพระไทย

เรื่องนี้ คนไทยวิจารณ์มานานแล้ว เป็นเรื่องทั่วไปที่รับรู้เหมือนกัน
เพียงแต่ที่ผ่านมา สื่อ ไม่อิสระ เท่าสมัยนี้ ที่เป็นอินเทอร์เน็ต
ดังนั้น หากคนที่มีอายุ และติดตามเรื่องนี้มานาน เขาไม่เห็นแปลก
เป็นเรื่องที่คนพุทธพยายามชะล้างมาทุกยุค

สิ่งที่อยากถามคือ สมีโล้นสุวิทย์
อุ๋ย ว่า เป็นปัญหาศาสนา ที่อันตรายไหม
แน่จริง อุ๋ย วิจารย์ สมีสุวิทย์หน่อย

คือ ในช่วง สองปีที่ผ่านมา
อุ๋ยอยู่ที่ไหน
ทั้งๆ ที่สองปีที่ผ่านมา โลกอินเทอร์เน็ต FB Line Youtube ก็แพร่หลายอยู่
ทำไม อุ๋ย ไม่วิพากษ์ สมีสุวิทย์บ้าง
สองสามปีที่ผ่านมา มีอะไรทิ่มคออยู่หรือ

เอาแค่ พื้นๆ การที่อุ๋ย เข้าร่วมกับ กปปส
คือ กลุ่มเดียวกับ สมีสุวิทย์

ปิดถนน วางกรวย มือปืนป็อบคอร์น
ขัดขวาง เสรีภาพคนจะเลือกตั้ง จับคนถ่วงน้ำบางปะกง ยึดทำเนียบ
ปิดกระทรวงการคลัง ฯลฯ

เหล่านี้ สาธุชน ที่ใจเป็นพุทธ เห็นสว่าง ย่อมเข้าใจดีว่า
เป็นบาป เป็นความชั่วร้าย
แต่ อุ๋ย ก็ยังไปเข้าร่วมด้วย กับ กปปส
ให้การสนับสนุน

ท่าที การกระทำ มันย้อนแยงกับ “สิ่งที่พูดออกมา”


ผ่านโลกมาพอสมควร เห็นมามากแล้ว
ที่ อ้าปาก พร่ำพูดแต่สิ่งดีๆ อ้างเหตุผล อ้างธรรมะ
เป็น “ปีศาจคาบคัมภีร์” ดีๆ นี่เอง

ก็อย่างที่ว่า หนังราชสีห์ คลุมร่างหมาจิ้งจอก ไม่มิดฉันใด
การที่ ไปร่วมทำร้ายสังคม ชีวิตผู้คน สนับสนุนการปล้นเสรีภาพของผู้คน ขัดขวามงการเลือกตั้ง
มันเป็นการแพลม โผล่ให้เห็น ว่า ใต้เสื้อนักบุญ ลึกไปในความคิด ในใจ เป็นซาตาน ใช่หรือไม่

ดังนั้น ป่วยการ ที่จะเชื่อว่าเป็นคนดี
การพูดสวยหรู แต่งคำ สาธยาย ปาฐกฯ หรือจะออก FB
มันไม่ยาก สำหรับคนพูดเก่ง

การตัดสินคน ด้วย บทความ ตัวหนังสือ คำพูดจ้อกลางที่สาธารณะ
มันใช้เป็นเครื่องวัดไม่ได้หรอก ว่า ดีจริงไหม

โดยเฉพาะ วิธีการจัดการ ของ “กลอุบาย ที่กลุ่มคนพวกนี้ทำมา ตั้งแต่อดีต”
เริ่มตั้งแต่ เป็น พันธมิตร แมลงสาป สลิ่ม กปปส
ซึ่ง ผู้ที่นำมาใช้เป็นคนแรก ในกลียุคชั้นหลังนี้ คือ สนธิ ลิ้ม

กลอุบาย ง่ายๆ คือ
“การเริ่มต้น-- ชักนำ-- นำเสนอ--- ด้วย สิ่งที่ เชื่อๆ กันต่อๆ มาในอดีต  ว่า ใช่ ถูกต้อง เป็นจริง เป็นสัจธรรม”
เพื่อให้คนทั่วไปเห็น และคล้อยตามว่า-----เออ ! ใช่ว่ะ ไอ้นี่ของจริง ---- มันพูดเรื่องจริง

จากนั้น สิ่งที่ตามมา หลังจากทำให้คนเชื่อแล้ว คือ การใส่ “สิ่งที่ตัวต้องการลงไป”

วิธีการอย่างนี้ จะได้ผลดียิ่ง กับสังคม อุปทานหมู๋

============
อุ๋ย

ไหนลองแย็ป ๆ หน่อย
เรื่องสมีสุวิทย์ กับ กรวยมหากาฬ
เอาขี้ราดพระบวชใหม่
ทำอาหารด้วยตัวเอง
ที่ป่าสงวน

จะคอยติดตามนะ
===============

หึหึ

การที่จะไปกล่าวว่า ใครสอนผิด สอนถูก
การที่จะไปว่า ใครผิดไปจากพระพุทธเจ้าสอน

โดยส่วนตัว คิดว่า นี่มันเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละคน

เพราะเอาเข้าจริง ใครจะรู้ว่า “ของจริงเป็นอย่างไร”

จะเชื่อตาม ที่สังคายนากันมาสองสามครั้ง แล้วงั้นหรือ ?

จะเชื่อ ตามที่อ้างว่า มีพระนักบวชที่แตกฉาน อย่าง ปยุตโต ให้ความเห็นอย่างนั้นหรือ ?
(แล้วเชื่อได้จริงแท้ อย่างไร ว่า ปยุตโดต คิด เขียน นั้น จริงแท้ ?)

เชื่อได้จริงหรือ ว่า ที่เอามาอ้างๆ นั้น มาจากพระพุทธเจ้าตรัสไว้ทั้งหมด ?
ไม่มีคนมา ต่อ เติม ขยายความใหม่ ?


วันก่อน ไปวัดแขก สีลม
เห็นแล้ว ทึ่ง
เพราะ หัวแถว ในเทวาลัย คือ ปฏิมากรรม พระพุทธเจ้า
ที่นักบวชฮินดู วางให้คนกราบไหว้ด้วย

เดินออกมาจากวัดแขก ก็นึกว่า คำสอนที่มีมา แต่ละศาสนา
ตกลง มีการปลอม ปน กันสักเท่าไร ?


ส่วนตัว จึงเชื่อ เพียงด้วยสามัญสำนึก ของความเป็น “คน-มนุษย์”
ในการไม่ทำชั่ว พื้นฐานง่ายๆ

(ดังนั้น พอบอกว่า อุ๋ย คือ คนร่วมม็อบ กปปส
กลุ่มคนผู้ขัดขวาง อิสระ เสรีภาพ ของคนอื่นแล้ว
จึงทำให้น้ำหนักค่อนข้างเชื่อว่า หนังราชสีห์ คลุมสุนัขจิ้งจอก ---ไม่มิด
ฉันใด...ก็ฉันเพลง....อาเมน)