เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานครับ พาลูกชายไปบ้านเพื่อน แล้วโดนสุนัขบ้านเพื่อนกัดที่ท้อง เข้าใจว่างับแบบขู่ ประมาณสุนัขอารมณ์ไม่ดี แผลไม่ได้ลึกมา แต่ก็เป็นรอยจมเขี้ยวครับ แต่สำหรับคนเป็นพ่อ แผลลูกจะเล็กใหญ่ก็เจ็บหัวใจหมดนะครับ
ล้างแผลเบื้องต้นเรียบร้อย ผมรีบขับรถกลับจาก บางบัวทอง เพื่อมาหาหมอ รพ. ประจำของลูกชาย ฝากท้องที่นี่ ทำคลอดที่นี่ วัคซีนตลอดที่นี่ (รพ. ศิ.. ย่านศรีนครินทร์) ขับรถมาใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง อารมณ์ตอนนั้นคืออยากถึงหมอให้เร็วที่สุด และเถียงกับภรรยามาตลอดทาง ว่าล้างแผล ทำแผล หรืออะไรสักอย่างที่ รพ. ใกล้ๆ หรือคลีนิคก่อนดีมั้ย แต่แฟนบอกว่า หมอเค้าจะนัดดูแผลต่อเนื่องอีก ซึ่งถ้าไกลบ้าน เราจะไม่สะดวก
ถึง รพ. แผนกฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ถามชื่อ ถามรายละเอียดเพื่อออกเอกสารรอพบหมอ อันนี้เข้าใจได้นะครับ แต่ที่ไม่เข้าใจ เราบอกเจ้าหน้าที่ว่าเด็กโดนสุนัขกัดที่ท้อง แต่ไม่มีการขอดูแผล แต่กลับถามว่าขณะที่กัดน้องทำอะไรอยู่ ? แล้วก็ให้ไปนั่งรอ
นั่งรอพบหมอครบ 1 ชั่วโมง ผมตัดสินใจเดินไปถามพยาบาลว่าเหลืออีกกี่คิว คำตอบที่ได้คือ "คิวถัดไปค่ะ.." ความหวังเริ่มมาครับ ในนาทีนั้น อะไรก็ได้ ขอล้างแผล เจอหมอ หรือ อะไรสักที
นั่งรอต่อไป อีก 40 นาที... ผมเดินไปถามคนเดิมอีกรอบ ได้คำตอบว่า "คุณหมอไม่อยู่ค่ะ มีเคสฉุกเฉิน" เท่านั้นล่ะครับ ยอมรับเลยว่า โมโหมาก น้องโดนสุนัขกัดมา ยังไม่มีแม้แต่จะขอดูแผล เจ็บร้องไห้จนหลับ แผลเลือดซึมๆ จนเลือดแห้ง ผมบอกว่างั้นผมไม่รอแล้ว ชวนภรรยาย้าย รพ.
ขับรถไป รพ. ไทยนครินทร์ ซึ่งระยะทางไม่ได้ไกลกันมาก ลูกชายไปเป็นคนไข้ใหม่ คิดว่านานก็ยอม ขอให้ได้เจอหมอสักที ไปถึงพยาบาลชั่งน้ำหนัก ทำประวัติ ขอดูแผล รอคิว รักษา ล้างแผล ฉีดยา 1 เข็ม ทั้งหมดนี้ ไม่ถึง 20 นาที
ไม่ได้มาอวย หรือโจมตี อะไรนะครับ อันนี้คือเรื่องจริง เจ็บจริง แล้วก็ขอลาจริงๆ กับ รพ. นั้น
หากใคร หรือ ส่วนนึงส่วนใดของ รพ. ศิ.. ย่านศรีนครินทร์ มาอ่านกระทู้นี้ อยากแนะนำดังนี้นะครับ
1. เจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยฉุกเฉิน กรณีบาดเจ็บมา ควรจะถาม หรือขอดูความหนักเบาของแผล ไม่ใช่ถามว่าระหว่างกัดน้องทำอะไรอยู่
2. พยาบาลที่เค้าเตอร์ฉุกเฉิน คือเวลางานของคุณก็จริง แต่คุณต้องทำงานกับคนที่เค้าเดือดร้อนมา เจ็บมา การหยอกล้อ คุยเล่นกัน มันส่งผลต่อคำว่า "ฉุกเฉิน" นะครับ
เวลาเราเจ็บ เราต้องการหมอ เราต้องการรักษา ถึงไม่ได้รับการรักษาที่กายในทันที แต่การเอาใจใส่ลูกค้า มันก็ช่วยให้ใจที่เราเจ็บอยู่ บรรเทาลงได้เหมือนกันนะครับ
ขอบคุณ
หัวอกคนเป็นพ่อ กับ รพ. ศิ.. ย่านศรีนครินทร์ และ รพ.ไทยนครินทร์
ล้างแผลเบื้องต้นเรียบร้อย ผมรีบขับรถกลับจาก บางบัวทอง เพื่อมาหาหมอ รพ. ประจำของลูกชาย ฝากท้องที่นี่ ทำคลอดที่นี่ วัคซีนตลอดที่นี่ (รพ. ศิ.. ย่านศรีนครินทร์) ขับรถมาใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง อารมณ์ตอนนั้นคืออยากถึงหมอให้เร็วที่สุด และเถียงกับภรรยามาตลอดทาง ว่าล้างแผล ทำแผล หรืออะไรสักอย่างที่ รพ. ใกล้ๆ หรือคลีนิคก่อนดีมั้ย แต่แฟนบอกว่า หมอเค้าจะนัดดูแผลต่อเนื่องอีก ซึ่งถ้าไกลบ้าน เราจะไม่สะดวก
ถึง รพ. แผนกฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ถามชื่อ ถามรายละเอียดเพื่อออกเอกสารรอพบหมอ อันนี้เข้าใจได้นะครับ แต่ที่ไม่เข้าใจ เราบอกเจ้าหน้าที่ว่าเด็กโดนสุนัขกัดที่ท้อง แต่ไม่มีการขอดูแผล แต่กลับถามว่าขณะที่กัดน้องทำอะไรอยู่ ? แล้วก็ให้ไปนั่งรอ
นั่งรอพบหมอครบ 1 ชั่วโมง ผมตัดสินใจเดินไปถามพยาบาลว่าเหลืออีกกี่คิว คำตอบที่ได้คือ "คิวถัดไปค่ะ.." ความหวังเริ่มมาครับ ในนาทีนั้น อะไรก็ได้ ขอล้างแผล เจอหมอ หรือ อะไรสักที
นั่งรอต่อไป อีก 40 นาที... ผมเดินไปถามคนเดิมอีกรอบ ได้คำตอบว่า "คุณหมอไม่อยู่ค่ะ มีเคสฉุกเฉิน" เท่านั้นล่ะครับ ยอมรับเลยว่า โมโหมาก น้องโดนสุนัขกัดมา ยังไม่มีแม้แต่จะขอดูแผล เจ็บร้องไห้จนหลับ แผลเลือดซึมๆ จนเลือดแห้ง ผมบอกว่างั้นผมไม่รอแล้ว ชวนภรรยาย้าย รพ.
ขับรถไป รพ. ไทยนครินทร์ ซึ่งระยะทางไม่ได้ไกลกันมาก ลูกชายไปเป็นคนไข้ใหม่ คิดว่านานก็ยอม ขอให้ได้เจอหมอสักที ไปถึงพยาบาลชั่งน้ำหนัก ทำประวัติ ขอดูแผล รอคิว รักษา ล้างแผล ฉีดยา 1 เข็ม ทั้งหมดนี้ ไม่ถึง 20 นาที
ไม่ได้มาอวย หรือโจมตี อะไรนะครับ อันนี้คือเรื่องจริง เจ็บจริง แล้วก็ขอลาจริงๆ กับ รพ. นั้น
หากใคร หรือ ส่วนนึงส่วนใดของ รพ. ศิ.. ย่านศรีนครินทร์ มาอ่านกระทู้นี้ อยากแนะนำดังนี้นะครับ
1. เจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยฉุกเฉิน กรณีบาดเจ็บมา ควรจะถาม หรือขอดูความหนักเบาของแผล ไม่ใช่ถามว่าระหว่างกัดน้องทำอะไรอยู่
2. พยาบาลที่เค้าเตอร์ฉุกเฉิน คือเวลางานของคุณก็จริง แต่คุณต้องทำงานกับคนที่เค้าเดือดร้อนมา เจ็บมา การหยอกล้อ คุยเล่นกัน มันส่งผลต่อคำว่า "ฉุกเฉิน" นะครับ
เวลาเราเจ็บ เราต้องการหมอ เราต้องการรักษา ถึงไม่ได้รับการรักษาที่กายในทันที แต่การเอาใจใส่ลูกค้า มันก็ช่วยให้ใจที่เราเจ็บอยู่ บรรเทาลงได้เหมือนกันนะครับ
ขอบคุณ