สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องที่เห็นว่าไม่ควรปล่อยผ่านมาเล่าสู่กันฟังอีกเรื่องหนึ่งครับ
เกิดขึ้นบนรถเมล์อีกแล้ว เดินทางบ่อย พอเกิดเหตุอะไรก็มักจะได้นั่งคิดทบทวน กลั่นกรองมาเล่าต่อกันนี่แหละครับ
พอดีวันนี้ได้นั่งรถเมล์สายที่คนไม่ค่อยขึ้น จึงมีที่ว่างพอให้ผมได้นั่งอย่างสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เบาะข้างๆ และอีกหลายๆ เบาะก็ว่างอย่างน่าเลือกสรรให้ได้เบาะที่ถูกใจ ถูกจริตกับก้นมากมายทีเดียว
ผมจ่ายเงินเสร็จสรรพ ผงกหัวขอบคุณกระปี๋อย่างสุภาพ
หลังจากนั้นเธอก็ไปเก็บค่าโดยสารจากคนอื่นๆ อีกสามสี่คนที่ขึ้นมาพร้อมกัน และปิดท้ายด้วยการมานั่งเบาะข้างผมที่ว่างอยู่
โดยปรกติแล้วผมเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่คงชอบที่จะนั่งคนเดียวมากกว่าหากรถมันโล่ง ผมก็เป็นอย่างนั้นครับ เหตุผลของผมก็คือทำอะไรได้สะดวกดี คุยแชท เล่นเฟส หรือนั่งอย่างไม่เกร็ง ไม่ต้องสนว่าเราต้องเกรงใจคนข้างๆ หรือคอยระวังไม่ให้ไปถูกเนื้อทิ่มตัวเขา ทำนองนั้น
แต่หากมีคนมานั่งข้างๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เราก็จัดการตัวเองซะ ไม่คุยไลน์ในเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่เปิดไลน์ส่วนตัวบ่อยๆ หากไม่จำเป็น ไม่เปิดรูปเพื่อน รูปญาติ รูปตัวเองอย่างแผ่หราให้คนอื่นเห็น ... ไม่รู้สิ ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เก็บไว้เป็นส่วนตัวได้ก็ดี
แต่ถึงกระนั้น!!
วันนี้ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่สาดส่องมายังหน้าจอของผมประหนึ่งสปอร์ตไลท์สาดไฟใส่ซุปตาร์กลางงานอีเวนต์ ผมพยายามสังเกตจนมั่นใจว่าวิถีสายตาคุณป้ากระปี๋ไม่ได้เป็นอื่น
นางน่าจะมองจอผมจริงๆ นานและต่อเนื่องด้วย
ได้ครับ ในเมื่อผมรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว สิ่งที่ผมทำคือเปิดไลน์ส่วนตัวของเพื่อนที่สนิทมากๆ ขึ้นมา คุยให้ออกรสออกชาติ โดยบทสนทนาคร่าวๆ จะเป็นงี้ครับ
"เมิง มีคนแอบมองหน้าจอกรูหรือเปล่าก็ไม่รู้"
ถ้านางไม่ได้มอง ก็จะไม่มีอะไรเสียหาย
แต่ถ้านางมอง นางก็จะรู้ตัวว่าผมรู้ตัวแล้ว
ถ้านางโวยวาย ผมก็จะถามไปว่ารู้ได้อย่างไรว่าผมพิมพ์งี้ ??
จากนั้นไม่ถึงสามป้าย นางก็ลุกเดินจากไปอย่างสงบ
ผมไม่ได้มั่นใจ 100% หรอกครับ ว่าเขามองจริงหรือเปล่า
วิธีผมมันอาจจะแย่ เหมือนไปตีตราแล้วว่าเขามอง แต่นั่นแหละครับ มองอีกมุมคือสิ่งที่เกิดขึ้นคือแค่ผมตีตราเขา ถ้าเขาไม่ได้ทำจริงก็ไม่ได้เกิดผลที่มันร้ายแรงอะไรไปมากกว่านั้น
ฝากถึงคนที่ชอบมองหน้าจอคนอื่น อย่าทำเลยครับ คนที่โดนแอบมองเค้าไม่ได้รู้สึกดีหรอก
ส่วนกรณีที่แบบเผลอไปเห็น อันนั้นก็พออภัย แค่อย่ามองต่อเท่านั้น ไม่ใช่ไปจ้องอย่างกะจะล้วงความลับระดับชาติจากมือถือคนนั่งข้างๆ
//กลับมาที่ปัจจุบัน
เมื่อถึงที่หมาย ผมลุกไปกดและรอลงเป็นคนแรก แต่เผอิญประตูหลังมันเสีย กระปี๋ก็เลยจำเป็นที่จ้องต้องป่าวประกาศให้ผมทราบว่าให้ลงประตูหน้าแทน
แต่ใยน้ำเสียงช่างไม่เป็นมิตร ขุ่นพี่หงุดหงิดอันใดมาโปรดบอกผมเถิด
แล้วผมก็ลงไป
(ชนะ)
"อย่ามาเสียมารยาทแอบมองหน้าจอผมนะ คุณกระปี๋!!"
เกิดขึ้นบนรถเมล์อีกแล้ว เดินทางบ่อย พอเกิดเหตุอะไรก็มักจะได้นั่งคิดทบทวน กลั่นกรองมาเล่าต่อกันนี่แหละครับ
พอดีวันนี้ได้นั่งรถเมล์สายที่คนไม่ค่อยขึ้น จึงมีที่ว่างพอให้ผมได้นั่งอย่างสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เบาะข้างๆ และอีกหลายๆ เบาะก็ว่างอย่างน่าเลือกสรรให้ได้เบาะที่ถูกใจ ถูกจริตกับก้นมากมายทีเดียว
ผมจ่ายเงินเสร็จสรรพ ผงกหัวขอบคุณกระปี๋อย่างสุภาพ
หลังจากนั้นเธอก็ไปเก็บค่าโดยสารจากคนอื่นๆ อีกสามสี่คนที่ขึ้นมาพร้อมกัน และปิดท้ายด้วยการมานั่งเบาะข้างผมที่ว่างอยู่
โดยปรกติแล้วผมเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่คงชอบที่จะนั่งคนเดียวมากกว่าหากรถมันโล่ง ผมก็เป็นอย่างนั้นครับ เหตุผลของผมก็คือทำอะไรได้สะดวกดี คุยแชท เล่นเฟส หรือนั่งอย่างไม่เกร็ง ไม่ต้องสนว่าเราต้องเกรงใจคนข้างๆ หรือคอยระวังไม่ให้ไปถูกเนื้อทิ่มตัวเขา ทำนองนั้น
แต่หากมีคนมานั่งข้างๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เราก็จัดการตัวเองซะ ไม่คุยไลน์ในเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่เปิดไลน์ส่วนตัวบ่อยๆ หากไม่จำเป็น ไม่เปิดรูปเพื่อน รูปญาติ รูปตัวเองอย่างแผ่หราให้คนอื่นเห็น ... ไม่รู้สิ ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เก็บไว้เป็นส่วนตัวได้ก็ดี
แต่ถึงกระนั้น!!
วันนี้ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่สาดส่องมายังหน้าจอของผมประหนึ่งสปอร์ตไลท์สาดไฟใส่ซุปตาร์กลางงานอีเวนต์ ผมพยายามสังเกตจนมั่นใจว่าวิถีสายตาคุณป้ากระปี๋ไม่ได้เป็นอื่น
นางน่าจะมองจอผมจริงๆ นานและต่อเนื่องด้วย
ได้ครับ ในเมื่อผมรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว สิ่งที่ผมทำคือเปิดไลน์ส่วนตัวของเพื่อนที่สนิทมากๆ ขึ้นมา คุยให้ออกรสออกชาติ โดยบทสนทนาคร่าวๆ จะเป็นงี้ครับ
"เมิง มีคนแอบมองหน้าจอกรูหรือเปล่าก็ไม่รู้"
ถ้านางไม่ได้มอง ก็จะไม่มีอะไรเสียหาย
แต่ถ้านางมอง นางก็จะรู้ตัวว่าผมรู้ตัวแล้ว
ถ้านางโวยวาย ผมก็จะถามไปว่ารู้ได้อย่างไรว่าผมพิมพ์งี้ ??
จากนั้นไม่ถึงสามป้าย นางก็ลุกเดินจากไปอย่างสงบ
ผมไม่ได้มั่นใจ 100% หรอกครับ ว่าเขามองจริงหรือเปล่า
วิธีผมมันอาจจะแย่ เหมือนไปตีตราแล้วว่าเขามอง แต่นั่นแหละครับ มองอีกมุมคือสิ่งที่เกิดขึ้นคือแค่ผมตีตราเขา ถ้าเขาไม่ได้ทำจริงก็ไม่ได้เกิดผลที่มันร้ายแรงอะไรไปมากกว่านั้น
ฝากถึงคนที่ชอบมองหน้าจอคนอื่น อย่าทำเลยครับ คนที่โดนแอบมองเค้าไม่ได้รู้สึกดีหรอก
ส่วนกรณีที่แบบเผลอไปเห็น อันนั้นก็พออภัย แค่อย่ามองต่อเท่านั้น ไม่ใช่ไปจ้องอย่างกะจะล้วงความลับระดับชาติจากมือถือคนนั่งข้างๆ
//กลับมาที่ปัจจุบัน
เมื่อถึงที่หมาย ผมลุกไปกดและรอลงเป็นคนแรก แต่เผอิญประตูหลังมันเสีย กระปี๋ก็เลยจำเป็นที่จ้องต้องป่าวประกาศให้ผมทราบว่าให้ลงประตูหน้าแทน
แต่ใยน้ำเสียงช่างไม่เป็นมิตร ขุ่นพี่หงุดหงิดอันใดมาโปรดบอกผมเถิด
แล้วผมก็ลงไป
(ชนะ)