เมื่อฉันหลวมตัวเข้าไปอยู่ในธุรกิจขายตรง

สวัสดีคะ ขอเริ่มก่อนเลยว่า จขกท.นั้นเป็นนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ครอบครัวอยู่ในระดับฐานะปานกลาง

เมื่อประมาณไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปเดินที่ตลาดแห่งหนึ่งที่วัยรุ่นนิยมไปพอสมควร ระหว่างทางเจอบูธที่รับสมัคร พนักงาน PC
เกี่ยวกับขายครีมและโปรโมทสินค้า เพราะความอยากมีรายได้ช่วงปิดเทอม เลยไปสมัคร และทางบูธให้ไปแคสงานในวันต่อมา พอไปถึงสถานที่
ปรากฎว่ามีคนที่ไปแคสงานเยอะมาก ก็ได้แต่คิดว่าเราจะได้ไหม แต่ด้วยความที่แต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่และดูมีบุคลิกภาพดี พูดเก่ง พี่เข้าเลยให้เราขึ้นไปชั้นบนเพื่ออบรบ เริ่มแรกก็อบรมเกี่ยวกับขายครีม พูดไปสักพักเข้าเรื่องหารายได้เสริม เราก็พอรู้แล้วและว่าขายตรง เรื่องราวประมาณว่า ถ้าเราสมัครเราจะทำงานหรือไม่ทำก็ได้ เราก็ได้เงินในส่วนแบ่งของทีม 25 เปอร์เซ็น แต่ถ้าเราขายครีมออกนั้นเราจะได้เงิน 200 ต่อเซ็ท นี่คือของส่วนตัว และครีมแบรนด์นี้ ขายง่ายมีคุณภาพ มีบูธขายครีมให้ลงพื้นที่ ในใจก็คิดเลยว่า แบบนี้ก็ขายง่ายสิ เริ่มน่าสนใจ พอลงมาพี่ผู้ใหญ่ก็เข้ามาประกบและชวนทำธุรกิจ พูดและดูแลเราอย่างดี แต่มีข้อแม้ห้ามปรึกษาคนที่บ้านให้เราตัดสินใจเองก่อน ด้วยความที่ไม่ทันคนอื่นเขาและไม่เคยรู้จักธุรกิจขายตรง บวกกับทางบริษัทพูดว่า ตอนที่พี่จะลงทุนพี่ก็เอาทองไปเข้าโรงเย็นนะและพี่ก็ได้ทุนคืนภายใน 1 เดือน เลยยอมตัดสินใจโทรไปขอเงินที่บ้านค่าสมัครสมาชิกและขายทองตัวเองสองสลึง พร้อมเงินเก็บส่วนตัวจำนวนนึงมาลงทุน ในราคาหลักหมื่นอัพ และใช่คะ เขาให้เริ่มงานในวันต่อมา พอมาถึงเขาให้เราขึ้นไปฟังอีกรอบ ประหนึ่งว่าเป็นหน้าม้า และให้กลับบ้าน และวันต่อมาให้มารับแขกที่เข้ามาให้มาแนะนำสินค้า และพาขึ้นไปชั้นบนเหมือนวันแรกเราโดน และใช่คะ เราเทคแคร์ดูแลแขก และเราต้องเชิญชวนแขกมาทำธุรกิจเหมือนเรา เวลาแขกถามว่า ทำมานานรึยัง เราก็ตอบว่า ทำมาสักพักแล้ว ซึ่งที่จริงไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ... ด้วยการแต่งตัวของเราเองและของใช้เสื้อผ้ากระเป๋า โทรศัพท์มือถือ ล้วนแต่เป็นของแบรนด์และมีราคาค่อนข้างแพง ยิ่งเพิ่มความหน้าเชื่อถือยิ่งขึ้น เราเลยพูดอีกว่า เห็นโทรศัพท์พี่ไหม เห็นเสื้อผ้าพี่ไหม ของแบรนด์ทั้งนั้นเลยนะ พี่ได้มาเพราะที่นี่ทั้งนั้น ค่าเทอมพี่ พี่ก็หาเงินจ่ายเองนะ (ความจริงเงินของที่บ้านและของส่วนตัวทั้งนั้น) สรุปคนที่เราเทคแคร์ สมัครเป็นสมาชิกเหมือนเรา ซึ่งเราก็รู้สึกผิดแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้เราก็จะไม่ได้เงินคืน แล้วผู้อ่านคิดว่าได้ไหมคะ ? สรุปคือเราไม่ได้อะไรเลยคะ เพราะความจริงก็คือ 25 เปอร์เซนต์ที่ได้จากทีมนั้นมันไม่ใช่ตัวเงินคะมันเป็นคะแนนสะสมให้เราก้าวขึ้นไปสู่ระดับถัดไป และ 20 เปอร์เซ็นต์ของเรานั้นจะได้แต่เมื่อเราขายครีมในราคาเต็ม และที่เหลือนั้นคือกำไรของเรา แล้วออกบูธละ ก็ได้นิ อาจจะได้ลูกค้าสักหนึ่งคน แต่ขอโทษนะคะบูธขายสินค้ามีแค่ต้นเดือนคะ ที่เหลือเป็นบูธหางาน นี่คือสิ่งที่เรามารู้ที่หลัง ลูกค้าที่เข้ามาในบริษัทก็จริงแต่ถ้าเขาสมัครสมาชิก ทีมจะได้คะแนนแต่เราจะได้เงินต่อเมื่อเราขายครีม บริษัทได้เต็มๆนั้นแหละ แล้วคิดว่าครีมset นึงเกือบหมื่นขายได้ง่ายหรอ ไม่ขึ้นชื่อ ไม่ใช่แบรนด์ดัง คุณภาพไม่ได้ดีอะไร ถ้าจะให้พูดตรงๆคือครีมที่เราใช้อยู่ยังแบรนด์ดังน่าเชื่อถือ คุณภาพดีกว่า และราคาถูกกว่า......แถมยังแนะนำให้ชวนเพื่อนเรามาทำธุรกิจ และคนใกล้ตัวมาซื้อสินค้า คิดว่าเจ้าของกระทู้จะยอมให้คนใกล้ตัวมาโดนหลอกเหมือนที่เจ้าของกระทู้โดนไหมคะ แน่นอนคะว่าไม่ มิตรภาพสำคัญมากอีกอย่างเราเป็นนักศึกษาเราไม่มีโปรไฟล์ เราไม่มีความน่าเชื่อถือ และเพื่อนเราอยู่ในวัยเรียนจะมีเงินเกือบหมื่นมาซื้อครีมหรอก็ไม่ ไม่ได้ทำงานสักหน่อย อีกอย่างถ้ามีเงินซื้อ ไปซื้อครีมดังๆที่นำเข้ามาจากต่างประเทศดีกว่า จริงไหม น่าเชื่อถือกว่าเยอะ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เจ้าของกระทู้เจอมา สุดท้ายนี้เจ้าของกระทู้ต้องหางานพาร์ทไทม์อย่างอื่นทำ เพื่อหาเงินมาซื้อทองที่เอาไปขาย ไปซื้อกลับคืนมาเพราะเราไม่ได้บอกที่บ้านเรื่องทอง บอกแค่ว่าสมัครสมาชิกแล้วได้ของมาใช้ เพราะคิดว่าถ้าบอกตายแน่ๆ  ถือว่าขายตรงครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่เคยเจอมา ต้องดิ้นรนแม้จะไม่เคยลำบากมาก่อน ถึงที่บ้านจะบอกให้พอถือว่าเอาเงินเราไปซื้อครีมมาใช้ เพราะไม่อยากเห็นลูกตัวเองลำบาก แต่เพราะลูกสำนึกผิดและปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวลูกเอง ลูกต้องแก้ไขและจะไม่ให้ใครมาเดือดร้อมเพราะการกระทำของลูก ผิดเป็นครู ขอบคุณคะ

#แก้ไขคำผิดคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่