เพลิงพระนางบทเริ่มอืดหรือเปล่าเรื่องไม่ไปไหนเลย

นอกจากที่บทเวียนวนอยู่ในอ่างไม่ไปไหนซักที..เราเบื่อตรงที่เอะอะไม่พอใจก็ตบกัน..ตองนวลยังไงก็เป็นถึงองค์หญิงเมืองมีดเติบโตในวงศ์กษัตริย์..

ธรรมเนียมแต่โบราณคงไม่ใช่เอะอะไม่พอใจก็ตบหรอกมั้ง..บทของอั้มเราหวังจะดูลุคนางพญา..ที่ไหนได้ลงไปร่วมตบกับเค้าด้วย

เราว่าน่าจะใช้วาจาเชือดเฉือนแล้วตบกันทางสายตาน่าจะเหมาะกว่าสำหรับเชื้อสายขัตติยะวงศ์..เอะอะตบกันดูแล้วไม่เหมือนเชื้อสายสังคมชั้นสูงโบราณเลย..สมัยโบราณธรรมเนียมประเพณีของขัตติยะเจ้าสูงส่งกว่านี้เยอะ..

ตามที่ดูละครของท่านมุ้ยมาหลายเรื่องทำให้รู้ว่าผู้หญิงสมัยก่อนไม่สามารถแสดงออกความรู้สึกและอารมณ์ที่รุนแรงออกมาได้..เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อวงศ์ตระกูลโดยเฉพาะวรรณะกษัตริย์..เค้าจะมองไปที่ลูกไม่ดีเพราะพ่อแม่ไม่อบรมสั่งสอน..มาจากในรั้วในวังแท้ๆ แหล่งต้นกำเนิดของชนชั้นสูงอย่างแท้จริง บ่าวไพร่ในวังก็ล้วนแล้วแต่ต้องเรียนรู้มารยาทสังคมชั้นสูง..คงไม่ใช่ทำลอยหน้าลอยตาอยากตบเจ้านางชั้นสูงแบบในเรื่องนี้

อีกประเด็นคือขนบธรรมเนียมแต่โบราณกษัตริย์คงไม่ลงมือตบหรือทำร้ายผู้หญิงด้วยตัวเองแน่นอน..เพราะฐานะกษัตริย์สูงส่งเทียมฟ้า..คงไม่ทำอะไรให้เป็นข้อครหานินทาเป็นแน่..

วิธีการทำโทษสมัยโบราณไม่ใช่การทรมานร่างกายให้ยอมรับผิดไม่ก็เฆี่ยน โบยหรอกเหรอ..คงไม่ใช่ตบกันตามอำเภอใจกันแบบนี้ ไม่งั้นจะมีกฏมณเฑียรบาลไว้เพื่ออะไร..

ตามความรู้สึกเราว่าทีมงานผู้จัดทำเน้นไปที่การแต่งกายให้ตรงกับสมัยยุคนั้นให้มากที่สุดและพยายามสร้างบทบาทมิติตัวละครให้เข้ากับยุคปัจจุบัน

ปัจจุบันในสภาวะความตึงเครียดของสังคมเพื่อที่จะให้อยู่รอดเราต้องเรียนรู้ที่จะเก็บอารมณ์ความไม่พอใจในหน้าที่การงาน..แต่พอได้ดูละครที่แบบตัวละครกวนโอ๊ยมาก..การได้ดูฉากตบกันเหมือนเรามีอารมณ์ร่วมและปล่อยความเครียดส่วนตัวออกไปด้วย..แต่มันไม่น่าใช่บทละครของสังคมกษัตริย์ในสมัยก่อนที่ยึดมั่นกับกฏมณเฑียรบาลขนาดนั้น