เที่ยว สกลนคร ไม่ยากอย่างที่คิด

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน ผมมีประสบการณ์ดีๆมาฝากเพื่อนๆหากได้เดินทางไปเที่ยว จังหวัด " สกลนคร " ครับ

เริ่มต้นเมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดสกลนครก็ไปแวะทานอาหารเที่ยงก่อนครับ ก็หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จึงเดินทางไปถึงร้าน "วิลลี่ แหนมเนือง" หาง่ายมากครับ ร้านมี 2 สาขา อยู่ใกล้เคียงกับร้าน สะบันงา อยู่ติดถนน ชื่อว่า แหนมเนือง ของขึ้นชื่อที่นี่ก็ต้องแหนมเนื่องแน่นอน

แหนมเนือง (9/10) อร่อยดี

หมูยอ (7/10) เสียดายเย็นไปหน่อย น่าจะเอาไปลวกแต่ก็โอเคอยู่

นมหมูย่าง (9/10) อร่อย หนึบๆดี แปลกๆน่ะครับ ไม่เคยทานมาก่อนเลย

แหนมคลุก (10/10) อร่อยมาก แนะนำเลยครับ!!!! THE BEST
ร้าน วิลลี่ แหนมเนือง โดยรวมถือว่าโอเคเลยครับ ราคามาตรฐาน ไม่แพงเกินไป ร้านติดแอร์ครับ

หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็เดินทางมุ่งสู่ อำเภอ พรรณานิคม กันเลยครับ ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 40 นาทีเพราะเป็นถนนสี่เลนทั้งหมด
เมื่อมาถึงอำเภอ พรรณานิคมแล้วแน่นอนว่า สถานที่ต้องไปนั่นก็คือ "พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร" พระมหาอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทางด้านกรรมฐาน

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งรูปเหมือนหลวงปู่ฝั้น พร้อมด้วยอัฐิและเรื่องราวประวัติ เครื่องใช้ รวมถึงศาสนากิจที่ท่านปฏิบัติมา

เนื่องจากที่นี่เป็นศาสนาสถาน เพราะฉะนั้นควรแต่งกายโดยสำรวมและงดใช้เสียงดัง รวมถึงต้องระวังกริยามารยาทด้วยครับ

ต่อจากนั้นก็เดินทางไปวัด ป่าอุดมสมพร ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นวัดที่ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จำวัดและปฏิบัติกรรมฐาน จวบจนวาระสุดท้ายของท่านพระอาจารย์ วัดร่มรื่นเพราะเป็นวัดป่า เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าไปเราควรที่จะสวมทั้งกริยามารยาทด้วยครับ และที่นี่สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 เคยเสด็จมาร่ำเรียนกับพระอาจารย์ฝั้นที่นี่เมื่อหลายสิบปีที่แล้วครับ

นี่คือ กุฏิเก่าของท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นหลังเดิมแต่มีการยกสูงขึ้น

หลังจากสักการะหลวงปู่ฝั้น อาจาโรเสร็จเรียบร้อยก็มุ่งหน้ากลับไปที่ อำเภอเมืองสกลนคร โดยใช้เส้นทางเดิมครับ
เดินทางสู่ วัดป่าสุทธาวาส วัดที่ตั้งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระมหาอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่โด่งดังของภาคอีสาน พระอาจารย์ของหลวงปู่ฝั้น หลวงตามหาบัว และพระสงฆ์สายกรรมฐานจำนวนมาก

ซึ่งแน่นอน สิ่งที่ผมจะขอแนะนำคือ ที่นี่เป็นเขตบริเวณวัด ควรแต่งกายสุภาพ กริยาท่าทางให้สำรวมที่สุดเพื่อความสงบสุขของศาสนาสถานครับ


บริเวณกุฏินี้เป็นกุฏิของหลวงตามหาบัว ซึ่งท่านเคยใช้ปฏิบัติธรรมมาก่อน

หลังจากนั้นออกเดินทางไปยัง วัดพระธาตุเชิงชุม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ไม่ห่างไกลจากวัดป่าสุทธาวาสมากนัก

ต่อจากนั้นก็เดินทางไป อุทยานหนองหาร ซึ่งไปถึงก็เป็นช่วงเย็นๆแล้ว ก็จะเห็นผู้คนมาออกกำลังกาย มาปั่นจักรยาน มาเดินเล่น ซึ่งที่นี่สะอาดมากๆการจัดการน่าจะดีเลยทีเดียวครับ

ต่อจากนั้นก็เดินทาง Check-In เข้าที่พัก ซึ่งผมเลือกจองโรงแรม NH elegant ใกล้ๆกับโรงพยาบาลสกลนคร
สำหรับจองที่พัก http://www.nhelegant.com

โรงแรมค่อนข้างมีอายุพอสมควร แต่โรงแรมมี 2 ตึก ตึกเก่ากับตึกใหม่ ซึ่ง จขกท. พักตึกใหม่ราคาห้องล่ะ 800 บาท(มีอาหารเย็นแบบจานด่วนและอาหารเช้า)

ห้องสภาพใหม่มาก โดยรวมถือว่าโอเคมาก แอร์เย็นสบาย ที่นอนนุ่มๆ แต่มีข้อเสียเล็กน้อย ตรงที่ว่าตู้เสื้อผ้าไม้แขวนเก่าไปหน่อย ห้องน้ำมีแมลงสาบ แต่ก็โอเคครับ พักได้สบายใจไม่มีอะไร การบริการโรงแรมค่อนข้างโอเคครับ

หลังจากพักผ่อนให้หายเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ท้องหิว เลยเดินทางไปที่ร้าน " สะบันงา " ร้านเจ้าดังของสกลนคร ที่โรงแรมแนะนำไปครับ รสชาติอาหารโดยรวมถือว่าโอเคมากๆ อร่อย ร้านสะอาด พนักงานพูดจาดี ราคาตามมาตรฐาน และมีไฮไลท์อยู่คือ " แกงหวาย " กับ " ปลาโจกจิ้มแจ่ว " เป็น THE BEST ของร้าน ถ้าหากพลาด 2 เมนูนี้ถือว่าพลาดมากครับ และยังมีเครื่องดื่ม "น้ำหมากเม่า" น้ำผลไม้แปลกๆประจำท้องถิ่น รสชาติออกเปรี้ยวๆอร่อยดีครับ ผมรับประกันร้านนี้อร่อยจริงครับ

แกงหวาย รสชาตินัวๆ อร่อยมาก หากินยากมากครับ ต้องแถวสกลนครเท่านั้นครับ

ปลาโจกจิ้มแจ่ว โดยปลาโจกส่งตรงจากแม่น้ำโขง กระดูกจะใหญ่ ทานง่าย ทานพร้อมแจ่วและผักสดของทานร้าน ถือว่าฟินเลยครับ

ที่ร้าน " สะบันงา " อาหารมีหลากหลายอย่างมากครับ แต่ที่คัดมาแค่ 2 อย่างเพราะเป็นเมนูแปลกๆที่จะหาทานที่อื่นยาก จึงแนะนำ 2 เมนูนี้เป็นพิเศษครับ

หลังจากอิ่มท้องเสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาพักผ่อนที่โรงแรมเป็นการสิ้นสุดวันแรกครับ Zzzzzzzz

หลังจากตื่นเช้าแล้วก็อาบน้ำ เก็บสัมภาระ เตรียมเดินทางกลับ ก็ไปทานอาหารเช้าของโรงแรมสักหน่อยครับ
อาหารเช้าของโรงแรมก็จะมีพวก ไข่ดาว ไข่กะทะ ไข่ขน ไข่ม้วน ฮอทดอก ข้ามต้ม ข้าวผัด กับข้าว 2 อย่าง ปากหม้อ ขนมปัง ชา กาแฟ โอวัลติน น้ำส้ม
โดยรวมถือว่า ปานกลางครับ ให้คะแนน 6.5 / 10

ข้าวสวย ข้าวผัด กับข้าว (7.5/10)

ข้าวต้มเครื่อง (6.5/10)

หลังจากทานข้าวเช้าและ Check-Out โรงแรมเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ภูพาน ซึ่งอยู่ในเมืองสกลนคร

พิพิธภัณฑ์ภูพานรวบรวมเรื่องราวของจังหวัดสกลนคร เปิดเวลา 09.00 น. ไม่มีค่าบริการ

มาถึงไฮไลท์ นั้นก็คือ ดินแดนแห่งธรรม รวมรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง พระเกจิสายกรรมฐานดังๆ ไว้ที่นี่

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

หลวงปู่หลุย จันทสาโร

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

เมื่อชมพิพิธภัณฑ์ภูพาน เสร็จแล้วก็นับเป็นเวลาอันสิ้นสุดในการเที่ยวสกลนครแล้ว จึงเดินทางกลับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านชม

ปล.ต้องของอภัยหากมีการพิมพ์ผิดพลาดหรือใช้คำผิดพลาดประการใด ขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล2. อยากเชิญชวนทุกๆคนไปเที่ยว สกลนคร และเที่ยวจังหวัดต่างๆในไทย "ไทยเที่ยวไทย อุดหนุนคนไทย" ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่