[CR] First trip: Backpack to Singapore 3 วัน 2 คืน

ไปเมืองนอกครั้งแรก เป็นอะไรที่ต้องตื่นเต้นแน่ๆ แล้วประเทศอะไรดี?? หลังจากที่คุยกับเดอะแก๊งค์ ก็ได้ข้อตกลงว่าจะไปเที่ยวสิงคโปร์นี่แร่ะ น่าจะไม่ยาก

พอตกลงกันได้ ก็ได้สมาชิกทั้งหมด 3 คน ชาย2 หญิง1 ก็จองตั๋วของไลออนแอร์ ขาไป 8.15-11.20 น. ขากลับ 20.30-21.30 น. ราคา 2,992 บาท/คน จขกท จองผ่าน Airpaz.com (จากที่อ่านรีวิวมาเยอะ ก็ถือว่าราคารับได้) แต่พอ 7 วันก่อนไป ได้สมาชิกเพิ่มอีก1 กลายเป็นชาย2 หญิง2
คนเที่ยวพร้อม ตั๋วพร้อม แพลนก็พร้อม คราวนี้เหลือที่พัก!!
ก็เลยให้เพื่อนชายอีกคน หาที่พักแบบย่อมเยา มันก็หายไปหลายวันก็โผล่มาพร้อมที่พักคูลๆ ย่าน China town ชื่อ Cube Boutique Capsule Hotel
ห้องที่จองเป็นแบบ Private single bed x4 room เพื่อนมันบอกรูปใน Google สวยมาก แต่ของจริงจะเป็นไง ลุ้นเอา!!

และวันเดินทางก็มาถึง
DAY1 9 ก.พ. 60
6.30 น. เจอกันที่ดอนเมือง (หน้าตาอะเลิทมากๆ แต่ละคนเดินหาวกันมา)
8.30 น. บิน..ไป
บรรยากาศบนฟ้าก็ช่างเป็นใจเหลือเกิน ยิ่งอ่านพยากรณ์อากาศมาว่า ฝนตกทุกวันด้วย (สบายใจจริงๆ)

หลังจากนั่งเครื่องมา 2 ชม. เราก็มาถึงสนามบินสิงคโปร์ ชางงี เรียบร้อย และด้วยความที่ไม่เคยไปเมืองนอก เดินเข้ามาในสนามบิน คำถามแรกของทั้งสี่คน จึงเหมือนกันว่า “ไปทางไหนต่อฟร่ะ??”
ยืนงงกันแปปนึง ก็หันไปเจอ Immigration ตัวเบ้อเร่อ ที่ต้องลงบันไดเลื่อนไปหนึ่งชั้น มีหลายช่องมาก แต่แถวยาวเหยียด แต่ไม่เป็นไรต่อไปเถอะ ประมาณ 15 นาทีก็ถึงคิวเรา จนท.ไม่ถามอะไรสักคำ ปั๊มเสร็จก็ผ่านเลย
ด่านต่อไปคือ เข้าเมือง เราสี่คนเดินตามป้าย “ Train to city” เพื่อไปยัง Terminal 2

แล้วลงบันไดเลื่อนไปหนึ่งชั้น ก็จะเจอช่องขายตั๋วสำหรับ MRT

บอกกับจนท. ว่าซื้อบัตร EZ-link (ตอนนี้เป็นคอลเลกชัน AVENGERS เท่มาก) ราคา 12 เหรียญ แต่ใช้ได้จริง 7 เหรียญ อีก 5 เหรียญเป็นค่าธรรมเนียม (บัตรนี้สามารถใช้ขึ้น MRT รถเมล์ รวมทั้งรถไฟฟ้าข้ามไป sentosa ได้ด้วย สะดวกมาก)

(บัตรนี้แนะนำให้เติมเงินเพิ่มอีก 10 เหรียญ สำหรับใช้เดินทางภายในประเทศ ย้ำว่า!! 10 เหรียญพอ เพื่อนผมมันไป 20 เหรียญ เงินเหลือบาน เพราะ ค่าโดยสาร MRT ถูกมากๆ) ตู้เติมเงินก็ไม่ยาก มีแท่นวางบัตร แล้วก็ทำตามขั้นตอน สะดวกมาก ไม่ต้องกลัวงง อ่อ!! อย่าลืมขอแผนที่ MRT ที่เคาเตอร์มาด้วยนะ หรือจะถ่ายรูปบอร์ดแผนที่มาก็ได้ เพราะเดี๋ยวจะงงกับสาย MRT


แผนผัง MRT อลังการมาก ดูเส้นดีๆ

บรรยากาศในสถานี MRT

พร้อมแล้วก็ลุยต่อ เป้าหมายคือ China town ที่พักของเรา ขึ้น MRT จากสถานี Airport ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Tanah Merah ย้ำว่า!! ต้องเปลี่ยนสายนะ แล้วไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Outram park อีกทีนึง แล้วก็มาถึงสถานี China town รวมเวลาตั้งแต่ลงเครื่องมาก็ไม่เกิน 1.30 ชม.

บรรยากาศทางขึ้น MRT China town คึกคักมาก คนเยอะมากกกก

มาถึงตรงนี้แล้ว อย่างแรกคือ เอาสัมภาระไปเก็บ ที่พักก็เดินไม่ไกล เดินเลี้ยวซ้ายเลียบถนนใหญ่ไป 2 ซอย แล้วก็ถึงซอย Smith st. เลี้ยวเข้าซอยไป 10 ก้าว  ก็ถึงที่พัก
ชื่อโรงแรมที่พัก

ที่พักเป็นแบบที่นอนแคปซูล รูดม่านปิดปลายเท้า ก่อนไป จองไว้สองคืน ตกคนละประมาณ 2,000 บาท รวมอาหารเช้า (ที่พักโอเคมาก ที่นอนนิ่มมาก หมอน2ใบ ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน น้ำ1ขวด มีกระจกอยู่ในช่องที่นอนเลย แถมปลั๊กไฟด้วย ไม่ต้องเอาหัวแปลงปลั๊กไป เสียบใช้ได้เลย แถม wifi แรงมาก) อาหารเช้ามีผัดหมี่ 2 อย่าง ซีเรียลกับนม ชาร้อน กาแฟ ส้ม แตงโม
เข้าที่พักแล้ว ตอนนี้บ่ายสองแร่ะ ความหิวเริ่มมา แต่ไปซื้อตั๋ว USS ก่อน ตามรีวิวหลายกระทู้บอกต้องไปร้าน Sea Wheel นะ อยู่ห้าง People park ชั้น3 นะ เราก็โอเคตามนั้น ไปถึงปรากฎผิดห้าง มันมี People park 2 ห้าง จริงๆ มันชื่อ People park centre ไม่ใช่ People park complex นะ ระวังให้ดี แต่จริงๆ มันมีเอเจนซี่ขายตั๋วอยู่แล้วทั้งสองห้างนั่นแร่ะ แล้วแต่สะดวกจะซื้อมากกว่า (ราคาพอกันทุกที่)
จริงๆ อ่านรีวิวไป เค้าบอกร้าน Sea Wheel นี่แร่ะ เวิคสุด ปรากฎไปถึง No package No discount ไม่มีอะไรทั้งนั้น ได้ตั๋ว USS มาในราคา 62 เหรียญ ตามรีวิวอื่นๆ แล้วซื้อตั๋ว Skypark มาด้วยอีกหนึ่งใบ ประมาณ 50 เหรียญ

ระหว่างทางไปซื้อก็แนะนำไอติมรถเข็นราคา 1.2 เหรียญ หากินได้ทั่วไป แต่คิวยาวมาก
แฟนบอกอร่อยมาก มีหลายรสชาติเลือกตามสบายเลย

ไอติมรสมิ้นท์ห่อด้วยขนมปังคล้ายๆ ฟาร์มเฮ้าส์

โอเค.. หาข้าวกินกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะต้องไปลุยอีกเยอะ

ข้าวมื้อแรก ต้องข้าวมันไก่สิงคโปร์ในตำนาน ร้าน Tian Tian แห่งศูนย์อาหาร Maxwell เดินย้อนกลับมาทางซอยโรงแรมก็ได้ ระยะทางประมาณเกือบๆ 1 กิโลจากห้าง ระหว่างนั้นก็มองหา 7-11 ไปด้วย เผื่อซื้อ sim ไว้ติดต่อโซเชียล (แต่หายากนิดหน่อย) พอเดินมาถึง ศูนย์อาหาร Maxwell เจอ 7-11 อยู่ซอยข้างๆ ปรากฎเครื่องลงทะเบียน sim เจ๊ง ซื้อ sim ไม่ได้อีก ช่างมัน.. กินก่อน เดินเข้ามาในศูนย์อาหาร หาร้านไม่ยากเลย คนต่อคิวยาวเหยียด ร้านอื่นเงียบกริบ

สั่งเลยครับ Chicken rice มีหลายราคาแล้วแต่ความหิว กินคำแรก เห้ย!! ของจริงว่ะ สมคำร่ำลือ ทั้งข้าวทั้งไก่ ไม่มีมาทุบๆ แบนๆ กินๆไปก็หันไปเจออีกร้านนึงข้าวมันไก่เหมือนกันเป๊ะ หิว+อยากลอง ราคาใกล้ๆกัน สั่งเลย สรุป Tian Tian อร่อยกว่า

กินเสร็จพร้อมลุย เป้าหมายต่อไป คือ Merina Bay  เดินกลับไปขึ้น MRT China town
ตอนเดินกลับฝั่งตรงข้ามศูนย์อาหาร Maxwell มีวัด Buddha Tooth Relic แวะไหว้พระแปปนึงก็ดี ข้างในสวย อารมณ์วัดจีน มีหลายชั้น เดินกันตามสบาย

ไหว้เสร็จแล้วไปต่อ ลง MRT China town ไปสถานี Bayfront ทางออก B เดินเข้ามาในห้างเจอ 7-11 แวะซื้อ sim เลย มีหลายราคาเลือกเอาที่ชอบ แนะนำยี่ห้อ SingTel พนักงานใช้ passport ลงทะเบียน แปปเดียวไม่ถึง 5 นาที มีเน็ตใช้เรียบร้อย สบายใจ

เดินทะลุห้างออกมา ก็เจอแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศ

คนไม่เยอะเท่าไหร่ นั่งชิวกัน สูดอากาศ อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่พอๆ บ้านเรา ไม่มีแดด เมฆเยอะ
ถ่ายรูปเล่นกันอยู่พักนึง ก็เดินชมบรรยากาศรอบๆ

เอาล่ะ ถึงเวลาขึ้น Skypark เดินก็ไม่ยาก เห็นตึก Marina bay sand อยู่แล้ว เดินไปทางไหนก็ได้ให้ถึงตึก
เราจะขึ้นไปบนนู้น..

ทางขึ้น Skypark  อยู่ตึกฝั่งหัวเรือ ทางเข้าเขียนว่า Sand skypark เข้าไปลงบันไดเลื่อนหนึ่งชั้น จะเจอพนักงานให้ถ่ายรูปก่อนขึ้น(กะขายรูปเรา แบบตลาดน้ำบ้านเรา) ถ่ายไปเถอะ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร แล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 57 ขึ้นมาฝรั่ง แขก ไทย จีนเพียบ หามุมเอาเองว่าตรงไหนดีงาม
วิวจากยอดตึก เห็นน่านน้ำสิงคโปร์ แล้วก็ต้นไม้ยักษ์SuperTree อยู่ด้านล่าง

วิวฝั่ง Merina bay (สายฝนมาแต่ไกล..)

วิวฝั่ง Singapore flyer

แนะนำให้ขึ้นช่วงบ่ายแก่ๆ เป็นต้นไป เพราะแดดไม่ร้อน แถมบรรยากาศดี (ที่นี่เค้าเปิดถึง 4 ทุ่ม) นั่งยาวได้ไม่มีใครว่า ซึมซับบรรยากาศไป
สิ่งแนะนำของที่นี่ คือ น้ำปั่น มีหลายอย่าง มะม่วงปั่น สตรอเบอร์รี่ปั่น อร่อยทั้งคู่ แล้วแต่ชอบ ราคา 5 เหรียญ

เราอยู่ที่นี่กันจนเกือบมืด ก็ตัดสินใจลงไปเดินดู Super Tree กันดีกว่า
เดินเข้ามาใน Gardens by the bay ที่นี่ต้นไม้เพียบ เลือกมุมถ่ายได้เต็มที่
แต่ตอนค่ำ เค้าจะเปิดไฟ Super Tree มีให้ชมทุกวัน

สวนกว้างมากๆ ใครอยากเดิน เดิน
ถ่ายรูปกันจนเสร็จแล้ว เริ่มค่ำ เริ่มหิว
เป้าหมายของกินอยู่ที่ Makansutra Glutton bay เป็นโซนขายอาหารแบบนั่งชิว มีของกิน เครื่องดื่มเพียบ

ระหว่างทางที่เดินไปต้องผ่าน Helix bridge อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ
ตอนกลางคืนเปิดไฟ สวยมากๆๆ

มุมจากฝั่งตรงข้าม Merina bay sand

เดินต่อ ไม่เกิน 5 นาที ก็ถึง
ร้านของกินเพียบ เลือกตามชอบ แต่คนเยอะมาก ที่นั่งหายากเช่นกัน

เมนูแนะนำ ไก่สะเต๊ะ (อร่อยมั้ย?? แล้วแต่คน) ราคาน่าจะ 10 เหรียญนี่แร่ะ จำไม่ได้ (จริงๆ มีเนื้อวัว เนื้อแกะด้วย เลือกได้ตามความชอบ)

กินเสร็จ ไปต่อเดินเลาะตามถนนไปเรื่อยๆ เป้าหมาย คือ Merlion
เดินชิวไปเรื่อยๆ ที่นี่รูปปั้นเยอะ

เดินผ่านสะพาน Jubilee เราก็ถึงเจ้าสิงโต แลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของที่นี่
แต่..

เดี๋ยวๆ



ปิดปรับปรุง!!!!!!
มา Take a shower ไรตอนนี้!!!!!
เพิ่งเข้าใจคำว่า “มากรุงเทพ ไม่ได้ถ่ายรูปกับเสาชิงช้า ก็เหมือนมาไม่ถึงฉันใด
มาสิงคโปร์ ไม่ได้ถ่ายรูปกับ Merlion ก็เหมือนมาไม่ถึงฉันนั้น”

เวรกรรมแท้ๆ..

นั่งทำใจอยู่พักใหญ่ รอดูโชว์ไฟต่อก็ได้ แก้เซ็ง (การแสดงเค้ามีเป็นรอบๆ เช็คเวลาดีๆ จขกท รอดูรอบ 21.30) นั่งดูมันข้างสิงโตนั่นแร่ะ

ไฟ..มา!!!

การแสดงประมาณ 15 นาที ก็จบ ไม่มีไรมาก เวลาก็เกือบๆ 22.00 ล่ะ
เดินเล่นต่ออีกหน่อย


ก็มาเจอสิงโตตัวน้อยแทน ขนาดย่อมเยามาก (เอาว่ะ.. ก็ยังดี) อยู่ด้านหลังตัวที่ซ่อมนั่นแร่ะ

และด้วยความเหนื่อย ก็นั่ง MRT กลับที่พัก (เผื่อใครหิวๆ ตอนดึกๆ มีแม็คโดนัลอยู่ใกล้ๆ โรงแรม Chicken burger set มีเฟร้นฟรายกับโค้กด้วย ราคา 5 เหรียญ)
สรุปวันแรก เดินเท้าไปทั้งสิ้น 9 กิโล.. พักขาก่อน พรุ่งนี้ตะลุย USS

** รูปในกระทู้ ถ่ายจากกล้องไอโฟนกับซัมซุงล้วนๆ กล้องตัวเองบ้าง กล้องเพื่อนบ้าง ปนๆกัน
ชื่อสินค้า:   backpack Singapore
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่