แบ่งปันประสบการณ์พาลูกสาว 2 ขวบ 8 เดือน กราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

กราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
ที่สุดของชีวิต สมดั่งความตั้งใจของครอบครัวเรา
เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิต ทุกอย่างราบรื่น
วันที่ฟ้าเปิดให้ครอบครัวเล็กอย่างเรา
ได้น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1.30 ชม.

ปันปันในวัย 2 ขวบ 8 เดือน ได้รับรู้เรื่องราวของในหลวง ร.9 เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เพราะสิ่งที่ท่านทรงทำไว้ มีมากมายเหลือเกิน ใช้เวลาทั้งชีวิตของแม่บอกเล่าก็คงไม่หมด แต่ในวันนี้ลูกได้รับรู้ถึงการจากไป แน่นอนมีคำถามจากเด็กหญิงตัวน้อยๆคนนี้ตามมาอีกมากมาย แม่เพียงแต่บอกว่าท่านทรงขึ้นไปพักผ่อนบนสวรรค์แล้ว

"หนูอยากไปไหว้ในหลวง" นับจากวันที่แผ่นดินร้องไห้ แม่กับพ่อมักจะได้ยินคำนี้บ่อยมาก ลูกคงได้ยินที่พ่อกับแม่และยายพูดกัน ว่าเราต้องหาโอกาสไปไหว้ในหลวงกันสักครั้ง ยิ่งพูดบ่อยขึ้นมากหลังจากที่ยายไปมา
ด้วยความที่ลูกยังเป็นเด็กเล็กนัก การพาไปกราบในหลวง ร.9 ที่ต้องใช้เวลารอคอยอย่างยาวนาน ทำให้พ่อกับแม่คิดหนักว่าเราจะทำยังไง ถึงให้ลูกได้ไปกราบในหลวง ร.9 สมความตั้งใจของลูก ไม่เคยคิดว่าจะไม่พาไป แต่ต้องคิดหาวิธีการที่เหมาะสม พ่อกับแม่จึงรอให้เวลาล่วงเลยมีสักระยะนึง

และวันที่รอคอยก็มาถึง วันพุธที่ 22 กุมพาพันธ์ 2560 แม่คิดว่าไปช่วงเย็นน่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับลูก อากาศไม่ร้อนมาก คนเริ่มบางตาลง ลูกเคยอยู่ดึกสุดประมาณ 5 ทุ่มนิดๆ คิดว่าบวกลบเวลาน่าจะพอไหว ออกจากบ้าน 18.50 น.(ออกช้ากว่ากำหนดไป 1ชม.) ไปถึงสนามหลวง 19.30 เราจอดรถที่ท่ามหาราช ค่าจอดรถชม.ละ 40 บาท เดินออกมานิดนึง มีวินอาสาสมัครพี่ๆใจดี รับ-ส่ง ผู้โดยสารฟรี แต่มีคันเดียว แม่ไปก่อน ลูกนั่งวินตามไปกับพ่อทีหลัง (20 บาท) ไปลงที่ประตู 4

เข้าประตูสแกนบัตร ถัดมาสแกนร่างกาย เจ้าหน้าที่ชี้บอกทางเข้า เดินไกลพอสมควรใช้เวลาเดิน 10 นาที ถึงทางเข้าด้านหน้า มองบรรยากาศรอบๆ เก้าอี้เต็มไปหมด ลูกคอยถามนู้นนี่อยู่ตลอดเวลา เดินต่อไปสักพัก 19.50 ก็ได้เข้าเต๊นท์ที่พัก เราอยู่เต๊นท์ ข6 คนไม่เยอะอย่างที่คิด
ในเต๊นท์เก้าอี้เรียง 4 แถว เรานั่งเรียงกัน 3 คน พ่อ ลูก แม่ ลูกใต้พัดลมพอดีค่อนข้างร้อน ลูกกับพ่อเหงื่อซึมตลอดเวลา แต่ไม่เป็นไรแม่คอยพัดให้ ลูกเริ่มด้วยการสำรวจ ลุง ป้า น้า อา ทั้งหลาย มีคำถามนิดหน่อย แล้วเราก็เริ่มระบายสีกัน แม่พกอุปกรณ์ไปให้พร้อม เพราะช่วงนี้ลูกชอบการขีดเขียน ดินสอ ปากกา สีเมจิ กระดาษ รูปภาพไว้ระบายสี เป็นไปตามคาด ลูกระบายสีอย่างตั้งใจ แปปๆเวลาเดินไป 30 นาที

มีเจ้าหน้าที่คอยบริการตลอดเวลา เก็บขยะ แจกน้ำ แจกข้าว หรือจะลุกไปหยิบเองที่ด้านข้างก็ได้ เสียงเจ้าหน้าที่ดังเป็นระยะ เตือนโทรศัทพ์ ให้ปิดเสียง จะเซลฟี่ให้เซลฟี่ตรงนี้เลย เพราะจะเข้าเขตวังแล้ว เตือนเรื่องเสื้อผ้า ผู้ชาย เสื้อเชิ๊ตแขนยาว ติดกระดุมทุกเม็ด ผู้หญิงกระโปรงยาวคลุมเข่า ไม่แหวกหน้า ผ่าหลัง ถ้าชุดไม่ผ่าน มีบริการให้ยืมที่เต๊นท์ ส่วนเด็กๆ เอาที่คิดว่าเรียบร้อย เสื้อยืด กางเกงสีดำ หรือถ้าไม่มีก็สีสุภาพ เจ้าหน้าบอกไม่ซีเรียสมากกับเด็กๆ
ลูกยังนิ่งสงบ ไม่มีทีท่าจะงอแง แต่เหงื่อออกเต็มหัว เราเล่นติดสติ๊กเกอร์ เล่นพัดลมมือถือ เขียนเส้นยุ่งๆ แล้วกินเยลลี่วิตามินกับชอคโกแลตอีกนิดหน่อย นมเปรี้ยวกล่องเล็ก 1 กล่อง จริงๆแม่เตรียมไปเยอะมาก มีทั้งขนมที่ชอบ และขนมที่ลุกไม่เคยกิน ลูกอม(อันนี้ไม่เคยกินคิดว่าน่าจะชอบ) ปรากฏว่าลูกกินไปนิดเดียว ส่วนใหญ่จะใช้เวลากับการเล่น และมองดูผู้คน แถวอื่นทยอยลุกไปเรื่อยๆ

ผ่านไป 20 นาทีในที่สุดก็ถึงแถวเรา นับได้แถวที่ 5 เจ้าหน้าที่ให้ลุกจากเก้าอี้ สำรวจสิ่งของ ปิดเสียงโทรศัพท์ให้เรียบร้อยน้า จะเข้าวังแล้ว แม่คิดในใจ ห๊า!! จริงหรอ จะได้เข้าแล้วหรอ ทำไมเร็วอย่างนี้ 1 ชม.เอง แต่คิดว่าคงเดินอีกพอสมควรน่าจะใช้เวลาอีก 1-2 ชม.

ลุกออกจากเต๊นท์เดินแถวเรียง 4 พ่ออุ้มลูก เดินตามคนหน้าอย่างกระชั้นชิด มีเก้าอี้ให้นั่งรอตลอดทาง เดินไปเรื่อยๆ ตามทางใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถึงประตูวิเศษไชยศรี วังอยู่ข้างหน้าแล้ว แถวหยุดพัก ทุกคนยกโทรศัทพ์มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เราโชคดีคุณน้าใจดี บอกว่าเดี๋ยวถ่ายให้ ได้มา 1 รูป (รูปที่ปันปันเหงืออกเต็มหัวเพราะร้อน และเดินมาไกลพอสมควร แต่ลุกไม่งอแงเลยแม้แต่น้อย) แม่แทบไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเลย ในความรู้สึกนะ เหมือนเราต้องสำรวม แต่ก็เข้าใจครั้งนึงในชีวิต

ก้าวผ่านประตูวิเศษไชยศรี เข้าสู่พระราชวัง น้ำตาคลอทันที บรรยากาศเงียบสงบ เราเดินเรียงแถว 4 ไปเรื่อยๆ จนถึงประตูพิมานไชยศรี ด้านหลังเป็นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โอ้โห.. สวยงาม วิจิตรตะการตา เริ่มเดินแถวเรียง 2 ตอนนี้ลูกเริ่มยิงคำถามรัวๆ พูดไม่หยุด แม่ต้องคอยทำแม่จุ๊ๆ ให้พูดเบาๆ "แม่จ๋า.. วัดที่นี่ทาสีสวยจัง" "แม่จ๋า.. ในหลวงอยู่ที่นี่หรอจ้ะ" "พระราชินีอยู่มั้ย" "พระเทพอยู่ด้วยมั้ย" ถามต่ออีกเยอะเลย
ที่แม่จำแม่นสุดคือกำลังจะเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน จู่ๆ ลุกพูดขึ้นมาเสียงดังพอสมควร
"แม่จ๋า เราต้องพูดเบาๆ ใช่มั้ยจ้ะ พระราชินีหลับอยู่ เดี๋ยวพระราชินีตื่น"
เสียงหัวเราะเบาๆเกิดขึ้นทันที ทุกคนต่างอมยิ้มในคำพูดของลูก^^

เริ่มเคลื่อนขบวนเข้าพระราชฐานชั้นใน พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เข้าเขตนี้ ห้ามถ่ายภาพ กระเป๋าต้องถือหรือคล้องแขนไว้เท่านั้น เข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่แจกถุงดำ ถอดรองเท้าแล้วใส่ไว้ในนั้น อีกนิดเดียว ลูกของเดินเอง พ่อกับแม่บอกว่าได้ แต่ต้องเดินไวๆนะ ลูกเดินเท้าเปล่า และทำได้ดีเดินตามแถวไปเรื่อยๆ ถึงตอนนี้สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง สำรวมกาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย ใกล้เต็มทีแล้ว จากเต๊นท์เดินมาถึงจุดใช้เวลา 30 นาที

เราได้ขึ้นทางซ้ายมือ บันไดทางขึ้นจะชันและแคบ ตามสไตล์ตึกเก่า ถึงประตูมองเห็นด้านใน น้ำตาไหลทันที ถึงแล้ว ได้พบแล้ว ใกล้ที่สุดในชีวิต จังหวะได้รอหน้าประตูพอดีรอรอบก่อนหน้าประมาณ 2 นาที เก็บเกี่ยวให้เต็มตา ยืนจ้องอยู่อย่างนั้น ลูกเต้าไม่ทันได้สนใจ
เดินเรียงแถวเข้าไปเป็นชุดๆ เรานั่งเรียงกัน พ่อ ลูก แม่ แม่บอกว่าถึงแล้ว เราได้เจอในหลวงแล้ว ปันปันทำหน้างง คงอยากถามว่าในหลวงอยู่ไหน แม่รีบบอกว่าลูกว่าในหลวงอยู่ในนี้ อยู่ด้านหลังมีแท่นสีทองๆ มีผ้าคลุมด้านบน เดี๋ยวเรากราบในหลวงกันนะคะ มีเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณนำนั่ง นำกราบ วินาทีนั้นบรรจงก้มลงกราบให้สวยที่สุดในชีวิต พร้อมอธิฐานจิตตั้งมั่น ลูกก้มลงกราบด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้ลุก กำลังจะจับมือลูก ปรากฏว่าลูกก้มลงกราบอีกรอบ ช่างเป็นภาพที่ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

เดินออกมาด้านนอก มีตู้ให้ทำบุญ เดินเลยมาหน่อยจัดแจงใส่รองเท้า คืนถุงดำ ทางนี้เป็นด้านข้าง แม่เห็นคนยืนไหว้กัน มองเข้าไปเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดจริงๆ ยืนไหว้ทำความเคราพ แล้วเดินเรียงแถว 2 ออกทางประตู รับรูปที่ระลึก เดินตามเจ้าหน้าที่มาเรื่อยๆ ถึงทางออกที่ประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ออกมาถึงตรงนี้ 21.20 ใช้เวลาเพียง 1.30 ชม.เท่านั้น โชคดีของเราเหลือเกิน ใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิดไว้ ลูกไม่งอแงเลยแม้แต่น้อย แม่ถามว่ามาอีกมั้ย ลูกตอบทันทีว่ามา พายาย ปู่กับย่า แล้วก็พี่ออมมาด้วย ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ เดินเลาะกำแพงวังไปหน่อยถึงที่จอดรถท่ามหาราช เราเสียค่าจอดรถ 80 บาท(2ชม.) ขึ้นรถมาคุยกันสักพัก หม่ำนมแม่แล้วหลับปุ๋ยเลย ถึงบ้าน 22.30 น. รวมๆ ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 3.30 ชม.

แม่ดีใจเหลือเกินที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เหงื่อออกเต็มหัว เดินไกลแค่ไหน ก็ไม่เคยบ่น หรือหงุดหงิด ขอบคุณสำหรับความร่วมมือของลูก
ขอให้ลูกจดจำช่วงเวลาเหล่านี้ไว้ บันทึกลงในความทรงจำของลูก แม่เชื่อว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากที่สุดที่พ่อกับแม่จะมอบให้ลูกได้
#ภูมิใจที่เราได้เกิดในรัชกาลที่ ๙

บันทึกครั้งนึงในชีวิตวันที่เราเป็นส่วนนึงของประวัติศาสตร์
บันทึกของวันที่ 22-02-60
น้องปันปัน =>2y 8m 10d

ปล. ข้อความข้างต้นนี้คัดลอกมาจากเฟคบุ๊คส่วนตัวไม่ได้เรียบเรียงใหม่ ภาษาอาจจะงงๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
----
ใครพักอาศัยอยู่ใน กทม.หรือปริมณฑล ปอแนะนำให้ไปช่วงกลางคืน จะย่นระยะเวลาการรอได้หน่อยค่ะ บรรยากาศก็สวยงามไปอีกแบบ

สำหรับการเตรียมของน้องปันปัน ปกติจะนอนกลางวันตอนบ่ายโมง ปอดึงเวลาให้นอนช้าไปอีกนิดค่ะ ให้นอนตอนบ่าย 3 ตื่นตอน 5 โมงเย็น กินข้าว อาบน้ำ แต่งตัว หากิจกรรมง่ายๆ ให้ลูกผ่อนคลายมากที่สุด ปอเปิดการ์ตูน little mermaid ให้ดูค่ะ พอดีบ้านเราไม่ค่อยให้ลูกดูทีวี ประกอบกับช่วงนี้ลูกสาวคลั่งเจ้าหญิงสุดๆ ปันปันเลยแฮปปี้แบบสุดๆ

ระบายสี

ติดสติ๊กเกอร์

ขีดๆเขียนๆ

ของเล่น ขนม ที่เตรียมไป
ระบายสีไป 1 รูป ติดสติ๊กเกอร์ 2 หน้า หม่ำเยลลี่วิตามินกับไมโล นิดหน่อย แม่ขนไปซะเยอะเลย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่