[รีวิว] John Wick: Chapter 2 - เติมเต็มทุกแฟนตาซีของเด็กผู้ชาย by ตั๋วหนังมันแพง


[หนังโรงเรื่องที่ 178] John Wick: Chapter 2 - เติมเต็มทุกแฟนตาซีของเด็กผู้ชาย ; (Chad Stahelski, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : A++++++++++++ (จากสเกล D-A)

**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : หลังจากภาคแรกได้ที่นักฆ่าวัยเกษียน "โจนาธาน จอห์น วิค" (Keanu Reeves) ได้ไปตามล้างโคตรศัตรูเพื่อล้างแค้นให้หมาและรถสุดหวงมาแล้ว เขาก็กลับมานั่งใช้ชีวิตชิคๆคูลๆสโลวไลฟ์อยู่ที่บ้านเหมือนเดิม .. อนิจจาความสงบย่อมอยู่กับพระเอกเราไม่นาน เมื่อ "ซานติโน่" (Riccardo Scamarcio) หนึ่งในผู้มีอิทธิพลในวงการนักฆ่าได้กลับมาทวง "หนี้เลือด" ที่จอห์นได้ติดค้างเขาไว้ จนท้ายที่สุด 'มัจจุราช' ก็ต้องหวนกลับวงการอีกครั้ง

บอกเลยว่าเป็นหนังภาคต่อไม่กี่เรื่องที่ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงกว่าหนังภาคแรกมากๆ คือโดยทั่วไปยิ่งหนักพยายามต่อภาคเท่าไหร่ความพีคมันยิ่งดรอปลงเท่านั้น แต่ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นกับจอห์นวิคเลยแม้แต่น้อย คือหนังหยิบจับเอาจุดแข็งทั้งหมดของตัวเองในภาคแรกเข้ามาสานต่อในภาคนี้ได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังเอาสตอรี่ของ "สมาคมนักฆ่า" มาขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ทำให้ตัวหนังโดยรวมมันมีเสน่ห์มากกว่าเดิมอีก คือต้องบอกว่าเลยว่าถ้าไม่อวยตอนนี้จะรู้สึกผิดกับตัวเองมากๆ
.
สไตล์การเล่าเรื่องของหนังก็ยังอยู่ในลักษณะเดิม คือหนังใช้เวลาในการอารัมภบทเรื่องราวของชีวิตพระเอกมาก่อน พร้อมกับวาง 'แกนเรื่องหลัก' เอาไว้ให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาไม่กี่สิบนาทีกับไดอะล็อกระหว่างตัวละครสั้นๆไม่กี่ประโยค (โคตรมินิมอล) ก่อนที่จะใส่เกียร์เต็มแม็กซ์ให้กับคิวบู๊-คิวแอคชั่นอย่างเต็มที่ ซึ่งส่วนที่ประทับใจก็คือถึงแม้หนังมันจะเล่าเรื่องน้อย แต่มันก็ยังเมคเซนส์ไง คือมันอยู่ในปริมาณที่ 'เพียงพอ' แล้วที่เราจะทำความเข้าใจเรื่องได้ และในขณะเดียวกันมันก็ไม่เยิ่นเย้อจนเบียดฉาคแอคชั่นที่เป็นจุดขายแม้แต่น้อย
.

ในแง่ของคิวบู๊ก็ขอชื่นชมเลยว่าออกแบบมาได้สวยงามน่าจดจำมากๆ มันเป็นการต่อสู้ระหว่าง "มืออาชีพ" ที่แทบไม่มีการกระทำที่สูญเปล่าหรือไร้สาระเลย คือยิงก็ยิงให้ตาย จะแทงก็แทงให้มิดด้าม หรือถ้าจะสู้ด้วยมือเปล่าก็ต้องหาทางจบศึกให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการล็อก-ทุ่ม-หักต่างก็มีเป้าหมายเพื่อ 'สังหาร' อีกฝ่ายเท่านั้น จะไม่มีฉากที่ตัวเอกมานั่งแลกหมัดใส่หน้ากันเหมือนหนังเรื่องอื่นให้หงุดหงิดใจแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งนี้ผู้เขียนถือว่าเป็นจุดเด่นของหนังที่คนดูต่างก็ประทับใจมาจากภาคแรกนะ

นี่ยังไม่พูดถึงความสมจริงที่เอาใจใส่มากๆอีก ไม่ว่าจะเป็นฉากรีโหลดกระสุนที่มีบ่อยมากๆ คือถ้าปืนมีกระสุนเจ็ดนัดต่อแม็กกาซีน พระเอกเราก็จะยิงได้แค่เจ็ดนัดแล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่น่ะ จะไม่มีการ 'ยิงเพลิน' หลุดออกมาให้เห็นเลย และในส่วนของพระเอกเราก็ไม่ได้เก่งเทพอมตะมาจากไหน ตัวเขาก็ยังโดนยิงโดนแทงอยู่เรื่อยๆจนความบอบช้ำมันออกมาให้เห็นได้ ในแง่มุมพวกนี้ต้องยกประโยชน์ให้ทีมผู้กำกับที่แจ้งเกิดมาจากทีมสตันท์นี่แหละ ที่สามารถเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ได้จนทำให้หนังมันมีเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมาได้
.

ส่วนที่ชอบที่สุด! ก็คือการหยิบเอาพล็อต "สมาคมนักฆ่า" มาขยายความให้อยู่ในสเกลที่กว้างขึ้น-สมจริงมากขึ้น จนคนดูอย่างเราสามารถ "ซื้อ" ได้อย่างสนิทใจ คือบอกเลยว่าในพาร์ทช่วงแรกๆที่พระเอกตระเวนช็อปปิ้งไปตามร้านอาวุธ, ร้านตัดเสื้อ(ชุดเกราะ) และร้านจิปาถะทั้งหลายนั้นมันโคตรคูลลลลเหลือเกิน คือมันถูกนำเสนออกมาอย่างมีระดับ มีรสนิยมชนิดแบบเท่มากๆ คือมันเติมเต็มทุกแฟนตาซีของเด็กผู้ชายจริงๆ

อย่างการที่จอห์นเรียกคนขายอาวุธปืนว่าเป็น "ซอมเมอลิเยร์" (Sommelier) หรือ "ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์" ก็เปรียบเสมือนว่าทั้งคู่นั้นเป็นอาชีพที่คล้ายคลึงกัน ตัวซอมเมอลิเยร์เองนั้นก็จะมีความรู้เรื่องไวน์และอาหารที่สูงมากจนสามารถจับเข้าคู่กันได้ เช่นเดียวกับอาวุธที่จะต้องหยิบจับให้ถูกปากถูกมือคนใช้ ก็ถือว่าเป็น 'รสนิยม' ของหนังที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจที่สุดอย่างนึงเลย
.

"คีอานู รีฟ" สวมบทสุดยอดนักฆ่าในตำนานอย่าง "จอห์น วิค" ได้อย่างแนบเนียนไร้ที่ติประหนึ่งว่าเป็นตัวตนจริงๆของเขา ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่เล่นเป็น "นีโอ" จาก The Matrix Trilogy ยังไงยังงั้น คือตลอดเรื่องเนี่ยตัวละครจอห์น วิคจะมีแววตาที่ดู 'เหนื่อยล้า' ตลอดเวลา ให้ความรู้สึกราวกับว่าเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่อยากทำแล้ว (tired of these shits) แต่พอถึงเวลาที่ต้องต่อสู้ ต้องปลิดชีพศัตรูจริงๆก็ยังไร้ความปราณี เยือกเย็นเสมอมา ซึ่งมันเป็นส่วนที่ทำให้เราเข้าถึงกับตัวละครนี้ได้ดีมากขึ้น

... บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้ตื่นเต้นที่จะรอดูภาคต่อไป/สุดท้ายของหนังเรื่องนี้มากๆ มันเป็นหนังที่ขายอะไรหลายๆอย่างที่เป็นส่วนผสมระหว่างความแอคชั่นและความมีรสนิยมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว (คล้ายๆเจมส์ บอนด์ เวอร์ชั่นการ์ตูนน้อยกว่า) แล้วนี่ก็จะตั้งตาดูการขยายสเกลสมาคมนักฆ่าครั้งสุดท้ายว่ามันจะออกมาเท่เฟี้ยวขนาดไหน เอาเป็นว่าสำหรับภาคนี้ก็ขออวยรัวๆ และขออัญเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านไปดูในโรงซะ!

ไม่เชื่อแล้วจะเสียใจทีหลัง.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่