เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้อยากตอกย้ำรอยแผลของเหตุการณ์ปี 53 แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ มันทำให้นึกถึงเหตุการณ์ล้อมปราบเมื่อปี 53 เพียงแต่งานนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความเห็นต่างทางการเมือง แต่กลับเป็นความเห็นต่างทางศาสนา
ที่ตั้งกระทู้มานี่ ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนะครับ แต่ในความรู้สึกของ จขกท. กลับรู้สึกว่าสถานการณ์ที่สำนักของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมี่ (เรียกอย่างเกรงใจที่สุดแล้ว) มันใกล้เคียงกับเหตุการณ์เมื่อปี 53 และเริ่มคิดว่า จะมีจุดจบแบบปี 53 เป็นแน่ แต่จะกี่ศพเท่านั้น
ตอนเหตุการณ์ปี 53 ตอนนั้นผมกำลังจะกลับจากการปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วตอนนั้นเค้ามีการปิดสถานีหัวลำโพง รถไฟไปได้แค่บางซื่อ คนที่อยู่บนขบวนรถไฟก็กังวลว่าจะกลับบ้านยังไง ตอนนั้นผมก็เริ่มกังวล แล้วก็เลยโทรเรียกให้พ่อไปรับที่สถานีรถไฟศาลายา จะได้ไม่ไปเจอภาพที่สุดสยอง แต่แล้วหลายวันต่อมา ก็เกิดการกระชับพื้นที่ และกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้า
ก็ได้แต่หวังว่า DSI จะไม่ตามรอย ศอฉ. ในการฆ่าคนแบบปี 53 อีก
[ระบาย] จาก ศอฉ. ถึง DSI
ที่ตั้งกระทู้มานี่ ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนะครับ แต่ในความรู้สึกของ จขกท. กลับรู้สึกว่าสถานการณ์ที่สำนักของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมี่ (เรียกอย่างเกรงใจที่สุดแล้ว) มันใกล้เคียงกับเหตุการณ์เมื่อปี 53 และเริ่มคิดว่า จะมีจุดจบแบบปี 53 เป็นแน่ แต่จะกี่ศพเท่านั้น
ตอนเหตุการณ์ปี 53 ตอนนั้นผมกำลังจะกลับจากการปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วตอนนั้นเค้ามีการปิดสถานีหัวลำโพง รถไฟไปได้แค่บางซื่อ คนที่อยู่บนขบวนรถไฟก็กังวลว่าจะกลับบ้านยังไง ตอนนั้นผมก็เริ่มกังวล แล้วก็เลยโทรเรียกให้พ่อไปรับที่สถานีรถไฟศาลายา จะได้ไม่ไปเจอภาพที่สุดสยอง แต่แล้วหลายวันต่อมา ก็เกิดการกระชับพื้นที่ และกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้า
ก็ได้แต่หวังว่า DSI จะไม่ตามรอย ศอฉ. ในการฆ่าคนแบบปี 53 อีก