ขออนุญาตเล่า มินิ รีวิว โดยภาพรวมคับ
ผมไปพม่ามา 2 ครั้งครับ
ครั้งแรกจัดไพรเวททัวร์ไปเองกะเพื่อน 4 คน เที่ยวมัณฑะเลย์ พุกาม เมื่อปลายปี 2557
ครั้งที่ 2 ไปย่างกุ้ง สิเรียม หงสา เมื่อ ต.ค. 2559 นี่เอง ไปแบบ 6 คืน 5 วันครับ
วันที่ 1 บินจากไทยไปย่างกุ้ง ถึงค่ำๆครับ นั่งรถแท็กซี่ที่ถนนถัดจากหน้าสนามบินไป 6000 จ๊าด จองโอกินาวาไว้ 26 ดอล มียุงและนอนไม่หลับ
เพราะแปลกที่
วันที่ 2 เช้คเอ๊าท์ ออก นั่งแท็กซี่จากสุเหร่ไป สถานีขนส่งผู้โดยสารอองมิงกาหลา ซื้อตั๋วไปอินทร์แขวน รถออก 9 โมง ถึงโน่นเกือบบ่าย 2 ได้
ระหว่างทางเขาให้แวะกินข้าวที่ร้านข้างทาง..แนะนำว่าอย่ากิน เพราะผมกินกับข้าวถ้วยเล็กๆ 2 ถ้วย กะข้าวเปล่า 2 จาน มันคิด 5000 จ๊าด
แต่กินที่ย่างกุ้งได้แยะหลายอย่างมากราคาไม่ถึง 5000
ถึงไจ๊ทิโย ฝนตก ซื้อตั๋วรถในวันรุ่งขึ้นไปหงสาไว้เลยนะครับ เพราะวันรุ่งขึ้นรถออกราว 8.00 น. ผมเลือกนอนพักที่ซีซ่า ติดกะสถานีรถขนหมู ห้องพัดลม ราคม 12 ดอลล่า ห้องสภาพ c- นั่งรถขนหมูไปอินแขวน ไหว้พระในวันนั้น
ช่วงที่ผมไป ในหลวง ร. 9 เพิ่งสวรรคต มีคนไทยมาสวดมนต์ถวาย
ไหว้พระเสร็จ เดินตลาด กลับลงมาถึงที่รถอีกที 17.30 ขึ้นรถขนหมูกลับ
บางท่านที่ไปสายบุญมักเลือกพักที่อินทร์แขวน แต่ค่าที่พักค่อนข้างแพงครับ ถึงซีซ่าก็เดินหาไรกินขำๆ น้ำอ้อยราคา 500 จ๊าด อร่อยชุ่มคอ
รสไม่เหมือนน้ำอ้อยจากไทยนะครับ เข้าที่พัก ด้วยความเหนื่อยและไม่ได้นอนตั้งแต่คืนวาน จึงหลับเป็นตายตั้งแต่ 20.00 น. - 6.00 น.
มีเสียงดังเพราะมีคนเดินไปมาที่ถนนและมีเด็กเตะบอล แตะตะกร้อ พูดจาสรวลเสเฮฮาตลอดคืน แต่ก็หลับ
วันที่ 3 ตื่นมาหาไรกิน แล้ว ไปรอรถเพื่อไปหงสา รถออกตรงเวลา ถึงหงสาเกือบเที่ยงได้ มีนายหน้ามาเสนอรถแท็กซี่และรถสามล้อเครื่องแบบรถ
กระป้อให้ ราคาแพง ตรงนี้สังเกตุว่า ชาวพม่าเชื้อสายอินเดียมักจะเรียกราคาแพงครับ แนะนำให้พยายามเลือกที่หน้าไทยๆ หรือพม่าๆ ไว้
ถ้าออกแขกมา ราคาแพง อย่าใจอ่อนไปยอม เพราะเงินของเรา
ถ้าจำไม่ผิด เขาเรียกค่าแท็กซี่ราว 120,000 จ๊าด ท้ายสุด ผมได้รถกระป้อสกายแล็บ ไปเที่ยวราว 8 ที่ ได้ในราคา 40000 จ๊าด
เวลามีจำกัด เลยไม่ได้เดินอ้อยสร้อยสักเท่าไร ซึ่งปกติไลส์สไตย์ก็เป็นแบบนี้ คือไม่ชอบเดินละเมียดละไมครับ
เช่น ตักบาตรพระ 1000 องค์ ที่วัด........... ผมก็ไม่ได้รอใส่ครับ ซื้อของ ใส่ปัจจัย แล้วถวายเลย เพราะต้องไปอีกหลายที่
เที่ยวครบ ก็กะจะนั่งรถไฟไปย่างกุ้ง ตามที่มีเพื่อนสมาชิกรีวิว ว่าทัวร์ลีส เขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ไปถึงจะได้ที่นั่งเลย ก็ให้สกายแลปไป
ส่งที่สถานีรถไฟราว 15.00 จ่ายค่าโดยสารไป และทิปอีก 1000 จ๊าด
ปรากฎว่ารถไฟไม่มีที่นั่ง ขอเค้ายืนหรือนั่งกะพื้นไปแบบแบ็คแพ็คฝรั่งเมืองไทยเขาก้ไม่ให้ จึงต้องจ้างรถจากสถานีรถไฟไปขนส่งหงสา
บังเอิญว่าได้รถเที่ยว 16.00 น. มั้ง ก็นั่งรถไป เป็นรถแอร์ ประมาณ 1.45 ชม. ก็ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารอองมิงกาหลา (ก่อนหน้าจะ
ถึงราว 10 นาทีเหมือนจะเอารถไปอีกสถานีหนึ่งเพื่อชั่งน้ำหนัก) เรียกรถแท็กซี่กลับไปยังแถวสุเหร่ ราคาแพงหน่อย ราว 8-9000 จ๊าด
เดินดุ่มๆไปพักที่ 30th Corner Boutique Hostel ที่เขาว่าดีกันหนักหนา (ไม่มีอาหารเช้า) มีห้องว่างแค่คืนเดียว แต่ก็ไม่เหมือนที่มีคน
รีวิว แอร์ไม่เย็นทั้งคืน ร้อน เบรคเกอร์ไฟตัดตลอดทุก 1 ชม. นอนที่ 30th Corner Boutique Hostel
แต่คิดว่ารุ่งเช้า จะย้ายไปพักที่ Space Boutique Hostel อยู่ใกล้ๆกัน ตามที่พนักงาน 30 แนะนำ เขาว่ากันว่าเป็นญาติๆกัน ห้องน้ำรวม แต่
สะอาด มีอะไรจุ๊กๆจีกๆ ไม่ทราบได้ ไม่รู้จะเล่ายังไง เอาเป็นว่า ไปอยุ่บ้านเขาเมืองเขาก็ปิดหูปิดตาไปสักข้าง
ลืมไปแล้วว่าราคาคืนละ เท่าไร มีอาหารเช้า
วันที่ 4 ตื่นแต่เช้าตรู่ พนักงานเร่งให้ย้ายโรงแรม Space Boutique Hostel ซึ่งจัดอาหารเช้าให้เป็นพิเศษ เตรียมไปสิเรียม โดยนั่งรถเมล์ที่สุเหร่
สายอะไรไม่รู้จำไม่ได้เป็นภาษาพม่า แต่เอารูปไปโชว์ๆ เขาจอดให้ที่วัดเจดีย์อะไรสักอย่าง แล้วต่อรถไปคับ ผมจึงดินเล่นที่เจดีย์ก่อน
แล้วเสร็จจึงต่อรถเมล์ไป ถึงสิเรียมก็
ต่อเรือไปอีกที ผมกะจะไปนั่งเรือบ้านๆ ที่คนพื้นเมืองเขาไปกัน พอนั่งแล้วเจ้าพนักงานก็บอกให้ขึ้น บอกว่าทัวร์รีสต้องนั่งเรืออีกคัน จำราคา
ไม่ได้ น่าจะ 2000 ถ้าจำไม่ แต่ไม่เท่าที่เค้ารีวิวมาที่ว่าคนละ 6000 จ๊าดมั้ง เดินเล่นที่เจดีย์กลางน้ำพลาง ฝนก็ตกพลาง เอาลูกอมไปแยะ
ก้อแจกเด็กๆแถวนั้น เสร็จก็ข้ามฝั่งมา นั่งรถกลับ ทีนี้เป็นรถต่อเดียวถึงสุเหร่เลย จำสายไม่ได้ ถึงราว 4 โมงเย็น หมดไป 1 วันสำหรับ
สิเรียม กลับมาก็เดินเล่นๆ ร้านอาหารอินเดียรสชาติแปลกดี
นอนที่ Space Boutique Hostel
วันที่ 5 ตื่นเช้ามาไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้สุเหร่ มีรำมวยไทเก๊กด้วย กลับมาอาบน้ำ กินข้าว นั่งรถแท็กซี่ไปเจดีย์โบตะทาว ค่าแท็กซี่ 2000 จ๊าด
ต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อตั๋วเข้าชม ราคาราว 2-3 ดอล จำไม่ได้ เดินดูโน่นนี่ ไม่ได้ขอพรอะไรกะเทพองค์ไหน แล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคน
ส่วนตัวขอพึ่งแต่พระรัตนตรัย
วันนี้เที่ยวย่างกุ้งทั้งวัน ไปไม่ยาก แท็กซี่ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้พอใช้ บางคนพูดได้น้อย แต่ชี้ๆ เอารูปให้ดูว่าจะไปวัดโน่นนี่
ก็พาไปได้โดยสะดวก บางคนพาขับหลงทางไปไกล ถึงขนาดโทรถามเพื่อนแท็กซี่ว่าวัดอยุ่ตรงไหน ก็คิดราคาเท่าเดิม ท้ายสุด ราว 4 โมง
เย็น มาถึงเจดีย์ชเวดากอง ค่าเข้า 8000 จ๊าด เห็นบางท่านคนต่างชาติทำเป็นนุ่งโสร่งเดินเนียนๆเข้าไป ก็ไปได้ ไม่มีใครเรียกเก็บค่าเข้า
เดินเข้าไปในปริมณฑลบริเวณมหาเจดีย์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเจดีย์อื่นและศาลาราย งามเหมือนเมืองสวรรค์ สถานที่สะอาดสะอ้าน
เนื้อที่กว้าง ไม่น่าจะต่ำกว่า 25 ไร่
ตอนแรก เห็นแต่รูป นึกว่ามีแต่เจดีย์ชเวดากอง ที่ไหนได้องค์เจดีย์เป็นเพียงศูนย์กลาง ถัดจากเจดีย์เป็นสิ่งปลูกสร้างอื่น ถัดไปเป็นลานกว้าง
ถัดจากลานกว้างเป็นเจดีย์และศาลาราย ถัดไปเป็นทางเดิน ถัดไปอีกเป็นเจดีย์ ใหญ่โตสวยงามราวกับเทวดาเนรมิต ไม่เคยชื่นใจ สุขใจสบาย
ตาในที่แห่งใดเท่าที่นี่เลย เดินเวียนรอบองค์เจดีย์พร้อมสวดมนต์ได้เพียง 2 รอบ ด้วยว่าพื้นเป็นแกรนิตและหินอ่อนแข็งผสมกับรองช้ำที่ป่วย
จึงทำได้เพียงนี้ เข้าไปทำบุญที่ศาลาลูกขุน ตอนนั้นแดดยังเปรี้ยง พอทำบุญ ได้ใบอนุโมทนาบุญแล้ว พลันที่เดินออกจากศาลาก็มีฝนโปรด
เป็นละอองเล็กๆ สุขใจและปลื้อมปีติมาก แล้วนั่งสมาธิ สัชชายะทั้งปฏิจ ฯ และอื่นๆ ที่ศาลารอบองค์เจดีย์จนค่ำ จนเขาจุดเทียน จึงนั่งแท็กซี่
กลับโรงแรม ถึงแล้ว เดินไปกินข้าวที่ไชน่าทาว เดินกลับ นอนที่ Space Boutique Hostel
วันที่ 6 ตื่นมาก็ไปเดินเล่นแถวๆนั้น มีวัดแขก 2 วัด ไปเที่ยวชม วัดจีนยังไม่เปิด ไปนั่งต่อราคากุ้งแห้งที่ตลาดไปฝากย่าพี่แพร่ กะเสื้อกล้ามกรรมกรเมดอิน
อินเดียตัวละ 1000 จ๊าด เตรียมตัวกลับพระนคร
บ่ายแก่ เหินฟ้าจากนครย่างกุ้งกลับ กทม.
สิ้นค่าเครื่องบินไป 2 คน ไปกลับ ราว 4000 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นราว 16000 บาท ตกคนละ 10000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน ในเวลา 6 วัน 5 คืน
สิ่งควรรู้
1. แท็กซี่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มี มีมาตลอด ราคาต่อรองกันตามความพอใจ
2. นายหน้าแขกมีแยะ ดูราวกับจะกินค่าน้ำกับพี่ๆแท็กซี่ ดังนั้น ผมเลือกแต่แท็กซี่คนพม่า
3. ร้านอาหารระหว่างทางจากย่างกุ้ง - อินแขวน ที่รถจอดให้กิน อย่าไปอุดหนุน ไม่อร่อยและแพงอย่างมาก
4. ซื้อของต้องต่อราคา ผมได้ประคำไม้หอม 10 พวง จากอินทร์แขวนในราคา 5000 จ๊าด ราว 150 บาทได้กระมัง ตกพวงละ 15 บาท แขวนในรถก็
หอมดี
5. ถ้ามีกำลังใจจะไปเอง ก็ไปไม่ยาก แท็กซี่มีทุกหนแห่ง หากไม่อยากนั่งรถเมล์ไปสิเรียมหรือหงสา ก็มีแท็กซี่ให้บริการ ราคาเกินพันบาทต่อวัน
ต่อรองกันเอง
6. คนพม่าเท่าที่เจอมา เอาพม่าแท้ๆนะ รวมญวน กะไทยใหญ่ จิตใจดีร้อยละ 99 ถึงแม้จะกินหมาก และแต่งตัวที่ไม่คุ้นกับเรา ก็เป็นสภาพความ
นิยมและคุ้นชินของเขา เป็นวัฒนธรรมของเขา แต่จิตใจดีแทบทุกคน เว้นแต่ร้านอาหารระหว่างทางจากย่างกุ้งไปอินทร์แขวน
7. ถ้าไม่คุ้นเรื่องกลิ่นเฉพาะบุคคล แนะนำให้หาหน้ากากอนามัยและยาหม่องยาหอมระเหยติดตัวไว้ จะช่วยได้มาก
8. ผมแลกเงินบาทจากริชชี่สีเขียวไปเลย พาดอลล่าไปร่วมสองพัน เผื่อๆไว้ แต่เงินพม่าโดยเฉพาะแบ็งเล็กๆ บางฉบับมีสภาพการใช้งานที่ไม่น่าใช้งาน ส่วนเงินดอลล่า แม้มีรอยพับหรือดินสอบขีดเล้กน้อย เขาก็ไม่รับ ตาเขาไวและละเอียดราวเทวดา
9.ค่ากล้อง 300 จ๊าด เที่ยวไปเกือบ 20 วัด จ่ายแค่วัดเดียว
10.ผมจะกลับไปย่างกุ้งอีก จะไปเฉพาะที่มหาเจดีย์ชเวดากอง ด้วยว่าประทับใจอย่างมาก
[CR] Mini Review ย่างกุ้ง สิเรียม หงสา 6 วัน 5 คืน (ไม่มีรูป)
ผมไปพม่ามา 2 ครั้งครับ
ครั้งแรกจัดไพรเวททัวร์ไปเองกะเพื่อน 4 คน เที่ยวมัณฑะเลย์ พุกาม เมื่อปลายปี 2557
ครั้งที่ 2 ไปย่างกุ้ง สิเรียม หงสา เมื่อ ต.ค. 2559 นี่เอง ไปแบบ 6 คืน 5 วันครับ
วันที่ 1 บินจากไทยไปย่างกุ้ง ถึงค่ำๆครับ นั่งรถแท็กซี่ที่ถนนถัดจากหน้าสนามบินไป 6000 จ๊าด จองโอกินาวาไว้ 26 ดอล มียุงและนอนไม่หลับ
เพราะแปลกที่
วันที่ 2 เช้คเอ๊าท์ ออก นั่งแท็กซี่จากสุเหร่ไป สถานีขนส่งผู้โดยสารอองมิงกาหลา ซื้อตั๋วไปอินทร์แขวน รถออก 9 โมง ถึงโน่นเกือบบ่าย 2 ได้
ระหว่างทางเขาให้แวะกินข้าวที่ร้านข้างทาง..แนะนำว่าอย่ากิน เพราะผมกินกับข้าวถ้วยเล็กๆ 2 ถ้วย กะข้าวเปล่า 2 จาน มันคิด 5000 จ๊าด
แต่กินที่ย่างกุ้งได้แยะหลายอย่างมากราคาไม่ถึง 5000
ถึงไจ๊ทิโย ฝนตก ซื้อตั๋วรถในวันรุ่งขึ้นไปหงสาไว้เลยนะครับ เพราะวันรุ่งขึ้นรถออกราว 8.00 น. ผมเลือกนอนพักที่ซีซ่า ติดกะสถานีรถขนหมู ห้องพัดลม ราคม 12 ดอลล่า ห้องสภาพ c- นั่งรถขนหมูไปอินแขวน ไหว้พระในวันนั้น
ช่วงที่ผมไป ในหลวง ร. 9 เพิ่งสวรรคต มีคนไทยมาสวดมนต์ถวาย
ไหว้พระเสร็จ เดินตลาด กลับลงมาถึงที่รถอีกที 17.30 ขึ้นรถขนหมูกลับ
บางท่านที่ไปสายบุญมักเลือกพักที่อินทร์แขวน แต่ค่าที่พักค่อนข้างแพงครับ ถึงซีซ่าก็เดินหาไรกินขำๆ น้ำอ้อยราคา 500 จ๊าด อร่อยชุ่มคอ
รสไม่เหมือนน้ำอ้อยจากไทยนะครับ เข้าที่พัก ด้วยความเหนื่อยและไม่ได้นอนตั้งแต่คืนวาน จึงหลับเป็นตายตั้งแต่ 20.00 น. - 6.00 น.
มีเสียงดังเพราะมีคนเดินไปมาที่ถนนและมีเด็กเตะบอล แตะตะกร้อ พูดจาสรวลเสเฮฮาตลอดคืน แต่ก็หลับ
วันที่ 3 ตื่นมาหาไรกิน แล้ว ไปรอรถเพื่อไปหงสา รถออกตรงเวลา ถึงหงสาเกือบเที่ยงได้ มีนายหน้ามาเสนอรถแท็กซี่และรถสามล้อเครื่องแบบรถ
กระป้อให้ ราคาแพง ตรงนี้สังเกตุว่า ชาวพม่าเชื้อสายอินเดียมักจะเรียกราคาแพงครับ แนะนำให้พยายามเลือกที่หน้าไทยๆ หรือพม่าๆ ไว้
ถ้าออกแขกมา ราคาแพง อย่าใจอ่อนไปยอม เพราะเงินของเรา
ถ้าจำไม่ผิด เขาเรียกค่าแท็กซี่ราว 120,000 จ๊าด ท้ายสุด ผมได้รถกระป้อสกายแล็บ ไปเที่ยวราว 8 ที่ ได้ในราคา 40000 จ๊าด
เวลามีจำกัด เลยไม่ได้เดินอ้อยสร้อยสักเท่าไร ซึ่งปกติไลส์สไตย์ก็เป็นแบบนี้ คือไม่ชอบเดินละเมียดละไมครับ
เช่น ตักบาตรพระ 1000 องค์ ที่วัด........... ผมก็ไม่ได้รอใส่ครับ ซื้อของ ใส่ปัจจัย แล้วถวายเลย เพราะต้องไปอีกหลายที่
เที่ยวครบ ก็กะจะนั่งรถไฟไปย่างกุ้ง ตามที่มีเพื่อนสมาชิกรีวิว ว่าทัวร์ลีส เขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ไปถึงจะได้ที่นั่งเลย ก็ให้สกายแลปไป
ส่งที่สถานีรถไฟราว 15.00 จ่ายค่าโดยสารไป และทิปอีก 1000 จ๊าด
ปรากฎว่ารถไฟไม่มีที่นั่ง ขอเค้ายืนหรือนั่งกะพื้นไปแบบแบ็คแพ็คฝรั่งเมืองไทยเขาก้ไม่ให้ จึงต้องจ้างรถจากสถานีรถไฟไปขนส่งหงสา
บังเอิญว่าได้รถเที่ยว 16.00 น. มั้ง ก็นั่งรถไป เป็นรถแอร์ ประมาณ 1.45 ชม. ก็ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารอองมิงกาหลา (ก่อนหน้าจะ
ถึงราว 10 นาทีเหมือนจะเอารถไปอีกสถานีหนึ่งเพื่อชั่งน้ำหนัก) เรียกรถแท็กซี่กลับไปยังแถวสุเหร่ ราคาแพงหน่อย ราว 8-9000 จ๊าด
เดินดุ่มๆไปพักที่ 30th Corner Boutique Hostel ที่เขาว่าดีกันหนักหนา (ไม่มีอาหารเช้า) มีห้องว่างแค่คืนเดียว แต่ก็ไม่เหมือนที่มีคน
รีวิว แอร์ไม่เย็นทั้งคืน ร้อน เบรคเกอร์ไฟตัดตลอดทุก 1 ชม. นอนที่ 30th Corner Boutique Hostel
แต่คิดว่ารุ่งเช้า จะย้ายไปพักที่ Space Boutique Hostel อยู่ใกล้ๆกัน ตามที่พนักงาน 30 แนะนำ เขาว่ากันว่าเป็นญาติๆกัน ห้องน้ำรวม แต่
สะอาด มีอะไรจุ๊กๆจีกๆ ไม่ทราบได้ ไม่รู้จะเล่ายังไง เอาเป็นว่า ไปอยุ่บ้านเขาเมืองเขาก็ปิดหูปิดตาไปสักข้าง
ลืมไปแล้วว่าราคาคืนละ เท่าไร มีอาหารเช้า
วันที่ 4 ตื่นแต่เช้าตรู่ พนักงานเร่งให้ย้ายโรงแรม Space Boutique Hostel ซึ่งจัดอาหารเช้าให้เป็นพิเศษ เตรียมไปสิเรียม โดยนั่งรถเมล์ที่สุเหร่
สายอะไรไม่รู้จำไม่ได้เป็นภาษาพม่า แต่เอารูปไปโชว์ๆ เขาจอดให้ที่วัดเจดีย์อะไรสักอย่าง แล้วต่อรถไปคับ ผมจึงดินเล่นที่เจดีย์ก่อน
แล้วเสร็จจึงต่อรถเมล์ไป ถึงสิเรียมก็
ต่อเรือไปอีกที ผมกะจะไปนั่งเรือบ้านๆ ที่คนพื้นเมืองเขาไปกัน พอนั่งแล้วเจ้าพนักงานก็บอกให้ขึ้น บอกว่าทัวร์รีสต้องนั่งเรืออีกคัน จำราคา
ไม่ได้ น่าจะ 2000 ถ้าจำไม่ แต่ไม่เท่าที่เค้ารีวิวมาที่ว่าคนละ 6000 จ๊าดมั้ง เดินเล่นที่เจดีย์กลางน้ำพลาง ฝนก็ตกพลาง เอาลูกอมไปแยะ
ก้อแจกเด็กๆแถวนั้น เสร็จก็ข้ามฝั่งมา นั่งรถกลับ ทีนี้เป็นรถต่อเดียวถึงสุเหร่เลย จำสายไม่ได้ ถึงราว 4 โมงเย็น หมดไป 1 วันสำหรับ
สิเรียม กลับมาก็เดินเล่นๆ ร้านอาหารอินเดียรสชาติแปลกดี
นอนที่ Space Boutique Hostel
วันที่ 5 ตื่นเช้ามาไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้สุเหร่ มีรำมวยไทเก๊กด้วย กลับมาอาบน้ำ กินข้าว นั่งรถแท็กซี่ไปเจดีย์โบตะทาว ค่าแท็กซี่ 2000 จ๊าด
ต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อตั๋วเข้าชม ราคาราว 2-3 ดอล จำไม่ได้ เดินดูโน่นนี่ ไม่ได้ขอพรอะไรกะเทพองค์ไหน แล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคน
ส่วนตัวขอพึ่งแต่พระรัตนตรัย
วันนี้เที่ยวย่างกุ้งทั้งวัน ไปไม่ยาก แท็กซี่ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้พอใช้ บางคนพูดได้น้อย แต่ชี้ๆ เอารูปให้ดูว่าจะไปวัดโน่นนี่
ก็พาไปได้โดยสะดวก บางคนพาขับหลงทางไปไกล ถึงขนาดโทรถามเพื่อนแท็กซี่ว่าวัดอยุ่ตรงไหน ก็คิดราคาเท่าเดิม ท้ายสุด ราว 4 โมง
เย็น มาถึงเจดีย์ชเวดากอง ค่าเข้า 8000 จ๊าด เห็นบางท่านคนต่างชาติทำเป็นนุ่งโสร่งเดินเนียนๆเข้าไป ก็ไปได้ ไม่มีใครเรียกเก็บค่าเข้า
เดินเข้าไปในปริมณฑลบริเวณมหาเจดีย์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเจดีย์อื่นและศาลาราย งามเหมือนเมืองสวรรค์ สถานที่สะอาดสะอ้าน
เนื้อที่กว้าง ไม่น่าจะต่ำกว่า 25 ไร่
ตอนแรก เห็นแต่รูป นึกว่ามีแต่เจดีย์ชเวดากอง ที่ไหนได้องค์เจดีย์เป็นเพียงศูนย์กลาง ถัดจากเจดีย์เป็นสิ่งปลูกสร้างอื่น ถัดไปเป็นลานกว้าง
ถัดจากลานกว้างเป็นเจดีย์และศาลาราย ถัดไปเป็นทางเดิน ถัดไปอีกเป็นเจดีย์ ใหญ่โตสวยงามราวกับเทวดาเนรมิต ไม่เคยชื่นใจ สุขใจสบาย
ตาในที่แห่งใดเท่าที่นี่เลย เดินเวียนรอบองค์เจดีย์พร้อมสวดมนต์ได้เพียง 2 รอบ ด้วยว่าพื้นเป็นแกรนิตและหินอ่อนแข็งผสมกับรองช้ำที่ป่วย
จึงทำได้เพียงนี้ เข้าไปทำบุญที่ศาลาลูกขุน ตอนนั้นแดดยังเปรี้ยง พอทำบุญ ได้ใบอนุโมทนาบุญแล้ว พลันที่เดินออกจากศาลาก็มีฝนโปรด
เป็นละอองเล็กๆ สุขใจและปลื้อมปีติมาก แล้วนั่งสมาธิ สัชชายะทั้งปฏิจ ฯ และอื่นๆ ที่ศาลารอบองค์เจดีย์จนค่ำ จนเขาจุดเทียน จึงนั่งแท็กซี่
กลับโรงแรม ถึงแล้ว เดินไปกินข้าวที่ไชน่าทาว เดินกลับ นอนที่ Space Boutique Hostel
วันที่ 6 ตื่นมาก็ไปเดินเล่นแถวๆนั้น มีวัดแขก 2 วัด ไปเที่ยวชม วัดจีนยังไม่เปิด ไปนั่งต่อราคากุ้งแห้งที่ตลาดไปฝากย่าพี่แพร่ กะเสื้อกล้ามกรรมกรเมดอิน
อินเดียตัวละ 1000 จ๊าด เตรียมตัวกลับพระนคร
บ่ายแก่ เหินฟ้าจากนครย่างกุ้งกลับ กทม.
สิ้นค่าเครื่องบินไป 2 คน ไปกลับ ราว 4000 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นราว 16000 บาท ตกคนละ 10000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน ในเวลา 6 วัน 5 คืน
สิ่งควรรู้
1. แท็กซี่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มี มีมาตลอด ราคาต่อรองกันตามความพอใจ
2. นายหน้าแขกมีแยะ ดูราวกับจะกินค่าน้ำกับพี่ๆแท็กซี่ ดังนั้น ผมเลือกแต่แท็กซี่คนพม่า
3. ร้านอาหารระหว่างทางจากย่างกุ้ง - อินแขวน ที่รถจอดให้กิน อย่าไปอุดหนุน ไม่อร่อยและแพงอย่างมาก
4. ซื้อของต้องต่อราคา ผมได้ประคำไม้หอม 10 พวง จากอินทร์แขวนในราคา 5000 จ๊าด ราว 150 บาทได้กระมัง ตกพวงละ 15 บาท แขวนในรถก็
หอมดี
5. ถ้ามีกำลังใจจะไปเอง ก็ไปไม่ยาก แท็กซี่มีทุกหนแห่ง หากไม่อยากนั่งรถเมล์ไปสิเรียมหรือหงสา ก็มีแท็กซี่ให้บริการ ราคาเกินพันบาทต่อวัน
ต่อรองกันเอง
6. คนพม่าเท่าที่เจอมา เอาพม่าแท้ๆนะ รวมญวน กะไทยใหญ่ จิตใจดีร้อยละ 99 ถึงแม้จะกินหมาก และแต่งตัวที่ไม่คุ้นกับเรา ก็เป็นสภาพความ
นิยมและคุ้นชินของเขา เป็นวัฒนธรรมของเขา แต่จิตใจดีแทบทุกคน เว้นแต่ร้านอาหารระหว่างทางจากย่างกุ้งไปอินทร์แขวน
7. ถ้าไม่คุ้นเรื่องกลิ่นเฉพาะบุคคล แนะนำให้หาหน้ากากอนามัยและยาหม่องยาหอมระเหยติดตัวไว้ จะช่วยได้มาก
8. ผมแลกเงินบาทจากริชชี่สีเขียวไปเลย พาดอลล่าไปร่วมสองพัน เผื่อๆไว้ แต่เงินพม่าโดยเฉพาะแบ็งเล็กๆ บางฉบับมีสภาพการใช้งานที่ไม่น่าใช้งาน ส่วนเงินดอลล่า แม้มีรอยพับหรือดินสอบขีดเล้กน้อย เขาก็ไม่รับ ตาเขาไวและละเอียดราวเทวดา
9.ค่ากล้อง 300 จ๊าด เที่ยวไปเกือบ 20 วัด จ่ายแค่วัดเดียว
10.ผมจะกลับไปย่างกุ้งอีก จะไปเฉพาะที่มหาเจดีย์ชเวดากอง ด้วยว่าประทับใจอย่างมาก