วันนี้(21 ก.พ. 60) มีข่าว เควิน เดอบรอยน์ เพลเมคเกอร์ตัวสำคัญของทีมชาติเบลเยี่ยมและแมนเชนเตอร์ซิตี้ รวมถึงได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเบลเยี่ยมปีล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์ โดยให้เกียรติความยิ่งใหญ่ของทีมที่ประสพความสำเร็จมาก่อนในประวัติศาสตร์เช่น ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้น่าสนใจมากครับ...เนื้อความแปลไทยดังนี้
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เควิน เดอ บรอยน์ ออกมายอมรับว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่สามารถที่จะไปเทียบความยิ่งใหญ่ในยุโรปกับคู่แข่งพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูลได้
ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมซัดประตูปารีส แซงต์ แชร์กแมง ช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"ทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุดของทีม ก่อนโดนทีมแชมป์อย่างเรอัล มาดริดเขี่ยตกรอบ
ฤดูกาลนี้พวกเขามีลุ้นทำประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สโมสรอีกครั้ง โดยด่านแรกต้องเจอกับโมนาโกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ก่อนเกมเดอ บรอยน์ ออกมาพูดถึงสถานะของซิตี้ในเวทียุโรปว่าคงไปเทียบกับสองทีมดังอย่างยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลไม่ได้ แต่นั่นเป็นเพราะในอดีตซิตี้ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
"คนพูดถึงทีมอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่พวกเขามี" แข้งวัย 25 ปีเริ่ม "ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมและคุณไม่สามารถเอาเราไปเทียบกับพวกเขาได้เพราะเราไม่ได้มีเวลาในการที่จะทำอย่างนั้นในแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างที่พวกเขามี"
"พวกเขาเล่นมาหลายปีส่วนเราเล่นมาแค่ 5-6 ปี เราต้องการเวลาเท่ากันในการที่จะไปเปรียบเทียบกับพวกเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก"
"สำหรับผมมันไม่สำคัญ(ประวัติศาสตร์) แต่สำหรับหลายคนในโลกมันหมายถึงทุกอย่าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงพูดถึงแมนฯ ซิตี้น้อยกว่าทีมอื่นๆ"
"ทุกคนที่อังกฤษจะภูมิใจมากกับการที่ทีมจากอังกฤษประสบความสำเร็จมากมายในยุโรป แต่เรา(ซิตี้)ก็ต้องการโอกาสที่จะทำให้ได้แบบนั้น"
"ถ้าเราเล่นไปสักอีก 50 ปี แล้วเป็นแชมป์สักหน่อย คนอาจจะมองเราต่างออกไป" เขากล่าว
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
สรุปประเด็นได้ว่า
ถึงแม้ตัวนักเตะจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์มากนัก (อาจเป็นเพราะไม่ต้องการกดดัน)แต่กับทีมและแฟนบอลทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้....ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมที่เก่งและดาราเต็มทีมได้ลุ้นหลายๆถ้วยทุกปีอย่างแมนซิตี้ไม่สามารถเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ได้กับทีมที่มีประวัติศาสตร์การคว้าแชมป์มานานอย่าง แมนยูฯหรือลิเวอร์พูลได้ และตัวเขาเองก็ต้องการพาทีมประสพความสำเร็จบ้าง(โดยเฉพาะระดับ ucl)...เพื่อทำให้ "ผู้คนมองเราแตกต่างออกไปบ้าง"
จะเห็นได้ว่าคนที่อินเนอร์และเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่าง KDB มีมุมมองมองที่ให้เกียรติประวัติศาสตร์แตกต่างไปจากผู้คนใน "พันทิป" (บางกลุ่ม)ค่อนข้างจะมากโขอยู่....ทั้งนี้ไม่ได้มาเรียกร้องเพื่อที่จะให้ใครมาหยุดแซวประวัติศาสตร์ของทีมไหน...แต่ให้รู้ไว้ว่าทีมที่คุณเชียร์นั้นมันก็สร้างขึ้นมาจากประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน...และมันเป็นมุมมองสากลทั่วโลก...
ปล. คนที่มองเรื่องเหล่านี้ไม่ออกมีศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า "คนไร้ราก"ครับ
KDB statement about Liverpool and Manchester Utd.
http://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/manchester-city-cannot-compare-liverpool-12632343
มุมมองของ เควิน เดอบรอยน์ที่เกี่ยวกับสโมสร ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เควิน เดอ บรอยน์ ออกมายอมรับว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่สามารถที่จะไปเทียบความยิ่งใหญ่ในยุโรปกับคู่แข่งพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูลได้
ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมซัดประตูปารีส แซงต์ แชร์กแมง ช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"ทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุดของทีม ก่อนโดนทีมแชมป์อย่างเรอัล มาดริดเขี่ยตกรอบ
ฤดูกาลนี้พวกเขามีลุ้นทำประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สโมสรอีกครั้ง โดยด่านแรกต้องเจอกับโมนาโกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ก่อนเกมเดอ บรอยน์ ออกมาพูดถึงสถานะของซิตี้ในเวทียุโรปว่าคงไปเทียบกับสองทีมดังอย่างยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลไม่ได้ แต่นั่นเป็นเพราะในอดีตซิตี้ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
"คนพูดถึงทีมอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่พวกเขามี" แข้งวัย 25 ปีเริ่ม "ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมและคุณไม่สามารถเอาเราไปเทียบกับพวกเขาได้เพราะเราไม่ได้มีเวลาในการที่จะทำอย่างนั้นในแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างที่พวกเขามี"
"พวกเขาเล่นมาหลายปีส่วนเราเล่นมาแค่ 5-6 ปี เราต้องการเวลาเท่ากันในการที่จะไปเปรียบเทียบกับพวกเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีก"
"สำหรับผมมันไม่สำคัญ(ประวัติศาสตร์) แต่สำหรับหลายคนในโลกมันหมายถึงทุกอย่าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงพูดถึงแมนฯ ซิตี้น้อยกว่าทีมอื่นๆ"
"ทุกคนที่อังกฤษจะภูมิใจมากกับการที่ทีมจากอังกฤษประสบความสำเร็จมากมายในยุโรป แต่เรา(ซิตี้)ก็ต้องการโอกาสที่จะทำให้ได้แบบนั้น"
"ถ้าเราเล่นไปสักอีก 50 ปี แล้วเป็นแชมป์สักหน่อย คนอาจจะมองเราต่างออกไป" เขากล่าว
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
สรุปประเด็นได้ว่า
ถึงแม้ตัวนักเตะจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์มากนัก (อาจเป็นเพราะไม่ต้องการกดดัน)แต่กับทีมและแฟนบอลทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้....ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมที่เก่งและดาราเต็มทีมได้ลุ้นหลายๆถ้วยทุกปีอย่างแมนซิตี้ไม่สามารถเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ได้กับทีมที่มีประวัติศาสตร์การคว้าแชมป์มานานอย่าง แมนยูฯหรือลิเวอร์พูลได้ และตัวเขาเองก็ต้องการพาทีมประสพความสำเร็จบ้าง(โดยเฉพาะระดับ ucl)...เพื่อทำให้ "ผู้คนมองเราแตกต่างออกไปบ้าง"
จะเห็นได้ว่าคนที่อินเนอร์และเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่าง KDB มีมุมมองมองที่ให้เกียรติประวัติศาสตร์แตกต่างไปจากผู้คนใน "พันทิป" (บางกลุ่ม)ค่อนข้างจะมากโขอยู่....ทั้งนี้ไม่ได้มาเรียกร้องเพื่อที่จะให้ใครมาหยุดแซวประวัติศาสตร์ของทีมไหน...แต่ให้รู้ไว้ว่าทีมที่คุณเชียร์นั้นมันก็สร้างขึ้นมาจากประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน...และมันเป็นมุมมองสากลทั่วโลก...
ปล. คนที่มองเรื่องเหล่านี้ไม่ออกมีศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า "คนไร้ราก"ครับ
KDB statement about Liverpool and Manchester Utd. http://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/manchester-city-cannot-compare-liverpool-12632343