**รีวิวแบบเร็ว ขี้เกียจแต่งรูป เอาแบบออริจินัลไปดูละกันนะ**
เป็นครั้งแรกของเรากับการเที่ยวจันทบุรี ครั้งแรกของการขึ้นเขาคิชฌกูฏ เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก ออกวันเสาร์ตี 5 ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว (แก่แล้วไม่นอนเนี่ย ทำตัวไม่เกรงใจอายุเล้ยยย) รอบนี้ไปกัน 6 คน มี 3 คนที่มากันบ่อย และอีก 3 คนพึ่งมาครั้งแรก สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็เป็นสถานที่แนะนำในจันทบุรีเลยจ้า
ขอตัดภาพมาที่เตรียมขึ้นเขาเลยละกันนะ…ถึงประมาณ 9.30 น. พี่สาวที่มาทุกปีบอกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และวันหยุดด้วยแบบนี้ ถือว่าคนน้อยมากกก บางตากว่าที่คิดไว้มาก จากที่เคยรอรถขึ้นสองชั่วโมง คราวนี้ก็ได้ขึ้นเลย เจ๊บอกว่าไม่รู้เพราะคนไปขึ้นกลางคืนหมดแล้วหรือเปล่า แต่การจัดการดีมากขึ้นเช่น
- ไม่มีของขึ้นไปขายด้านบน
- ขึ้น-ลงจุดเดียว จุดละ 100 บาท
- มีคนตามจุดเยอะขึ้นมาก เหมือนจะเห็นทหารเยอะขึ้นด้วย (อาจจะเข้ามาควบคุมละมั้ง)
ซื้อจุดนี้จุดเดียวขึ้นได้เลย ไม่ต้องแวะเหมือนปีก่อนๆ
ระหว่างการเดินทาง

มีเก็บค่าผ่านด่านด้วย ถ้าจำไม่ผิดคนละ 10 บาท หลังจากนั้นมือก็กำที่จับแน่นแล้ว ก็ทางมันชันนิเนอะ
พอถึงทางขึ้นก็รู้สึกได้เลยว่าน้อยจริง (เมื่อเทียบกับภาพที่เคยเห็น) แต่ก็เดินสบายๆ มีแดดแต่ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย พอถึงจุดที่เป็นยอดเขาคิชฌกูฏก็ไหว้และทำพิธีตามที่ตั้งใจไว้ หลังจากเสร็จก็เดินขึ้นไปถึงจุดผ้าแดง ซึ่งเป็นจุดสุดเขตก็เขียนผ้าแดงเสร็จ เดินลงมา ก็ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ถ้าใครเคยเดินขึ้นน้ำตกเอราวัณช่วงหน้าฝนแล้วละก็ ก็สบายแล้วละ

ในที่สุดก็ถึงแล้ว คนไม่มากและไม่เบียด สบายๆ

หลังจากไหว้รอยพระบาทเสร็จ เดินขึ้นต่อ ภาพนี้ถ่ายจากมุมด้านบนอีกที

ถึงแล้วผ้าแดง สุดเขตยอดเขาคิชฌกูฏ

ส่วนขาลง กระบะที่ลงมาส่ง แว่บมาที่เขื่อนแป๊ปนึงด้วย (พี่สาวบอกว่า โชคดีนะเนี่ย ส่วนใหญ่กระบะไม่ค่อยแวะกัน) เพราะคนไม่เยอะ เลยเสร็จไว ประมาณบ่ายโมงก็ลงมาด้านล่างกันแล้วค่ะ

ทีนี้เหลือเวลา เลยขับเข้าตัวเมืองไปกินข้าวกัน โดยอาหารมื้อแรกของเมืองจันท์เป็น
เย็นตาโฟเจ๊เพ็ญ ซึ่งโดยรวมถือว่าอร่อยดีนะ กั้งตัวเล็กไปหน่อย ชอบหมูชะมวงหมั่นโถวมากกว่าอีก

หลังจากนั้นก็ขับไปไหว้ศาลหลักเมือง และศาลพระเจ้าตาก ซึ่งสองศาลนี้จะอยู่ๆใกล้กัน เดินข้ามก็ถึงแล้วจ้า

ขับไปอีกหน่อย แวะไปริมน้ำจันทบูรซึ่งบางจุดก็ยังคงความเก่าไว้ แต่บางจุดก็มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยก็ถือว่าอยู่ด้วยกันได้ดี ครั้งแรกก็ต้องแวะมาหน่อยกับ
“โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล” เสียดายที่วันนี้ไม่ได้เข้าไปด้านใน เห็นเค้าว่ากันว่าด้านในสวยกกว่า เสียดายจัง
โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล

แวะเติมพลัง ร้าน
Sweet@Moon ขนมอร่อยนะ ราคาไม่แพงด้วย
หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวริมน้ำ หาของกินถ่ายรูป แวะทักทายเจ้าถิ่น อิอิ กว่าจะเดินเสร็จก็ 5 โมงแล้ว เลยรีบดิ่งไปที่พักดีกว่า คราวนี้พักห่างจากตัวเมืองราวๆ 30 กิโลเมตร อยู่ในอ.มะขาม ชื่อ “บ้านสวนพฤกษา โฮมสเตย์” คนละ 800 บาท ที่นี้จะมีทั้งบ้านริมน้ำ และบ้านด้านใน ใครที่มากับเพื่อนแล้วชอบความครึกครื้นก็แนะนำในส่วนของริมน้ำ แต่ถ้าใครชอบความสงบควรพักด้านในดีกว่าค่ะ

คราวนี้เราขอพักด้านใน เป็นห้อง 4 คนกับ 2 คน เรานอนห้อง 4 คน เตียงนอนสบาย ห้องน้ำ ห้องพักสะอาดดีค่ะ (ลืมถ่ายห้องสองคนมา)

ถึงจะพักด้านใน แต่ทางที่พักเองก็จัดส่วนที่เป็นศาลาริมน้ำไว้ที่ห้องเราสำหรับไว้กินข้าว พูดคุยในช่วงเย็นด้วย บรรยากาศดีมากๆ บริเวณน้ำเป็นต้นน้ำธรรมชาติเลย มีน้ำเอะ แต่ไหลไม่แรง เสียดายที่ตอนนั้นไปถึงก็เย็นแล้ว ลงเล่นกลัวเป็นหวัด 555 เลยเอาขาไปแหย่ๆพอ มีน้องปลามาทักทายด้วย

ก็เพราะมาถึงเย็นแล้ว จึงได้เวลาอาหารเย็นพอดี >< อ่อ ราคาที่พักรวมทั้งอาหารเช้าและอาหารมื้อเย็นด้วยนะคะ อิ่มหนำสำราญมากๆ เพราะมีทั้งผลไม้ตามฤดูกาลไม่อั้น น้ำอัญชันหอมๆ น้ำแข็งเตรียมไว้ให้ลังใหญ่ๆ น้ำเปล่ามีให้ตลอด และกับข้าว 5 อย่าง เติมได้ไม่อั้น ย้ำ เติมได้ไม่อั้น วันนี้มีหมูชะมวง น้ำพริกไข่ปู ต้มยำไก่ กุ้งอบวุ้นเส้น ผักผักกะหล่ำกุ้งสด เรานี่ชอบหมูชะมวงมาก หวานๆอร่อยดี น่าเสียดายลืมถ่ายบรรยากาศตอนกลางคืนมา ไม่น่ากลัว จัดไฟส้มสวยดี เพราะความเหนื่อยทั้งวัน 4 ทุ่มก็น็อกคาเตียงแล้วจ้า

ตัดภาพมาที่ตอนเช้า เก็บของเตรียมของเสร็จลงไปกินข้าว เช้าวันนี้เป็นข้าวต้มหมูกุ้งหม้อใหญ่ ไม่หวงกับเลย กินกันไม่หมด มีไมโล กาแฟ ขนมปัง นมข้น ขนมปัง แยม พร้อมเครื่องปิ้ง อยู่ดีอิ่มสบาย บรรยากาศ ตกคนละ 800 บาท คุ้มมาก
กินข้าวเสร็จ ขอพักอีกแป๊ป
ออกจากที่พักแล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ เนื่องจากเราและอีก 2 คนในแก๊งค์ยังไม่เคยมา เลยขับรถมาที่ “หาดคุ้งวิมาน” และจุดชมวิวเนินนางพญา เห็นถนนเฉลิมบูรพาชลทิศเป็นทางโค้งสวยงาม แต่เสียดายที่ตอนไปคนเยอะมากจ้า พยายามเก็บไม่ให้เห็นรถก็ได้สุดๆเท่านี้แหละ +_+ และแวะกินข้าวตรงหาดคุ้งวิมานกันต่อ ขออภัยจำชื่อร้านไม่ได้ แต่อาหารอร่อยดีค่ะ แต่มีพี่สาวในแก๊งค์ซื้อห่อหมอด้านนอกร้านแถวนั้นมากินด้วย กลายเป็นห่อหมกอร่อยมากกกกก ลืมกับข้าวบางอย่างบนโต๊ะไปเลย

ติดใจห่อหมก
สุดท้ายแวะกินกาแฟที่ร้าน “บ้านตากาแฟ” ร้านนี้สูตรของทางร้านจะหวานมากนะ ขนาดเราสั่งหวานน้อยยังหวานมากสำหรับเราเลย ส่วนเค้กและมัฟฟินอร่อยดีเลยละคะ แต่ราคาก็ใช้ได้เลย (ชิ้นละ 85 บาท)

สรุปทริปนี้ใช้ไปคนละ 1,900 (จริงๆ 1,800 ปลายๆ ตัดเป็นตัวเลขกลมๆไปเลยละกัน) รวมค่าน้ำมันแล้วด้วยละ ถือว่าดีเลยยย ส่วนจะกลับไปเที่ยวอีกไหมนั้น ค่อยว่ากันอีกที เพราะทริปหน้ายังรอเราอยู่อีกเพียบเลยเหอออ
[CR] เที่ยวเมืองจันทบุรี - ขึ้นเขาคิชฌกูฏ - นอนบ้านสวนพฤกษา โฮมสเตย์
เป็นครั้งแรกของเรากับการเที่ยวจันทบุรี ครั้งแรกของการขึ้นเขาคิชฌกูฏ เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก ออกวันเสาร์ตี 5 ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว (แก่แล้วไม่นอนเนี่ย ทำตัวไม่เกรงใจอายุเล้ยยย) รอบนี้ไปกัน 6 คน มี 3 คนที่มากันบ่อย และอีก 3 คนพึ่งมาครั้งแรก สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็เป็นสถานที่แนะนำในจันทบุรีเลยจ้า
ขอตัดภาพมาที่เตรียมขึ้นเขาเลยละกันนะ…ถึงประมาณ 9.30 น. พี่สาวที่มาทุกปีบอกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และวันหยุดด้วยแบบนี้ ถือว่าคนน้อยมากกก บางตากว่าที่คิดไว้มาก จากที่เคยรอรถขึ้นสองชั่วโมง คราวนี้ก็ได้ขึ้นเลย เจ๊บอกว่าไม่รู้เพราะคนไปขึ้นกลางคืนหมดแล้วหรือเปล่า แต่การจัดการดีมากขึ้นเช่น
- ไม่มีของขึ้นไปขายด้านบน
- ขึ้น-ลงจุดเดียว จุดละ 100 บาท
- มีคนตามจุดเยอะขึ้นมาก เหมือนจะเห็นทหารเยอะขึ้นด้วย (อาจจะเข้ามาควบคุมละมั้ง)
พอถึงทางขึ้นก็รู้สึกได้เลยว่าน้อยจริง (เมื่อเทียบกับภาพที่เคยเห็น) แต่ก็เดินสบายๆ มีแดดแต่ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย พอถึงจุดที่เป็นยอดเขาคิชฌกูฏก็ไหว้และทำพิธีตามที่ตั้งใจไว้ หลังจากเสร็จก็เดินขึ้นไปถึงจุดผ้าแดง ซึ่งเป็นจุดสุดเขตก็เขียนผ้าแดงเสร็จ เดินลงมา ก็ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ถ้าใครเคยเดินขึ้นน้ำตกเอราวัณช่วงหน้าฝนแล้วละก็ ก็สบายแล้วละ
ส่วนขาลง กระบะที่ลงมาส่ง แว่บมาที่เขื่อนแป๊ปนึงด้วย (พี่สาวบอกว่า โชคดีนะเนี่ย ส่วนใหญ่กระบะไม่ค่อยแวะกัน) เพราะคนไม่เยอะ เลยเสร็จไว ประมาณบ่ายโมงก็ลงมาด้านล่างกันแล้วค่ะ
ทีนี้เหลือเวลา เลยขับเข้าตัวเมืองไปกินข้าวกัน โดยอาหารมื้อแรกของเมืองจันท์เป็นเย็นตาโฟเจ๊เพ็ญ ซึ่งโดยรวมถือว่าอร่อยดีนะ กั้งตัวเล็กไปหน่อย ชอบหมูชะมวงหมั่นโถวมากกว่าอีก
หลังจากนั้นก็ขับไปไหว้ศาลหลักเมือง และศาลพระเจ้าตาก ซึ่งสองศาลนี้จะอยู่ๆใกล้กัน เดินข้ามก็ถึงแล้วจ้า
ขับไปอีกหน่อย แวะไปริมน้ำจันทบูรซึ่งบางจุดก็ยังคงความเก่าไว้ แต่บางจุดก็มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยก็ถือว่าอยู่ด้วยกันได้ดี ครั้งแรกก็ต้องแวะมาหน่อยกับ “โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล” เสียดายที่วันนี้ไม่ได้เข้าไปด้านใน เห็นเค้าว่ากันว่าด้านในสวยกกว่า เสียดายจัง
หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวริมน้ำ หาของกินถ่ายรูป แวะทักทายเจ้าถิ่น อิอิ กว่าจะเดินเสร็จก็ 5 โมงแล้ว เลยรีบดิ่งไปที่พักดีกว่า คราวนี้พักห่างจากตัวเมืองราวๆ 30 กิโลเมตร อยู่ในอ.มะขาม ชื่อ “บ้านสวนพฤกษา โฮมสเตย์” คนละ 800 บาท ที่นี้จะมีทั้งบ้านริมน้ำ และบ้านด้านใน ใครที่มากับเพื่อนแล้วชอบความครึกครื้นก็แนะนำในส่วนของริมน้ำ แต่ถ้าใครชอบความสงบควรพักด้านในดีกว่าค่ะ
คราวนี้เราขอพักด้านใน เป็นห้อง 4 คนกับ 2 คน เรานอนห้อง 4 คน เตียงนอนสบาย ห้องน้ำ ห้องพักสะอาดดีค่ะ (ลืมถ่ายห้องสองคนมา)
ถึงจะพักด้านใน แต่ทางที่พักเองก็จัดส่วนที่เป็นศาลาริมน้ำไว้ที่ห้องเราสำหรับไว้กินข้าว พูดคุยในช่วงเย็นด้วย บรรยากาศดีมากๆ บริเวณน้ำเป็นต้นน้ำธรรมชาติเลย มีน้ำเอะ แต่ไหลไม่แรง เสียดายที่ตอนนั้นไปถึงก็เย็นแล้ว ลงเล่นกลัวเป็นหวัด 555 เลยเอาขาไปแหย่ๆพอ มีน้องปลามาทักทายด้วย
ก็เพราะมาถึงเย็นแล้ว จึงได้เวลาอาหารเย็นพอดี >< อ่อ ราคาที่พักรวมทั้งอาหารเช้าและอาหารมื้อเย็นด้วยนะคะ อิ่มหนำสำราญมากๆ เพราะมีทั้งผลไม้ตามฤดูกาลไม่อั้น น้ำอัญชันหอมๆ น้ำแข็งเตรียมไว้ให้ลังใหญ่ๆ น้ำเปล่ามีให้ตลอด และกับข้าว 5 อย่าง เติมได้ไม่อั้น ย้ำ เติมได้ไม่อั้น วันนี้มีหมูชะมวง น้ำพริกไข่ปู ต้มยำไก่ กุ้งอบวุ้นเส้น ผักผักกะหล่ำกุ้งสด เรานี่ชอบหมูชะมวงมาก หวานๆอร่อยดี น่าเสียดายลืมถ่ายบรรยากาศตอนกลางคืนมา ไม่น่ากลัว จัดไฟส้มสวยดี เพราะความเหนื่อยทั้งวัน 4 ทุ่มก็น็อกคาเตียงแล้วจ้า
ตัดภาพมาที่ตอนเช้า เก็บของเตรียมของเสร็จลงไปกินข้าว เช้าวันนี้เป็นข้าวต้มหมูกุ้งหม้อใหญ่ ไม่หวงกับเลย กินกันไม่หมด มีไมโล กาแฟ ขนมปัง นมข้น ขนมปัง แยม พร้อมเครื่องปิ้ง อยู่ดีอิ่มสบาย บรรยากาศ ตกคนละ 800 บาท คุ้มมาก
ออกจากที่พักแล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ เนื่องจากเราและอีก 2 คนในแก๊งค์ยังไม่เคยมา เลยขับรถมาที่ “หาดคุ้งวิมาน” และจุดชมวิวเนินนางพญา เห็นถนนเฉลิมบูรพาชลทิศเป็นทางโค้งสวยงาม แต่เสียดายที่ตอนไปคนเยอะมากจ้า พยายามเก็บไม่ให้เห็นรถก็ได้สุดๆเท่านี้แหละ +_+ และแวะกินข้าวตรงหาดคุ้งวิมานกันต่อ ขออภัยจำชื่อร้านไม่ได้ แต่อาหารอร่อยดีค่ะ แต่มีพี่สาวในแก๊งค์ซื้อห่อหมอด้านนอกร้านแถวนั้นมากินด้วย กลายเป็นห่อหมกอร่อยมากกกกก ลืมกับข้าวบางอย่างบนโต๊ะไปเลย
สุดท้ายแวะกินกาแฟที่ร้าน “บ้านตากาแฟ” ร้านนี้สูตรของทางร้านจะหวานมากนะ ขนาดเราสั่งหวานน้อยยังหวานมากสำหรับเราเลย ส่วนเค้กและมัฟฟินอร่อยดีเลยละคะ แต่ราคาก็ใช้ได้เลย (ชิ้นละ 85 บาท)
สรุปทริปนี้ใช้ไปคนละ 1,900 (จริงๆ 1,800 ปลายๆ ตัดเป็นตัวเลขกลมๆไปเลยละกัน) รวมค่าน้ำมันแล้วด้วยละ ถือว่าดีเลยยย ส่วนจะกลับไปเที่ยวอีกไหมนั้น ค่อยว่ากันอีกที เพราะทริปหน้ายังรอเราอยู่อีกเพียบเลยเหอออ