คิดอยู่นานว่าจะโพสต์เรื่องนี้ดีมั๊ย แต่รู้สึกว่า ค่าของชีวิตคนที่ทำประกันสังคมนี่มันมากแค่ไหน เหตุเกิดกับพี่ชายตัวเองค่ะ
พี่ชายโดนทำร้ายร่างกายจากเพื่อนบ้าน เวลาประมาณ 3 ทุ่มอาการที่เกิดขึ้นตอนนั้นเลยคือ เลือดออกช่องหู อาเจียนเป็นเลือด ปวดหัว ด้วยความตกใจเพื่อนบ้านพาไป รพ.ย่านสายไหม เนื่องจากใกล้บ้านและพี่ชายทำประกันสังคมอยู่ที่นี่ ไปถึงรอคุณหมอตรวจอยู่นานพอสมควร
คุณหมอมาถึงตรวจสอบถามอาการ คนไข้เบลอค่ะตอบว่าล้มหัวฟาด คุณหมอแค่ส่องดูที่หูและ ให้ยาหยอดหู แล้วให้กลับบ้าน!!!!
คงเป็นความแปลกใจและมึนงงของคนไข้และเพื่อนบ้านที่นำส่งโรงพยาบาล ที่คุณหมอวินิจฉัยให้กลับบ้าน ไม่ได้โวยวายหรือสอบถามว่าทำไมไม่ให้นอนรพ. ก็พากันกลับบ้าน
กลับบ้านมาเสร็จพี่ชายปวดหัวมากและยังอ๊วกเป็นเลือด จึงต้องตัดสินใจไป รพ . อีกครั้ง คราวนี้ใครจะกล้าไป รพ เดิม ที่ให้แค่ยาหยอดหู เพื่อนบ้านพาส่งรพ. ย่าน นวมินทร์
รพ. ใหม่ ซึ่งเป็น รพ เอกชน ให้เข้า mri พบว่า มีเลือดออกในสมอง 3 จุด เบื้องต้นคิดว่าต้องผ่านตัด รพ ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 2 แสนบาท ตอนนั้นพ่อกับแม่ไปดูแล พี่ชายที่ รพ. เพื่อนบ้านพี่ชายยังอยู่ด้วย ส่วนตัวเองต้องไปช่วยดูหลานที่บ้านพี่ชาย
ระหว่างนั้น ตัวเราเองคุยกับแม่กับพ่อ ผ่านไลน์ และยังไม่ได้รับการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ รพ ประกันสังคม อย่างละเอียด ออกความเห็นว่า ไปรพ. ประกันสังคมมั๊ย ถ้าต้องผ่าตัด ค่าใช้จ่ายน่าจะถูกลง
ตัวเราบอกให้ แม่กับพ่อลองคุยกับ รพ. ใหม่ช่วยเหลือติดต่อกลับไปที่ รพ ประกันสังคมให้ค่ะ ว่าถ้าผู้ป่วยจะไปที่ รพ. เดิมได้ไหม แต่พี่ชายซึ่งตอนนั้ก็ยังมึนๆ และรู้สึกกลัวการผ่าตัดกับการให้บริการจาก รพ ประกันสังคม บอกพ่อกะแม่ว่าไม่อยากไปผ่าสมองที่นั่น เพื่อนบ้านคนที่พาไป รพ ก็บอกว่าอย่ากลับไปเลย ..(คงนึกออกว่าครั้งแรกให้ยาหยอดหูมา .. ใครจะอยากกลับคะ) ทางรพ. ประกันสังคม แจ้งว่า เดี๋ยวจะแฟกซ์เอกสารมาให้ช่วยยืนยันว่าผู้ป่วยไม่ยินยอมกลับมารักษาที่เดิม ...... ใช่ค่ะ ตอบตามตรงคือกลัว ไม่วางใจ...
ตอนนั้นดึกมากแล้ว เวลาน่าจะประมาณ เที่ยงคืน ถึงตีหนึ่ง ยังไม่ได้มีการเซ็นต์ยืนยันใดๆเกิดขึ้น
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจผ่าตัดที่ รพ ใหม่ ในบ่ายวันรุ่งขึ้น
แต่ ก่อนพี่ชายจะเข้าห้องผ่าตัด ประมาณเที่ยง พ่อได้รับโทรศัพท์จาก รพ ประกันสังคม ถามว่าจะย้ายรพ มั๊ย พ่อเลยแจ้งว่า คงไม่เพราะจะผ่าตัดแล้ว ทางรพ ประกันสังคมแจ้งว่า ถ้ายังต้องการใช้บริการพักฟื้นหลังผ่าตัดก็ส่งตัวกลับไปได้......
รู้สึกแย่ค่ะ ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าหมอไม่เก่งนะคะ แต่จิตวิญญาณของหมอกับธุรกิจโรงพยาบาล มันทำให้คนเราต้องมองโลกในแง่ร้าย...
พูดตรงๆว่าเราไม่ได้รู้สึกขอบคุณที่ รพ เก่าโทรมายินดีให้ความช่วยเหลือรับตัวหลังผ่าตัด
เพราะการปฎิบัติของคุณต่อคนไข้ครั้งแรกทำให้เรารู้สึกมองคุณในแง่ร้ายไปแล้วค่ะ ค่อนข้างไม่มั่นใจในคุณธรรม
ส่วนตัวเคยไปรักษาที่นี่ เคยทั้งใช้ประกันสังคม และจ่ายเอง เข้าใจดีว่าให้บริการต่างกันอย่างไร แน่นอนราคาก็ต่างกันมากด้วย และวันนี้เข้าใจยิ่งขึ้น
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านนะคะ
ถ้าคุณต้องรับการรักษาโรคร้ายแรง รพ. ในเครือประกันสังคมยังเป็นตัวเลือกแรกของคุณมั๊ยคะ
พี่ชายโดนทำร้ายร่างกายจากเพื่อนบ้าน เวลาประมาณ 3 ทุ่มอาการที่เกิดขึ้นตอนนั้นเลยคือ เลือดออกช่องหู อาเจียนเป็นเลือด ปวดหัว ด้วยความตกใจเพื่อนบ้านพาไป รพ.ย่านสายไหม เนื่องจากใกล้บ้านและพี่ชายทำประกันสังคมอยู่ที่นี่ ไปถึงรอคุณหมอตรวจอยู่นานพอสมควร
คุณหมอมาถึงตรวจสอบถามอาการ คนไข้เบลอค่ะตอบว่าล้มหัวฟาด คุณหมอแค่ส่องดูที่หูและ ให้ยาหยอดหู แล้วให้กลับบ้าน!!!!
คงเป็นความแปลกใจและมึนงงของคนไข้และเพื่อนบ้านที่นำส่งโรงพยาบาล ที่คุณหมอวินิจฉัยให้กลับบ้าน ไม่ได้โวยวายหรือสอบถามว่าทำไมไม่ให้นอนรพ. ก็พากันกลับบ้าน
กลับบ้านมาเสร็จพี่ชายปวดหัวมากและยังอ๊วกเป็นเลือด จึงต้องตัดสินใจไป รพ . อีกครั้ง คราวนี้ใครจะกล้าไป รพ เดิม ที่ให้แค่ยาหยอดหู เพื่อนบ้านพาส่งรพ. ย่าน นวมินทร์
รพ. ใหม่ ซึ่งเป็น รพ เอกชน ให้เข้า mri พบว่า มีเลือดออกในสมอง 3 จุด เบื้องต้นคิดว่าต้องผ่านตัด รพ ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 2 แสนบาท ตอนนั้นพ่อกับแม่ไปดูแล พี่ชายที่ รพ. เพื่อนบ้านพี่ชายยังอยู่ด้วย ส่วนตัวเองต้องไปช่วยดูหลานที่บ้านพี่ชาย
ระหว่างนั้น ตัวเราเองคุยกับแม่กับพ่อ ผ่านไลน์ และยังไม่ได้รับการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ รพ ประกันสังคม อย่างละเอียด ออกความเห็นว่า ไปรพ. ประกันสังคมมั๊ย ถ้าต้องผ่าตัด ค่าใช้จ่ายน่าจะถูกลง
ตัวเราบอกให้ แม่กับพ่อลองคุยกับ รพ. ใหม่ช่วยเหลือติดต่อกลับไปที่ รพ ประกันสังคมให้ค่ะ ว่าถ้าผู้ป่วยจะไปที่ รพ. เดิมได้ไหม แต่พี่ชายซึ่งตอนนั้ก็ยังมึนๆ และรู้สึกกลัวการผ่าตัดกับการให้บริการจาก รพ ประกันสังคม บอกพ่อกะแม่ว่าไม่อยากไปผ่าสมองที่นั่น เพื่อนบ้านคนที่พาไป รพ ก็บอกว่าอย่ากลับไปเลย ..(คงนึกออกว่าครั้งแรกให้ยาหยอดหูมา .. ใครจะอยากกลับคะ) ทางรพ. ประกันสังคม แจ้งว่า เดี๋ยวจะแฟกซ์เอกสารมาให้ช่วยยืนยันว่าผู้ป่วยไม่ยินยอมกลับมารักษาที่เดิม ...... ใช่ค่ะ ตอบตามตรงคือกลัว ไม่วางใจ...
ตอนนั้นดึกมากแล้ว เวลาน่าจะประมาณ เที่ยงคืน ถึงตีหนึ่ง ยังไม่ได้มีการเซ็นต์ยืนยันใดๆเกิดขึ้น
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจผ่าตัดที่ รพ ใหม่ ในบ่ายวันรุ่งขึ้น
แต่ ก่อนพี่ชายจะเข้าห้องผ่าตัด ประมาณเที่ยง พ่อได้รับโทรศัพท์จาก รพ ประกันสังคม ถามว่าจะย้ายรพ มั๊ย พ่อเลยแจ้งว่า คงไม่เพราะจะผ่าตัดแล้ว ทางรพ ประกันสังคมแจ้งว่า ถ้ายังต้องการใช้บริการพักฟื้นหลังผ่าตัดก็ส่งตัวกลับไปได้......
รู้สึกแย่ค่ะ ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าหมอไม่เก่งนะคะ แต่จิตวิญญาณของหมอกับธุรกิจโรงพยาบาล มันทำให้คนเราต้องมองโลกในแง่ร้าย...
พูดตรงๆว่าเราไม่ได้รู้สึกขอบคุณที่ รพ เก่าโทรมายินดีให้ความช่วยเหลือรับตัวหลังผ่าตัด
เพราะการปฎิบัติของคุณต่อคนไข้ครั้งแรกทำให้เรารู้สึกมองคุณในแง่ร้ายไปแล้วค่ะ ค่อนข้างไม่มั่นใจในคุณธรรม
ส่วนตัวเคยไปรักษาที่นี่ เคยทั้งใช้ประกันสังคม และจ่ายเอง เข้าใจดีว่าให้บริการต่างกันอย่างไร แน่นอนราคาก็ต่างกันมากด้วย และวันนี้เข้าใจยิ่งขึ้น
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านนะคะ