ข้อมูลการรีวิว
=========
- รถที่ใช้เป็นรุ่น 2.4 เกียร์ออโต้ ไม่มีซิกม่าโฟร์
- ต้องเติมลมยางให้เท่ากันทั้ง 4 ล้อก่อนออกเดินทางทุกครั้ง (29 psi) สำคัญมาก(ถ้าไม่เท่ากันอย่าฝันว่าจะได้ฟิลเหมือนอยู่บนเครื่องบิน)
- เป็นความเห็นส่วนตัวจากการใช้งานจริงไม่ใช่พรีเทส

- เติมน้ำมันเต็มถึงประมาณ 1,600 วิ่งได้เกือบ 800 กม. ถังเดียว สุราษ - กรุงเทพฯยังเหลืออีกพอสมควร
- ความเร็วทางตรงที่ขับสบายๆไม่เกินกำลังรถคือ 120 กม./ชม. หากเกิน 140 กม./ชม. ต้องมีสติระวังทั้งตัวผู้ขับและเพื่อนร่วมทางและกล้องตรวจจับความเร็ว(แต่ควรใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดครับ)
- ภายในห้องโดยสารเงียบ เปิดเพลง 1-2 ขีดได้สบายๆ
- เบาะตอนหน้าตอนกลางปรับเอนสบาย ตอนหลังนั่งสบายขึ้นนิดหน่อยแต่ต้องมีเทคนิคการปรับตำแหน่งเบาะคู่หน้าซ้าย คู่ตอนกลางให้เหมาะสม
- รถวิ่งทางตรงความเร็วคงที่จะนิ่ง เงียบ คล้ายๆกับบนเครื่องบินหลังเทคนออฟอยู่ในระบบเพดานบินแล้ว ย้ำว่าความเร็วต้องคงที่ และลมยางเท่ากันตามข้อมูลข้างต้น(**29 psi ทั้ง 4 ล้อ**)
- ไฟส่องสว่างเดย์ไลน์เห็นชัดเจนแนวระนาบได้ระยะไกล
- อุณภูมิภายแยกหน้าหลัง และมีเครื่องทำความอุ่นภายใน(ฮีตเตอร์)
- ฝนตกหนักไม่มีน้ำรั่วเข้าห้องโดยสาร ระบบไฟฟ้าไม่ขัดข้อง
- เครื่องยนต์ทำงานนิ่งไม่ส่ายถึงแม้จะจอดด้วยรอบเดินเบา
- รุ่น 2.4 150 แรงม้า 400 แรงบิด กำลังเหลือเฟือสำหรับถนนทุกประเภทในบ้านเรา
- ถ้าขับตั้งแต่ 120 กม./ชม. ควรกดปุ่ม "Power Mode" รถจะตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น ปลอดภัยตอนเร่งแซง ไม่ต้องลุ้นว่าแซงจะพ้นหรือไม่
- ฟอร์จูนเนอร์พื้นฐานมาจากปิคอัพ โครงรถใหญ่ แรงบิดเยอะ เวลาขับควรมีน้ำใจแก่เพื่อนร่วมทาง ขับช้าอยู่เลนซ้าย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่เสียเกียร์ติสักเท่าไหร่หรอก ขับเร็วอยู่เลนขวา หากมีรถตามมาเร็วกว่าและประสงค์ไม่ชิดซ้ายให้เพราะคอนโทรลยากก็ให้สัญญาณชิดขวาเพื่อคันหลังจะได้ทราบและเร่งแซงด้านซ้ายแทน เราก็ผ่อนความเร็วเพื่อให้คันหลังแซงได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากมีตามมาเป็นโขยง แนะนำให้หากช่องชิดซ้ายได้เลย มีบางอย่างไม่ปกติละ(เราเป็นแกะดำ)
- เวลาแซงรถเก๋งทุกประเภทในเวลากลางคืน ไฟฟ้าจะสว่างบดบังทัศนวิสัยเกือบ 100% ของพวกเขาทันที ที่พวกเขาชิดซ้ายให้ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพราะมองไม่เห็นทาง ดังนั้นหากจะแซงรถเก๋ง หรือรถแต่งโหลดเตี้ยทุกประเภทควรทำให้เร็ว ไม่ควรขับขับตามหลังในระยะกระชันชิดเป็นเวลานานๆ
- หากจำเป็นต้องตามหลังเป็นเวลานานเช่นติดไฟแดง รถติด หรืออื่นๆ ควรปิดไฟหน้าชั่วคราว(เหลือไฟขึ้นอยู่ในคลิกที่สอง) และเปิดไฟตัดหมอกแทน
- ไม่ใช่แตร ไม่ยกไฟสูง โดยไม่จำเป็น
- เบรคทำงานได้ดีทั้งถนนแห้งและถนนเปียก
- ข้อเสียตอนที่สองไม่มีที่จับ(ด้านหน้า)เพื่อเข้าห้องโดยสาร หากเป็นผู้สูงอายุจะลำบากนิดหนึ่งครับ
- ไม่แนะนำให้ขับเกิน 150 กม./ชม. (รถนะถึง แต่เจ้าของกระทู้ใจไม่ถึงแล้ววว)
- มีสติตลอดเวลาที่ขับ เหลือก็พัก ปั้มน้ำมันดีๆมีบริการตลอดเส้นทาง
- อนุรักษ์ธรรมชาติ(เกี่ยวไหมเนียะ)
- เชื่อได้ว่าทุกท่านที่เคยขับทางไกล มักจะมีคนมาชวนแข่งรถด้วยเสมอ แนะนำว่า "ไม่ต้องแข่ง" และไม่บีบแตร ไม่ยกไฟหน้า ถึงแม้จะมีกำลังและฝีมือเหลือเฟือก็ตาม
- คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ที่นั่งสองตอนหน้ารถจะ Detect ว่ามีคนนั่งหรือไม่หากมีคนนั่งและมีความเร็วเกิน 20 กม./ชม.จะมีสัญญาณบังคับให้คาดเข็มขัด(ไม่ใช่สัญญาณเตือนนะ คือต้องคาดไม่งั้นไม่หยุด) และล็อกประตูห้องโดยสารทุกบานให้อัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน แต่อย่าได้ใช้เลยปลอดภัยตลอดเส้นทางดีที่สุด
- ถ้าอยากฟังเพลงแนะนำให้ใช้ซีดี/ดีวีดี(ที่เซเว่นในปั้มมีขาย(ไม่ได้ค่าโฆษณา)) แทนเฟรชไดร์ เสียงดีต่างกันมาก หรือรู้สึกไปเองไม่รู้เหมือนกันนะ ลองดูนะครับแล้วมาแชร์กัน
- ระบบนำทางที่ติดมากับรถ ท่านคงคิดว่าผู้ใช้เป็นมีมือเป็นดัชนีเทพ แตะแต่ละทีให้ทำใจไว้สักหน่อย ไม่ได้เร็วเหมือนมือถือ หากใช้เป็นแล้วก็ดีขึ้น(นิดหนึ่ง) เหมาะสำหรับเดินทางไกลในถนนหลักทางหลวงแผ่นดิน บางเส้นทางยังไม่อัพเดท เช่น ทางในเมืองเก่าสงขลา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แถวหน้าโรงแรงเลคอินน์ยังไม่ปรากฎในแผนที่
- ใช้ระบบนำทาง 50% สติคนขับอีก 30% สติคนข้างๆอีก 10% ผู้โดยสารตอนหลังอีก 10% ช่วยกันดูไม่มีหลง(บ่อย)
- ขับทางไกลไม่เหนื่อย 800 กม.มือเดียว สบายๆ (ก่อนหน้าพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามแฮ้งค์ ห้ามเครียด ห้ามใจลอย)
- สำหรับคนที่มีธุรกิจเยอะแนะนำให้ต่อบลูธูธเข้ากับรถ ระบบส่วนนี้ค่อนข้างดีเสียงชัดได้ขาเข้าและขาออก ได้ยินกันทั้งรถ ระวังระบบไม่ map ชื่อที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ให้ ใครเผลอรับสายกิ๊กในรถ ตัวใครตัวมันนะ
- ช่องใส่ของด้านซ้ายจะมีช่อง *ลับ* มากชนิดที่ว่าหากันทั้งรถไม่เจอ ต้องพึ่งหลวงพ่อมาเข้าฝันบอก จะอยู่ที่ไหนนั้นไปหาเอาเอง ไม่บอกเพราะเป็นความลับแต่ยืนยันว่ามีอยู่จริง
- เครื่อง 2.4 บางท่านอาจคิดว่าไม่แรงพอ แนะนำให้ไปยืมรถหรือเช่ารถรุ่นเดียวกันนี้มาขับบนถนนจริงในทางเรียบระยะทางสัก 30-50 กม.ดูก่อนนะครับว่าถึงใจหรือไม่ ถ้ายังไม่ถึงค่อยควักอีก สองแสน เป็นรุ่นท็อปมีซิกม่าโฟร์ หรือเพิ่มอีก สี่แสน รุ่นท็อปทีอาร์ดี *อย่าไปทดลองขับระยะสั้นๆตามศูนย์นะครับ เพราะเซลจะชวนท่านคุยจนไม่สามารถ Feel ถึงกำลังรถที่แท้จริงได้ ต้องลงถนนเท่านั้นแรงม้าแรงบิดถึงจะแซบซ่านเข้าหัวใจท่านอย่างแนบชิดชนิดที่เจอสาวแรกรุ่นครั้นตอนเป็นหนุ่มแรกท่านจะทำอะไรแทบไม่ถูกและยากเกินห้ามใจ(ที่จะเสียเงินล้าน) แต่โดยปกติชิวิตประจำวันขับไม่เกิน 140 อยู่แล้วไม่ต้องลองก็ได้ครับเพราะรุ่นนี้จะเป็นรถที่โครตปลอดภัยสำหรับท่านเกือบทุกสถานการณ์(ไม่บีบแตร ไม่แช่ขวา ไม่ยกไฟหน้า โดยไม่จำเป็นอันนี้คงรู้กันเนาะ(รถคุณสุภาพว่างั้น))

ศูนย์บริการ
- รถรุ่นนี้มีระยะการเข้าเช็คศูนย์บริการทุกๆ 10,000 กม. แนะนำให้โทรจองคิวการเข้ารับบริการก่อนจะสะดวกทั้งลูกค้าเพราะทางศูนย์จะแจ้งเวลาที่จะแล้วเสร็จอย่างเป็นระบบ ระหว่างรอจะมีขนม กาแฟ เครื่องนวด(ที่ใช้ไม่ค่อยได้) ทีวี คอมพิวเตอร์ น้ำดื่ม และจุดชมวิวสำหรับชมรถที่กำลังรับบริการ
- หลังรับบริการจะได้รับกระป๋องน้ำมันเครื่อง, กรองอากาศที่ใช้แล้วกลับบ้านด้วย
- และจะมีคอลเซ็นเตอร์โทรกลับมาเพื่อสำรวจความพึงพอใจ

2.4 แรงพอไหม?
โดยรวมแล้วค่อนข้างพึงพอใจ สำหรับใครที่จะซื้อ 2.4 แล้วกลัวอืด เร่งแล้วมีแต่เสียงตัวไม่ไป แนะให้ให้เข้าศูนย์บริการหลังวิ่งไปแล้ว 10,000 กม. และแจ้งซ่อมอื่นๆในใบรับรถว่า "ออกตัวช้า ไม่มีแรงเร่งแซง" เสร็จแล้วลองขับดูอีกทีปกติจะมีหัวหน้าช่างมาลองขับรถพร้อมกับลูกค้าก่อนส่งมอบ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แน่นอนว่าความแรงไม่ได้มาฟรีๆ ต้องเตรียมใจรับอัตราการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นกว่าปกติอีกเล็กน้อย


===============
ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นฟีเจอร์ฟังชั่นที่อยากให้มี ค่อนข้างจะลิเกไปสักหน่อยคงไม่ว่ากัน

- ระบบตรวจสอบภูมิอากาศในรัศมี 100 กม. (ใช้เรดาห์ ท่าทางจะแพง, เปลี่ยนเป็น social radar น่าจะง่ายและแม่นยำกว่า)
- ระบบกล้องภายในและภายนอกรถ โหมดจอดเฝ้าระวัง, โหมดจอด, โหมดตรวจสอบ ข้อมูลอัพขึ้นคลาวด์ผ่าน 4จี
- เซ็นเซอร์กระจกปิดไม่สนิทหลังดับเครื่องยนต์แล้ว(ปิดได้ acknowlegde/insis)
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิภายในและความเคลื่อนไหวภายในรถ(ลืมเด็ก)
- ระบบแบตเตอร์รี่สำรองแยกต่างหากออกจากเบตเตอร์รี่หลักสำหรับอุปกรณ์ภายในรถที่ไม่ critial หรือแยกแบตเตอร์รี่สำหรับสตาร์ทออกต่างหาก
- ระบบนำทางแยกเป็น 3 จอ จอ แรก overall ดูว่าวิ่งส่วนไหนของประเทศไทย จอที่สอง ระยะ 200 กม.  จอที่สามระยะ 5 กม. ปรับเลือกระยะได้ทุกจอ
- ถังน้ำมันอัพเกรดเป็น 150 ลิตร, เครื่องยนต์ 500 แรงม้า 800 แรงบิด (อะจ้าคค...)
- อัพเกรดที่นั่งตอนสามให้ชันเข่าได้สำหรับผู้โดยสารสูง 180 ซม.
- ระบบตัดเสียงรบกวนภายในตัวรถ เปิดปิดฟังเสียงเครื่องยนต์ได้
- รุ่นต่อไปคงต้องใส่ชุดแบบนักบินเพื่อเฝ้าฟังและขับให้ปลอดภัย
    - หูฟังเสียงรอบข้างและเครื่องยนต์
    - ครอบจมูกตรวจแอลกอฮอล
    - เสื้อตรวจชีพจร
- ไฟส่องสว่างแบบโปรเจ็คเตอร์ต้นแบบของรุ่น 2015 ทำได้ดีมากๆ
- เซ็นเซอร์เตือนชนวัตถุรอบตัวรถ(อันเดียวกันกับเซ็นเซอร์หน้าหลังในปัจจุบัน) เมื่อความเร็วไม่เกิน 5 กม./ชม. ใช้กรณีจอดเข้าซอง ไม่ควรมีอะไรสัมผัสรถในระยะนี้/หรือเฉพาะเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
- ติดต่อรถผ่านมือถือ เพื่อ สตาร์ทรถเปิดแอร์รอ, สั่งดับเครื่องยนต์หรือเปลี่ยนรหัสสตาร์ทเครื่องยนต์/ ส่งภาพ/ตำแหน่งปัจจุบัน/เปิดไฟภายในตัวรถ/ส่งเสียง(แตร)/เปิดไมล์พูดจากโทรศํพท์ไปยังตัวรถและลำโพงที่รถเปิดเสียงดังได้
- รถใส่ซิมการ์ด 4จี ได้จากโรงงาน(รถใส่ซิมได้)
- มีกล่องดำ เก็บข้อมูลการเดินทาง ความเร็ว พิกัด อุณหภูมิ ภาพจากกล้องหน้าหลังสำรองก่อนอัพขึ้นคลาวด์ กล่องทนน้ำ ทนฝน ทนความร้อน มีรหัสป้องกันข้อมูลแบบ NASA ว้าวววว
- กระจกรอบตัวรถแตกอัตโนมัติเมื่อมีน้ำเข้ามีในห้องโดยสารเกินกว่า 10 ซม. พร้อมส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยัง อปพร. ใกล้ที่สุด ณ ตำแหน่งของรถ ตามด้วยโทร 191 ด้วยระบบอัตโนมัติ
- มีถุงลมชูชีพสำหรับรถ และพองตัวอัตโนมัติเมื่อรถจมน้ำเกิน 80% พร้อมจุดพลุขอความช่วยเหลือและส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยัง social radar
- ระบบเปิดกุญแจสตาร์ทด้วยการเป่าแอลกอฮอลก่อน(โห้)
- เนื่องจากเรามีระบบโซเชียลเรดาห์ รถจะเตือนเมื่อข้างหน้ามีถนนปิดซ่อมแซม มีอุบัติเหตุ รถติดผิดปกติ ฝนตกหนัก มีด่านตรวจ(อันนี้ท่านคงไม่อนุมัติให้แสดง 555) รวมถึงการตรวจสอบป้าย

ทะเบียนคันหน้าคันหลังว่ามีการแจ้งหาย หรืออยู่ในลิสต์ของทางการหรือไม่(โอ้ววว...) ถ้าเจอก็คิดโปรเซสต่อเองนะ
- แอร์แยกซ้ายขวา มีฮีตเตอร์ คูลเลอร์
- มีเครื่องฟอกอากาศ(อันที่จริงน่าจะมีอยู่ในแอร์อยู่แล้ว แต่หากมีข้างนอกอีกเพื่อประโยชน์ในการโฆษณารถจะขายดีขึ้นมาก)
- มีที่วางโทรศัพท์, กระเป๋าสตางค์ รุ่นปัจจุบันมีที่วางแก้วน้ำเยอะมากแบ่งมาให้สองฟีเจอร์นี้บ้างก็จะดีไม่น้อยเพราะทุกคนมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์
- ระบบกลิ่นน้ำหอม/ระบบฟอกอากาศ เปลี่ยนใส้เปลี่ยนกลิ่นได้จากโรงงาน
- ระบบ Detect คาบันไดอ๊อกไซน์ในรถ แก้ไขปัญหาเสียชีวิตในรถเมื่อจอดติดเครื่องนอน
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ระบบสตาร์ทด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
- ระบบดูดน้ำฝนจากหลังคาลงมาเมื่อฝนตก แล้วนำมาลงกล่องสเตอร์ไลน์แล้วนำกลับมาใช้ในระบบเครื่องยนต์เช่น ระบบหล่อ
เย็น น้ำแบตเตอร์รี่ น้ำปัดฝน น้ำทำความสะอาดไฟหน้า-หลัง
- ระบบเรดาห์ตรวจความเรียบของพื้นผิวถนนวัดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์

พอก่อนเดี๋ยวจะเยอะเกินไป