แม่เราเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายแล้วค่ะ ตรวจเจอมะเร็งเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนั้นบอกว่าอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือน
ครึ่งปีที่แล้วเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบเพิ่ม ทำให้ไม่สามารถพูดได้ กลืนอาหารลำบาก
รักษามาเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มพูดประโยคยาวๆ ได้บ้างแล้ว ตอนนี้คือ ลามไปทั่วตัวแล้วค่ะ เข้ากระดูก เข้าสมอง
เดินไม่ได้แล้ว ปัสสาวะเองไม่ได้ ต้องต่อท่อออกมา ปกติเราก็ไปทำงานบริษัท พ่อก็ดูแลอยู่ที่บ้าน
เรากับพ่อแม่อยู่กันคนละบ้านด้วย แต่ก็อยู่ใน กทม. เหมือนกัน เราอยู่บ้านญาติค่ะ จะกลับเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
หรือถ้าแม่อาการไม่ค่อยดี หลังเลิกงานเราก็จะไปเยี่ยม ความรู้สึกตอนนี้แย่มากเลยค่ะ
ปกติแล้วเราเป็นไบโพลาร์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่มีอาการมา 6 ปีแล้ว เมื่อวานไปหาจิตแพทย์ แต่หมอที่หาประจำไม่อยู่
เราก็เลยกลับ ความรู้สึกคือ เราไม่เคยคิดถึงอนาคตที่ไม่มีพ่อแม่เลยค่ะ เราตั้งใจเรียน หาเงิน
ตลอดชีวิต เรามีแต่พ่อแม่ ญาติๆ เราเป็นคนที่ทำอะไรตามกฎเกณฑ์ที่ในสังคมวางตลอด สังคมโรงเรียนบอกว่าให้ตั้งใจเรียน
เราก็ตั้งใจเรียน เราตั้งใจทำงานหาเงินมาให้พ่อแม่ใช้ค่ะ ถึงแม้ว่าตั้งแต่ตอนมัธยมก็ไม่ได้ส่งเสียเราแล้ว
เรารู้สึกดีมาก เวลาเราสามคนไปเที่ยวด้วยกัน ไปกินอาหารอร่อยๆ แต่วันนี้แค่ออกไปกินเอ็มเคแถวบ้าน ยังไปไม่ได้เลยค่ะ
เราไม่กล้าไปเที่ยวไหน เพราะไม่อยากให้พ่อน้อยใจ ที่ต้องดูแลแม่คนเดียว ตอนอาทิตย์ที่แล้วที่เรากลับไป
แม่อึออกมาเยอะมาก ก็ให้อึบนที่นอน ใส่ผ้าอ้อม เรารังเกียจ เราไม่อยากเห็น เราก็รู้สึกผิดที่ทำไมถึงได้รังเกียจ
พ่อเราจมูกไม่ได้กลิ่นค่ะ ไม่ว่าจะหอมหรือเหม็น พ่อบอกว่าเค้าทำได้ไม่เป็นไร เราไม่กล้าแม้แต่จะไปกินข้าวกับเพื่อน
หรือนัดอะไรกับใครทั้งนั้น เพราะเรารู้สึกผิดที่หนีไปมีความสุขคนเดียวค่ะ เราจะทำอย่างไรดี
เราเป็นลูกคนเดียว ไม่มีแฟน เราทั้งทุกข์ที่รู้ว่าแม่จะต้องจากไป ทุกข์ที่จะต้องอยู่คนเดียว พ่อก็จะไปบวช
เราไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหากับจิตใจตัวเองยังไงค่ะ
เมื่อคนที่รักใกล้ตาย ทำไมถึงรู้สึกไม่มีความฝัน หรือความหวังอะไรเลย
ครึ่งปีที่แล้วเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบเพิ่ม ทำให้ไม่สามารถพูดได้ กลืนอาหารลำบาก
รักษามาเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มพูดประโยคยาวๆ ได้บ้างแล้ว ตอนนี้คือ ลามไปทั่วตัวแล้วค่ะ เข้ากระดูก เข้าสมอง
เดินไม่ได้แล้ว ปัสสาวะเองไม่ได้ ต้องต่อท่อออกมา ปกติเราก็ไปทำงานบริษัท พ่อก็ดูแลอยู่ที่บ้าน
เรากับพ่อแม่อยู่กันคนละบ้านด้วย แต่ก็อยู่ใน กทม. เหมือนกัน เราอยู่บ้านญาติค่ะ จะกลับเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
หรือถ้าแม่อาการไม่ค่อยดี หลังเลิกงานเราก็จะไปเยี่ยม ความรู้สึกตอนนี้แย่มากเลยค่ะ
ปกติแล้วเราเป็นไบโพลาร์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่มีอาการมา 6 ปีแล้ว เมื่อวานไปหาจิตแพทย์ แต่หมอที่หาประจำไม่อยู่
เราก็เลยกลับ ความรู้สึกคือ เราไม่เคยคิดถึงอนาคตที่ไม่มีพ่อแม่เลยค่ะ เราตั้งใจเรียน หาเงิน
ตลอดชีวิต เรามีแต่พ่อแม่ ญาติๆ เราเป็นคนที่ทำอะไรตามกฎเกณฑ์ที่ในสังคมวางตลอด สังคมโรงเรียนบอกว่าให้ตั้งใจเรียน
เราก็ตั้งใจเรียน เราตั้งใจทำงานหาเงินมาให้พ่อแม่ใช้ค่ะ ถึงแม้ว่าตั้งแต่ตอนมัธยมก็ไม่ได้ส่งเสียเราแล้ว
เรารู้สึกดีมาก เวลาเราสามคนไปเที่ยวด้วยกัน ไปกินอาหารอร่อยๆ แต่วันนี้แค่ออกไปกินเอ็มเคแถวบ้าน ยังไปไม่ได้เลยค่ะ
เราไม่กล้าไปเที่ยวไหน เพราะไม่อยากให้พ่อน้อยใจ ที่ต้องดูแลแม่คนเดียว ตอนอาทิตย์ที่แล้วที่เรากลับไป
แม่อึออกมาเยอะมาก ก็ให้อึบนที่นอน ใส่ผ้าอ้อม เรารังเกียจ เราไม่อยากเห็น เราก็รู้สึกผิดที่ทำไมถึงได้รังเกียจ
พ่อเราจมูกไม่ได้กลิ่นค่ะ ไม่ว่าจะหอมหรือเหม็น พ่อบอกว่าเค้าทำได้ไม่เป็นไร เราไม่กล้าแม้แต่จะไปกินข้าวกับเพื่อน
หรือนัดอะไรกับใครทั้งนั้น เพราะเรารู้สึกผิดที่หนีไปมีความสุขคนเดียวค่ะ เราจะทำอย่างไรดี
เราเป็นลูกคนเดียว ไม่มีแฟน เราทั้งทุกข์ที่รู้ว่าแม่จะต้องจากไป ทุกข์ที่จะต้องอยู่คนเดียว พ่อก็จะไปบวช
เราไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหากับจิตใจตัวเองยังไงค่ะ