สังคมจอแหล่ม เพราะ สื่อใช่ไหมครับ

ละคร หรือ MV เพลงต่างๆในปัจจุบันมีแต่เพลงแนวความรัก มีแต่ฉากอกหัก แอบรัก และเนื้อหาในเพลงก็มีแต่คู่รักที่ กอดกัน จูบกัน การแต่งกายที่แปลกใหม่ ไหนพระเอกจะหล่อ นางเอกจะสวยอีก ซึ่งแต่ละอย่างกระแทกใจวัยรุ่นทั้งนั้น และแน่นอนว่าเด็กส่วนใหญ่เอาไปเป็นแบบอย่าง กลายเป็นกระแสสังคมซึ่งหากวัยรุ่นคนไหนไม่รู้จักสังคมก็จะมองว่า ตามเทนด์ไม่ทัน บลาๆๆๆ
.....มันส่งผลกระทบคือ เวลาเด็กไปโรงเรียน มันไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียน มันไปโฟกัสไอ้เรื่องกระแสสังคมแทน ไปโรงเรียนเหมือนไป เล่น โทรศัพท์ (อวดกันว่าของใครใหม่กว่ากัน) ไปเล่น Facebook,Line บ้างก็ไปหาความรัก, ไปหาเพื่อน(ได้เพื่อนไม่ดีก็พากันโดดเรียน ติดบุหรี่ ติดสุรา) เด็ก ผู้หญิง/ชาย บางคนก็ไปทำตัวแรงๆที่โรงเรียน บางคนรุนแรงถึงขนาดตั้งกลุ่มตบตีกันเอง พอครูสอนก็แสดงอาการไม่พอใจทั้งที่พื้นที่นั้นคือโรงเรียนแท้ๆแต่ไม่สามารถให้การอบรมได้ ปัจจุบันเด็กนักเรียนเริ่มติดบุหรี่ และสูบในโรงเรียน และนอกจากนี้ ปัญหาเด็กตั้งครรภ์ในวัยเรียนก็สูงมาก ก็อยากรู้ว่าไอ้กระแสสังคมแบบนี้มันมาจากที่ไหน เด็กถึงได้เอามาเป็นแบบอย่าง แล้วใครจะสามารถช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ถ้าจะเริ่มจากสถาบันครอบครัว บางครอบครัวก็สอนลุกมาดี แต่พอเข้าโรงเรียนเจอกระแสสังคมก็เสียผู้เสียคน และเมื่อเทียบกับ สื่อมัลติมีเดียต่างๆก็ดังตัวอย่าง

ตัวอย่าง!!
1. ละครตบตีแย่งผู้ชาย // อาจดูเป็นเรื่องปกติสำหรับคนดู ----> เด็กไทยตบตีกันมากขึ้นราวกับเอาจากละคร MV เพลงต่างๆ [คนดูมองเป็นเรื่องที่ขัดต่อวัฒนธรรมโยนความผิดไปให้พ่อแม่ที่เลี้ยงดูบุตร ไม่เคยคิดว่าเด็กเหล่านั้นเอาแบบอย่างมาจากไหน ]
2. วาเลนไทน์ในละคร MV เพลงต่างๆ มอบตุ๊กตา ดอกไม้ หรือพาไปมีเซกซ์ // คนดูมองว่าแรง แต่ก็รับได้เพราะเป็นเพียงการแสดง ----> เด็กไทยเอาไปเป็นแบบอย่าง รุกลามไปปัญหาตั้งครรภ์ในวัยเรียน เพราะไม่ได้คิดถึงการป้องกันและอายที่จะซื้อถุงยาง เพียงแค่ทำตามกระแสแบบอย่างละครที่สร้างขึ้นมาสำหรับวัยรุ่น
3. ในละครวัยรุ่นมีการยกพวกรุมกระทืบกัน ผู้ใหญ่มองไม่เหมาะสม เด็กมองและคิดเอาไปใช้ในชีวิตจริง
4. มีฉากจูบในละคร ผู้ใหญ่มองปกติเพราะมีวุฒิภาวะ เด็กเห็นมองเป็นเรื่องท้าทาย อยากลองเรียนรู้ และอาจจะไปนำไปสู้ข้อ 1-2
...ยังมีอีกหลายอย่าง...

บอกก่อนนะครับว่า!!!! ผมก็เป็นคนนึงที่ดูละครทุกแบบ และสามารถแยกแยะออกได้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ละครเป็นสื่อที่สะท้อนสังคมได้เป็นอย่างดี แต่จะทำอย่างไรให้เยาวชนไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่เอามันไปคิด และยับยั้งในการทำสิ่งที่ไม่ดี

----> ถ้าเทียบระหว่างโรงเรียนบ้านนอกไร้สัญญาณมือถือ กับ โรงเรียนในเมือง พบว่า เด็กบ้านนอกกลับไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่เด็กในเมืองกลับมีปัญหามากกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่