สวัสดีกันอีกครั้งครับ ผมลุงยาม สายโหด วันนี้จะมาแนะนำและรีวิวการใช้งานสมาร์ทโฟนตัวแรงของค่าย nubia ให้ทราบกันว่ามันน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ทำไมในงาน TME 2017 ที่ผ่านมา คนถึงให้ความสนใจและต่อแถวเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนค่ายนี้กันมากนัก เรามาดูกันครับว่าเพราะอะไร...
งาน TME 2017 ที่ผ่านมาจะเห็นกลุ่มลูกค้ายืนรอเข้าแถวและจับกลุ่มอยู่หน้าบูธ nubia เยอะมาก ถ้าเดินเข้ามาจากฝั่ง MRT วันแรกๆจะเห็นแถวยาวไปจนถึงศูนย์อาหารกันเลยทีเดียว ตอนแรกก็ตกใจ ใครจัดโปรลดครึ่งราคา หรือว่ามีของแจกฟรี พอเดินไปดูต้นแถวแค่นั้นหล่ะ ถึงบางอ้อเลยครับ คนมายืนรอคิวซื้อสมาร์ทโฟนค่าย nubia นั้นเอง..โอ้โห อะไรจะขนาดนั้น
กลับมาคิดอีกรอบ จริงๆ nubia thailand พึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราช่วงปลายเดือน พฤษจิกายน 2559 ระยะเวลาทำตลาดก็แค่สองเดือนนิดๆ แล้วทำไมลูกค้ากล้ายอมจ่ายเงินซื้อสมาร์ทโฟนค่าตัวเกินหมื่นทั้งที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ แม้แต่ยืนรอคิวก็ยังรอ ขอเพียงให้ได้ nubia มาซักเครื่องก็ยังดี
ด้วยความสงสัยอีกนั้นหล่ะ ผมเลยเดินไปดูสมาชิกที่ยืนต่อแถวกันเพื่อที่จะสืบดูว่าพวกเขาได้รับข่าวสารมาจากทางไหน ทำไมถึงตัดสินใจมายืนรอสินค้า พอเดินเข้าไปก็มีสมาชิกหลายท่านที่ทักผม ลุงยาม จากห้อง nubia ในเฟสบุ๊คหรือเปล่าครับ ผมติดตามข่าวสารมาจากเฟสบุ๊คครับ เห็นว่าจะมีของขายหน้างานเลย ผมถึงมายืนรอ (ต้องขอบคุณสมาชิกที่จำผมได้เนาะ)555+
*
ขอตำหนิผู้จัดงานนิดนึงครับ เรื่องการจัดสรรสินค้าหรือระเบียบการในการซื้อ ผมมองว่ายังมีปัญหาอยู่บ้าง ตั้งแต่การจัดคิวยันไปถึงการจ่ายตังค์ วันแรกช้ามากๆ อาจจะเป็นเพราะ nubia พึ่งจะเข้ามาจัดงานครั้งแรก ทำให้การบริการยังไม่ดีมากนักก็เป็นได้ ก็ฝากเรื่องนี้ไว้หน่อยหล่ะกันครับ งานหน้าจะได้แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย
และวันแรกทาง nubia thailamd ก็ได้เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ด้วย (nubia Z11miniS) เลยทำให้สถานะการณ์ภายในดูวุ่นวายไปนิดนึง
กลับมาคุยถึงเรื่องของเราต่อครับ ว่าทำไมลูกค้าถึงยอมต่อแถวเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนน้องใหม่กัน ยิ่งตัว Z11 เป็นที่ต้องการของสมาชิกมากๆ เรามาดูกันว่ามันน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ทำไมถึงดึงความสนใจสมาชิกได้รวดเร็วขนาดนั้น
spec nubia Z11 (ตัวที่ผมรีวิวจะเป็น ram 4 GB) และจะมีตัว ram 6GB แต่ไม่ได้รีวิวนะครับ
หน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD IPS LCD ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ไร้ขอบ (Bezel-Less design)2.5D Gorilla Glass 3
CPU Qualcomm Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz
GPU Adreno 530
RAM LPDDR 4 GB
ROM 64 GB
3G/4G VoLTE
Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย nubia UI 4.0
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ เลนส์มุมกว้าง 80 องศา f 2.4
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX298 f2.0 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
HiFi AK4376
ระบบเสียง Dolby Atmos
USB Type-C
แบตเตอรี่ 3000 mAh รองรับการชาร์จความเร็วสูง (Quick Charge 3.0)
ขนาดรูปทรง 151.8×72.3×7.50 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 162 กรัม
ราคาเปิดตัว 14,990 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีตามนี้ครับ
ตัวเครื่อง
สาย USB Type-C
อะแดปเตอร์ USB Type-C to microUSB
หูฟัง In-ear
หม้อแปลง Quick Charge 3.0
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือและใบรับประกันขนาดย่อ
วัสดุและการออกแบบจุดแรกที่ดึงดูดความสนใจน่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือการออกแบบที่หรูหราสวยงาม จอด้านข้างแบบไร้ขอบจอ (Bezel-Less design )ที่มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 81% ขนาดจอ 5.5 นิ้ว Full HD กระจก 2.5D Gorilla Glass3 ฝาหลังเป็นโลหะขอบด้านข้างทั้งหมดก็เป็นโลหะตัดขอบทั้งสี่ด้าน เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ One-Time CNC Molding งานปราณีตมากๆรอยต่อต่างๆเนี๊ยบจริงๆ
ระบบปฎิบัติการ
Nubia Z11 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย nubia UI 4.0 เมนูต่างๆรวมไปถึงการปรับตั้งการตั้งค่า ยังยึดการใช้งานในรูปแบบเดิมๆของ Marshmallow ภายในตัวเครื่องไม่มีธีมให้ปรับเปลี่ยนนะครับ แต่ยังสามารถเพิ่มวิตเจ็ทหรือเปลี่ยนวอลล์ได้ปกติ
ประสิทธิภาพการทำงาน
Nubia Z11 มาพร้อมกับ CPU ตัวแรง Qualcomm Snapdragon 820（ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz / GPU Adreno 530 620MHz
RAM LPDDR4 ขนาด 4 GB เปิดเครื่องรันระบบเสร็จจะเหลือใช้งานราวๆ 2.7GB
ROM 64 GB เหลือใช้งานจริงราวๆ 52 GB สามารถใส่ SD Card เพิ่มได้สูงสุดถึง 200 GB และรองรับ OTG
ความแรงระดับนี้เล่นเกมส์ได้สบายๆครับ สำหรับคอเกมส์ไม่ต้องห่วง
หน้าจอ
หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล 403ppi รองรับมัลติทัช 10 จุด เทคโนโลยีไร้ขอบจอด้านข้าง (Bezel-Less design)2.5D Gorilla Glass 3 ที่มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 81% ของพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่อง รองรับเทคโนโลยี Pixel Eyes ที่มีความสามารถในการลดแสงสะท้อน แสดงผลได้ชัดเจนทุกสภาวะแสง (แต่สีมันสดเกินจริงนิด ต้องปรับความเข้มของสีลง มีโหมดปรับหน้าจอให้ครับ)
ระบบเสียง
Nubia Z11 ใช้ชิปเสียงของ AK4376 ทำงานผ่าน Smart PA Dolby Surround 7.1, Hi-Fi, Dolby Decoding เสียงที่ออกจากลำโพงตัวเครื่อง เสียงดังฟังชัด ลำโพงไม่มีเสียงแตก ยิ่งดูหนัง-ฟังเพลงผ่านหูฟัง เสียงที่ได้มาเรียกว่าคุณภาพดีมากๆ ถือเป็นจุดเด่นอีกจุดของรุ่นนี้เลยครับ เรื่องเสียงไม่เป็นรองใครแน่นอน (ไม่มีวิทยุ FM นะจ๊ะ) เมนูเล่นเพลง สามารถปรับแต่ง EQ ได้ ผ่านระบบเสียง Dolby Atmos รองรับการเล่นเพลงความละเอียดสูง 24-bit/192kHz
กล้อง
จุดเด่นของค่ายเลยครับสำหรับโหมดการถ่ายภาพ เมนูการถ่ายภาพของเขาล้ำมาก มีโหมดให้ปรับตั้งค่ากันเยอะแยะเลย
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ เลนส์มุมกว้าง 80 องศา f 2.4มีโหมดหน้าสวยปรับได้ 10 ระดับ
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX298 f2.0 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ทำงานผ่าน NeoVision 6.0 จับโฟกัสและวัดแสงได้อิสระ บันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K
ภาพถ่ายจากกล้อง nubia Z11
ระบบสแกนนิ้ว
สามารถสั่งปลดล็อคตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องกระตุ้นหน้าจอหรือกดปุ่มใดๆ แค่แตะนิ้วลงก็พร้อมทำงาน สามารถจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และยังไม่พอ ยังสามารถนำระบบสแกนนิ้วไปใช้งานควบคู่กับการปลอดล็อคแอ๊พได้อีกด้วย รองรับทุกแอ๊พในตัวเครื่องครับ รวมไปถึงการตั้งค่าต่างๆของเครื่องเช่นกัน ปกป้องสองชั้น เผื่อคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
เซ็นเซอร์
เซ็นเซอร์ต่างๆที่จำเป็นมีมาให้ครับ รองรับการใช้งาน 2 ซิม รองรับเทคโนโลยี VoLTE และมี NFC มาให้ด้วย และพิเศษสุด มีเสาอากาศรับสัญญาณ Wi-FI แบบคู่ สามารถเลือก เปิด-ปิด การใช้งานได้ ความเสถียรของการรับสัญญาณ wifi ทำได้ดีมากๆ ผมทดลองกับเน็ตที่บ้าน จับสัญญาณได้ไกลพอประมาณครับ ส่วน GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วและแม่นยำเช่นกัน
การใช้งานสองจอพร้อมกันแยกใช้งานอิสระ ปรับขนาดจอได้
การใช้งาน ดูอัลอินสแตนซ์ หรือการใช้งานสองแอคเคาร์(แอ๊พคู๋)ใช้งานได้สองบัญชีพร้อมกัน ยังมีข้อจำกัด ใช้ได้เป็นบางแอ๊พ ถ้าแอ๊พไหนพร้อมใช้งานได้เดี๋ยวตัวเครื่องจะแจ้งให้ทราบครับ ในเมนูหน้าหลัก ไอคอนจะมีแจ้งบอกอีกที
จากสเปคคร่าวๆที่แจ้งไปก็คงไม่แปลกใจหรอกครับว่าทำไมสมาชิกถึงต้องการอยากได้ Z11 มาครอบครอง
รูปลักษณ์ที่สวยดูดีวัสดุที่พรีเมี่ยมแถมความแรงของตัวเครื่องติดกลุ่มแถวบนได้สบายๆ ยิ่งถ้าใครชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าค่ายนี้ไม่ผิดหวังจริงๆ
อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มา ทั้งที่ชาร์จแบบ Quick Charge 3.0 / สาย USB Type-C / หูฟังเกรดดีมาก ทั้งหมดที่ไล่มาแถมมากับเครื่องในกล่องครับ จ่าย 14,990 บาท ก็เสร็จสรรพพร้อมใช้งานได้เลย
ข้อสังเกตุ
ยังเจอปัญหาบ้างเรื่องการรับส่งสัญญาณ BT / NFC ครับ
ช่วงนี้อาจจะหาซื้อเครื่องยากนิดนึง ต่อไปก็คงมีวางจำหน่ายตาม Big-C แล้ว อดใจรอแป๊บ
[SR] รีวิว nubia Z11 สมาร์ทโฟนเรือธงสุดคุ้ม
งาน TME 2017 ที่ผ่านมาจะเห็นกลุ่มลูกค้ายืนรอเข้าแถวและจับกลุ่มอยู่หน้าบูธ nubia เยอะมาก ถ้าเดินเข้ามาจากฝั่ง MRT วันแรกๆจะเห็นแถวยาวไปจนถึงศูนย์อาหารกันเลยทีเดียว ตอนแรกก็ตกใจ ใครจัดโปรลดครึ่งราคา หรือว่ามีของแจกฟรี พอเดินไปดูต้นแถวแค่นั้นหล่ะ ถึงบางอ้อเลยครับ คนมายืนรอคิวซื้อสมาร์ทโฟนค่าย nubia นั้นเอง..โอ้โห อะไรจะขนาดนั้น
กลับมาคิดอีกรอบ จริงๆ nubia thailand พึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราช่วงปลายเดือน พฤษจิกายน 2559 ระยะเวลาทำตลาดก็แค่สองเดือนนิดๆ แล้วทำไมลูกค้ากล้ายอมจ่ายเงินซื้อสมาร์ทโฟนค่าตัวเกินหมื่นทั้งที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ แม้แต่ยืนรอคิวก็ยังรอ ขอเพียงให้ได้ nubia มาซักเครื่องก็ยังดี
ด้วยความสงสัยอีกนั้นหล่ะ ผมเลยเดินไปดูสมาชิกที่ยืนต่อแถวกันเพื่อที่จะสืบดูว่าพวกเขาได้รับข่าวสารมาจากทางไหน ทำไมถึงตัดสินใจมายืนรอสินค้า พอเดินเข้าไปก็มีสมาชิกหลายท่านที่ทักผม ลุงยาม จากห้อง nubia ในเฟสบุ๊คหรือเปล่าครับ ผมติดตามข่าวสารมาจากเฟสบุ๊คครับ เห็นว่าจะมีของขายหน้างานเลย ผมถึงมายืนรอ (ต้องขอบคุณสมาชิกที่จำผมได้เนาะ)555+
*ขอตำหนิผู้จัดงานนิดนึงครับ เรื่องการจัดสรรสินค้าหรือระเบียบการในการซื้อ ผมมองว่ายังมีปัญหาอยู่บ้าง ตั้งแต่การจัดคิวยันไปถึงการจ่ายตังค์ วันแรกช้ามากๆ อาจจะเป็นเพราะ nubia พึ่งจะเข้ามาจัดงานครั้งแรก ทำให้การบริการยังไม่ดีมากนักก็เป็นได้ ก็ฝากเรื่องนี้ไว้หน่อยหล่ะกันครับ งานหน้าจะได้แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย
และวันแรกทาง nubia thailamd ก็ได้เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ด้วย (nubia Z11miniS) เลยทำให้สถานะการณ์ภายในดูวุ่นวายไปนิดนึง
กลับมาคุยถึงเรื่องของเราต่อครับ ว่าทำไมลูกค้าถึงยอมต่อแถวเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนน้องใหม่กัน ยิ่งตัว Z11 เป็นที่ต้องการของสมาชิกมากๆ เรามาดูกันว่ามันน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ทำไมถึงดึงความสนใจสมาชิกได้รวดเร็วขนาดนั้น
spec nubia Z11 (ตัวที่ผมรีวิวจะเป็น ram 4 GB) และจะมีตัว ram 6GB แต่ไม่ได้รีวิวนะครับ
หน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD IPS LCD ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ไร้ขอบ (Bezel-Less design)2.5D Gorilla Glass 3
CPU Qualcomm Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz
GPU Adreno 530
RAM LPDDR 4 GB
ROM 64 GB
3G/4G VoLTE
Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย nubia UI 4.0
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ เลนส์มุมกว้าง 80 องศา f 2.4
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX298 f2.0 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
HiFi AK4376
ระบบเสียง Dolby Atmos
USB Type-C
แบตเตอรี่ 3000 mAh รองรับการชาร์จความเร็วสูง (Quick Charge 3.0)
ขนาดรูปทรง 151.8×72.3×7.50 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 162 กรัม
ราคาเปิดตัว 14,990 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีตามนี้ครับ
ตัวเครื่อง
สาย USB Type-C
อะแดปเตอร์ USB Type-C to microUSB
หูฟัง In-ear
หม้อแปลง Quick Charge 3.0
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือและใบรับประกันขนาดย่อ
วัสดุและการออกแบบจุดแรกที่ดึงดูดความสนใจน่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือการออกแบบที่หรูหราสวยงาม จอด้านข้างแบบไร้ขอบจอ (Bezel-Less design )ที่มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 81% ขนาดจอ 5.5 นิ้ว Full HD กระจก 2.5D Gorilla Glass3 ฝาหลังเป็นโลหะขอบด้านข้างทั้งหมดก็เป็นโลหะตัดขอบทั้งสี่ด้าน เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ One-Time CNC Molding งานปราณีตมากๆรอยต่อต่างๆเนี๊ยบจริงๆ
ระบบปฎิบัติการ
Nubia Z11 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย nubia UI 4.0 เมนูต่างๆรวมไปถึงการปรับตั้งการตั้งค่า ยังยึดการใช้งานในรูปแบบเดิมๆของ Marshmallow ภายในตัวเครื่องไม่มีธีมให้ปรับเปลี่ยนนะครับ แต่ยังสามารถเพิ่มวิตเจ็ทหรือเปลี่ยนวอลล์ได้ปกติ
ประสิทธิภาพการทำงาน
Nubia Z11 มาพร้อมกับ CPU ตัวแรง Qualcomm Snapdragon 820（ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz / GPU Adreno 530 620MHz
RAM LPDDR4 ขนาด 4 GB เปิดเครื่องรันระบบเสร็จจะเหลือใช้งานราวๆ 2.7GB
ROM 64 GB เหลือใช้งานจริงราวๆ 52 GB สามารถใส่ SD Card เพิ่มได้สูงสุดถึง 200 GB และรองรับ OTG
หน้าจอ
หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล 403ppi รองรับมัลติทัช 10 จุด เทคโนโลยีไร้ขอบจอด้านข้าง (Bezel-Less design)2.5D Gorilla Glass 3 ที่มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 81% ของพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่อง รองรับเทคโนโลยี Pixel Eyes ที่มีความสามารถในการลดแสงสะท้อน แสดงผลได้ชัดเจนทุกสภาวะแสง (แต่สีมันสดเกินจริงนิด ต้องปรับความเข้มของสีลง มีโหมดปรับหน้าจอให้ครับ)
ระบบเสียง
Nubia Z11 ใช้ชิปเสียงของ AK4376 ทำงานผ่าน Smart PA Dolby Surround 7.1, Hi-Fi, Dolby Decoding เสียงที่ออกจากลำโพงตัวเครื่อง เสียงดังฟังชัด ลำโพงไม่มีเสียงแตก ยิ่งดูหนัง-ฟังเพลงผ่านหูฟัง เสียงที่ได้มาเรียกว่าคุณภาพดีมากๆ ถือเป็นจุดเด่นอีกจุดของรุ่นนี้เลยครับ เรื่องเสียงไม่เป็นรองใครแน่นอน (ไม่มีวิทยุ FM นะจ๊ะ) เมนูเล่นเพลง สามารถปรับแต่ง EQ ได้ ผ่านระบบเสียง Dolby Atmos รองรับการเล่นเพลงความละเอียดสูง 24-bit/192kHz
กล้อง
จุดเด่นของค่ายเลยครับสำหรับโหมดการถ่ายภาพ เมนูการถ่ายภาพของเขาล้ำมาก มีโหมดให้ปรับตั้งค่ากันเยอะแยะเลย
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ เลนส์มุมกว้าง 80 องศา f 2.4มีโหมดหน้าสวยปรับได้ 10 ระดับ
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX298 f2.0 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ทำงานผ่าน NeoVision 6.0 จับโฟกัสและวัดแสงได้อิสระ บันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K
ภาพถ่ายจากกล้อง nubia Z11
ระบบสแกนนิ้ว
สามารถสั่งปลดล็อคตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องกระตุ้นหน้าจอหรือกดปุ่มใดๆ แค่แตะนิ้วลงก็พร้อมทำงาน สามารถจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และยังไม่พอ ยังสามารถนำระบบสแกนนิ้วไปใช้งานควบคู่กับการปลอดล็อคแอ๊พได้อีกด้วย รองรับทุกแอ๊พในตัวเครื่องครับ รวมไปถึงการตั้งค่าต่างๆของเครื่องเช่นกัน ปกป้องสองชั้น เผื่อคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
เซ็นเซอร์
การใช้งานสองจอพร้อมกันแยกใช้งานอิสระ ปรับขนาดจอได้
การใช้งาน ดูอัลอินสแตนซ์ หรือการใช้งานสองแอคเคาร์(แอ๊พคู๋)ใช้งานได้สองบัญชีพร้อมกัน ยังมีข้อจำกัด ใช้ได้เป็นบางแอ๊พ ถ้าแอ๊พไหนพร้อมใช้งานได้เดี๋ยวตัวเครื่องจะแจ้งให้ทราบครับ ในเมนูหน้าหลัก ไอคอนจะมีแจ้งบอกอีกที
จากสเปคคร่าวๆที่แจ้งไปก็คงไม่แปลกใจหรอกครับว่าทำไมสมาชิกถึงต้องการอยากได้ Z11 มาครอบครอง
รูปลักษณ์ที่สวยดูดีวัสดุที่พรีเมี่ยมแถมความแรงของตัวเครื่องติดกลุ่มแถวบนได้สบายๆ ยิ่งถ้าใครชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าค่ายนี้ไม่ผิดหวังจริงๆ
อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มา ทั้งที่ชาร์จแบบ Quick Charge 3.0 / สาย USB Type-C / หูฟังเกรดดีมาก ทั้งหมดที่ไล่มาแถมมากับเครื่องในกล่องครับ จ่าย 14,990 บาท ก็เสร็จสรรพพร้อมใช้งานได้เลย
ข้อสังเกตุ
ยังเจอปัญหาบ้างเรื่องการรับส่งสัญญาณ BT / NFC ครับ
ช่วงนี้อาจจะหาซื้อเครื่องยากนิดนึง ต่อไปก็คงมีวางจำหน่ายตาม Big-C แล้ว อดใจรอแป๊บ