สุโขทัยนคร ตอน ตามรอยพระทองคำ

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางทริปนี้ คนละ 1,199 บาท ไปกัน 5 คน รวมค่าน้ำมัน ค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ ค่าที่พัก และค่าอาหาร
เริ่มภาระกิจ ตามรอยพระทองคำ เริ่มออกเดินทางจาก กรุงเทพมหานคร ช่วงเย็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่การจราจรในกรุงเทพมหานคร ติดขัดอย่างหนักมาก กว่าพวกเราจะหลุดพ้น เพื่อมุ่งหน้าเข้าถนนหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี ก็เป็นเวลา ร่วม 2 ทุ่ม ออกจาก มหาวิทยาลัยมหิดล ประมาณ 17.30 น. พอเข้าเส้นสุพรรณบุรี ได้ พวกเราก็ขับได้อย่างสบายใจ จนไปแวะกินข้าวที่ ร้านข้าวต้มคนสุพรรณ เมื่อเสร็จแล้วก็มุ่งหน้า ไปนอนที่ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ เช้ารุ่งขึ้น วันเสาร์ ตรงกับ วันมาฆบูชา พวกเราทั้ง 5 คน ก็มุ่งหน้า สู่ จังหวัดพิจิตร เพื่อไปดูงานก่อสร้างอุโบสถ ทีวัดเนินพลวง ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร อุโบสถหลังนี้ สร้างมาแล้ว 3 ปี วัดนี้ห่างจากถนนสาย นครสวรรค์ – พิจิตร – พิษณุโลก ประมาณ 1-2 กิโลเมตร (ถึงปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาเนินปอ ก็ใกล้ถึงวัด) ถ้าท่านใดมีโอกาสไปทางภาคเหนือก็เชิญร่วมไปทำบุญสร้างอุโบสถ ได้ เพราะยังต้องใช้ทุนทรัพย์ในการดำเนินการก่อสร้างอีกจำนวนมาก หลังจากพวกเราไปพูดคุยกับเจ้าอาวาส พอสมควรแล้ว ก็ออกจากวัด เพื่อมุ่งหน้า พิษณุโลก แต่พอออกเดินทางมาได้พักใหญ่ พวกเราก็ต้องร้องอุทาน ดังลั่น “ลืมทำบุญ”

พวกเรา 5 คน พร้อม คุณตั้ม เจ้าของสวนมะนาวทำดี

วัดเนินพลวง

การก่อสร้างอุโบสถ

วัดเนินพลวง อำเภอสามง่าม พิจิตร
สถานที่ถัดมา คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือที่รู้จักกันในนามวัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช กราบขอพรหลวงพ่อ อำนวยอวยพรให้โชคดีมีชัย เสร็จแล้วก็กราบหลวงพ่อพระเหลือซึ่งอยู่ด้านหน้าวิหารหลวง และเข้าไปกราบพระศาสดา ที่วิหารด้านเหนือของวัด

พระวิหารหลวง

หลวงพ่อพระุพทธชินราช

หลวงพ่อพระเหลือ

พระศาสดา

เสร็จแล้วพวกเราก็ไปหาอะไรรองท้องกัน คือ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน้ำน่าน รสชาติก็อร่อยดี ได้นั่งห้อยขามาใต้ถุนบ้าน



ห้อยขา
มุ่งหน้าสู่ สุโขทัยธานี เข้าเขตเมืองสุโขทัย ไปกราบพระแม่ย่า และหาที่พัก คือ สุโขทัยออร์คิด ราคาไม่แพงนัก พอนอนได้ เรื่องที่นอนไม่ใช่ปัญหาของพวกเรา เพราะขนาดวัด เรายังนอนกันมาแล้ว จัดแจงเรื่องห้องพักเสร็จ ก็จนเวลาลุล่วงมาถึง 4 โมงเย็น

พระแม่ย่าเมืองสุโขทัย

ที่พักค่ำคืนนี้
ที่ต่อไป คือ สวนมะนาวทำดี พันธุ์ทูลเกล้า เป็นมะนาวที่ลูกใหญ่ ดก ไม่มีเมล็ด เจ้าของสวนก็แสนอัธยาศัยดี ต้อนรับขับสู้ พร้อมทั้งอธิบายการปลูกและการดูแล การลองผิดลองถูก กว่าจะได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และที่สำคัญมาที่นี่ ไม่ต้องกลัวอด เพราะส้มตำแสนอร่อย พร้อมไก่ย่างตัวโตไว้คอยต้อนรับ ราคาไม่แพง กินอิ่มหนำสำราญเจ้าของสวนมะนาวก็พาพวกเราไปที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท ไม่แพงเลย และที่สำคัญคนสุโขทัยเข้าฟรี

มะนาว

ดกมากมากกกก

บรรยายการปลูกมะนาว

คุณตั้ม เจ้าของสวนมะนาว

มอบของที่ระลึกแก่กัน

รับมะนาวกลับกรุงเทพ

ส้มตำ


ไก่ย่างตัวใหญ่


เส้นลวก

มาสุโขทัยต้องมาร้านนี้

อร่อย สะอาด


สวนมะนาวทำดี

ดกไหมครับ

เมื่อเข้าในเขตอุทยาน คุณตั้ม เจ้าของสวนมะนาวทำดี ก็ได้อธิบาย เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองสุโขทัยให้เราฟัง ช่วงเวลากำลังโพล้เพล้ แสงจากเทียนที่จุดขึ้นตามโบราณสถานเริ่มส่องแสง บรรยากาศพาหวนนึกถึงอดีตที่ บูรพมหากษัตริย์ได้สร้างบ้านแปลงเมืองเพื่อให้ลูกหลานไทย อยู่ดีมีสุข ความรุ่งเรืองและความงดงามของสุโขทัย ยังปรากฎตัวยิ่งใหญ่ท่ามกลางแสงเทียนวันมาฆบูชา มองเห็นวัดมหาธาตุ ซึ่งสันนิษฐานว่า เคยเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทองคำ เดินชมโบราณสถานไปเรื่อยๆๆ ก็ไปกราบสักการะพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้ทรงเก่งปราชญ์เปรื่อง ทุกด้าน เสร็จแล้วพวกเราก็เดินออกจากอุทยานประวัติศาสตร์ ในระหว่างนั้น ก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งนำทางพวกเราจนมาถึงประตู เหมือนราวกับว่า มันจะมาส่งพวกเราให้เดินทางต่อ “ขอบคุณเจ้าหมาน้อย”

ดงตาล

วิทยากรให้ความรู้






วัดมหาธาตุ




พ่อขุนรามคำแห่ง

หมาน้อยที่มาส่งพวกเรา
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์ เวลาประมาณ 19.30 น. พวกเราก็เข้าสู่ลานวัดตระพังทอง ซึ่งพื้นที่ประกอบพิธีเวียนเทียนอยู่กลางน้ำ เป็นเกาะ มีอุโบสถ พระเจดีย์และวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ครั้นได้เวลา 2 ทุ่ม คณะสงฆ์พร้อมญาติโยมก็ประกอบพิธีเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา รอบอุโบสถ พระเจดีย์และวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

พระประธานในอุโบสถ

ใบเสมาคู่

เตรียมเวียนเทียน

พระเจดีย์


เสร็จแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองสุโขทัย แวะหาอะไรกินนิดหน่อยที่ถนนคนเดินสุโขทัย และเข้าที่พัก สุโขทัยออร์คิด
แล้วพบกันที่ ศรีสัชนาลัย
[CR] สุโขทัยนคร ตอน ตามรอยพระทองคำ
เริ่มภาระกิจ ตามรอยพระทองคำ เริ่มออกเดินทางจาก กรุงเทพมหานคร ช่วงเย็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่การจราจรในกรุงเทพมหานคร ติดขัดอย่างหนักมาก กว่าพวกเราจะหลุดพ้น เพื่อมุ่งหน้าเข้าถนนหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี ก็เป็นเวลา ร่วม 2 ทุ่ม ออกจาก มหาวิทยาลัยมหิดล ประมาณ 17.30 น. พอเข้าเส้นสุพรรณบุรี ได้ พวกเราก็ขับได้อย่างสบายใจ จนไปแวะกินข้าวที่ ร้านข้าวต้มคนสุพรรณ เมื่อเสร็จแล้วก็มุ่งหน้า ไปนอนที่ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ เช้ารุ่งขึ้น วันเสาร์ ตรงกับ วันมาฆบูชา พวกเราทั้ง 5 คน ก็มุ่งหน้า สู่ จังหวัดพิจิตร เพื่อไปดูงานก่อสร้างอุโบสถ ทีวัดเนินพลวง ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร อุโบสถหลังนี้ สร้างมาแล้ว 3 ปี วัดนี้ห่างจากถนนสาย นครสวรรค์ – พิจิตร – พิษณุโลก ประมาณ 1-2 กิโลเมตร (ถึงปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาเนินปอ ก็ใกล้ถึงวัด) ถ้าท่านใดมีโอกาสไปทางภาคเหนือก็เชิญร่วมไปทำบุญสร้างอุโบสถ ได้ เพราะยังต้องใช้ทุนทรัพย์ในการดำเนินการก่อสร้างอีกจำนวนมาก หลังจากพวกเราไปพูดคุยกับเจ้าอาวาส พอสมควรแล้ว ก็ออกจากวัด เพื่อมุ่งหน้า พิษณุโลก แต่พอออกเดินทางมาได้พักใหญ่ พวกเราก็ต้องร้องอุทาน ดังลั่น “ลืมทำบุญ”
สถานที่ถัดมา คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือที่รู้จักกันในนามวัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช กราบขอพรหลวงพ่อ อำนวยอวยพรให้โชคดีมีชัย เสร็จแล้วก็กราบหลวงพ่อพระเหลือซึ่งอยู่ด้านหน้าวิหารหลวง และเข้าไปกราบพระศาสดา ที่วิหารด้านเหนือของวัด
เสร็จแล้วพวกเราก็ไปหาอะไรรองท้องกัน คือ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน้ำน่าน รสชาติก็อร่อยดี ได้นั่งห้อยขามาใต้ถุนบ้าน
มุ่งหน้าสู่ สุโขทัยธานี เข้าเขตเมืองสุโขทัย ไปกราบพระแม่ย่า และหาที่พัก คือ สุโขทัยออร์คิด ราคาไม่แพงนัก พอนอนได้ เรื่องที่นอนไม่ใช่ปัญหาของพวกเรา เพราะขนาดวัด เรายังนอนกันมาแล้ว จัดแจงเรื่องห้องพักเสร็จ ก็จนเวลาลุล่วงมาถึง 4 โมงเย็น
ที่ต่อไป คือ สวนมะนาวทำดี พันธุ์ทูลเกล้า เป็นมะนาวที่ลูกใหญ่ ดก ไม่มีเมล็ด เจ้าของสวนก็แสนอัธยาศัยดี ต้อนรับขับสู้ พร้อมทั้งอธิบายการปลูกและการดูแล การลองผิดลองถูก กว่าจะได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และที่สำคัญมาที่นี่ ไม่ต้องกลัวอด เพราะส้มตำแสนอร่อย พร้อมไก่ย่างตัวโตไว้คอยต้อนรับ ราคาไม่แพง กินอิ่มหนำสำราญเจ้าของสวนมะนาวก็พาพวกเราไปที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท ไม่แพงเลย และที่สำคัญคนสุโขทัยเข้าฟรี
เมื่อเข้าในเขตอุทยาน คุณตั้ม เจ้าของสวนมะนาวทำดี ก็ได้อธิบาย เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองสุโขทัยให้เราฟัง ช่วงเวลากำลังโพล้เพล้ แสงจากเทียนที่จุดขึ้นตามโบราณสถานเริ่มส่องแสง บรรยากาศพาหวนนึกถึงอดีตที่ บูรพมหากษัตริย์ได้สร้างบ้านแปลงเมืองเพื่อให้ลูกหลานไทย อยู่ดีมีสุข ความรุ่งเรืองและความงดงามของสุโขทัย ยังปรากฎตัวยิ่งใหญ่ท่ามกลางแสงเทียนวันมาฆบูชา มองเห็นวัดมหาธาตุ ซึ่งสันนิษฐานว่า เคยเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทองคำ เดินชมโบราณสถานไปเรื่อยๆๆ ก็ไปกราบสักการะพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้ทรงเก่งปราชญ์เปรื่อง ทุกด้าน เสร็จแล้วพวกเราก็เดินออกจากอุทยานประวัติศาสตร์ ในระหว่างนั้น ก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งนำทางพวกเราจนมาถึงประตู เหมือนราวกับว่า มันจะมาส่งพวกเราให้เดินทางต่อ “ขอบคุณเจ้าหมาน้อย”
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์ เวลาประมาณ 19.30 น. พวกเราก็เข้าสู่ลานวัดตระพังทอง ซึ่งพื้นที่ประกอบพิธีเวียนเทียนอยู่กลางน้ำ เป็นเกาะ มีอุโบสถ พระเจดีย์และวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ครั้นได้เวลา 2 ทุ่ม คณะสงฆ์พร้อมญาติโยมก็ประกอบพิธีเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา รอบอุโบสถ พระเจดีย์และวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
เสร็จแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองสุโขทัย แวะหาอะไรกินนิดหน่อยที่ถนนคนเดินสุโขทัย และเข้าที่พัก สุโขทัยออร์คิด
แล้วพบกันที่ ศรีสัชนาลัย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น