The Lost Ring – แหวนแทนใจ...10 ปีหวนคืน
เกาะสมุย, ประเทศไทย – กุมภาพันธ์ 2560
วันวาเลนไทน์เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความซื่อตรงต่อพันธสัญญา เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่สะท้อนถึงความรักและการอุทิศตนอย่างทุ่มเทโดยไม่คำนึกถึงอุปสรรคในเรื่องของระยะทางหรือเวลา
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว...แหวนวงหนึ่งหล่นหายไปท่ามกลางเกลียวคลื่นในทะเลฝั่งอ่าวไทย และในเดือนธันวาคม 2559 แหวนวงนั้นก็ได้ถูกค้นพบอีกครั้ง...
บ่ายวันหนึ่ง ภายใต้อากาศสดชื่นกลางเดือนธันวาคม ปี 2549 บนหาดทรายขาวละเอียดนวลตา ครอบครัวที่น่ารักพร้อมด้วยลูกเล็กๆ 2 คนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งแหวนแต่งงานของผู้เป็นพ่อลื่นหลุดออกจากนิ้วมือและหล่นหายลงไปท่ามกลางคลื่นที่ซัดกระเซ็นริมฝั่งทะเล แม้ว่าทุกคนในรีสอร์ทพยายามช่วยกันค้นหาจนทั่วทุกซอกทุกมุมตลอดบ่ายวันนั้น รวมไปถึงวันรุ่งขึ้นอีกวันแต่ก็ไม่มีวี่แววของแหวนแทนใจที่หล่นหายไป...เมื่อมั่นใจว่า ไม่สามารถจะพบแหวนวงสำคัญและนำคืนกลับมาได้ ครอบครัวผู้โชคร้ายก็หยุดค้นหาและกลับประเทศของตนไปด้วยความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับประเทศไทยที่แฝงด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างยิ่งของครอบครัวไปในเกลียวคลื่นแห่งทะเล
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...10 ปีให้หลัง ณ ชายหาดแห่งเดิม แหวนทองสลักชื่อวงใหญ่ถูกพบโดยแขกผู้เข้าพักของ รีสอร์ทและถูกส่งต่อให้กับคุณอรทัย ขันสัมฤทธิ์ พนักงานคนหนึ่งที่ทำงานที่นั่นมานานและทราบเรื่องราวดีว่าเมื่อนานมาแล้ว เคยมีครอบครัวหนึ่งทำแหวนหายไปขณะลงเล่นน้ำ เธอตัดสินใจสืบหาเจ้าของแหวนแต่งงานด้วยการค้นหาชื่อของสุภาพสตรีที่สลักไว้ด้านในของแหวนวงนั้น เธอไม่ได้อยากได้อะไรตอบแทน แต่เพราะเธอรู้ว่าแหวนแต่งงานที่เป็นสื่อแทนใจและความรักอันนิรันดร์นั้นน่าจะมีความสำคัญต่อเจ้าของมากเพียงใด เธอแค่ต้องการส่งแหวนคืนกลับเจ้าของที่ถูกต้องอย่างปลอดภัย คุณอรทัยได้ค้นหาและพบชื่อสุภาพสตรีชาวไทยที่มีนามสกุลเป็นภาษาต่างประเทศว่า “ฮิลล์” ในเฟซบุ๊ค เธอพยายามส่งการติดต่อไปหลายครั้งเพื่อให้ “มิสซิสฮิลล์” ตอบกลับข้อความที่เธอฝากไว้
อย่างไรก็ตาม ในตอนแรก “มิสซิสฮิลล์” ไม่เชื่อว่าเรื่องราวในข้อความที่เธอได้รับจะเป็นเรื่องจริง คนที่พยายามติดต่อเธออาจจะกำลังหลอกลวงเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง...แต่หลังจากที่คุณอรทัยพยามยามติดต่อเธอด้วยความอดทนหลายต่อหลายครั้ง “มิสซิสฮิลล์” ก็ตัดสินใจอ่านข้อความอย่างละเอียด ถึงตอนนี้ คุณลองนึกดูสิว่ามิสซิสฮิลล์และสามีของเธอจะตกใจและประหลาดใจขนาดไหนเมื่อได้เห็นภาพของแหวนแทนใจที่พวกเขาคิดว่าสูญเสียไปตลอดกาลปรากฏอยู่ตรงหน้า สภาพของแหวนมีริ้วรอยลบเลือนของลวดลายจากการเสียดสีกับทรายที่ถูกพัดพาตามแรงคลื่นลมมากว่า 10 ปี “มิสซิสฮิลล์” เล่าให้เราฟังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็น “เรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ที่สุดเรื่องหนึ่งที่พวกเขาเคยประสบมาในชีวิต”
หลังจากที่ได้รับการติดต่อกลับจากครอบครัวฮิลล์ คุณอรทัยก็รีบเตรียมการส่งแหวนแต่งงานที่เคยสาบสูญไปกว่า 10 ปีวงนั้นคืนให้ถึงมือเจ้าของอย่างโล่งใจและสุขใจที่สุด
คุณอรทัย ขันสัมฤทธิ์ หรือคุณโอ๋ เป็นพนักงานที่ร่วมงานกับเซ็นทารา วิลลา สมุย มาอย่างยาวนานมากกว่า 10 ปี รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ครอบครัวฮิลล์มาพักผ่อนในวันหยุดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2549 ด้วยความทุ่มเทและมุ่งมั่นในการนำแหวนแต่งงานที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางจิตใจส่งกลับสู่เจ้าของที่แท้จริงจนสำเร็จ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใดๆ เป็นเครื่องสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เหนือไปกว่าการให้บริการที่ดี ที่ทางโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราเชื่อว่า มีอยู่ในตัวพนักงานของเราทุกคน เพราะเราพร้อมเสมอที่จะทำในสิ่งที่นอกเหนือไปกว่าความคาดหมายของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับแขกของเรา การทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ของพนักงานเซ็นทารา เพียงมุ่งหวังให้ทุกครอบครัวที่มาพักผ่อนกับเราเปี่ยมด้วยความสุข ให้จดจำโรงแรมและรีสอร์ทของเซ็นทาราเป็น “สถานที่พิเศษในใจของแขกผู้มาเยือน” เช่นเดียวกับการที่เซ็นทารา วิลลา สมุย ได้เป็นสถานที่พิเศษในความทรงจำสำหรับครอบครัวของมิสเตอร์และมิสซิสฮิลล์
###
The Lost Ring – แหวนแทนใจ...10 ปีหวนคืน
เกาะสมุย, ประเทศไทย – กุมภาพันธ์ 2560
วันวาเลนไทน์เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความซื่อตรงต่อพันธสัญญา เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่สะท้อนถึงความรักและการอุทิศตนอย่างทุ่มเทโดยไม่คำนึกถึงอุปสรรคในเรื่องของระยะทางหรือเวลา
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว...แหวนวงหนึ่งหล่นหายไปท่ามกลางเกลียวคลื่นในทะเลฝั่งอ่าวไทย และในเดือนธันวาคม 2559 แหวนวงนั้นก็ได้ถูกค้นพบอีกครั้ง...
บ่ายวันหนึ่ง ภายใต้อากาศสดชื่นกลางเดือนธันวาคม ปี 2549 บนหาดทรายขาวละเอียดนวลตา ครอบครัวที่น่ารักพร้อมด้วยลูกเล็กๆ 2 คนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งแหวนแต่งงานของผู้เป็นพ่อลื่นหลุดออกจากนิ้วมือและหล่นหายลงไปท่ามกลางคลื่นที่ซัดกระเซ็นริมฝั่งทะเล แม้ว่าทุกคนในรีสอร์ทพยายามช่วยกันค้นหาจนทั่วทุกซอกทุกมุมตลอดบ่ายวันนั้น รวมไปถึงวันรุ่งขึ้นอีกวันแต่ก็ไม่มีวี่แววของแหวนแทนใจที่หล่นหายไป...เมื่อมั่นใจว่า ไม่สามารถจะพบแหวนวงสำคัญและนำคืนกลับมาได้ ครอบครัวผู้โชคร้ายก็หยุดค้นหาและกลับประเทศของตนไปด้วยความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับประเทศไทยที่แฝงด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างยิ่งของครอบครัวไปในเกลียวคลื่นแห่งทะเล
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...10 ปีให้หลัง ณ ชายหาดแห่งเดิม แหวนทองสลักชื่อวงใหญ่ถูกพบโดยแขกผู้เข้าพักของ รีสอร์ทและถูกส่งต่อให้กับคุณอรทัย ขันสัมฤทธิ์ พนักงานคนหนึ่งที่ทำงานที่นั่นมานานและทราบเรื่องราวดีว่าเมื่อนานมาแล้ว เคยมีครอบครัวหนึ่งทำแหวนหายไปขณะลงเล่นน้ำ เธอตัดสินใจสืบหาเจ้าของแหวนแต่งงานด้วยการค้นหาชื่อของสุภาพสตรีที่สลักไว้ด้านในของแหวนวงนั้น เธอไม่ได้อยากได้อะไรตอบแทน แต่เพราะเธอรู้ว่าแหวนแต่งงานที่เป็นสื่อแทนใจและความรักอันนิรันดร์นั้นน่าจะมีความสำคัญต่อเจ้าของมากเพียงใด เธอแค่ต้องการส่งแหวนคืนกลับเจ้าของที่ถูกต้องอย่างปลอดภัย คุณอรทัยได้ค้นหาและพบชื่อสุภาพสตรีชาวไทยที่มีนามสกุลเป็นภาษาต่างประเทศว่า “ฮิลล์” ในเฟซบุ๊ค เธอพยายามส่งการติดต่อไปหลายครั้งเพื่อให้ “มิสซิสฮิลล์” ตอบกลับข้อความที่เธอฝากไว้
อย่างไรก็ตาม ในตอนแรก “มิสซิสฮิลล์” ไม่เชื่อว่าเรื่องราวในข้อความที่เธอได้รับจะเป็นเรื่องจริง คนที่พยายามติดต่อเธออาจจะกำลังหลอกลวงเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง...แต่หลังจากที่คุณอรทัยพยามยามติดต่อเธอด้วยความอดทนหลายต่อหลายครั้ง “มิสซิสฮิลล์” ก็ตัดสินใจอ่านข้อความอย่างละเอียด ถึงตอนนี้ คุณลองนึกดูสิว่ามิสซิสฮิลล์และสามีของเธอจะตกใจและประหลาดใจขนาดไหนเมื่อได้เห็นภาพของแหวนแทนใจที่พวกเขาคิดว่าสูญเสียไปตลอดกาลปรากฏอยู่ตรงหน้า สภาพของแหวนมีริ้วรอยลบเลือนของลวดลายจากการเสียดสีกับทรายที่ถูกพัดพาตามแรงคลื่นลมมากว่า 10 ปี “มิสซิสฮิลล์” เล่าให้เราฟังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็น “เรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ที่สุดเรื่องหนึ่งที่พวกเขาเคยประสบมาในชีวิต”
หลังจากที่ได้รับการติดต่อกลับจากครอบครัวฮิลล์ คุณอรทัยก็รีบเตรียมการส่งแหวนแต่งงานที่เคยสาบสูญไปกว่า 10 ปีวงนั้นคืนให้ถึงมือเจ้าของอย่างโล่งใจและสุขใจที่สุด
คุณอรทัย ขันสัมฤทธิ์ หรือคุณโอ๋ เป็นพนักงานที่ร่วมงานกับเซ็นทารา วิลลา สมุย มาอย่างยาวนานมากกว่า 10 ปี รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ครอบครัวฮิลล์มาพักผ่อนในวันหยุดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2549 ด้วยความทุ่มเทและมุ่งมั่นในการนำแหวนแต่งงานที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางจิตใจส่งกลับสู่เจ้าของที่แท้จริงจนสำเร็จ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใดๆ เป็นเครื่องสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เหนือไปกว่าการให้บริการที่ดี ที่ทางโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราเชื่อว่า มีอยู่ในตัวพนักงานของเราทุกคน เพราะเราพร้อมเสมอที่จะทำในสิ่งที่นอกเหนือไปกว่าความคาดหมายของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับแขกของเรา การทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ของพนักงานเซ็นทารา เพียงมุ่งหวังให้ทุกครอบครัวที่มาพักผ่อนกับเราเปี่ยมด้วยความสุข ให้จดจำโรงแรมและรีสอร์ทของเซ็นทาราเป็น “สถานที่พิเศษในใจของแขกผู้มาเยือน” เช่นเดียวกับการที่เซ็นทารา วิลลา สมุย ได้เป็นสถานที่พิเศษในความทรงจำสำหรับครอบครัวของมิสเตอร์และมิสซิสฮิลล์
###