สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ได้เข้าไปเช็คที่อยู่ไอพีของจขกท. เพื่อจะได้ทราบว่าอยู่ประเทศไหนบนโลก... คุณอยู่เดนมาร์ค
สถานะของจขกท.ก่อนหน้านี้ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อเด็กหรือไม่คะ ถ้าจดทะเบียนและหย่ากันเป็นทางการ... คุณควรจะได้ค่าเลี้ยงดูลูกจากพ่อเด็ก
ถ้าเป็นตามนั้น... ไม่แนะนำให้จขกท.กลับไทย ควรอยู่ดูแลลูกให้เขาได้รับการศึกษาในเดนมาร์คไปเลย และหวังว่าคุณคงหางานทำด้วย จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่างเกินไป จะทำให้ฟุ้งซ่าน เหงา ว้าเหว่ ตัวคนเดียว
สมมติว่าจขกท. กลับไทยไป คุณจะไปทำงานอะไร และคิดเหรอว่าพ่อเด็กจะขยันส่งเงินค่าดูแลลูกให้ต่อเนื่อง... ยิ่งถ้าจขกท. จะย้ายกลับไปไทยแบบนั้น เข้าทางพ่อเด็กที่ไม่ต้องส่งเงินค่าดูแลลุก และคุณคิดหรือว่าคุณจะมีเงินพอที่จะดูแลลุกให้ได้รับการศึกษาดีได้ ลูกจะได้ภาษาที่สองหรือไม่ ภาษีสังคมในไทยสิ้นเปลืองกับเพียงแค่เพื่อจะให้เด็กเรียนดี ได้สองภาษาก็ต้องส่งไปเรียนที่ค่าเทอมสูง... ต่างกับเรียนในเดนมาร์คไม่ต้องลงทุนอะไร เรียนรร.รัฐบาลได้มาตรฐานสูงกว่าดีกว่าเรียนในไทย... อนาคตของลูกคุณจะได้ก้าวหน้า
พยายามไม่คิดเล็กคิดน้อย... ทำหน้าที่เป็นแม่และพ่อให้กับลูกได้ ให้ลูกไม่รู้สึกว่าไม่มีพ่ออยู่ด้วยไม่ใช่ปัญหาอะไร... ที่สำคัญพ่อเด็กจะต้องส่งเงินค่าดูแลให้คุณ... และถ้ามีการกำหนดทางศาล(หรือไม่) ให้พ่อเด็กใช้เวลากับลุกกี่วันต่ออาทิตย์... ถ้าไม่มีการตกลงอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร คุณควรให้ศาลจัดการแบ่งหน้าที่พ่อให้เขาใช้เวลาอยู่กับลูก
ถ้าไม่ทำการตกลงระหว่างคุณและพ่อเด็ก... คุณก็จะต้องมาหมั่นติดต่อให้ลูกได้พูดกับพ่อเขา และคุณไม่ต้องไปคิดมากว่าทำมากเกินไปหรือไม่... มันอยู่ที่การตัดสินใจของคุณเองว่าต้องการให้เป็นแบบไหน
สถานะของจขกท.ก่อนหน้านี้ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อเด็กหรือไม่คะ ถ้าจดทะเบียนและหย่ากันเป็นทางการ... คุณควรจะได้ค่าเลี้ยงดูลูกจากพ่อเด็ก
ถ้าเป็นตามนั้น... ไม่แนะนำให้จขกท.กลับไทย ควรอยู่ดูแลลูกให้เขาได้รับการศึกษาในเดนมาร์คไปเลย และหวังว่าคุณคงหางานทำด้วย จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่างเกินไป จะทำให้ฟุ้งซ่าน เหงา ว้าเหว่ ตัวคนเดียว
สมมติว่าจขกท. กลับไทยไป คุณจะไปทำงานอะไร และคิดเหรอว่าพ่อเด็กจะขยันส่งเงินค่าดูแลลูกให้ต่อเนื่อง... ยิ่งถ้าจขกท. จะย้ายกลับไปไทยแบบนั้น เข้าทางพ่อเด็กที่ไม่ต้องส่งเงินค่าดูแลลุก และคุณคิดหรือว่าคุณจะมีเงินพอที่จะดูแลลุกให้ได้รับการศึกษาดีได้ ลูกจะได้ภาษาที่สองหรือไม่ ภาษีสังคมในไทยสิ้นเปลืองกับเพียงแค่เพื่อจะให้เด็กเรียนดี ได้สองภาษาก็ต้องส่งไปเรียนที่ค่าเทอมสูง... ต่างกับเรียนในเดนมาร์คไม่ต้องลงทุนอะไร เรียนรร.รัฐบาลได้มาตรฐานสูงกว่าดีกว่าเรียนในไทย... อนาคตของลูกคุณจะได้ก้าวหน้า
พยายามไม่คิดเล็กคิดน้อย... ทำหน้าที่เป็นแม่และพ่อให้กับลูกได้ ให้ลูกไม่รู้สึกว่าไม่มีพ่ออยู่ด้วยไม่ใช่ปัญหาอะไร... ที่สำคัญพ่อเด็กจะต้องส่งเงินค่าดูแลให้คุณ... และถ้ามีการกำหนดทางศาล(หรือไม่) ให้พ่อเด็กใช้เวลากับลุกกี่วันต่ออาทิตย์... ถ้าไม่มีการตกลงอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร คุณควรให้ศาลจัดการแบ่งหน้าที่พ่อให้เขาใช้เวลาอยู่กับลูก
ถ้าไม่ทำการตกลงระหว่างคุณและพ่อเด็ก... คุณก็จะต้องมาหมั่นติดต่อให้ลูกได้พูดกับพ่อเขา และคุณไม่ต้องไปคิดมากว่าทำมากเกินไปหรือไม่... มันอยู่ที่การตัดสินใจของคุณเองว่าต้องการให้เป็นแบบไหน
แสดงความคิดเห็น
พยายามให้พ่อได้เจอลูก ทั้งที่พ่อมันไม่เคยขอเลย เรายัดเยียดเกินไปไหม ควรหยุดหรือพยายามผลักดันให้เจอต่อไป
เกริ่นก่อนว่า พ่อมันรักลูกนะแต่ไม่แสดงออกและความเห็นแกตัวรักตัวเองมากกว่าลูก
เราแยกทางกับพ่อของเด็กมาแล้วเกือบ 2 ปี เราใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ สามีเก่า (พ่อของลูก) เป็นต่างชาติ ลูกเราเป็นลูกครึ่ง เราเลิกกันเพราะเขามีคนอื่น เราไม่เคยให้อภัยเขา แต่เราแยกแยะออกระหว่างปัญหาพ่อแม่ กับความเป็นครอบครัว
ตั้งแต่เราย้ายออกจากบ้านสามีเก่า ออกมาอยู่กับลูกชายเองได้ปีกว่าๆ (เลิกกัน 2 ปีแต่ช่วงแรกๆ ยังที่อยู่ไม่ได้ต้องอาศัยเขาไปก่อน จนเขาบอกทางอีเมล์ว่าเขาจะเอาผู้หญิงเข้าบ้านนะ ให้ออกไปอยู่บ้านพ่อแม่เขา จึงรีบย้ายออก และอาศัยใกล้บ้านพ่อแม่เขาในปัจจบัน) เราพยายามจะจัดเวลาให้ลูกเจอพ่อบ้าง บอกตามตรงอยากกลับเมืองไทย แต่เรานึกถึงลูก ถ้ากลับไป ตัวพ่อคงไม่ไปเยี่ยมลูกแน่คงขาดกัน ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่ต่อเพราะคิดถึงลูกเป็นหลัก ไม่อยากให้ลูกรู้สึกขาด การตัดสินใจของเราก็คือ...
-พยายามถามอิพ่อมันว่า วันไหนว่างบ้างให้ลูกไปเจอวันไหนเมื่อไหร่ นอนค้างได้ไหม... เขาเจอได้แต่ไม่เคยเอ่ยปากขอเอง
-ทุกสัปดาห์พยายามให้ลูกโทรหาพ่อให้เห็นหน้ากันบ้างนิดหน่อย... เขาไม่เคยเริ่มโทรก่อนหรือไม่เคยโทรกลับเวลาเห็น miscall เรา (ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่าถ้าโทรไปคือโยนให้ลูกคุยเลย เราไม่เคยสาระแน ยื่นหน้าไปคุยด้วย เรามีหน้าที่กดเบอร์ให้ลูก)
-พ่อแม่ (ปู่ย่าของลูกเรา) จะไปเยี่ยมลูกชายเขาคือพ่อของลูกเรา 2 สัปดาห์ครั้ง เราพยายามยัดเยียดให้ไปดับปู่ด้วย ปู่ก็อยากให้ไปด้วย คือทุกคน offer เต็มที่ แต่ตัวเขาไม่เคยขับรถมาเอาเลย
ล่าสุดเขาไปต่างประเทศสองเดือนกับเมียใหม่ (คนที่มาแย่งสามีเราไป) กับลูกคนใหม่ทารก เราก็ลองไม่เริ่มโทรหา รอเขาโทรมาเองบ้าง แต่เขาไม่เคยโทรหาลูกชายเลย
ถามว่าเขารักลูกไหม คนรัก แต่คงรักตัวเองมากกว่า รอให้แต่คนมาประเคนให้ เราเหนื่อยใจมาก อยากรู้เราพยายามเกินไปไหม ควรหยุดดีกว่าไหม ควรช่างแม่มไหม หรือควรทำต่อไปเพื่อลูก เรากลัวลูกขาดความอบอุ่น แม่ลูกพูดว่ารักแม่ที่สุดในโลก แต่เราก็พยายามสอนให้เขาบอกรักพ่อเขาด้วย
อยากรู้ว่า เด็กไม่เจอพ่อเลยอนาคตจะเติบโตยากไหม ควรระวังหรือเสริมเรื่องอะไรให้เขารู้สึกไม่ขาด
ถ้าใครแนะนำให้เรายัดเยียดนำเสนอลูกต่อไปแม้ว่าเขาไม่เคยเริ่มขอเราก่อนเอง อยากถามว่ามีวิธีไหนพูดให้เขาเปลี่ยนตัวเอง มาขอเจอเองบ้าง