ตลาดหุ้นจีน ในช่วงที่ผ่านมาเหมือน คนไม่ค่อยให้น้ำหนักสักเท่าไร เพราะไหนจะกังวลเรื่อง นโยบายระหว่างประเทศ จะกระทบการส่งออก กลัวการบริโภคตรึงตัว
กลัวปัญหาหนี้เสีย กลัวปัญหาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
กลัวๆๆๆๆ กังวลกันมาตลอดเท่าที่จำได้ รวมๆแล้วไม่น้อยกว่า 3ปี แต่สรุปแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนไม่ได้มีอะไรเลวร้าย หรือรุนแรงเกินจริงไปอย่างที่นักวิเคราะห์ หลายๆสำนักทั้งไทย ทั้งเทศ ออกมาบอกก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นจีน โดนถล่มด้วย Fund Flow จนเจ้าหน้าทางการจีน มึนไปเมื่อต้นปีก่อน กว่าจะทรงตัวได้นักลงทุนรายย่อย ขาเทรดขวัญหนี้ดีฝ่อ กันไปหมด
หลังจากนั้นก็เงียบๆไป และแอบไตร่ระดับขึ้นมา จนช่วงต้นปี โดนกวนด้วยค่าเงินหยวน เป็นระยะๆ แต่แล้วก็ผ่านมาได้ ที่นี้ก็ดูแล้วก็เหลือแต่นโยบายภายในของจีนเองแล้วว่า จะจัดการ คืนฟรอม์ ได้ดี ได้เร็วขนาดไหน
ยิ่งหันไปดู valuation ของตลาดจีนด้วยแล้ว ผมกลับมองเห็นโอกาส มากกว่าที่จะไปตาม ไล่ซื้อ กับตลาด USที่เต็มไปด้วย Trump Risk ที่จะเกิด ไม่เกิด จะลด จะเพิ่ม อะไรก็สุดแล้วแต่ อารมณ์ ต่อนโยบาย ที่ยังไม่นิ่ง (แต่ถ้าเริ่มนิ่งกับอารมณ์ ต่อนโยบายแล้วก็ดู อาจจะน่าสนใจมากขึ้น) เพราะจริงๆแล้ว อย่าลืมนะครับ ตลาด ไม่ชอบความไม่แน่นอน เพราะนั้นคือความเสี่ยง ยิ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นๆ เท่าไร สุดท้ายผลของมัน จะแสดงออกมาให้เห็น จนเราจะตั้งตัวไม่ทัน
กลับมาที่ตลาดที่จีนดีกว่า
Valuation ตลาด H Share ปัจจุบัน อยู่แค่ 8-9 เท่า ตลาด A Share ประมาสัก 16เท่า บนนโยบาย การเติบโตแถว 6%
หากกลับไปดู อินเดีย PE 21 โต7% เลยให้เต็มที่ ยังไม่รวมผลกระทบ ของการเลิก ธนบัตร ไปเมื่อปลายปี
แล้วตลาด US ละ PE กด กันไป 21 บนการเติบโต ไม่เกิน3% โดนหวังพึ่งนโยบายที่คาดว่าจะเกิด ในอนาคตเท่านั้น
สุดท้าย แค่อยากจะบอกว่า มีคิดมือไว้บ้าง กำไรจาก US อินเดีย ส่วนตัวก็มองว่า ทยอย ตัดกำไร หรือทุนบางส่วนมามองจีนน่าจะดี
https://www.facebook.com/IMchatchaphol
อาจจะถึงเวลาที่ต้องกลับไปมอง หุ้นจีนอีกครั้ง
กลัวปัญหาหนี้เสีย กลัวปัญหาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
กลัวๆๆๆๆ กังวลกันมาตลอดเท่าที่จำได้ รวมๆแล้วไม่น้อยกว่า 3ปี แต่สรุปแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนไม่ได้มีอะไรเลวร้าย หรือรุนแรงเกินจริงไปอย่างที่นักวิเคราะห์ หลายๆสำนักทั้งไทย ทั้งเทศ ออกมาบอกก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นจีน โดนถล่มด้วย Fund Flow จนเจ้าหน้าทางการจีน มึนไปเมื่อต้นปีก่อน กว่าจะทรงตัวได้นักลงทุนรายย่อย ขาเทรดขวัญหนี้ดีฝ่อ กันไปหมด
หลังจากนั้นก็เงียบๆไป และแอบไตร่ระดับขึ้นมา จนช่วงต้นปี โดนกวนด้วยค่าเงินหยวน เป็นระยะๆ แต่แล้วก็ผ่านมาได้ ที่นี้ก็ดูแล้วก็เหลือแต่นโยบายภายในของจีนเองแล้วว่า จะจัดการ คืนฟรอม์ ได้ดี ได้เร็วขนาดไหน
ยิ่งหันไปดู valuation ของตลาดจีนด้วยแล้ว ผมกลับมองเห็นโอกาส มากกว่าที่จะไปตาม ไล่ซื้อ กับตลาด USที่เต็มไปด้วย Trump Risk ที่จะเกิด ไม่เกิด จะลด จะเพิ่ม อะไรก็สุดแล้วแต่ อารมณ์ ต่อนโยบาย ที่ยังไม่นิ่ง (แต่ถ้าเริ่มนิ่งกับอารมณ์ ต่อนโยบายแล้วก็ดู อาจจะน่าสนใจมากขึ้น) เพราะจริงๆแล้ว อย่าลืมนะครับ ตลาด ไม่ชอบความไม่แน่นอน เพราะนั้นคือความเสี่ยง ยิ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นๆ เท่าไร สุดท้ายผลของมัน จะแสดงออกมาให้เห็น จนเราจะตั้งตัวไม่ทัน
กลับมาที่ตลาดที่จีนดีกว่า
Valuation ตลาด H Share ปัจจุบัน อยู่แค่ 8-9 เท่า ตลาด A Share ประมาสัก 16เท่า บนนโยบาย การเติบโตแถว 6%
หากกลับไปดู อินเดีย PE 21 โต7% เลยให้เต็มที่ ยังไม่รวมผลกระทบ ของการเลิก ธนบัตร ไปเมื่อปลายปี
แล้วตลาด US ละ PE กด กันไป 21 บนการเติบโต ไม่เกิน3% โดนหวังพึ่งนโยบายที่คาดว่าจะเกิด ในอนาคตเท่านั้น
สุดท้าย แค่อยากจะบอกว่า มีคิดมือไว้บ้าง กำไรจาก US อินเดีย ส่วนตัวก็มองว่า ทยอย ตัดกำไร หรือทุนบางส่วนมามองจีนน่าจะดี
https://www.facebook.com/IMchatchaphol