วันนี้ผมมีเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟัง เผื่อจะเป็นข้อเตือนสติ สำหรับท่านที่เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ส่วนท่านที่ไม่เชื่อก็ขอให้ผ่านไปครับ
เรื่องมีอยู่ว่าที่บ้านผมตอนเด็กๆนั้น ไก่มันชอบขึ้นมาจิกกินข้าวในครัวเป็นประจำ เพราะบางครั้งลืมปิดประตูหลังบ้าน เวลาผมเข้ามาเห็นทีไร ผมก็จะไล่ตะเพิดทันที หากมีอะไรที่จะหยิบเขวี้ยงได้ ผมก็จะเขวี้ยงใส่มันทันที ผมจำได้ว่าผมใช้ไม้เขวี้ยงใส่ไก่แล้วโดนขาของมัน ทำให้มันขาหักบ้าง บางตัวก็ขาผิดรูปบ้าง หรือขาเจ็บเดินไม่ได้ ผมจำได้ว่าหลายตัวครับ
พอผมขึ้นมัธยม ผมก็ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นฟุตบอลบนพื้นปูน ผมเกิดลื่นล้ม แล้วผมเอามือค้ำ ทำให้ข้อมือซ้ายของผมซ้น รู้สึกเจ็บมากๆครับ ผมกลับไปบ้านก็ให้คุณตาบีบแก้ให้ ผ่านไปหลายวันก็หายปวด แต่รู้อีกทีข้อมือผมหลุดเหมือนจะหักด้วยซ้ำ ตอนนั้นจะรักษาก็ไม่ทันแล้ว จนตอนนี้ผมก็มีข้อมือพิการไปแล้ว ผลก็คือยกของหนักมือซ้ายไม่ได้ ดีหน่อยที่ยังใช้การได้ปกติ ไม่ผิดรูปแต่ประการใด แต่ถ้าจับหรือให้ผมโชว์ให้ดู ก็จะเห็นความผิดปกติอย่างชัดเจน นี่คือ กรรมครั้งแรก ครับ
ต่อมาเมื่อขึ้นมหาลัย ผมก็ยังเลยฟุตบอล เล่นบนสนามบาสนี่แหละครับ คราวนี้น่าจะรู้สึกได้ถึงการเป็นคนขาง่อย คือผมเกิดเท้าแพลง มันเป็นความเจ็บแบบสุดๆ ที่ว่าเดินแล้วแพลงยังนับว่าเจ็บ แต่นี่วิ่งแล้วแพลง มันยิ่งเจ็บหนักไปอีก ผมต้องเดินง่อยอยู่เป็นเดือนกว่าจะเดินได้ปกติ แต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่เวลาที่พลิกข้อเท้า และเหมือนกับกรรมบันดาลให้ผมต้องเล่นบอลอีก ทั้งที่ยังไม่หายดี จนวันหนึ่งผมได้บอลแล้วเกิดเท้าแพลงอีกครั้ง เค้าว่าถ้ามันแพลงแล้ว มันจะแพลงซ้ำ ผมเท้าแพลงครั้งนี้เจ็บที่สุดครับ ผมเดินแทบไม่ได้เลย ตอนนอนก็นอนไม่ได้ มันปวดมากๆ ขนาดรองเท้าบนหมอนก็ยังเจ็บ มันเจ็บตามจังหวะหัวใจเต้นเลยทีเดียว กว่าผมจะเดินได้ก็เป็นเดือนเช่นกัน
กรรมยังไม่จบแค่นั้นครับ ขาซ้ายผมแพลงไปสองครั้ง จนเอ็นเท้ายืด ไม่ปกติเหมือนเดิมแล้ว ผมหยุดเล่นบอลไปพักใหญ่ แล้วกลับมาเล่นอีกพอรู้ว่าเท้ามันโอเค มาครั้งนี้ผมเจอเท้าข้างขวาแทน เป็นการแพลงครั้งแรก ความเจ็บไม่ต่างกับครั้งแรกของเท้าซ้ายและง่อยเป็นเดือนอีกเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องหยุดเล่นบอลไปนาน แค่เห็นเค้าวิ่งผมยังรู้สึกเสียวข้อเท้าอย่างบอกไม่ถูกเลย
ผลของกรรมใช่จะหมดแค่นั้นครับ ถ้ามันจบแค่นั้นคงจะดี แต่นี่มันส่งผลระยะยาว ผมมาเล่นบอลอีกครั้งตอนทำงานแล้ว เล่นบนสนามหญ้าเทียม สุดท้ายเท้าผมก็แพลงอีก ผมร้องไห้ครับครั้งนั้น น้ำตาไหล ไหลเพราะเจ็บใจ เกลียดสิ่งที่ตนเองเป็น ทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็นเป็นเหมือนผมเลย เค้าเจ็บก็เจ็บอย่างอื่น แต่ทำไมผมถึงต้องเจ็บซ้ำๆอยู่อย่างเดียว ผมน้ำตาไหล เกลียดสังขารตัวเอง เกลียดอะไรก็แล้วแต่ที่มันทำให้ผมเป็นแบบนี้ จนผมบอกกับตัวเองว่า จะยังไงก็ช่างแมร่ง จะฟ้าลิขิตหรืออะไรก็ตาม ผมจะเล่นให้เท้ามันพังไปเลย เจ็บก็หยุด หายก็จะเล่นอีก และผมก็ทำแบบนั้นจนถึงตอนนี้
ถึงตอนนี้เท้าทั้งสองข้างผม มีสภาพที่แย่มากครับ ข้อเท้าซ้ายบวม เหมือนเอ็นมันมากองอยู่ตรงนั้น เวลาหมุนข้อเท้าก็มีเสียงกร็อกแกร็ก เหมือนมีกระดูกบางส่วนหักหรือเสีย เท้ามันแพลงจนเป็นเรื่องธรรมดา และตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่ตลอด แต่ผมก็ยังเล่นบอล อะไรจะเกิดก็เกิด ถึงผมไม่เล่นบอล เดินๆอยู่เท้าผมก็แพลงเป็นประจำ ดีหน่อยที่แพลงแล้ว สักพักมันก็หาย เหมือนมันจะชินชากับการแพลงไปแล้ว
จนผมได้ศึกษาเรื่องกรรม ก็ได้ระลึกว่าเราเคยทำอะไรไว้หนอ เราถึงได้เป็นแบบนี้ ก็นึกขึ้นได้ว่า น่าจะเพราะผมเคยทำกับไก่ไว้นี่เอง มันสมควรแล้วที่ต้องโดนแบบนี้ เพราะเราทำคนอื่น จะคนหรือสัตว์ เราไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน จนเราได้เจอกับตัวเองนั่นแหละ เราถึงจะรู้ว่าผลของกรรมนี้ แสบร้อนแค่ไหน ถ้าการเล่นบอลมันคือเหตุที่ทำให้ผมเท้าแพลง ผมว่านักฟุตบอลทุกคนต้องมีเท้าแพลงเหมือนผมแน่ แต่เท่าที่ผมเห็นมา ผมแทบจะไม่ค่อยเห็นใครเล่นบอลแล้วเท้าแพลงเหมือนผมเลย แม้แต่ระดับโลกก็ยังหาข่าวนักบอลเท้าแพลงยังยากเลย ส่วนผมนี้แพลงเป็นร้อยๆครั้ง แค่เผลอสติเดินก็ยังแพลงได้ เพื่อให้ผมได้รับความเจ็บปวด
และนี่ก็คงจะเป็นกรรมของผม และผมเชื่อว่ามันคือกรรมที่ผมเคยใช้ไม้เขวี้ยงใส่ขาไก่มาแล้วหลายตัว สภาพตอนมันร้องตอนที่มันนอนขาหักอยู่นั้น ไม่ต่างกับตอนผมร้องโอดโอยตอนเท้าแพลงไม่มีผิด สองมือกุมเท้า ก้มหน้ากัดฟัน น้องตาไหลพราก
เรื่องกรรมของผม ตอนที่ 1
เรื่องมีอยู่ว่าที่บ้านผมตอนเด็กๆนั้น ไก่มันชอบขึ้นมาจิกกินข้าวในครัวเป็นประจำ เพราะบางครั้งลืมปิดประตูหลังบ้าน เวลาผมเข้ามาเห็นทีไร ผมก็จะไล่ตะเพิดทันที หากมีอะไรที่จะหยิบเขวี้ยงได้ ผมก็จะเขวี้ยงใส่มันทันที ผมจำได้ว่าผมใช้ไม้เขวี้ยงใส่ไก่แล้วโดนขาของมัน ทำให้มันขาหักบ้าง บางตัวก็ขาผิดรูปบ้าง หรือขาเจ็บเดินไม่ได้ ผมจำได้ว่าหลายตัวครับ
พอผมขึ้นมัธยม ผมก็ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นฟุตบอลบนพื้นปูน ผมเกิดลื่นล้ม แล้วผมเอามือค้ำ ทำให้ข้อมือซ้ายของผมซ้น รู้สึกเจ็บมากๆครับ ผมกลับไปบ้านก็ให้คุณตาบีบแก้ให้ ผ่านไปหลายวันก็หายปวด แต่รู้อีกทีข้อมือผมหลุดเหมือนจะหักด้วยซ้ำ ตอนนั้นจะรักษาก็ไม่ทันแล้ว จนตอนนี้ผมก็มีข้อมือพิการไปแล้ว ผลก็คือยกของหนักมือซ้ายไม่ได้ ดีหน่อยที่ยังใช้การได้ปกติ ไม่ผิดรูปแต่ประการใด แต่ถ้าจับหรือให้ผมโชว์ให้ดู ก็จะเห็นความผิดปกติอย่างชัดเจน นี่คือ กรรมครั้งแรก ครับ
ต่อมาเมื่อขึ้นมหาลัย ผมก็ยังเลยฟุตบอล เล่นบนสนามบาสนี่แหละครับ คราวนี้น่าจะรู้สึกได้ถึงการเป็นคนขาง่อย คือผมเกิดเท้าแพลง มันเป็นความเจ็บแบบสุดๆ ที่ว่าเดินแล้วแพลงยังนับว่าเจ็บ แต่นี่วิ่งแล้วแพลง มันยิ่งเจ็บหนักไปอีก ผมต้องเดินง่อยอยู่เป็นเดือนกว่าจะเดินได้ปกติ แต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่เวลาที่พลิกข้อเท้า และเหมือนกับกรรมบันดาลให้ผมต้องเล่นบอลอีก ทั้งที่ยังไม่หายดี จนวันหนึ่งผมได้บอลแล้วเกิดเท้าแพลงอีกครั้ง เค้าว่าถ้ามันแพลงแล้ว มันจะแพลงซ้ำ ผมเท้าแพลงครั้งนี้เจ็บที่สุดครับ ผมเดินแทบไม่ได้เลย ตอนนอนก็นอนไม่ได้ มันปวดมากๆ ขนาดรองเท้าบนหมอนก็ยังเจ็บ มันเจ็บตามจังหวะหัวใจเต้นเลยทีเดียว กว่าผมจะเดินได้ก็เป็นเดือนเช่นกัน
กรรมยังไม่จบแค่นั้นครับ ขาซ้ายผมแพลงไปสองครั้ง จนเอ็นเท้ายืด ไม่ปกติเหมือนเดิมแล้ว ผมหยุดเล่นบอลไปพักใหญ่ แล้วกลับมาเล่นอีกพอรู้ว่าเท้ามันโอเค มาครั้งนี้ผมเจอเท้าข้างขวาแทน เป็นการแพลงครั้งแรก ความเจ็บไม่ต่างกับครั้งแรกของเท้าซ้ายและง่อยเป็นเดือนอีกเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องหยุดเล่นบอลไปนาน แค่เห็นเค้าวิ่งผมยังรู้สึกเสียวข้อเท้าอย่างบอกไม่ถูกเลย
ผลของกรรมใช่จะหมดแค่นั้นครับ ถ้ามันจบแค่นั้นคงจะดี แต่นี่มันส่งผลระยะยาว ผมมาเล่นบอลอีกครั้งตอนทำงานแล้ว เล่นบนสนามหญ้าเทียม สุดท้ายเท้าผมก็แพลงอีก ผมร้องไห้ครับครั้งนั้น น้ำตาไหล ไหลเพราะเจ็บใจ เกลียดสิ่งที่ตนเองเป็น ทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็นเป็นเหมือนผมเลย เค้าเจ็บก็เจ็บอย่างอื่น แต่ทำไมผมถึงต้องเจ็บซ้ำๆอยู่อย่างเดียว ผมน้ำตาไหล เกลียดสังขารตัวเอง เกลียดอะไรก็แล้วแต่ที่มันทำให้ผมเป็นแบบนี้ จนผมบอกกับตัวเองว่า จะยังไงก็ช่างแมร่ง จะฟ้าลิขิตหรืออะไรก็ตาม ผมจะเล่นให้เท้ามันพังไปเลย เจ็บก็หยุด หายก็จะเล่นอีก และผมก็ทำแบบนั้นจนถึงตอนนี้
ถึงตอนนี้เท้าทั้งสองข้างผม มีสภาพที่แย่มากครับ ข้อเท้าซ้ายบวม เหมือนเอ็นมันมากองอยู่ตรงนั้น เวลาหมุนข้อเท้าก็มีเสียงกร็อกแกร็ก เหมือนมีกระดูกบางส่วนหักหรือเสีย เท้ามันแพลงจนเป็นเรื่องธรรมดา และตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่ตลอด แต่ผมก็ยังเล่นบอล อะไรจะเกิดก็เกิด ถึงผมไม่เล่นบอล เดินๆอยู่เท้าผมก็แพลงเป็นประจำ ดีหน่อยที่แพลงแล้ว สักพักมันก็หาย เหมือนมันจะชินชากับการแพลงไปแล้ว
จนผมได้ศึกษาเรื่องกรรม ก็ได้ระลึกว่าเราเคยทำอะไรไว้หนอ เราถึงได้เป็นแบบนี้ ก็นึกขึ้นได้ว่า น่าจะเพราะผมเคยทำกับไก่ไว้นี่เอง มันสมควรแล้วที่ต้องโดนแบบนี้ เพราะเราทำคนอื่น จะคนหรือสัตว์ เราไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน จนเราได้เจอกับตัวเองนั่นแหละ เราถึงจะรู้ว่าผลของกรรมนี้ แสบร้อนแค่ไหน ถ้าการเล่นบอลมันคือเหตุที่ทำให้ผมเท้าแพลง ผมว่านักฟุตบอลทุกคนต้องมีเท้าแพลงเหมือนผมแน่ แต่เท่าที่ผมเห็นมา ผมแทบจะไม่ค่อยเห็นใครเล่นบอลแล้วเท้าแพลงเหมือนผมเลย แม้แต่ระดับโลกก็ยังหาข่าวนักบอลเท้าแพลงยังยากเลย ส่วนผมนี้แพลงเป็นร้อยๆครั้ง แค่เผลอสติเดินก็ยังแพลงได้ เพื่อให้ผมได้รับความเจ็บปวด
และนี่ก็คงจะเป็นกรรมของผม และผมเชื่อว่ามันคือกรรมที่ผมเคยใช้ไม้เขวี้ยงใส่ขาไก่มาแล้วหลายตัว สภาพตอนมันร้องตอนที่มันนอนขาหักอยู่นั้น ไม่ต่างกับตอนผมร้องโอดโอยตอนเท้าแพลงไม่มีผิด สองมือกุมเท้า ก้มหน้ากัดฟัน น้องตาไหลพราก