ตอนนี้อยู่ม.5 ห้อง1 ของรร.ประจำจังหวัด(อันดับ2)ค่ะ สาเหตุคือ ถูกเพื่อนที่เคยเชื่อใจมากที่สุดหักหลังค่ะ คือเพื่อนคนนั้นอยู่คนละห้อง ก็ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ว่าอีกเหตุผลหนึ่งคือแฟนซึ่งอยู่ห้องเดียวกันและแทบจะสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนพวกนั้นเลยอ่ะ พึ่งเลิกกันไป ทุกวันนี้เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียว เหลือเป็นคนสุดท้ายที่เชื่อใจ ถ้าปัญหานี้เกิดตอนม.ต้นเราจะไม่อะไรเลย แต่ว่านี่เรากำลังจะขึ้นม.6 แล้วแบบมันต้องอ่านต้องเตรียมสอบบลาๆๆใช่มั้ยล่ะคะ คือทุกวันนี้มันอึดอัดมาก มากๆ
เราเคยคิดว่าจะแก้ปัญหาโดยการ ถ้าอ่านที่รร.ไม่ได้ ก็อ่านมันที่บ้านอย่างเดียว แต่พอคิดๆไปเราใช้เวลาในการเดินทางไปรร. 1 ชม.และเราเป็นคนอ่านหนังสือบนรถไม่ได้ กลับมาก็เหนื่อยไปรร.ก็ต้องเจออะไรเเย่ๆ ก็เลยคิดว่าเปลี่ยนรร.มันสะเลย...!! (เราเคยดูณอนที่พูดว่า ทำในสิ่งที่หัวในคุณบอกว่าถูกต้อง เพราะถึงยังไงก็มีคนตัดสินคุณอยู่ดี) แต่มันก็ปัญหาตามาอีกว่า
1. รร.ที่จะย้ายไปได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ค่าใต้โต้ะก่อนเข้า มันเป็นรร.เอกชนที่ชื่อเสียงไม่ได้ดีมากนัก ซึ่งเรารู้แค่ว่าตัวเด็กอ่ะไม่ค่อยดี แต่เรื่องครูเราไม่รู้ เรื่องเรียนของห้องคิงเค้าก็โหดอยู่ แต่เราก็จะแก้ปัญหาไปว่า 2 เดือนที่เหลือก่อนเปิดเทอมเราจะอ่าน(อัด)ทุกเนื้อหาที่ใช้สอบ 9 วิชาสามัญ ให้หมด เปิดเทอมก็เตรียมตะลุยโจทย์อย่างเดียว
2. หนักใจเรื่องพ่อกับแม่ค่ะ ซึ่งแบ่งออกเป็น
พ่อ คือท่านยอมแน่ ท่านจะบอกว่ายังไงก็ได้ แต่เพราะท่านเงียบนี่แหละ ทำให้เราหนักใจว่า จริงๆท่านรู้สึกยังไง ท่านจะรู้สึกแย่มั้ยที่ลูกออกจากรร.ประจำจังหวัดไปเอกชน
แม่ คือท่านมีหน้าตาในสังคมนิดนึงไม่ใช่นักการเมืองหรืออะไรนะ แบบ...ในอาชีพในเขตใกล้ๆกันจะรู้จักกันหมด ถ้าวันหนึ่งเราไปใส่ชุดที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ไปกับเค้าแล้วคนอื่นถามว่าย้ายรร.ทำไม ท่านต้องลำบากใจแน่ๆ
ปล. แม่เคยบอกเราครั้งหนึ่งว่า ย้ายรร.มั้ย ตอนต้นเทอมม.5 เนื่องจากเราร้องไห้หนักมากเรื่องเพื่อนและแฟนที่รร.
เราไม่ต้องการเพื่อนที่รร.ใหม่ (จริงๆมีเพื่อนสนิทเก่าสมัยประถมอยู่) เราต้องการแค่ที่ที่ยังบอกว่าเรามีรร.อยู่ มีที่ให้อ่านหนังสือโดยไม่ต้องอึดอัดใจ
เราดูหนีปัญหาเกินไปหรือเปล่า เรากำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อหรือเปล่า เครียดมากค่ะ ร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก ยังไม่กล้าไปคุยกับแม่เพราะกลัวทำท่านลำบากใจ
ที่กล่าวมาทั้งหมดต้องขอโทษที่เรามาขนาดนี้ เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำมากๆ คิดมาก เลยต้องการความคิดเห็นตลอดจนคำเเนะนำจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
อยากย้ายรร.ตอนม.6
เราเคยคิดว่าจะแก้ปัญหาโดยการ ถ้าอ่านที่รร.ไม่ได้ ก็อ่านมันที่บ้านอย่างเดียว แต่พอคิดๆไปเราใช้เวลาในการเดินทางไปรร. 1 ชม.และเราเป็นคนอ่านหนังสือบนรถไม่ได้ กลับมาก็เหนื่อยไปรร.ก็ต้องเจออะไรเเย่ๆ ก็เลยคิดว่าเปลี่ยนรร.มันสะเลย...!! (เราเคยดูณอนที่พูดว่า ทำในสิ่งที่หัวในคุณบอกว่าถูกต้อง เพราะถึงยังไงก็มีคนตัดสินคุณอยู่ดี) แต่มันก็ปัญหาตามาอีกว่า
1. รร.ที่จะย้ายไปได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ค่าใต้โต้ะก่อนเข้า มันเป็นรร.เอกชนที่ชื่อเสียงไม่ได้ดีมากนัก ซึ่งเรารู้แค่ว่าตัวเด็กอ่ะไม่ค่อยดี แต่เรื่องครูเราไม่รู้ เรื่องเรียนของห้องคิงเค้าก็โหดอยู่ แต่เราก็จะแก้ปัญหาไปว่า 2 เดือนที่เหลือก่อนเปิดเทอมเราจะอ่าน(อัด)ทุกเนื้อหาที่ใช้สอบ 9 วิชาสามัญ ให้หมด เปิดเทอมก็เตรียมตะลุยโจทย์อย่างเดียว
2. หนักใจเรื่องพ่อกับแม่ค่ะ ซึ่งแบ่งออกเป็น
พ่อ คือท่านยอมแน่ ท่านจะบอกว่ายังไงก็ได้ แต่เพราะท่านเงียบนี่แหละ ทำให้เราหนักใจว่า จริงๆท่านรู้สึกยังไง ท่านจะรู้สึกแย่มั้ยที่ลูกออกจากรร.ประจำจังหวัดไปเอกชน
แม่ คือท่านมีหน้าตาในสังคมนิดนึงไม่ใช่นักการเมืองหรืออะไรนะ แบบ...ในอาชีพในเขตใกล้ๆกันจะรู้จักกันหมด ถ้าวันหนึ่งเราไปใส่ชุดที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ไปกับเค้าแล้วคนอื่นถามว่าย้ายรร.ทำไม ท่านต้องลำบากใจแน่ๆ
ปล. แม่เคยบอกเราครั้งหนึ่งว่า ย้ายรร.มั้ย ตอนต้นเทอมม.5 เนื่องจากเราร้องไห้หนักมากเรื่องเพื่อนและแฟนที่รร.
เราไม่ต้องการเพื่อนที่รร.ใหม่ (จริงๆมีเพื่อนสนิทเก่าสมัยประถมอยู่) เราต้องการแค่ที่ที่ยังบอกว่าเรามีรร.อยู่ มีที่ให้อ่านหนังสือโดยไม่ต้องอึดอัดใจ
เราดูหนีปัญหาเกินไปหรือเปล่า เรากำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อหรือเปล่า เครียดมากค่ะ ร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก ยังไม่กล้าไปคุยกับแม่เพราะกลัวทำท่านลำบากใจ
ที่กล่าวมาทั้งหมดต้องขอโทษที่เรามาขนาดนี้ เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำมากๆ คิดมาก เลยต้องการความคิดเห็นตลอดจนคำเเนะนำจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ