
• สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับผม...คำว่า ลั๊ค ไม่ใช่ว่าจะพูดกับใครได้ง่ายๆ
• นอกจาก พ่อ แม่ เมีย พี่ น้อง เพื่อนสนิท ญาติมิตรสหาย ผมก็แทบไม่ ลั๊ค ใคร
• …บรรทัดบนมันก็ถือว่าเยอะเหมือนกันนะ
• ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึง ลั๊ค ลัคเนา
ขอเดาว่าทุกคนน่าจะกำลังสงสัยอยู่ว่า ลัคเนา นี่มันคือที่ไหนฟระ!?
• ผมก็สงสัยเช่นกัน จากการ google คร่าวๆ เจอกระทู้พันทิบ 2 ทู้ถ้วน link ภาษาไทยอีกนิดหน่อย
• ผมเหมาเอาเองเลยว่า เฮ้ย!...นี่มันเมืองลับแลชัดๆ
• เมื่อมีคนชวนไปเที่ยวที่นี่ ผมเลยตอบตกลงไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเบ้าหน้าเบ้าตามันเป็นยังไงกันแน่
• คร่าวๆ คือเป็นเมืองตอนเหนือของอินเดีย แคว้นอุตระประเทศ
• ใครที่อยากจะมาไหว้พระที่สาวัตถี, พุทธคยา บินมาลงลัคเนา จะใกล้กว่าลง เดลี ครับ
• ช่วงโฆษณา ขายของตรงๆ
• ไทยสมายล์ เปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-ลัคเนา
• ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวขึ้นเครื่องไป ไม่รู้คิดไปเองป่าว เบาะเหมือนจะกว้างกว่า economy ปกตินิดๆ ครับ
• แอร์สวยมาก สาวมาก เหมือนเอาความงดงามทั้งหมดของน่านฟ้าเมืองไทยมาลงไว้ที่เที่ยวบินนี้เลย
• อาหารผมเจอพะแนงไก่ อร่อยไม่อร่อยไม่รู้ รู้แต่ว่าเกลี้ยงกล่องละฮะ
• กัปตันเสียงระทวย และขับนิ่มมากครับ
• ขายแบบนี้ รอบหน้าเค้าจะชวนอีกมั้ย
• เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเถิดว่าทำไม ลัคเนา เราถึงลั๊คนายอ้ะ?
• ความน่าลั๊คที่ 1 : ตรวจเข้มเฮรี้ยๆ

• ที่สนามบิน กระเป๋าทุกใบ จะถูกดูแลเป็นอย่างดี
• หมายความว่าทุกใบต้องถูกเปิด และผ่านเครื่อง scan ทีละใบ...ทีละใบ
• พนักงานสนามบินจะมาช่วยเรายกของอย่างอ่อนน้อม ถ่อมตน
• ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง กระเป๋าผมยังไม่ถึงเครื่อง scan
• ผมรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของสนามบินมากฮะ
• ยังไม่พอ ที่โรงแรมก็เข้มเช่นกัน
• ทางเข้าโรงแรมที่แบบรถวิ่งเข้าออกได้ จะมีเสาโลหะ
ที่ผุดออกมาจากใต้ดินเพื่อกั้นรถไม่ให้ซิ่งเข้าออกได้ง่ายๆ
• คือมันคงต้องเคยมีรถแหกด่านหรืออะไรซักอย่างแหงเลย
• ที่ประตูทางเข้าโรงแรม ก็มีเครื่อง scan เหมือนกัน แบบที่สนามบินเลย เดจาวูเชี้ยๆ
• เข็มขัดต้องถอด มือถือ กระเป๋าตังค์ ต้องวางโชว์ กระเป๋าต้องสแกน เด๊ะเลย
• แล้วที่เด็ดคือ ถ้าคุณแบบ เพิ่งตรวจของเสร็จ เดินเข้าโรงแรม แล้วอยากออกไปเดินสูดอากาศซัก 10 วิ
• เดินกลับเข้ามาใหม่ ก็ไปตรวจใหม่เลยฮะ ไม่มีประณีประนอมอะไรทั้งสิ้น
• ที่หนักข้อกว่านั้น แม้กระทั่งห้างก็ไม่เว้นความเข้ม
• บ้านเราบางห้างจะมีพนักงานพนักงานคอยตรวจสินค้าขาออก หลังจากจ่ายตังค์ใช่มั้ยฮะ
• แบบ ดูว่าของในถุง กับใบเสร็จมันตรงกันนะ
• ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการตรวจแนวชะโงกๆ ผ่านไปได้เลยเพ่
• แต่ที่นี่ พี่อย่าหวังว่าจะผ่านยามหน้าประตูห้างไปได้ง่ายๆ
• หลังจากเราจ่ายตังค์ปุ๊ป ใบเสร็จมา พอเดินไปถึงประตู ยามจะตรงเข้ามาชาร์จทันที
ยาม : ไหนๆ เล็ทมีซี ว้อทยูก๊อต?
ผม : โอเค โนพร๊อบเบล้ม,
• พูดจบผมยื่นใบเสร็จ และของในถุงให้ดู ซึ่งมีแค่ Lays 1 ห่อ ขนมอินเดีย 1 ห่อ และน้ำดื่ม
• ยามมองมาที่กล้องบนคอ แล้วบอกว่า
ยาม : เอ..แต่กล้องนี่ ไม่มีในใบเสร็จนะ
ผม : เหีย เถอะครับ กล้องนี่ของกรูครับ
ยาม : ข้างบนก็มีขายกล้องนะ
ผม : ไม่ตลกๆ
• พูดจบ ผมก็เดินออกมาเลย พี่ยามส่งยิ้มให้เบาๆ ประมาณว่าเค้าแหย่ตัวเล่นนะฮ๊าฟฟฟฟฟ
• น่าลั๊คอ้ะ
• ความน่าลั๊คที่ 2 : ความย้อนแยงของเมือง
• คำว่าสนามบินนานาชาติ ภาพในหัวมันต้องแบบ ใหญ่ๆ กว้างๆ หรูหรานิดๆ จุคนได้เยอะๆ สะอาดระดับพรีเมี่ยม
• ดิวตี้ฟรีต้องเพียบ เล้าจ์หรูต้องมี ร้านอาหารต้องจัดเต็ม
• ที่ลัคเนา เค้าไม่เกรงใจคำว่าสนามบินนานาชาติกันเลยฮะ
• ไอ่ข้างบนที่ว่านี่แบบ...ไม่มีโว้ย กรูมินิมอลไง


• สนามบินนานาชาติ ก็คือเครื่องบินชาติอื่นมาบินลงด้วยได้ ก็พอแล้วป่ะ
• เมื่อก้าวขาออกจากประตูสนามบิน สิ่งแรกที่ได้พบคือ ฝูงวัวเล็มหญ้า หมาจรจัด และแมลงวันบินว่อน
• นับเป็นความความหลากหลายทางชาติพันธ์
• อารมณ์เหมือนเดินอยู่บขส.บ้านเราแบบมีวัวเดินด้วยฮะ

• อันนี้ว่ากันแค่สนามบิน ในตัวเมืองก็เด็ดไม่แพ้กันครับ
• ถ้าเรากวาดตามองเมืองลัคเนา แบบไวๆ ก็จะรู้สึกว่าอืม มีความบ้านๆ ประมาณนึง
• เราจะเห็นบ้านที่สร้างไม่เสร็จดี, ป้ายโฆษณาสองภาษา ฮินดี กับอังกฤษปะปนกัน,
มอไซค์จอดคุยกับรถเมล์กลางถนน, คนบีบแตรรถอัดใส่กันเลเวลถ้าที่ไทยต้องมีชก แต่ที่นี่ใบหน้ายิ้มแย้ม,
วัวเลียฝากระโปรงรถ, ร้านขายชาที่ทั้งร้านมีแค่แผงชาซองสำเร็จรูป กับหม้อต้มหนึ่งใบ,
คนนั่งขรี้กลางไซต์ก่อสร้าง

• แล้วอยู่ดีๆ เราก็เจอสิ่งนี้ตรงหน้า...

• เฮี๊ยยยยย เอาดีๆ พี่มาได้ไง
• ท่ามกลางความบ้านๆ จู่ๆ ก็มีอัครสถานแสนอลังการมาอยู่กันดื้อๆ เงี๊ยะ
• แล้วสร้างกันแบบ หูยยยย กลัวไม่รู้ว่ารวยอ่ะ
• คะเนด้วยความรู้สึก น่าจะประมาณไบเทค 4 อันต่อกันฮะ




• เดินวนไป วนมาอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ยังไม่ทั่ว ยังมีด้านในที่ไม่ได้โผล่หน้าเข้าไป เสียดายจุง
• สิ่งนี้คือ Ambedkar Park ครับ เป็นอนุสรณ์สถานของ Ambedkar, หนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของอินเดีย
• ความเซอร์โดยย่อคือ Ambedkar เกิดในวรรณะจัณฑาล แต่เนื่องจากเรียนเก่งมากๆ และเห็นว่าอินเดีย
ควรให้ความเท่าเทียมในแต่ละชนชั้นวรรณะ Ambedkar ซึ่งเดิมเป็นจัณฑาลอยู่ในศาสนาฮินดู
พูดอะไรไม่มีใครให้ความสนใจ จึงเปลี่ยนศาสนาเป็นพุทธ กดปุ่มรีเซ็ต โป๊ะ! ไม่เป็นจัณฑาลแล้วจ้าาาา
• ตัดภาพมาอีกทีด้วยความรู้ด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา
Ambedkar เป็นผู้ตรากฎหมายฉบับแรกของอินเดีย!
• โห น่าลั๊คเอ๊าะ
• ความน่าลั๊คที่ 3 : ห้างลัคเนา อิส มินิมอล
• คืนแรกที่ลัคเนา ระหว่างรอกินข้าว ตามกำหนดการแจ้งว่า หนึ่งทุ่ม
• ผ่านไปชั่วโมงนิดๆ เอ...อาหารยังไม่มา ทราบภายหลังว่า มื้อเย็นคนอินเดียเริ่มที่ สามทุ่ม!
• โอเค งั้นผมไปหาอะไรกินแถวๆ นี้ดีกว่า
• โชคดีข้างโรงแรมมีห้างอยู่ ชื่อ Mainland China

• อืม...อยู่อินเดีย แต่ชื่อห้างจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ๆ ลองเข้าไปดูหน่อยก็ได้
• ชั้น 1 เป็นซุปเปอร์เหมือนห้างทั่วไป อารมณ์ประมาณ Lotus Express
• ของแห้ง ของสด ผัก เนื้อ นม น้ำผลไม้ มีทุกอย่าง รวมทั้งอาหารที่ดูอินเดี๊ย อินเดีย
• ชั้น 2 แผนกเสื้อผ้า มีเสื้อผ้าเมด อิน อินเดียราคาย่อมเยา จะว่าไปก็น่าซื้อมาใส่เหมือนกันนะ
• ชั้น 3 เป็นแผนกไฟฟ้า แนว Powerbuy ที่แห้งแล้งมากๆ มี TV, มือถือ, เตารีด, ไดร์ จบ
• ห้างลัคเนา อิส มินิมอล
• ที่มินิมอลไปกว่านั้น คือการตกแต่งภายในของห้าง ที่เน้นความสะดวกสบาย
• ไม่ใช่ความสะดวกสบายของคนเดิน แต่เป็นของช่าง!
• ไฟฟ้า ถูกแขวนไว้บนราวเหล็กยาวๆ พาดผ่านคานสู่คาน คือดูยังเหมือนว่าก่อสร้างอยู่
• แต่ดูจากสภาพสนิมกับฝุ่น ก็เข้าใจได้ว่า มันน่าจะพาดอยู่ตรงนี้มานานละ
• พนักงานห้างก็จัดว่าน่าลั๊คเช่นกัน
• เดินๆ ไปตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกว่า อืมมม ห้างนี้พนักงานน้อยนะ
• จนกระทั่ง เดินไปเจอกองกล่องวางระเกะระกะที่ชั้นซุปเปอร์ เพราะเค้าจัดของกันอยู่
• ผมเห็นก็เลยกำลังจะเดินอ้อม
• ทันใดนั้น มีชายคนหนึ่ง ในชุดเสื้อบอลกางเกงสแล็ค สไลด์ตัวมาไซด์คิกกล่อง ป๊าบเข้าให้!
• กล่องเหล่านั้นได้หลบพ้นทางเดินไปเรียบร้อย ก่อนพี่เค้าจะหันมาส่งยิ้มหวานให้หนึ่งที
• ครับ ชายเสื้อบอล กางเกงสแล็คนั่นคือพนักงานห้างครับ
• นึกว่ามีแต่ตำรวจที่นอกเครื่องแบบได้...เท่ว่ะ
[SR] อินเดีย ลัคเนา เฮ๊ยยย! เราลั๊คนาย by Singpaitour
• นอกจาก พ่อ แม่ เมีย พี่ น้อง เพื่อนสนิท ญาติมิตรสหาย ผมก็แทบไม่ ลั๊ค ใคร
• …บรรทัดบนมันก็ถือว่าเยอะเหมือนกันนะ
• ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึง ลั๊ค ลัคเนา
ขอเดาว่าทุกคนน่าจะกำลังสงสัยอยู่ว่า ลัคเนา นี่มันคือที่ไหนฟระ!?
• ผมก็สงสัยเช่นกัน จากการ google คร่าวๆ เจอกระทู้พันทิบ 2 ทู้ถ้วน link ภาษาไทยอีกนิดหน่อย
• ผมเหมาเอาเองเลยว่า เฮ้ย!...นี่มันเมืองลับแลชัดๆ
• เมื่อมีคนชวนไปเที่ยวที่นี่ ผมเลยตอบตกลงไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเบ้าหน้าเบ้าตามันเป็นยังไงกันแน่
• คร่าวๆ คือเป็นเมืองตอนเหนือของอินเดีย แคว้นอุตระประเทศ
• ใครที่อยากจะมาไหว้พระที่สาวัตถี, พุทธคยา บินมาลงลัคเนา จะใกล้กว่าลง เดลี ครับ
• ช่วงโฆษณา ขายของตรงๆ
• ไทยสมายล์ เปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-ลัคเนา
• ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวขึ้นเครื่องไป ไม่รู้คิดไปเองป่าว เบาะเหมือนจะกว้างกว่า economy ปกตินิดๆ ครับ
• แอร์สวยมาก สาวมาก เหมือนเอาความงดงามทั้งหมดของน่านฟ้าเมืองไทยมาลงไว้ที่เที่ยวบินนี้เลย
• อาหารผมเจอพะแนงไก่ อร่อยไม่อร่อยไม่รู้ รู้แต่ว่าเกลี้ยงกล่องละฮะ
• กัปตันเสียงระทวย และขับนิ่มมากครับ
• ขายแบบนี้ รอบหน้าเค้าจะชวนอีกมั้ย
• เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเถิดว่าทำไม ลัคเนา เราถึงลั๊คนายอ้ะ?
• ความน่าลั๊คที่ 1 : ตรวจเข้มเฮรี้ยๆ
• หมายความว่าทุกใบต้องถูกเปิด และผ่านเครื่อง scan ทีละใบ...ทีละใบ
• พนักงานสนามบินจะมาช่วยเรายกของอย่างอ่อนน้อม ถ่อมตน
• ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง กระเป๋าผมยังไม่ถึงเครื่อง scan
• ผมรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของสนามบินมากฮะ
• ยังไม่พอ ที่โรงแรมก็เข้มเช่นกัน
• ทางเข้าโรงแรมที่แบบรถวิ่งเข้าออกได้ จะมีเสาโลหะ
ที่ผุดออกมาจากใต้ดินเพื่อกั้นรถไม่ให้ซิ่งเข้าออกได้ง่ายๆ
• คือมันคงต้องเคยมีรถแหกด่านหรืออะไรซักอย่างแหงเลย
• ที่ประตูทางเข้าโรงแรม ก็มีเครื่อง scan เหมือนกัน แบบที่สนามบินเลย เดจาวูเชี้ยๆ
• เข็มขัดต้องถอด มือถือ กระเป๋าตังค์ ต้องวางโชว์ กระเป๋าต้องสแกน เด๊ะเลย
• แล้วที่เด็ดคือ ถ้าคุณแบบ เพิ่งตรวจของเสร็จ เดินเข้าโรงแรม แล้วอยากออกไปเดินสูดอากาศซัก 10 วิ
• เดินกลับเข้ามาใหม่ ก็ไปตรวจใหม่เลยฮะ ไม่มีประณีประนอมอะไรทั้งสิ้น
• ที่หนักข้อกว่านั้น แม้กระทั่งห้างก็ไม่เว้นความเข้ม
• บ้านเราบางห้างจะมีพนักงานพนักงานคอยตรวจสินค้าขาออก หลังจากจ่ายตังค์ใช่มั้ยฮะ
• แบบ ดูว่าของในถุง กับใบเสร็จมันตรงกันนะ
• ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการตรวจแนวชะโงกๆ ผ่านไปได้เลยเพ่
• แต่ที่นี่ พี่อย่าหวังว่าจะผ่านยามหน้าประตูห้างไปได้ง่ายๆ
• หลังจากเราจ่ายตังค์ปุ๊ป ใบเสร็จมา พอเดินไปถึงประตู ยามจะตรงเข้ามาชาร์จทันที
ยาม : ไหนๆ เล็ทมีซี ว้อทยูก๊อต?
ผม : โอเค โนพร๊อบเบล้ม,
• พูดจบผมยื่นใบเสร็จ และของในถุงให้ดู ซึ่งมีแค่ Lays 1 ห่อ ขนมอินเดีย 1 ห่อ และน้ำดื่ม
• ยามมองมาที่กล้องบนคอ แล้วบอกว่า
ยาม : เอ..แต่กล้องนี่ ไม่มีในใบเสร็จนะ
ผม : เหีย เถอะครับ กล้องนี่ของกรูครับ
ยาม : ข้างบนก็มีขายกล้องนะ
ผม : ไม่ตลกๆ
• พูดจบ ผมก็เดินออกมาเลย พี่ยามส่งยิ้มให้เบาๆ ประมาณว่าเค้าแหย่ตัวเล่นนะฮ๊าฟฟฟฟฟ
• น่าลั๊คอ้ะ
• ความน่าลั๊คที่ 2 : ความย้อนแยงของเมือง
• คำว่าสนามบินนานาชาติ ภาพในหัวมันต้องแบบ ใหญ่ๆ กว้างๆ หรูหรานิดๆ จุคนได้เยอะๆ สะอาดระดับพรีเมี่ยม
• ดิวตี้ฟรีต้องเพียบ เล้าจ์หรูต้องมี ร้านอาหารต้องจัดเต็ม
• ที่ลัคเนา เค้าไม่เกรงใจคำว่าสนามบินนานาชาติกันเลยฮะ
• ไอ่ข้างบนที่ว่านี่แบบ...ไม่มีโว้ย กรูมินิมอลไง
• เมื่อก้าวขาออกจากประตูสนามบิน สิ่งแรกที่ได้พบคือ ฝูงวัวเล็มหญ้า หมาจรจัด และแมลงวันบินว่อน
• นับเป็นความความหลากหลายทางชาติพันธ์
• อารมณ์เหมือนเดินอยู่บขส.บ้านเราแบบมีวัวเดินด้วยฮะ
• ถ้าเรากวาดตามองเมืองลัคเนา แบบไวๆ ก็จะรู้สึกว่าอืม มีความบ้านๆ ประมาณนึง
• เราจะเห็นบ้านที่สร้างไม่เสร็จดี, ป้ายโฆษณาสองภาษา ฮินดี กับอังกฤษปะปนกัน,
มอไซค์จอดคุยกับรถเมล์กลางถนน, คนบีบแตรรถอัดใส่กันเลเวลถ้าที่ไทยต้องมีชก แต่ที่นี่ใบหน้ายิ้มแย้ม,
วัวเลียฝากระโปรงรถ, ร้านขายชาที่ทั้งร้านมีแค่แผงชาซองสำเร็จรูป กับหม้อต้มหนึ่งใบ,
คนนั่งขรี้กลางไซต์ก่อสร้าง
• ท่ามกลางความบ้านๆ จู่ๆ ก็มีอัครสถานแสนอลังการมาอยู่กันดื้อๆ เงี๊ยะ
• แล้วสร้างกันแบบ หูยยยย กลัวไม่รู้ว่ารวยอ่ะ
• คะเนด้วยความรู้สึก น่าจะประมาณไบเทค 4 อันต่อกันฮะ
• สิ่งนี้คือ Ambedkar Park ครับ เป็นอนุสรณ์สถานของ Ambedkar, หนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของอินเดีย
• ความเซอร์โดยย่อคือ Ambedkar เกิดในวรรณะจัณฑาล แต่เนื่องจากเรียนเก่งมากๆ และเห็นว่าอินเดีย
ควรให้ความเท่าเทียมในแต่ละชนชั้นวรรณะ Ambedkar ซึ่งเดิมเป็นจัณฑาลอยู่ในศาสนาฮินดู
พูดอะไรไม่มีใครให้ความสนใจ จึงเปลี่ยนศาสนาเป็นพุทธ กดปุ่มรีเซ็ต โป๊ะ! ไม่เป็นจัณฑาลแล้วจ้าาาา
• ตัดภาพมาอีกทีด้วยความรู้ด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา
Ambedkar เป็นผู้ตรากฎหมายฉบับแรกของอินเดีย!
• โห น่าลั๊คเอ๊าะ
• ความน่าลั๊คที่ 3 : ห้างลัคเนา อิส มินิมอล
• คืนแรกที่ลัคเนา ระหว่างรอกินข้าว ตามกำหนดการแจ้งว่า หนึ่งทุ่ม
• ผ่านไปชั่วโมงนิดๆ เอ...อาหารยังไม่มา ทราบภายหลังว่า มื้อเย็นคนอินเดียเริ่มที่ สามทุ่ม!
• โอเค งั้นผมไปหาอะไรกินแถวๆ นี้ดีกว่า
• โชคดีข้างโรงแรมมีห้างอยู่ ชื่อ Mainland China
• ชั้น 1 เป็นซุปเปอร์เหมือนห้างทั่วไป อารมณ์ประมาณ Lotus Express
• ของแห้ง ของสด ผัก เนื้อ นม น้ำผลไม้ มีทุกอย่าง รวมทั้งอาหารที่ดูอินเดี๊ย อินเดีย
• ชั้น 2 แผนกเสื้อผ้า มีเสื้อผ้าเมด อิน อินเดียราคาย่อมเยา จะว่าไปก็น่าซื้อมาใส่เหมือนกันนะ
• ชั้น 3 เป็นแผนกไฟฟ้า แนว Powerbuy ที่แห้งแล้งมากๆ มี TV, มือถือ, เตารีด, ไดร์ จบ
• ห้างลัคเนา อิส มินิมอล
• ที่มินิมอลไปกว่านั้น คือการตกแต่งภายในของห้าง ที่เน้นความสะดวกสบาย
• ไม่ใช่ความสะดวกสบายของคนเดิน แต่เป็นของช่าง!
• ไฟฟ้า ถูกแขวนไว้บนราวเหล็กยาวๆ พาดผ่านคานสู่คาน คือดูยังเหมือนว่าก่อสร้างอยู่
• แต่ดูจากสภาพสนิมกับฝุ่น ก็เข้าใจได้ว่า มันน่าจะพาดอยู่ตรงนี้มานานละ
• พนักงานห้างก็จัดว่าน่าลั๊คเช่นกัน
• เดินๆ ไปตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกว่า อืมมม ห้างนี้พนักงานน้อยนะ
• จนกระทั่ง เดินไปเจอกองกล่องวางระเกะระกะที่ชั้นซุปเปอร์ เพราะเค้าจัดของกันอยู่
• ผมเห็นก็เลยกำลังจะเดินอ้อม
• ทันใดนั้น มีชายคนหนึ่ง ในชุดเสื้อบอลกางเกงสแล็ค สไลด์ตัวมาไซด์คิกกล่อง ป๊าบเข้าให้!
• กล่องเหล่านั้นได้หลบพ้นทางเดินไปเรียบร้อย ก่อนพี่เค้าจะหันมาส่งยิ้มหวานให้หนึ่งที
• ครับ ชายเสื้อบอล กางเกงสแล็คนั่นคือพนักงานห้างครับ
• นึกว่ามีแต่ตำรวจที่นอกเครื่องแบบได้...เท่ว่ะ