"มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิต" ร่วมกับ "โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม" จังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมผ่าตัดข้อเทียมแก่ผู้ป่วยยากจนในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 เมื่อวันที่12กุมภาพันธ์2560
สืบเนื่องจากคุณแม่ซึ่งเป็นสาวอวบมาตั้งแต่คลอดลูกชายคนสุดท้อง ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นเอ๊าขึ้นเอา ซึ่งแน่นอนปัญหาที่ตามมาคือเข่าเสื่อมเพราะต้องรับน้ำหนักตัวที่มาก เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทองยิ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เดินเหินไม่สะดวก บ่นปวดแข้งปวดขาเป็นประจำ ครั้นเมื่อลูกยุให้ผ่าตัดก็ยังกลัวๆกล้าๆ เพราะฟังคนอื่นมาเยอะ ประจวบกับกังวลค่าใช้จ่ายด้วย
จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา คุณแม่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งหาโอกาสดีๆแบบนี้ได้ยากมาก เนื่องจากมูลนิธิฯสนับสนุนค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และทีมงานอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับประเทศเลยทีเดียว
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด บรรดาผู้ป่วยจะต้องเข้ารับทราบความรู้เกี่ยวกับวิธีการรักษา การทำกายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด เพื่อสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าบรรยากาศเหมือนเข้าค่าย นอนเตียงติดกันพรืด คุยกันสนุกสนานดูอบอุ่นมากๆ ทั้งทีมงานจิตอาสาจากมูลนิธิฯทุกท่านและบุคลากรของรพ.เอง น่ารักเป็นกันเองมาก โดยเฉพาะการให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย ให้ฝึกเดินภายใน24ชม.แรกหลังการผ่าตัดเลยทีเดียว นับเป็นความสำเร็จของการผ่าตัดที่ช่วยให้ผู้ป่วยเดินได้เร็วกว่าเดิมอย่างน่าทึ่งมาก
ผมเชื่อว่านอกจากผู้ป่วยแล้ว ญาติๆที่ได้เห็นการทำงานอย่างทุ่มเทของจนท.ทุกท่าน ต่างประทับใจในความมุ่งมั่นและอุทิศตนเพื่อผู้ป่วยที่ขาดโอกาสเข้าถึงการรักษา ขอให้ทีมงานผู้เกี่ยวข้องทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญ ในฐานะลูกชายของผู้ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
ปล.ผมพิมพ์ในมือถือ เลยลงรูปไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ผ่าตัดข้อเทียมฟรี ของดียังมีในโลก
สืบเนื่องจากคุณแม่ซึ่งเป็นสาวอวบมาตั้งแต่คลอดลูกชายคนสุดท้อง ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นเอ๊าขึ้นเอา ซึ่งแน่นอนปัญหาที่ตามมาคือเข่าเสื่อมเพราะต้องรับน้ำหนักตัวที่มาก เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทองยิ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เดินเหินไม่สะดวก บ่นปวดแข้งปวดขาเป็นประจำ ครั้นเมื่อลูกยุให้ผ่าตัดก็ยังกลัวๆกล้าๆ เพราะฟังคนอื่นมาเยอะ ประจวบกับกังวลค่าใช้จ่ายด้วย
จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา คุณแม่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งหาโอกาสดีๆแบบนี้ได้ยากมาก เนื่องจากมูลนิธิฯสนับสนุนค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และทีมงานอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับประเทศเลยทีเดียว
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด บรรดาผู้ป่วยจะต้องเข้ารับทราบความรู้เกี่ยวกับวิธีการรักษา การทำกายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด เพื่อสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าบรรยากาศเหมือนเข้าค่าย นอนเตียงติดกันพรืด คุยกันสนุกสนานดูอบอุ่นมากๆ ทั้งทีมงานจิตอาสาจากมูลนิธิฯทุกท่านและบุคลากรของรพ.เอง น่ารักเป็นกันเองมาก โดยเฉพาะการให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย ให้ฝึกเดินภายใน24ชม.แรกหลังการผ่าตัดเลยทีเดียว นับเป็นความสำเร็จของการผ่าตัดที่ช่วยให้ผู้ป่วยเดินได้เร็วกว่าเดิมอย่างน่าทึ่งมาก
ผมเชื่อว่านอกจากผู้ป่วยแล้ว ญาติๆที่ได้เห็นการทำงานอย่างทุ่มเทของจนท.ทุกท่าน ต่างประทับใจในความมุ่งมั่นและอุทิศตนเพื่อผู้ป่วยที่ขาดโอกาสเข้าถึงการรักษา ขอให้ทีมงานผู้เกี่ยวข้องทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญ ในฐานะลูกชายของผู้ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
ปล.ผมพิมพ์ในมือถือ เลยลงรูปไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยนะครับ