[CR] My Sightseeing : การเดินทางสู่ปากปล่องภูเขาไฟ

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพ ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนเนาะ เราชื่อแชมป์ อยู่ชั้นอนุบาลการเดินทางบนโลกใบนี้ ถ่ายรูปไม่เก่ง โปรดอย่าคาดหวังรูปสวยๆจากกระทู้นี้ และวิจารณ์ได้ตามอัธยาศัยเล้ยยยยย สำหรับสถานที่แรกที่เรามาแนะนำเพื่อนๆก็คือ การเดินทางสู่ปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ หลายๆคนอาจทราบดีกันอยู่แล้วว่า ภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ที่ใกล้บ้านเรามากที่สุดก็คือ ภูเขาไฟที่มีนามว่า Bromo นั่นเอง ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซียนะจ๊ะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกไปกันๆ
ขอตัดบทเลยนะจ๊ะ สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ต้องการอ่าน สามารถรับชมได้เลย
My Sightseeing :https://www.facebook.com/My-Sightseeing-217061422053374/
ฝาก Subscribe ด้วยน๊า : https://www.youtube.com/watch?v=tecSSN6qxPk

เอาละมาเริ่มกันเลย แพลนของเรานะ
>>>>Kawah Ijen ไปดู blue flame ที่ใครๆก็ไปดูกัน และต่อด้วย
>>>> Bromo ที่ใครๆก็ไปเดินบนปากปล่องกัน แต่ระหว่างทางสนุกมาก ทั้งนั่งบนหัลงคารถจิ๊บ ทั้งขี่ม้าบนทะเลทรายสีดำ
>>>> Madakaripura น้ำตกที่ใครๆก็ไปกัน แต่เราพลาด เพราะฝนมานตกนะสิ ได้แต่ชมอยู่ปลายๆทาง
และไฮไลท์ที่เราอยากจะแนะนำ ก็คือ.....คือ.....คือ เดี๋ยวเราบอกอีกที ฮาๆ
เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะไปจบทริปที่บาหลี แต่เราไม่ เราสนใจน้ำตกอีกแห่งแทนซึ่งใครชอบแนว Adventure ละก็....พลาดไม่ได้นะจ๊ะ
และน้ำตกที่ว่านี้มีชื่อว่า.....ว่า.....ว่า..... น้ำตก Tumpak sewu จ้า (น้ำตกอะไรของมันวะไม่เคยได้ยิน ฮาๆ) เอาหน่า เดี๋ยวพาไปรู้จักกัน

น้ำตก Tumpak sewu ตั้งอยู่ในเขตเมือง Malang แต่สามารถเดินทางจากเมือง Malang หรือ Lumajang  ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะชวา อะไรจะขนาดนั่นเวอร์นะไอหมอนี่ อ่าวไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเลยจ้า และโชคดีที่วันนี้อากาศเป็นใจ มีแดด และไร้เมฆฝน ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยาน อนุญาต และนำทางเราเดินทางลงไปสู่หุบเขาแห่งนี้…

นี่เป็นแค่วิว Panorama ด้านบนเท่านั่นมันยังไม่ Adventure พอ และเราก็ไม่พลาดที่จะไต่ลงบันไดไม้ไผ่ลงไปด้านล่างกันเลย ระหว่างลงเป็นทางเดินตามสายน้ำบ้างในบางจุด และไต่เชือกบ้าง โอ้ยสนุกมาก ฮาๆ

การมาที่นี้อะหรอไม่ยากเลย เราติดต่อไกด์มาจากไทยละสบายบรื้อ แนะนำเลยชวนเพื่อนมาสัก 4-5คนก็ได้ แชร์ๆกันจะได้ไม่เจ็บหนัก มาเที่ยวเองมันเสียเวลาต้องคอยไปแจมกรุ๊ปอื่น สำหรับเราจ้างไกด์เลย อยากไปไหนบอกไกด์จบ เสียพอๆกับเที่ยวเอง แต่ที่ดีกว่าคือได้เที่ยวเยอะกว่าเที่ยวเองน๊า และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำ อุปกรณ์ไม่กันน้ำไม่ต้องพกมานะจ๊ะ เปียกป้อนกันถ้วนหน้า หารองเท้าที่เป็น Water shoes ก็ดีน๊า

   อะ อะ ไปลุยกันต่อ เราใช้เวลาประมาณ 45 นาที เราก็ลงมาจนถึงจุดใต้สุดของหุบเขา… มีเส้นทางน้ำไหลผ่านกลางระหว่างผาสองฝั่ง… มองย้อนขึ้นไป จะพบหน้าผาขนาบข้าง ที่มีลักษณะสีเขียวชะอุ่มจากมอส เฟิร์น และพืชพรรณไม้ต่างๆ กลุ่มเรามาหน้าฝน ยิ่งช่วยขับความเขียวสดเหล่านี้ให้ดูสดชื่นยิ่งขึ้น รู้สึกโชคดีจริงๆ ที่วันนี้แดดออก เหมือนโดนธรรมชาติโอบกอดตลอดเวลายังไงยังงั้น… ผาสองข้างสีเขียวๆ ที่สูงจนเกือบมิดฟ้า เมื่อเรามองจากจุดใต้สุดของพื้นดิน ทำให้รู้ตัวว่า เราตัวเล็กแค่ไหนเมื่อเทียบกับธรรมชาติ เนื่องจากเป็นหน้าฝน และยังเช้าอยู่มาก ทำให้กลุ่มเรา กลายเป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวที่เดินอยู่ในหุบเขาแห่งนี้… ยิ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษมากเข้าไปอีก

ในบางจุดของหุบเขา, เราจำเป็นต้องเดินข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่ง… เจ้าหน้าที่ช่วยจูงมือเราข้ามไป เพราะน้ำในลำธารช่วงหน้าฝนไหลเชี่ยวกรากมากๆ… เราข้ามกันอย่างทุลักทะเล แต่ก็ปลอดภัย เมื่อข้ามอีกสองสามจุด… เราเริ่มได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้น และเมื่อตัวเราก้าวพ้นขอบผาสุดท้ายไป ภาพที่เห็นก็สร้างความประทับใจให้เราแทบจะทันที… น้ำตก Tumpak Sewu ที่สูงจนเกือบมิดฟ้า ในมุมมองจากมดตัวนึง…


มันรู้สึกดีที่เราได้ยืนอยู่ตรงหน้าสายน้ำตกจำนวนหลายร้อยสาย ที่มีความสูงใหญ่ และกว้างจนไม่สามารถมองได้ครบในองศาการมองเพียงครั้งเดียว… เหมือนได้รับพลังของธรรมชาติจากเสียงน้ำตกที่ดังคำราม… ละอองน้ำที่สัมผัสใบหน้าและผิวกาย อุณหภูมิและความชื้นแบบพอดีๆ ช่วยเพิ่มความเย็นชุ่มช่ำให้ร่างกาย ทั้งหมดนี้, ช่วยเติมเต็มโสตประสาตสัมผัสทั้งห้า ในการชื่นชมความอลังการของสิ่งสร้างจากธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งที่ผมเคยเจอมา
เราใช้เวลาอยู่ในนี้กันค่อนข้างนาน เราชื่นชมมันด้วยสายตา… รวมถึงใช้กล้องเพื่อบันทึกทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว… เพื่อตักตวงโมเมนต์พิเศษช่วงหนึ่งนี้ในชีวิตเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

แต่เมื่อเราเดินย้อนกลับไป จนเลยจุดทางที่เราเดินลงมา… มันเป็นฉากอีกฉากหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้นไปอีก…
ลักษณะน้ำตกที่ไหลบนโขดหินที่มีลักษณะเหมือนหินงอกหินย้อยสีดำมืดขนาดใหญ่ตามหน้าผาสองข้างทาง… เป็นภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต… ยิ่งเดินก็ยิ่งหลงรักกับภูมิทัศน์ที่แปลกตากว่าทุกสถานที่ที่ผมเคยไปมา… บางจุดเป็นโขดหินมอสหลังม่านน้ำตก ให้เราได้ปีนป่ายเล่นราวกับเป็นหน้าผาจำลอง… อีกส่วนหนึ่งก็เป็นบ่อน้ำที่มีความใสสุดๆ พร้อมรอให้เราลงไปเล่นแช่น้ำ ทั้งยังมีเครื่องนวดหลังพลังน้ำตก… นี่มันคือจากุซซี่ที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า… บอกได้เลยว่า… โข้ดฟิน…

เราเดินเล่นน้ำแบบไม่รู้จักคำว่าเบื่อ ราวกับเป็น Water Park แห่งหนึ่ง แต่เปียกปอนกันยิ่งกว่า…พวกเราใช้เวลาอยู่ในหุบเขานี้กันเกือบ 2 ชั่วโมง, จนสมควรแก่เวลาเดินทางกลับ… ผมนอนหงายราบกับพื้นดินบนหุบเขา เพื่อจดจำความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตเอาไว้ให้นานที่สุด… ณ ตอนนั้น ผมคิดในใจว่า หากฝันถึงมันได้ทุกคืน คงเป็นเรื่องที่เจ๋งน่าดู

หวังว่าสถานที่ ที่เราแนะนำเพื่อนๆไปจะถูกใจกันนะครับ เพราะเท่าที่เราดูกันมาข้อมูลยังน้อยมาก ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นภาษาอินโดนีเซีย ใครไปมาแล้วก็เข้ามาคุยกันน๊า สาย Adventure ต้องไปให้สุดนะก๊าบบบบ แล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะ ผิดพลาดประการใด อภัยให้ด้วยน๊าาาา บ๊ะบายยยยยย ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่านกันน๊า

สุดท้าย ติดตามเราได้ที่
Follow us
Facebook : https://goo.gl/sz5Sjb
Youtube : https://goo.gl/PBJlso