สวัสดีครับชาว pantip ทุกท่าน ก่อนอื่นกราบขออภัยหากรีวิวผิดพลาดประการใด หรือไม่ละเอียด เนื่องจากผู้เขียนห่างหายจากการเขียนบล็อคเป็นเวลานานมากแล้วครับ

เมื่อหลายเดือนที่แล้วผมก็พยายามจะหาหมวกใหม่ เนื่องจากหมวกเดิม LS2 FF396 FT2 นั้นสนิมขึ้น โจทย์ของผมคือปลอดภัย ลายสวยงาม แค่ 2 อย่าง โดยเน้นไปที่ลวดลายเป็นหลัก ตัวเลือกจึงเป็นตามนี้ครับ
1.AGV K3 SV ตัวนี้ตัดไป เรื่องด้วยราคาที่สูง แต่วัสดุเป็นเพียงแค่ thermoplastic
2.Shoei Z7 ซึ่งเกือบจะไปเอาตัวนี้แล้วครับ แต่พอดีอาจารย์น้อยแนะนำให้รู้จักกับ Nitek เห็นว่านักแข่งนิยมใช้กัน (ขออนุญาต Tie-in อาจารย์น้อยครับ สอนขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบ Racing 555555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อุปส์

และแนะนำว่าหลายคนเอาหมวกไปไถลพื้นเรียบร้อย พบว่าปลอดภัยแน่นอน นักแข่งการันตี และเมื่อไปเจอลาย Repsol ผมก็หลงรักทันที ซื้อได้แบบไม่คิดอะไรมาก


เริ่มต้นรีวิวที่รูปลักษณ์ ลวดลายกันก่อนเลยครับ

ด้านบน สามารถกดปุ่ม เพื่อให้ลม flow เข้าภายในหมวกได้ครับ

บริเวณคาง ก็มีช่องรับลม เหมือนเช่นหมวกรุ่นอื่นๆ




สายรัดคางเป็นแบบ DD-ring
ด้วยความที่เป็นหมวก Carbon-Fiber ทำให้น้ำหนักเบามาก เพียงแค่ 1270g +- 50g เท่านั้นเอง



เท่าที่หลายๆคนลองถือหมวกผม ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเบามากครับ

สำหรับการใช้งานครับ ขออนุญาต list ออกเป็นข้อๆที่ผมสังเกตเห็นได้นะครับ
1.สัมผัสแรกเมื่อสวมใส่ รู้สึกใส่สบายครับตั้งแต่แรกพบเจอ เมื่อเทียบกับหมวกเก่าที่ผมเคยใช้
แต่เพื่อนผมที่เคยใช้ Shoei X13 และ Nolan ไม่ทราบรุ่น บอกว่าสู้ 2 ใบที่กล่าวมาไม่ได้ครับ

2.จากการขับขี่ไปสนาม Thailand Circuit รวมขับขี่ภายในสนาม ระยะทางราวๆ 250km ขึ้นไป
-LS2 FF396 ใบเก่า เมื่อกลับถึงบ้าน มีอาการปวดคออย่างเห็นได้ชัดเจน
-Nitek ไม่มีอาการปวดคอเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะด้วยน้ำหนักของหมวก และอัตราการโต้ลมที่น้อย

ในส่วนของแรงโต้ลม ผมไม่สามารถรีวิวได้จริงๆ เพราะขี่ CBR150 จึงไม่รู้ว่าเมื่อความเร็วสูงๆ หมวกจะมีอาการแค่ไหน แต่ทดลองหันซ้ายหันขวาดู ก็ถือว่าดีครับ

3.เสียงที่เข้ามาภายในหมวก
LS2 เดิมของผม ตอนซื้อมาใหม่ๆ เก็บเสียงภายนอกดีมาก ทั้งลม และเสียงบนท้องถนน (แต่พอนวมเริ่มหลวม ก็เสียงดังปกติ คิดว่าคงเป็นเพราะรวมอุดหูครับ)
Nitek หากเปิดช่องรับลม จะมีเสียงวี้ดๆพอสมควร แต่ถ้าปิดทุกช่อง เท่าที่สังเกตไม่มีเสียงวี้ด แต่มีเสียงลมปะทะอยู่ครับ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ผมว่า ไม่ได้ดังจนน่าเกลียด

4.ความทนทานเมื่อทำตก
ความสูง เบาะ CBR150 ตกลงบนพื้นปูนครับ รอยก็เท่าที่เห็น คือจางๆตรงหัวตัว T ซึ่งถ้าไม่จ้องก็มองไม่เห็นครับ

5.จุดอ่อนคือ Shield หน้า
หากเทียบกับ LS2 ใบเก่า ผมพบว่าใบเก่าผมขับกลางคืนได้ดีกว่ามาก เพราะ Pinlock ของ Nitek นั้น มันสะท้อนกับแสงไฟบนท้องถนน ถ้าเทียบกับภาษากล้องก็คือ เมื่อเจอแสงไฟบนท้องถนน มันออกมาเป็นเส้น perspective หรืออีกนัยนึง คือมันออกมาเป็นโบเก้ ซึ่งอันนี้เป็นจุดที่ผมไม่ชอบมากๆ ขับกลางคืนลำบากครับ

6.มีตัวล็อคชิลด์หน้า หากขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ก็เป็นตัวนึงที่ผมใช้นะครับ หากเราไม่ล็อคชิลด์หน้า มันจะมีลมไหลเข้ามาในหมวกหน่อยๆ ทำให้เวลาใส่หมวกไม่อึดอัด และมีอากาศเย็น

7.หากดูรีวิวเก่าๆใน pantip จะเห็นว่าเป็นงาน Handmade ทำให้งานอาจจะไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
แต่เท่าที่มองด้วยตาเปล่า พบว่างานดีพอสมควรเลยนะครับ ไม่มีตำหนิอะไรให้ผมเห็นเลย


สรุปหมวก Nitek ด้วยความที่เป็นคาร์บอน ไฟเบอร์ ในราคาเพียง 12900-. ผมว่าคุ้มนะครับ ถึงแม้ว่าในตอนแรกจะลังเลว่ามาตรฐานจะสู้พวก Shoei ได้ไหม เพราะนอกจาก ECE แล้ว ก็ไม่รู้ว่ามีมาตรฐานไหนที่ผ่านบ้าง SHARP ก็ไม่ได้ทดสอบ

ฟังก์ชั่นการใช้งานก็มีมาให้เล่น อย่างปิดชิลดฺ์หน้าให้แน่นขึ้น เมื่อขับขี่ในความเร็วที่สูง

และแน่นอนว่ามันเป็นหมวกที่มีนักแข่งใช้ ผมว่ามันต้องมีอะไรดีอยู่ในตัวมันมากกว่าที่ผู้ใช้บ้านๆอย่างเราได้เห็นกันแน่นอนครับ