เฮโหลลลลลลลลล กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 3 แล้ว สำหรับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในแบบฉบับของเราเอง ^^ ใครอยากรู้รึป่าวก้อไม่รู้ แต่ที่รู้ๆเราอยากบอก 5555555+ เอาน๊าาาา ถือว่าเข้ามาดูเราบ่นๆ โชว์ๆ แล้วโน๊ะ!!!! (ภาพทุกภาพถ่ายกับ IPhone6s)
......................................................................เริ่มดันเลยยย.............................................................................
เมื่อวันที่ 3-4 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา เราได้ไปเขาคิชฌกูฎกับแฟนและพี่สาวมา เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าประมาณเกือบๆเดือน ตั้งแต่ที่มีการกำหนดวันเปิดเขาออกมาจากเฟสบุ๊ค (FB:เขาพระบาทพลวง จันทบุรี) สำหรับกำหนดการทริปสายบุญของเรา คือเริ่มเดินทางออกจาก กทม. ตอน 18.30 น. เนื่องจากสมาชิกทุกคนไม่อยากลางานจึงรอหลังเลิกงานให้เวลากลับบ้านจัดการตัวเอง แล้วเจอกันตอน 18.30 น. ก่อนหน้าที่จะไปก็มีข่าวต่างๆนาๆ พร้อมกับกฏระเบียบการขึ้นเขาแบบใหม่ออกมาจากเฟสบุ๊ค เราก็เสพข่าวเยอะแยะจนกังวล และสิ่งที่กังวลมากคือ การที่ไม่เปิดขึ้นเขาตอนกลางคืน เพราะด้วยความตั้งใจของเราคือการเดินขึ้นตอนกลางคืน เพราะอากาศกำลังดี เย็นสบาย ไม่ร้อน บางปีมีฝนตกอากาศชื้นๆ น้ำค้างลงก็มี เวลาเดินจึงไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ (แต่ก็เหนื่อยนะ 5555+) แต่พอใกล้ๆวันเดินทางจริงๆ ก็มีข่าวอัพเดตว่า เดินขึ้นกลางคืนได้ แต่บางช่วงเป็นทางมืด อาจจะต้องพกไฟฉายไปเอง เนื่องจากยังติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่เสร็จ เราก็เตรียมทุกอย่างไปพร้อม เรื่องแค่นี้สบายมาก ขอแค่เดินกลางคืนได้ เราก็แฮปปี้แล้วววว 55555+

เราถึงที่จันทบุรี จุดขึ้นรถวัพลวงตอนประมาณห้าทุ่มกว่าๆ แปลกใจมาก เพราะรถไม่เยอะเท่าไหร่ แถมคนที่เดินไปมาก็น้อยมาก หลังจากจอดรถเสร็จก็รีบเดินไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นเขา สำหรับปีนี้ขึ้นรถแค่ 1 ต่อเท่านั้น ราคา 100 บาท แต่จะมีค่าเข้าอุทยาน 10 บาท นั่งรถประมาณ 20-30 นาทีประมาณนี้ ก็ถึงข้างบนเขา ซึ่งพอเราขึ้นไปถึง คนก็ไม่เยอะจริงๆด้วย เดินแบบสบายๆไม่เบียดเท่าไหร่

อันนี้เป็นตั๋วค่าลงจากเขา (ค่าขึ้นลืมถ่าย แล้วก้อหาตั๋วไม่เจอ) แต่ก็เหมือนกันต่างกันแค่คำว่า ลง กับ ขึ้น 555555 ราคาก็เท่ากัน 100 บาท

อันนี้ค่าเข้าอุทยาน คนละ 10 บาท

พอลงรถ ก็จะมีจุดให้ไหว้พระจุดที่ 1 ถ้าจากรูปก็จะเห็นว่าคนไม่เยอะจริงๆด้วย

จะเริ่มเดินแล้วน๊าาาาา





ถึงแล้ววววว......รอบพระพุทธบาท สำหรับปีนี้ไม่มีการนั่งสวดมนต์บริเวณรอยพระพุทธบาท ไม่มีการนอนค้างแรมเพื่อถือศีลด้านบนเขา ไม่มีการโปรยดอกดาวเรือง ลืมบกอไปว่า ตรงจุดที่ 1 มีการขายธูปเที่ยนพวงมาลัย แต่สำหรับพวกมาลัยหรือดอกไม้ที่เราได้ซื้อมา จะต้องวางไว้ตรงจุดไหว้พระที่มีพระแม่ธรณี พระพิฆเนศ และอีกหลายๆพระองค์ ตรงจุดนี้จะมีเจ้าหน้าทีคอยบอกให้เราวางดอกไม้ เพราะจะไม่มีการให้นำขึ้นไปด้านบน



และถึงแม้ว่า ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งไปแล้วว่าไม่ให้นำดอกไม้ขึ้นมา ก็ยังแอบมี 5555555+ สำหรับ จขกท. ตรงจุดนี้ไหว้กับธูปเที่ยนและวางแผ่นทองแค่เท่านั้น สังเกตุได้ว่า ปีนี้เราจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทชัดเจนมากขึ้น เพราะไม่มีดอกดาวเรือง ก็ได้ความสวยงามไปอีกแบบ
******หลังจากสักการะรอยพระพุทธบาทเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งพักสักหน่อย ก่อนจะลุยไปผ้าแดง



ถามว่าเหนือยมั้ย เหนื่อยอยู่นะ แต่เพราะอากาศดี เลยทำให้ไม้เพลียเท่าไหร่เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักตลอดทาง 5555+

ฮึ๊บๆๆๆๆ อีกนิดเดียว อีกแค่ 400 เมตรเองงงงงงง

เดินผ่านความสว่างก็แล้ว....ก็ยังไม่ถึง

[img]https://f.ptcdn.info/165/049/000/ol5i3c
winM1dnwO3uJU-o.jpg[/img]ทางมืดๆ ต้องใช้ไฟฉายก็มี เดินมานานนนนมาก จนในที่สุด........................
-----แท่นแท๊นนนน มาถึงแล้วผ้าแดง


ยิ้มแป้นนนน หายเหนื่อยยยย ถึงสักที อิอิ

แง่วววว.....ลืมซื้อผ้าแดงขึ้นมา งั้นขอเขียนกับผ้ากั้นเขตล่ะกันน๊าาาา

เบียดๆเข้าไป พยายามหาที่ว่างของผ้า 55555555+

ภาระกิจเดินขึ้นเขาเสร็จแล้ว ทีนี้ก็เดินชิลได้ ขากลับเราแวะขึ้นไปดูวิว ตรงจุดชมวิวอะไรสักอย่าง ลืมชื่อ แต่บันได้น่ากลัวหน่อยๆ 5555 พอขึ้นนะ โอ้ววโห้วววว วิวดีมาก นอนดูดาวบนเนินหิน ลมพัดเย็น ทำเอาเคลิ้มเกือบหลับ สำหรับจุดชมวิวตรงนี้ ถ้าได้เอากล้องตัวใหญ่ๆไป คงได้ถ่ายรูปดาวมาอวด แต่นี่พกแค่สังขารตัวเองกับกล้องไอโฟน6s ก็พอล่ะ 55555+

ขากลับ นี่เดินไป ถ่ายรูปไป 55555 ไม่รีบร้อนเลย สบายๆ

เดินผ่านจุดนี้ จะบอกว่า ตอนขาขึ้น ตรงนี้พีคมากนะ เพราะคงเป็นช่วงปรับสภาพปรับร่างกาย ไม่ว่าใครๆ เดินได้แค่มากสุดบันได 5-6 ขั้น ก็ต้องหยุดพักทั้งนั้น แถมกว่าจะผ่านจุดเริ่มต้นไปได้ เล่นเอาท้อใจก็มี 555555+

นี่คือภาพตอนที่เราลงมาถึงด้านล่าง ตรงจุดรอรถขาลงคนเริ่มมาเยอะขึ้นแล้วนะ เราลงมาถึงตอนประมาณตี 5 ได้นะ คนก็เริ่มากันล่ะ เพราะบางคนกลัวว่าตอนกลางคืนเขาไม่เปิดให้เดินก็เลยรีบมาเช้าตรู่ เรารอไม่นานก็ได้นั่งรถลงมาจากเขา

ถึงข้างล่างก้อฟ้าสว่างพอดี ตอนลงรถกะว่าจะไม่กินอะไรให้ถึงที่พักอาบน้ำแล้วค่อยขับรถออกมาหาอะไร แต่เธอเอ้ยยย!!!เดินผ่านร้านขายอาหารนี่ จมูกแทบจะหลุด สูโกลิ่นกับข้าวไป ห๊อมหอมมมมมม จนสุดท้ายกินจนได้ 5555555555555


กินเสร็จแล้ว ก็รีบเดินทางเข้าที่พักกันเถอะ !!!!

สำหรับทริปนี้ อิ่มบุญ หอบบุญลงมาจากเขาเต็มกระเป๋าเลยยยย แล้วทริปหน้าเจอกันใหม่นะ บะบายย

ปล. ขออภัยหากในรูปเห็นหน้าใครบ้างงง และหากมีคำพูดใดไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ
ขึ้นเขา(คิชฌกูฎ)ไปเอาบุญ
......................................................................เริ่มดันเลยยย.............................................................................
เมื่อวันที่ 3-4 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา เราได้ไปเขาคิชฌกูฎกับแฟนและพี่สาวมา เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าประมาณเกือบๆเดือน ตั้งแต่ที่มีการกำหนดวันเปิดเขาออกมาจากเฟสบุ๊ค (FB:เขาพระบาทพลวง จันทบุรี) สำหรับกำหนดการทริปสายบุญของเรา คือเริ่มเดินทางออกจาก กทม. ตอน 18.30 น. เนื่องจากสมาชิกทุกคนไม่อยากลางานจึงรอหลังเลิกงานให้เวลากลับบ้านจัดการตัวเอง แล้วเจอกันตอน 18.30 น. ก่อนหน้าที่จะไปก็มีข่าวต่างๆนาๆ พร้อมกับกฏระเบียบการขึ้นเขาแบบใหม่ออกมาจากเฟสบุ๊ค เราก็เสพข่าวเยอะแยะจนกังวล และสิ่งที่กังวลมากคือ การที่ไม่เปิดขึ้นเขาตอนกลางคืน เพราะด้วยความตั้งใจของเราคือการเดินขึ้นตอนกลางคืน เพราะอากาศกำลังดี เย็นสบาย ไม่ร้อน บางปีมีฝนตกอากาศชื้นๆ น้ำค้างลงก็มี เวลาเดินจึงไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ (แต่ก็เหนื่อยนะ 5555+) แต่พอใกล้ๆวันเดินทางจริงๆ ก็มีข่าวอัพเดตว่า เดินขึ้นกลางคืนได้ แต่บางช่วงเป็นทางมืด อาจจะต้องพกไฟฉายไปเอง เนื่องจากยังติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่เสร็จ เราก็เตรียมทุกอย่างไปพร้อม เรื่องแค่นี้สบายมาก ขอแค่เดินกลางคืนได้ เราก็แฮปปี้แล้วววว 55555+
อันนี้เป็นตั๋วค่าลงจากเขา (ค่าขึ้นลืมถ่าย แล้วก้อหาตั๋วไม่เจอ) แต่ก็เหมือนกันต่างกันแค่คำว่า ลง กับ ขึ้น 555555 ราคาก็เท่ากัน 100 บาท
อันนี้ค่าเข้าอุทยาน คนละ 10 บาท
พอลงรถ ก็จะมีจุดให้ไหว้พระจุดที่ 1 ถ้าจากรูปก็จะเห็นว่าคนไม่เยอะจริงๆด้วย
จะเริ่มเดินแล้วน๊าาาาา
ถึงแล้ววววว......รอบพระพุทธบาท สำหรับปีนี้ไม่มีการนั่งสวดมนต์บริเวณรอยพระพุทธบาท ไม่มีการนอนค้างแรมเพื่อถือศีลด้านบนเขา ไม่มีการโปรยดอกดาวเรือง ลืมบกอไปว่า ตรงจุดที่ 1 มีการขายธูปเที่ยนพวงมาลัย แต่สำหรับพวกมาลัยหรือดอกไม้ที่เราได้ซื้อมา จะต้องวางไว้ตรงจุดไหว้พระที่มีพระแม่ธรณี พระพิฆเนศ และอีกหลายๆพระองค์ ตรงจุดนี้จะมีเจ้าหน้าทีคอยบอกให้เราวางดอกไม้ เพราะจะไม่มีการให้นำขึ้นไปด้านบน
และถึงแม้ว่า ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งไปแล้วว่าไม่ให้นำดอกไม้ขึ้นมา ก็ยังแอบมี 5555555+ สำหรับ จขกท. ตรงจุดนี้ไหว้กับธูปเที่ยนและวางแผ่นทองแค่เท่านั้น สังเกตุได้ว่า ปีนี้เราจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทชัดเจนมากขึ้น เพราะไม่มีดอกดาวเรือง ก็ได้ความสวยงามไปอีกแบบ
******หลังจากสักการะรอยพระพุทธบาทเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งพักสักหน่อย ก่อนจะลุยไปผ้าแดง
ถามว่าเหนือยมั้ย เหนื่อยอยู่นะ แต่เพราะอากาศดี เลยทำให้ไม้เพลียเท่าไหร่เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักตลอดทาง 5555+
ฮึ๊บๆๆๆๆ อีกนิดเดียว อีกแค่ 400 เมตรเองงงงงงง
เดินผ่านความสว่างก็แล้ว....ก็ยังไม่ถึง
[img]https://f.ptcdn.info/165/049/000/ol5i3c winM1dnwO3uJU-o.jpg[/img]ทางมืดๆ ต้องใช้ไฟฉายก็มี เดินมานานนนนมาก จนในที่สุด........................
-----แท่นแท๊นนนน มาถึงแล้วผ้าแดง
ยิ้มแป้นนนน หายเหนื่อยยยย ถึงสักที อิอิ
แง่วววว.....ลืมซื้อผ้าแดงขึ้นมา งั้นขอเขียนกับผ้ากั้นเขตล่ะกันน๊าาาา
เบียดๆเข้าไป พยายามหาที่ว่างของผ้า 55555555+
ภาระกิจเดินขึ้นเขาเสร็จแล้ว ทีนี้ก็เดินชิลได้ ขากลับเราแวะขึ้นไปดูวิว ตรงจุดชมวิวอะไรสักอย่าง ลืมชื่อ แต่บันได้น่ากลัวหน่อยๆ 5555 พอขึ้นนะ โอ้ววโห้วววว วิวดีมาก นอนดูดาวบนเนินหิน ลมพัดเย็น ทำเอาเคลิ้มเกือบหลับ สำหรับจุดชมวิวตรงนี้ ถ้าได้เอากล้องตัวใหญ่ๆไป คงได้ถ่ายรูปดาวมาอวด แต่นี่พกแค่สังขารตัวเองกับกล้องไอโฟน6s ก็พอล่ะ 55555+
ขากลับ นี่เดินไป ถ่ายรูปไป 55555 ไม่รีบร้อนเลย สบายๆ
เดินผ่านจุดนี้ จะบอกว่า ตอนขาขึ้น ตรงนี้พีคมากนะ เพราะคงเป็นช่วงปรับสภาพปรับร่างกาย ไม่ว่าใครๆ เดินได้แค่มากสุดบันได 5-6 ขั้น ก็ต้องหยุดพักทั้งนั้น แถมกว่าจะผ่านจุดเริ่มต้นไปได้ เล่นเอาท้อใจก็มี 555555+
นี่คือภาพตอนที่เราลงมาถึงด้านล่าง ตรงจุดรอรถขาลงคนเริ่มมาเยอะขึ้นแล้วนะ เราลงมาถึงตอนประมาณตี 5 ได้นะ คนก็เริ่มากันล่ะ เพราะบางคนกลัวว่าตอนกลางคืนเขาไม่เปิดให้เดินก็เลยรีบมาเช้าตรู่ เรารอไม่นานก็ได้นั่งรถลงมาจากเขา
ถึงข้างล่างก้อฟ้าสว่างพอดี ตอนลงรถกะว่าจะไม่กินอะไรให้ถึงที่พักอาบน้ำแล้วค่อยขับรถออกมาหาอะไร แต่เธอเอ้ยยย!!!เดินผ่านร้านขายอาหารนี่ จมูกแทบจะหลุด สูโกลิ่นกับข้าวไป ห๊อมหอมมมมมม จนสุดท้ายกินจนได้ 5555555555555
กินเสร็จแล้ว ก็รีบเดินทางเข้าที่พักกันเถอะ !!!!
สำหรับทริปนี้ อิ่มบุญ หอบบุญลงมาจากเขาเต็มกระเป๋าเลยยยย แล้วทริปหน้าเจอกันใหม่นะ บะบายย
ปล. ขออภัยหากในรูปเห็นหน้าใครบ้างงง และหากมีคำพูดใดไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ