[CR] โฮจิมินห์ฉบับย่อ

กระทู้รีวิว

สวัสดีเวียดนาม...เรากลับมาหานายแล้วนะ

สวัสดีค่ะทุกคนที่หลงมาอ่านกระทู้นี้ รอบนี้เรากลับมาเล่าเรื่องการเดินทางให้ฟังอีกแล้ว คราวนี้จุดหมายคือนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

เหมือนชื่อกระทู้เลยค่ะ โฮจิมินห์ฉบับย่อ เพราะรอบนี้เราไปเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น แล้วก็ไปแค่โฮจิมินห์ด้วยแหละ
หลายคนอาจจะ "เห้ยไปทำไมไม่กี่วัน เที่ยวแต่ในเมืองด้วย ไม่คุ้มๆ" เอ มันอาจจะดูไม่คุ้มจริงๆแหละค่ะ แต่สำหรับเราเห้ยมันสนุกมาก
ขอเท้าความก่อน เราเคยแลกเปลี่ยนที่ฮานอยเมื่อหลายปีก่อน การมาเวียดนามรอบนี้ถึงจะคนละเมืองแต่เหมือนเราได้กลับบ้านเลย

หลายคนอาจจะได้ยินเรื่องไม่ค่อยประทับใจกับเวียดนามมา แต่สำหรับเรา เราชอบที่นี่มากเลย เราเลยหวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้หลายคนมีความรู้สึกดีๆกับประเทศเพื่อนบ้านที่น่ารักของเรานี้เพิ่มมากขึ้นนะคะ

ยืดยาวมามาก เข้าประเด็นดีกว่า

- ทริปนี้ เราไปทั้งหมด 3 วัน 2 คืน (6-8 มกราคม 2560)
- เดินทางด้วยสายการบิน AirAsia ไป-กลับ 2870 บาท
- ที่พักเราใช้บริการ Airbnb เช่นเคยค่ะ มีความติดใจบริการนี้มาก ใครยังไม่เคยเราแนะนำให้ลองค่ะ 2 คืนสำหรับ 2 คน 1400 บาท
- แลกเงินไปทั้งหมด 3000 บาทค่ะ

เอาล่ะพร้อมแล้วๆ

การเดินทางในโฮจิมินห์ทริปนี้เราขอแนะนำ Grab ค่ะ มีทั้งGrab taxi และ Grab bike ด้วยเรามาน้อยวันเลยไม่ได้โหนรถเมล์เหมือนครั้งก่อนเพราะค่อนข้างฟิกซ์กับเวลาที่มี ฮรือออ แต่วิธีนี้ก็สะดวกมากค่ะ หมดกังวลเรื่องโดนโกงค่าแท็กซี่ไปได้เลย ไม่โกงแน่นอน แล้วก็นะคะ Grab บ้านเค้าจะขึ้นราคาให้เลยตั้งแต่เราเรียกว่ากี่บาท คำนวนระยะทางและเวลาถึงเรียบร้อย ราคาขึ้นอยู่กับความต้องการรถของคนช่วงนั้น ประมาณว่าถ้าชั่วโมงเร่งด่วนราคาจะสูงกว่าปกติหลายเท่าอยู่ค่ะ

อินเทอร์เน็ตที่ใช้ตลอดทริป เราซื้อจากร้านขาย Sim หน้าสนามบินค่ะ ร้านหาไม่ยาก ออกจาก เกจมาด้านหน้าจะมีร้านเรียงรายเต็มไปหมด เลือกเอาที่ชอบเลยค่ะ ส่วยเราเลือกร้านนี้ มีราคามาให้ชมด้วยเผื่อเป็นข้อมูลได้เนอะ

แล้วก็นั่งแท็กซี่ฟังเสียรถบีบแตรมา 1 ชั่วโมง อ่า ช่างเป็นเสียงที่คิดถึงจริงๆ ฮา

สำหรับใครจะไปครั้งแรก ถ้าได้ยินเสียบีบแตรหรือการขับปาดไปปาดมาเบียดซ้ายย้ายเลนขวาตลอดเวลา...ท่านอย่าได้ตกใจไปค่ะ มันเป็นปกติ เรื่องที่ประหลาดใจอย่างนึงคือ ต่อให้ปาดแค่ไหนคนขับที่นี่ไม่มีบ่นหรือด่ากันเลยค่ะ คราวก่อนที่ฮานอยเราเจอรถชนกัน เค้าก็แค่ลุกขึ้นมาปัดเนื้อปัดตัวพยักหน้าให้กันสองที แล้วก็ไปต่อ เหยแกถ้าเป็นที่ไทยนี่คงต่อกันไปแล้วแน่ๆ ฮา

ขามานี่ด้วยที่พักไม่ได้อยู่ในย่านเมืองมีความหายาก เพราะเป็นแค่บ้านคนไม่ได้เป็นโรงแรม ลุงคนขับก็เลยหลงทางนิดหน่อย แต่ลุงแกพยายามหาทางไปอย่างใจเย็นมาก พอเพื่อพูดภาษาเวียดนามไป(แค่พูดตัวเลขค่ะ)ก็หัวเราะใส่ ฮา ลุงน่ารักมากค่ะ

ก่อนอื่นขออนุญาตรีวิวที่พักนะคะ เพราะประทับใจมาก โฮสต์ดูแลดี ที่พักสวย แต่อาจจะไกลจากเมืองไปหน่อย ชื่อที่พักคือ Domino 4 ค่ะ อยู่ใกล้กับ Lotte Mart มากถึงมากที่สุด เดินประมาณ 200 เมตรก็ถึงแล้ว

น้องชื่อ Tiny

โฮสต์ที่นี่เป็นมิตรมาก แนะนำทุกสิ่งอย่างอยากรู้อะไรก็ถามได้นางตอบได้หมด มีความชวนคุยตลอด เอาเป็นว่าดีมากค่ะ

เราเที่ยวซ้ำที่เดิม 2 วันนะคะ เนื่องด้วยมากันก่อนสองคนแล้วอีกคนตามมา เลยกลายเป็นเที่ยวที่เดิมสองรอบ ดังนั้นเราอาจจะเก็บที่เที่ยวได้น้อย และอีกอย่างเราไม่ได้ไปตามพิพิฒภัณฑ์ค่ะ เพราะตอนเรียนไปมาบ่อยมากแล้วเลยตกลงกับเพื่อนว่าคราวนี้ของมาชิวๆเดินแบบไร้จุดหมาย//เอ้าจะทำมาทำเนี่ย เราเคยขอสรุปที่ที่ๆไปเที่ยวมานะคะ

วันแรกเรามีเวลาเที่ยวครึ่งวันค่ะ พอเช็คอินเรียบร้อย ทักทางโฮสต์ที่หล่อเหลา(มาก) ของเราเสร็จก็ออกเดินทาง เรียกGrab Taxi ไปที่ไหนสักแห่ง...ที่ไหนสักแห่งจริงๆค่ะ บอกอแค่เขตแต่ไม่มีพิกัด ฮา เราแนะนำว่าถ้าจะมานี่หาพิกัดรอเลยนะคะ ขอสารภาพตรงนี้ว่าเรากับเพื่อนมากับแบบไร้แพลน หัวโล่งมาก เพราะรู้สึกเหมือนกลับบ้านกันทั้งคู่ แต่ลืมไป...ว่าที่เคยอยู่มันฮานอยอ่ะแก

เดินวนไปวนมาจนคนข้างทางมอง นายอย่าขำเราเราหลงอยู่

ไม่เป็นไรค่ะเรายังมี Google Map เอาล่ะหลังจากกูเกิลมาอ้อมไปสองกิโลเราก็เจอสถานที่เที่ยวกันแล้ว

โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม เวียดนาม

พอมาใกล้ๆแถวนี้นึกว่าอยู่ปารีส สวยค่ะมีความสีอิฐ และเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่

พอเยี่ยมชมเรียบร้อยของให้ทุกคนหันหน้าเข้าหาโบสถ์แล้วขวาหันค่ะ คุณจะพบกับ ไปรษณีย์กลางของโฮจิมินห์

ที่นี่สามารถส่งโปสการ์ดหาตัวเองได้ด้วยค่ะ ไหนๆแล้วก็ลองส่งดูนะคะไม่แพง มีขายอยู่ตรงกลางเลยสามารถซื้อพร้อมแสตมป์ได้ พอเขียนเสร็จก็เอามาหย่อนใส่กล่อง

เราว่ามันคล้ายๆหัวลำโพงบ้านเราเลยค่ะ มีอีกวันที่ไปเจอนักศึกษามาถ่ายรูปจบการศึกษาด้วยแหละ ยังยืนยันว่าชุดอาวหญ่ายคือชุดที่เซ็กซี่สุดๆ

เสร็จแล้วก็หันหน้าเข้าไปรษณีย์นะคะ เดินมาทางซ้ายมือ จะเจอกับถนนเล็กๆเส้นนึงที่เต็มไปด้วยร้านหนังสือ เราขอเรียกมันว่าถนนร้านหนังสือแล้วกัน สงบเงียบมากค่ะ หนังสือดูน่าสนใจ ปกสวย แต่เสียดายเราอ่านไม่ออก

ต่อมาเราก็เดินมาเรื่อยๆ กะจะหาร้านกาแฟสวยๆนั่งสักหน่อย เพราะก่อนมาเจอว่าที่นี่มีร้านกาแฟเยอะมากกกก เดินไปเดินมาเอ้าเจอลานลุงโฮฯเฉยเลย เพิ่งมารู้หลังจากกลับมาที่พักว่าอ๋อมันคือที่เที่ยวด้วยแหละ เรียกว่า Nguyen Hue Street เป็นลานกิจกรรมยาวมาก ข้างๆก็มีตึกสวยๆ

เราไม่ได้มาตอนกลางคืนแต่คิดว่าตอนกลางคืนน่าจะมีการประดับไฟค่ะ

อันนี้เป็นร้านกาแฟส่วนหนึ่งที่เราไปนะคะ จริงๆไปหลายร้านแทบจะกินน้ำแทนข้าว แต่บางที่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะเก็บภาพเลยค่ะ ฮา

อ้อ เราแนะนำร้านแกแฟ ที่หาได้ตามหัวมุมถนน ชื่อร้านว่า PHUC LONG เมนูเด็ดของที่นี่คือ Milk Tea ค่ะ แนะนำมาโดยเพื่อนชาวเวียดนาม มีแต่ที่โฮจิมินห์เท่านั้นนะคะ ที่ฮานอยไม่มีขาย เราลองแล้วอร่อยมากกกกก แนะนำเลยสำหรับคนที่ชื่อชอบชาเย็นนะคะ ชอบถึงขั้นอยากวอนขอผู้ใดที่มีทุนทรัพย์โปรดซื้อลิทสิทธิ์มาเปิดสาขาที่ไทยทีค่ะ//ฝากไว้ด้วย ณ จุดนี้นะคะ จริงจังมาก

ร้านค้าที่นี่ตกแต่งสวยมีความอาร์ต เน้นจุดขายไปที่การตกแต่งร้านและสินค้าทำเอง เราว่าที่โฮจิมินห์มีความคล้ายกรุงเทพฯแต่สงบกว่า

ในเรื่องของอาหารการกิน รอบนี้ได้กินอยู่นิดหน่อยเองค่ะ เราได้มากินที่ร้าน PHO2000 ร้านดัง พิกัด หันหน้าเข้าตลาด BEN THAN ร้านจะอยู่ซ้ายมือ ริมถนนเล็กๆบนชั้น 2 ของร้านกาแฟคอฟฟี่บีน อร่อยฟินทุกเมนู ราคาแอบแรงกว่าข้างทางอยู่หลายระดับแต่ปริมาณนี่ได้เยอะมาก

รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ไม่ได้กินตามข้างทางเท่าไหร่ ก่อนมาคิดไว้กับเพื่อนว่าต้องมากินหอยลวกกับแจ่ให้ได้ ผลสุดท้ายได้กินแค่แจ่เองค่ะ แจ่คือขนมหวานนะคะ มีหลายประเภท ทั้งแบบผลไม้สด หรือแบบกระทิๆคล้ายๆหวานเย็นบ้านเรา แต่รสชาติไม่เหมือนอ่ะ จะอธิบายยังไงดี ต้องไปลองค่ะ เราชอบมากถึงบ้านที่สุด หากินได้ข้างทางทั่วไปที่เขียนว่า CHE อันนี้เรากินร้านเล็กๆแถวที่พักค่ะ อร่อยฟินนนนนนนนนน

ร้านที่ไปนั่งเจ้าของมีความน่ารัก ไปถึงก็สั่งๆนั่งทิ้งตัวประหนึ่งเป็นคนเวียดนาม พอจะออกจากร้านน้องคนขายก็มาชวนคุยถามมาจากไปมาทำอะไร น่ารักกกของจริงต้องนั่งเก้าอี้ซักผ้ากินด้วยนะคะ

อีกครึ่งวันของวันที่สามหมดไปกับการเดินทางไปคอนเสิร์ตค่ะ อันนี้อาจจะไม่เป็นประโยชน์นะคะแต่อยากเล่า ฮา มันเป็นการดูคอนเสิร์ตที่เวียดนามครั้งแรก เราก็จองบัตรผ่าน Ticket box ของเค้ามาแล้ว ส่วนไปยังไงก็มาหาเอาดาบหน้าค่ะ ที่อยากเล่าเพราะได้เจอกับชาวเวียดนามที่เดินทางมาจากฮานอย มาดูคอนฯเหมือนกัน เพื่อนที่มากับเราได้เป็นLucky Fan ค่ะ(อธิบายสำหรับคนอาจจะงง คือการได้สิทธิ์พบศิลปินแบบใกล้ชิดอะไรประมาณนี้) แล้วผู้จัดเปลี่ยนแปลงสถานที่และเวลาบ่อยจนงง พอมาถึงก็ไม่มีอังกฤษอีก ก็ได้เพื่อนเวียดนามนี่แหละค่ะช่วยแปลให้ โชคดีที่เพื่อนสองคนพูดอังกฤษได้คล่องบรื๋อ แต่อีกหลายคนที่พูดไม่ได้เค้าก็พยายามจะสื่อสารกับเรามากๆๆ ประทับใจเหมือนเดิม พอเสร็จเค้าก็พาไปสถานที่จัดคอนเสิร์ตด้วย มีความใจดีขั้นสุด

เราอินกับคอนฯมากค่ะเพราะปกติฟังเพลงเวียดนามอยู่แล้ว ถึงรอบนี้จะมาเพราะเกาหลีก็เถอะนะ ฮา
ใครอยากลองฟังเราแนะนำ Phai Sau Mot Co Gai ของ Soobin Hoang Son ค่ะ ลองไปฟังนะคะ ดี

แก้ไขข้อความเมื่อ