[CR] ริวิว สมัครวีซ่าอังกฤษ UK เดือนกุมภา 2017

สวัสดีค่ะเพื่อนเพื่อนชาวพันทิปจริง ๆ เราก็ได้ใช้บริการการรีวิวของเพื่อนเพื่อนในพันทิปอยู่บ่อย ๆ นะคะสำหรับการรีวิวในครั้งนี้ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่เพิ่งได้ไปทำวีซ่าเพื่อที่จะเข้าสหราชอาณาจักรหรือว่าอังกฤษที่เรารู้ที่คนไทยเรียกกันแล้วนะคะ

ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอบคุณเพื่อนเพื่อนทุกคนในพันทิปนะคะไม่ว่าจะเป็นโพสต์นี้

ซึ่งให้รายละเอียดค่อนข้างเยอะนะคะแต่ว่าขออัพเดทนิดหนึ่งว่ามีหลายหลายหัวข้อที่อาจจะยังไม่ครอบคลุม ทุกอย่าง

สำหรับเคสของเราก็คือว่าเราอยากจะไปเที่ยวอังกฤษเพราะว่าไปเยี่ยมพ่อแม่ของสามีแล้วก็ไปเจอครอบครัวของเขา
รายละเอียดของเรากับสามีก็คือว่าเรากับสามีเจอกันที่สกอตแลนด์ซึ่งอยู่ในสหราชอาณาจักรแล้วก็จะตอนนั้นเป็นแฟนกันและสามีก็ย้ายตามมาที่เมืองไทยแล้วก็แต่งงานกันไปเมื่อกลางปี 2016 ครั้งล่าสุดที่อยู่ที่สหราชอาณาจักรไปนานแล้วก็คือปี 2014 ไม่ได้กลับอังกฤษอีกเลยจนกระทั่งครั้งนี้ก็เลยต้องไปสมัครวีซ่าค่ะ

สามีทำงานประเทศไทย ส่วนเราทำงานประเทศไทยรับราชการมาแล้ว 2 ปีกว่ากว่า

สำหรับวีซ่าสแตนดาร์ดโทรริทเป็นวีซ่าที่นักท่องเที่ยวจะต้องขอสามารถเข้าออกประเทศสหราชอาณาจักรได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนบนเว็บไซต์ทางการของสถานทูตจะไม่แจ้งว่าจะต้องส่งเอกสารอะไรบ้างดังนั้นขอแนะนำเพื่อนเพื่อนให้พยายามเตรียมเอกสารทุกอย่างที่คิดว่าจะสนับสนุนการขอวีซ่าในครั้งนี้โดยจะขออนุญาตสรุปเอกสารที่เราได้ส่งไปดังต่อไปนี้ค่ะ

1. พาสปอร์ตทุกเล่มที่ยังมีอยู่กับตัว รวมถึงสำเนาทุกหน้าของพาสปอร์ต
2. รูปภาพไม่ต้องใช้แล้วเลิกใช้มาแล้ว 1 ปี เนื่องจากบนเว็บไซต์ของการสมัครวีซ่าไม่เคลียร์ว่าจะต้องใช้รูปภาพหรือไม่จึงไปถ่ายรูปมาแล้วก็เสียวเวลาพอสมควรเพราะว่าจริง ๆ แล้วเนี่ยเค้าจะมีห้องที่เก็บลายนิ้วมือด้วยไม่ถึงถ่ายรูปภาพของเราถ่ายซีซีทีวีแล้วก็ถ่ายหน้าตรงด้วยค่ะ
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
สำหรับข้อ 3 และข้อ 4 ไม่จำเป็นจะต้องเซ็นสำเนาถูกต้องเพราะสถานทูตไม่อนุญาตให้เซ็นสำเนาถูกต้องในเอกสารที่ยืนใดๆ เลย อันนี้ตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่รับเอกสารของเราค่ะ (ดีใจที่ไม่ได้เซ็นไปก่อนเพราะเอกสารเยอะมาก)
5. ทะเบียนสมรส เนื่องจากว่าเรารับราชการ เงินเดือนเราต่อเดือนไม่ถึง 20,000 บาทและได้กรอกในใบสมัครแจ้งไปชัดเจนว่าสามีเราจะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อเดินทางไปสหราชอาณาจักร จึงตัดสินใจแนบใบทะเบียนสมรสไปด้วย แต่เป็นการแนบกับเอกสารที่ได้รับรองการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยกองนิติการของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
6. ใบเปลี่ยนชื่อ รับรองการแปลเหมือนกับ 5 ในกรณีของเราเราเปลี่ยนนามสกุลและเพิ่มนามสกุลเก่าให้มาเป็นชื่อกลางจึงมีเอกสาร 2 อย่างได้แก่ใบเปลี่ยน นามสกุล และใบเพิ่มชื่อกลาง
สำหรับเอกสารใน ข้อ 5 และข้อ 6 ค่อนข้างซับซ้อนเพราะเป็นคนแปลเองและต้องนำไปรับรองเอกสารที่กรมกงสุลเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะรู้รายละเอียดว่าต้องทำอย่างไรบ้างเดี๋ยวจะโพสกระทู้ที่จะเขียนเพิ่มเติม ในนี้ค่ะ
7. เอกสารรายละเอียดการเดินทางเขียนเป็นจดหมาย cover letter บอกว่าเราเป็นใครแล้วจะไปทำอะไรที่สหราชอาณาจักรตั้งแต่วันไหนถึงวันไหนบอกแผนการเดินทางทุกอย่างจะไปพักกับใครเดี๋ยวจะโพสเผื่อเป็นวิทยาทานกับเพื่อนเพื่อนทุกคนด้วยค่ะ

8. อีทิกเก็ตหรือตั๋วสเครื่องบินที่แสดงถึงวันที่ออกเดินทางจากประเทศไทยและวันและอะไรที่กลับมาจากสหราชอาณาจักรกลับมาที่ประเทศไทย
9. สำหรับที่พักนั้นเราไปพักกับพ่อแม่ของแฟนจึงให้เขาเขียนจดหมายแสดงความจำนงว่าเขาพร้อมที่จะดูแลให้ที่ให้ที่พักกับเราโดยเขาได้แนบสำเนา พาสปอร์ต และสำเนาเอกสารที่แสดงถึงที่อยู่ของเขาที่แน่นอน

10. ใบรับรองการทำงานและเงินเดือนจากที่ทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ  ของที่ทำงานเราก็จะบอกว่าเราทำงานตำแหน่งอะไรอยู่ที่สำนักไหนกรมอะไรแล้วก็บอกว่าเงินเดือนเท่าไหร่รวมไปถึงเริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันที่เท่าไหร่แล้วก็มีเบอร์ช่องทางติดต่อรวมถึงอีเมลด้วย

11. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือนและเงินอื่น ๆ(PaySlip) ย้อนหลัง 6 เดือนจริง ๆ ก็ไม่ได้มีใครบอกว่าต้องกี่เดือนแต่ว่าเราก็ส่งให้มากที่สุด
12. bank statement ย้อนหลัง 6 เดือนทั้งของเราและของสามี ไปขอจากธนาคาร ย้อนหลังหกเดือนนี่ มีค่าธรรมเนียม 100 บาท (เราขอของ  กรุงเทพของแฟน และกรุงไทยของเรา) จริง ๆ หลายหลายกระทู้บอกว่าจะต้องส่งหน้าบุ๊คแบงค์ให้ด้วยวันนั้นเราลืมเอาบุ๊คแบงค์ไปอัพแล้วก็ไม่ได้ให้ถ่ายเอกสารเอาไว้ก็เลยไม่ได้ยื่น แต่สรุปเราก็ได้ว๊ว่านะ
13. Payslip ย้อนหลัง 6 เดือนของสามี
14. Cover letter ของสามีที่เขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปครั้งนี้เพราะว่าเราทั้งสองคนจะเดินทางกลับไปที่ uk พร้อมกันซึ่งข้อมูลทุกอย่างควรที่จะให้ตรงกัน จริง ๆ แล้วเราก็เป็นคนร่างจดหมายฉบับนี้ให้กับสามีสามีไปรับwordingนิดหน่อยค่ะ
15. เอกสารรับรองจำนวนหุ้นและเงินฝากของสหกรณ์เป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากว่าเงินเดือนน้อยเราเลยต้องเพื่อความชัวร์ก็เลยไปขอเอกสารรับรองดังกล่าวมาคิดว่าก็ช่วยได้นะคะ ในบัญชีมีเงินคุณอยู่ประมาณ 150,000 แล้วก็ เงินฝากอยู่ประมาณ 80,000
16. สำเนาพาสปอร์ตของสามีทุกเล่มรวมถึงไทยเอกสารทุกหน้าบนพาสปอร์ตของสามี
17. สำเนาเวิร์คเพอร์มิตของสามีรวมถึงทุกหน้าด้วย
18. และเพื่อความเซฟ เราแนบบัญชีของสามีที่อยู่ที่ uk ไปด้วยแม้ว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ก็ตาม

เมื่อเตรียมเอกสารครบทุกอย่างก็ทำสำเนาของทุกอ่านรวมถึงสแกนของทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ติดกับตัวด้วย เพราะว่าเราไม่ได้ใช้เอเจนซี่ไหนเลยทำเองหมดทุกอย่างกรอกเอกสารออนไลน์กรอกเองไม่ได้ดูคำแนะนำอะไรบนพันทิปเพราะว่าค่อนข้างมั่นใจว่าภาษาอังกฤษตัวเองโอเคพอเรียนที่ uk มา 7 ปีกว่ากว่า แต่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่แน่ใจไม่มั่นใจว่าภาษาตุ่ยจังที่ตัวเองเปลองดูกระทู้อื่น ๆ ของเพื่อนเพื่อนละกันนะคะ

หลังจากกรอกละเอียดออนไลน์เสร็จเรียบร้อยพิมพ์เอกสารเหล่านั้นออกมา แต่ที่ขาดไม่ได้อย่าลืมตัวที่เรียกว่า application confirmation และนำติดตัวมาด้วยนะคะ

ในอีเมลหลังจากที่จ่ายเงินข้าววีซ่าเรียบร้อยแล้วจาบอกมาว่าให้ถึงที่ตึกที่จะสมัครหรือว่าตึกเทรนดีเนี่ยก่อน 10นาที แต่ดูในโพสเก่าเก่าเค้าบอกว่าถึงนัด 10 โมงจะไป 8 โมงจะได้เข้าเร็วกับเพื่อนไม่ต้องรอนานเหมือนคนอื่นตอนนี้เค้าเปลี่ยนแล้วค่ะก็คือว่าเค้าจะเรียกคิวแต่ ´ เนี่ยถ้าสมมติว่ามีคิว 10 โมงจะเรียก 9 โมง 50 แสดงว่าถ้าคุณไปก่อนหน้านั้นก็ไม่มีความหมายอะไรแค่ไปนั่งรอค่ะ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะเรียกแล้วก็เราต้องไปต่อคิวเพื่อที่จะให้จนาชีเช็คชื่อเราว่าตรงกับที่ของมีไหมแล้วก็จะปั้มตราคอนเฟิร์มก่อนที่จะส่งเราไปขึ้นลิฟต์ไปของฉันที่ 28 ถ้าจำไม่ผิด แล้วก็ต้องรับบัตรคิวเพื่อที่จะเข้าไปในห้องเพื่อที่จะส่งเอกสารค่ะ พอเข้าไปห้องยังไม่ได้นั่งเลยกอดเบอร์ได้รับการเรียกถือว่าถ้าครบถ่ายเอกสารมาครบพบมือเนี่ยทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในระยะเวลา 5นาทีก่อนที่จะส่งเราไปถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือ ค่ะ

อยากจะแนะนำว่าให้เตรียมเอกสารทุกอย่างที่จะนำไปยื่นให้พร้อมในปึ่งเดียว เพราะว่าเราไม่ได้ทำวีซ่าที่ประเทศไทยมานานมากแล้วนานมากกว่า 10 ปีก็ไม่รู้ว่าวิธีการเปลี่ยนไปมากเตรียมให้พร้อมทุกอย่างนะคะจะได้ไม่เสียเวลาไปนั่งจัดเอกสารไม่เหมือนของเรา

สำหรับตอนยื่นเอกสารเจ้าหน้าที่ก็จะมีบัตรใบแบบนี้เพื่อที่จะเช็คเอกสารที่เราจะยื่น แล้วก็ให้เราเซ็นว่าเอกสารที่ยื่นครบทุกอย่างนะคะถือเป็นฟอร์มที่ค่อนข้างดีพอสมควร แต่ว่าจะไม่แตกออกมาเป็นรายละเอียดมากมายเพื่อที่ให้เราไปคิดด้วยตัวเองว่าเราอยากจะยื่นอะไรค่ะ


เราสมัครวันศุกร์วันอังคารต่อมาได้รับอีเมลว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับการสมัครของปีซ่านี้แต่ไม่บอกว่าได้หรือไม่ได้รอจนถึงวันพฤหัสฯ ถึงได้พาสปอร์ตคืนมา ตอนที่ส่งเอกสารเจ้าหน้าที่ถามว่าต้องการมารับเอกสารเองหรือจะให้ส่งแบบอีเอ็มเอสเราก็เลือกที่จะให้ส่งลงอีเอ็มเอสค่ะเพราะว่าไม่มีเวลาเข้าไปกับเอกสารและคิดว่าค่อนข้างยุ่งยากด้วยเพราะต้องรอต้องหลายหลายอย่างเลยรอผ่านทางนี้ดีกว่าค่ะ
อ้ออีกอย่างหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ทำว่าต้องการรับฟังผลผ่านทาง SMS หรือไม่แต่ว่าคนตราคาค่อนข้างแพงเพราะว่า 1 เมสเสจเนี่ย 85 บาทเลยคิดว่าได้ผล ทางอีเมลก็ไม่ต้องเสียตังค์ก็เลยไม่เลือกค่ะซึ่งก็ดีใจนะคะเพราะเข้าใจว่า SMS เนี่ยเค้าบอกเหมือนกับอีเมลก็คือไม่บอกว่าได้ปีซ่าวีซ่าผ่านหรือวีซ่าไม่ผ่านนะคะยังไงก็ต้องรอดูในเอกสารที่ส่งกลับมาเหมือนเดิมค่ะ

หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังจะสมัครวีซ่ากะลังหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำวีซ่าสหราชอาณาจักรด้วยตัวเองโดยไม่ใช่เอเจ้นนะคะ ถ้ามีควอข้อสงสัยอะไรทิ้งเอาไว้ก็ได้ค่ะแต่จะพยายามตอบให้ได้นะคะแต่ขออนุญาตออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้เป็นสถานทูตที่จะสามารถให้คำตอบที่ถูกต้องได้นะคะก็ขอแค่แชร์ประสบการณ์เอาไว้ค่ะ

โชคดีค่ะทุกคน
ชื่อสินค้า:   วีซ่า UK
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่