ทริปพาพ่อไปสัมผัสธรรมชาติ ที่ปากน้ำประแสร์ ทุ่งโปร่งทอง :)

สวัสดีค่ะ  เพี้ยนmbpt
ทริปนี้ไปเมื่อช่วงเดือน มกราคม 2560 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ อากาศโดยรวมคือ เย็น มีลม แต่แดดจัดนิดนึง
ด้วยความที่ พ่อชอบธรรมชาติ ชอบต้นไม้ ปลูกผัก เลี้ยงกุ้งเลี้ยงหอย เลี้ยงไส้เดือน แต่ความที่อยู่กรุงเทพจึงหาความเขียวๆเย็นๆได้ยาก
ก็เลยตกลงปลงใจพามาที่นี่ค่ะ ยิ้ม


การเดินทาง

ตาม GPS มาเลยค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า / ตัว GPS จะพาไปยังส่วนท้ายของป่าชายเลน ปากน้ำประแสร์ มีที่จอดรถเยอะแยะเลยค่ะ มีร้านอาหารต่างๆ
เมื่อจอดรถแล้ว เราต้องนั่งรถพ่วงต่อเข้าไปคนละ 10 บาท ซึ่งจะเป็นทางที่อยู่ใกล้ทุ่งโปร่งทองที่สุด (เดินย้อนขึ้นไป)



เมื่อมาถึงปากทางเข้า ป่าชายเลน จะมีซุ้มขายน้ำและอาหารออเดิฟ จากคนในชุมชนแถวนั้น
แนะนำให้ซื้อน้ำเข้าไปด้วยนะคะ เพราะเดินไกลพอสมควรเลย และด้านในไม่มีร้านค้า

จากนั้นเดินผ่านเข้าไปไม่เกิน 200 เมตร เราจะพบกับ... นี่ค่ะ!



ทุ่งโปร่งทองอันเลื่องลือ ของจริงสวยมากๆ สวยสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ ประทับใจที่สุด แต่แดดแรงจัดมาก ถึงแม้ว่าวันนั้นจะอากาศเย็นๆหน่อยก็ตาม
ยืนถ่ายรูปซักพัก ก็ต้องหลบเข้าป่าค่ะ สู้แดดไม่ไหว อมยิ้ม07



นี่คือ นายแบบในวันนี้ค่ะ  พอรู้ตัวว่าจะถูกถ่ายรูป มีการหยิบแว่นดำมาใส่ด้วย น้อวววววว (พ่อใครเนี่ยะ รู้งานจริงๆ)
เดินไปเรื่อยๆ ตามทางก็จะเป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติค่ะ มีต้นไม้สองข้างทาง ร่มรื่นมากๆ




ถึงตรงนี้ก็ยังไม่ถึงครึ่งทาง แต่ตรงนี้เป็นพื้นยื่นออกไปในน้ำ สวยดีเลยแวะถ่ายรูปสักหน่อยค่ะ

เรามัวแต่เดินถ่ายรูป นู่นนี่ จนพ่อเดินพาหมานำหน้าไปไกลแล้ว อ้อ! ลืมบอกไปว่าพาลูกชายมาด้วยค่ะ อาโป ยิ้ม
(พาสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้นะคะ แต่ต้องดูแลเรื่องความสะอาด และไม่ให้น้องไปรบกวนคนอื่นๆด้วยค่ะ)
พอเดินตามก็ได้พบว่า พ่อกำลังหลอกล่อหมาให้ถ่ายรูปด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า


พักแปปนึง ลิ้มรสความบริสุทธิ์ของอากาศ กลิ่นเย็นๆของน้ำ ชื่นใจจจจ


เดินจากตรงนี้ไปอีกนิดนึง จะเจอต้นไม้ต้นใหญ่ อยู่กลางทางเดิน ซึ่งเป็นจุดที่สวย เหมาะกับการถ่ายรุปอีกที่นึงค่ะ


แต่ว่า มีคนมือบอนใช้ของมีคม สลักชื่อ ขีดเขียนบนต้นไม้เต็มไปหมดเลย
ทำไมทำอย่างนี้ไม่รู้แย่จริงๆ เศร้า


พอหลุดจากป่า ก็จะเจอศาลาริมน้ำ สามารถเข้าไปนั่งหลบแดด หลบฝนได้ค่ะ ทำได้แข็งแรง น่านั่งมาก ลมนี้ตีหน้าเคลิ้มจะหลับให้ได้



ตรงนี้คือที่ชอบที่สุดเลย ยิ้ม  เท่จริงๆนายแบบ


เนื่องจากเราเดินย้อนขึ้น ดังนั้นรถที่เราจอดไว้ก็จะอยู่อีกด้านนึง พอเดินออกมาจากป่า ก็จะมีบริการรถพ่วงไปถึงที่จอดรถค่ะ
ราคาคนละ 25 บาท แพงกว่าขามานิดหน่อย เพราะคุณลุงคนขับรถพ่วงบอกว่ามันไกลประมาณ 4 กิโลเห็นจะได้ เพราะว่าเราเดินลัดเข้าป่ามา
ระยะทางประมาณ 2 กิโลนิดๆ ระยะทางเดินลัดป่าเลยสั้นกว่า


ขากลับเข้ากรุงเทพ ซ้ายมือจะพบกับ ทุ่งดอกปอเทือง เหมือนเป็นของขวัญตบท้าย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่