“ไทด์ เอกพันธ์” ขอบคุณเมียให้เกียรติมาหย่า ขอปิดฉากชีวิตคู่ 12 ปี ก่อนวันวาเลนไทน์ เผยไม่มีเซ็กซ์ 3 ปี เคลียร์กับภรรยาก่อนจะคุยกับผู้หญิงคนใหม่ เปิดใจบอกเลิกเมียปุ๊บมีสาวเข้ามาคุยด้วย ไม่อยากคลุมเครือ คบใครต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ย้ำถึงไม่มีสาวใหม่ก็ต้องเลิกเพราะหมดรัก รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์
เป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ต้นปี สำหรับกรณีครอบครัว “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” แตกหัก แยกเตียงนอน และกำลังจะหย่า ยุติชีวิตคู่กับภรรยา “ยุ้ย คนึงนิจ ศิริพงษ์ปรีดา” ซึ่งล่าสุดไทด์ได้ออกมาเผยว่าความรักถึงทางตัน 3 ปี ไร้เซ็กซ์
“อย่างที่ผมบอกไปว่าชีวิตครอบครัว มีทั้งประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จมันเกิดจากอะไร มันมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ครอบครัวเราเมื่อก่อนที่ยังหวานชื่น อะไรๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักไปหมด ประทับใจไม่ลืมเลือน แต่พอมา ณ จุดหนึ่งมันก็เกิดการหมางเมิน ชินชา แล้วรู้สึกว่าใครคนใดคนหนึ่งไม่สำคัญ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันก็เกิดการแหนงหน่าย การเริ่มหมดใจก็เริ่มเพิ่มขึ้นมา”
“เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้วที่เป็นอย่างนี้ มีครั้งหนึ่งที่เราเหมือนจะแยกกัน มีผู้ใหญ่คนหนึ่งมาเคลียร์ให้จบแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ไม่ถึงปีก็เกิดความรู้สึกเดิมขึ้นมาอีก เราก็รู้สึกว่ามันหมดใจกันแล้วเหรอ ที่จะมาต่อให้เหมือนเดิมขึ้นมาได้ ถามตัวเอง ปีหนึ่งผ่านไป สองปีผ่านไป มันไม่กลับมาแล้ว ก็รอให้ลูกๆ อายุมากขึ้นจะได้อธิบายเรื่องราวให้เขาฟัง ถ้าเขาเปิดใจยอมรับได้ ก็จะลุกขึ้นมาขอใช้ชีวิตของใครของมันแล้วกัน แต่ลูกเราก็ยังดูแล”
“คือครอบครัวทุกครอบครัวผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีแค่เราสองคนสามีภรรยาเท่านั้น ที่รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับครอบครัว อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องวุ่นวาย เราสองคนรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นผมพูดไป ทางโน้นเหมือนเขากำลังจะพร้อมแล้ว พอดีมีเรื่องว่าผมมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง มันเลยใหญ่โต ยืดยาวขึ้นมา แต่คิดว่าอีกไม่น่านน่าจะเคลียร์กันได้ลงตัว”
เผยไม่มีเซ็กซ์ 3 ปี รอจนลูกรับได้จึงขอแยกทางเมีย
“เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า อย่าไปเอาคนที่เขาไม่เกี่ยวข้องมายุ่งกับครอบครัวเรา ให้เขารับความจริงว่าครอบครัวเราแยกกันอยู่เกือบ 3 ปีแล้ว แยกกันนอน ไม่มีอะไรกัน ไม่มีเพศสัมพันธ์กันมาเกือบ 3 ปี บางครั้งต้องนอนเตียงเดียวกันเพราะลูกอยู่ด้วยกัน ทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อกับแม่ก็ยังรักกันอยู่ ลูกก็คอยดูพ่อแม่อยู่เหมือนกันว่าพ่อแม่จะเล่นละครหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ถึงวันหนึ่งผมบอกเขาว่าเราแยกทางกันดีกว่า เราอธิบายให้ลูกฟังแล้ว ลูกโอเค ถ้าพ่อมีความสุขก็ยอมรับได้ไม่อยากให้วันๆ ทำงานแล้วหน้าเครียดตลอดเวลา ถ้าพ่อมีความสุขลูกก็โอเค เลยมีวันนี้ว่าขอแยกทางกับภรรยา”
บอกเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะ บอกเลิกเมียปุ๊บ มีคนเข้ามาคุยด้วย คบใครต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ไม่คลุมเครือ
“มันประจวบเหมาะพอดี เหมือนวันนี้เราบอกเขาว่าเราเลิกกันดีกว่า เผื่อเขาเจอใครที่ดีกว่า เราเจอใครที่ดีกว่า มันประจวบเหมาะ วันนี้บอกปุ๊บ ก็มีคนไปชอบ คุยกันเฉยๆ มันเลยไปรู้ถึงหูเขา ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราว แต่มันไม่มีอะไร ผมบริสุทธิ์ใจมากๆ เพราะเกือบ 3 ปีมาแล้วเราไม่มีอะไรกันเลย ถ้าเราจะคบใครคนใดคนหนึ่งก็ให้เกียรติทั้งสองฝ่ายก็ต้องชัดเจนไม่คลุมเครือ หลอกกันไปหลอกกันมา ผมชัดเจน ขอเลิกก็คือขอเลิก ลูกเขาก็รับได้นะ เขาแฮปปี้ ถ้าพ่อมีความสุข พวกเราทุกคนพร้อมไปร่วมสุขกับพ่อ ไม่อยากเห็นพ่อมีความทุกข์ เครียดแล้ว”
โทษตัวเองไม่มีเวลาให้เมียจนสัมพันธ์ค่อยๆ ห่าง พ้อรักจืดจาง กลับบ้านก็ไม่มีกำลังใจ ไม่มีใครมาถามว่าหิวมั้ย เอาน้ำสักแก้วมาให้ดื่ม
“รักจืดจางครับ เป็นเพราะผมเองก็ได้ เมื่อก่อนทำงานทุกวัน ละคร 5 เรื่อง พิธีกร 5 รายกรแล้วไม่มีเวลาให้เขา เขาก็งอน รอให้เราไปง้อ แต่เราไม่มีเวลาไปง้อเขา พอไม่มีเวลาง้อเขา เขาก็โอเค ต่างคนต่างอยู่ เป็นแบบนี้มาตลอด บางทีผมกลับบ้านก็อยากมีกำลังใจ เอาน้ำสักแก้วมาให้ผมดื่ม กลับมาตีสองตีสามถามว่าหิวมั้ยสักคำมันก็ไม่มี เหมือนต่างคนต่างอยู่ จนวันหนึ่งเขาขอย้ายที่นอนลงไปนอนข้างล่าง ผมก็เริ่มรู้สึกแล้ว ย้ายไปอยู่เกือบปี ผมก็ไม่ได้แล้ว ก็ขอเอาตัวออกจากบ้านนั้นไปอยู่อีกบ้าน แยกกัน แต่เสาร์อาทิตย์เจอกันเพื่อลูก ลูกอยู่กับแม่ 4 วัน อยู่กับผม 3 วัน”
เตรียมหย่าวันที่ 13 ก.พ. อีกฝ่ายรู้แล้วว่ารั้งเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้ตนไม่ได้มีใครใหม่ ก็ต้องแยกกันอยู่แล้ว
“ตัดสินใจเลิกกันเมื่อประมาณธ.ค. ยังไม่ได้หย่า ตอนนี้กำลังดำเนินการทำเรื่องหย่า ตอนนี้เขาเริ่มรู้แล้วว่าไม่รู้จะรั้งไว้ทำไม ถ้ารั้งไว้ผมไม่ได้อะไรกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ถามว่าจะกลับมามั้ยก็ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ก็ต้องแยกกันอยู่อยู่แล้ว ก็พยายามบอกเขาว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรั้งผมไว้”
“เมื่อสองสามวันเขาก็เพิ่งคิดได้ บอกมาทางลูกว่าตอนนี้เขาพร้อมแล้ว ให้ผมดำเนินการเรื่องทรัพย์สินต่างๆ แล้วแต่ให้เขา เขาก็พร้อมที่จะหย่าให้เลย ก็ถือว่าเป็นข่าวดี เราก็ใจหายหน่อยนะ เราอยู่มา 12 ปีกว่าๆ ก็ใจหายทุกคน แต่ก็ภาวนาให้ชีวิตเขารุ่งเรืองไปเจอคนที่รักเขา มีเวลาให้กับเขา ผมก็บอกแล้วว่านักแสดง เรื่องเวลาสำคัญมาก ใครอยู่กับนักแสดงได้ คนนั้นโชคดีมาก แต่บางคู่เขาก็อยู่กันยืด เพราะภรรยาจะไปกับสามี สามีไปไหนภรรยาไปด้วยมันเกี่ยวก้อยกันไป แต่ถ้าสามีไปถ่ายหนังละคร ภรรยาอยู่บ้าน อีกไม่นาน จริงๆ ครับ คู่เก่าๆ ที่ผมดูๆ มาก็เป็นแบบนี้”
“คิดว่าทุกอย่างจะจบวันจันทร์หน้า 13 ก.พ. ก่อนวันวาเลนไทน์(หัวเราะ) บอกลูกไปว่าบอกหม่าม๊าด้วยนะถ้าวันจันทร์พ่อไม่ได้ถ่ายละคร พ่อขอนัดทำทุกอย่างให้เสร็จในวันนั้น เคยโทร.ไปคุยกับเขา เขาไม่รับสาย เขาคงไม่พร้อมคุยกับเรา เขาก็ผ่านลูกมาหาเรา เราก็ผ่านลูกไปหาเขาลูกน่ารักมากเหมือนเป็นสื่อ เขายังไงก็ได้ วันที่ 13 ถ้าไม่ถ่ายละครก็น่าจะจบวันนั้น ก็เป็นเพื่อนกันเขาไม่มีอะไรเสียหายแต่ด้วยเวลามันห่างกัน การใช้ชีวิตอยู่มันต่างกัน ในเมื่อมันอยู่ไม่ได้ก็แยกทางกัน”
ภาพพจน์เสียเพราะฝ่ายเมียเอารูปเก่าๆ สมัยหวานชื่นมาโพสต์ วอนโซเชียลอย่าฟังความข้างเดียว และไม่โกรธที่ “นิ้ง กุลสตรี” ออกมาปกป้องพี่สาว
“ผมไม่ไดโกรธโซเชียลเลยนะ อยากให้มองทั้งสองฝ่าย อย่าฟังความฝ่ายเดียว บางครั้งฝ่ายโน้นเอาภาพเก่าๆ มาลงเพื่อให้เห็นว่าเรายังรักกันอยู่หวานชื่น ทำให้ภาพพจน์ผมเสียว่าเฮ้ย คุณยังอยู่กับภรรยา คุณยังมีความสุข ยังรักกันอยู่ ทำไมมีผู้หญิงคนอื่นแล้วมาหย่าเขาคนอื่นไม่เข้าใจก็ประณามผมแล้ว”
“ผมไม่โกรธ ไม่ได้ตอบโต้สักคำ ผมคิดว่าสักวันหนึ่งผมจะมีโอกาสมาบอกให้สังคมได้รับรู้ว่าชีวิตครอบครัวไม่มีใครรู้ดีไปกว่าสามีภรรยาว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไม่ได้อยู่กับผมไม่ได้อยู่กับภรรยาของผม อย่าเอาข้อมูลคิดไปเองมโนไปเองว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งญาติเขาก็มาคอมเมนต์ผม เฮ้ย เอาภาพมาดูว่าไปกินข้าวกันอยู่เลยโน่นนี่นั่น ก็ช่วยพี่สาวเขาเต็มที่ ต้องดูด้วยว่ารูปนี้ถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ รูปนี้ที่ผมไปเขาก็ขอร้องให้ผมไป คือผมไม่ได้อยากไป ตอนนั้นเราแยกกันอยู่แล้วแต่ไปเพื่อให้เกียติครอบครัวเขาเท่านั้นเอง ก็ไม่โกรธครับ”
ย้ำจบดี ขอบคุณที่ให้เกียรติมาหย่า!
“จบด้วยดี ก็ขอบคุณเขาจริงๆ ที่ให้เกียรติมาหย่าด้วยดี และเราก็ขอเป็นเพื่อนกัน มีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็พร้อมช่วยเหลือตลอดเวลา ไปหย่ากันที่เขตพระนครครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000013801
ใจหมดรัก! รั้งไปก็ไร้ประโยชน์! “ไทด์” ขอบคุณเมียให้เกียรติมาหย่าก่อนวาเลนไทน์ เผยมีสาวใหม่เข้ามาคุยด้วย
“ไทด์ เอกพันธ์” ขอบคุณเมียให้เกียรติมาหย่า ขอปิดฉากชีวิตคู่ 12 ปี ก่อนวันวาเลนไทน์ เผยไม่มีเซ็กซ์ 3 ปี เคลียร์กับภรรยาก่อนจะคุยกับผู้หญิงคนใหม่ เปิดใจบอกเลิกเมียปุ๊บมีสาวเข้ามาคุยด้วย ไม่อยากคลุมเครือ คบใครต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ย้ำถึงไม่มีสาวใหม่ก็ต้องเลิกเพราะหมดรัก รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์
เป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ต้นปี สำหรับกรณีครอบครัว “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” แตกหัก แยกเตียงนอน และกำลังจะหย่า ยุติชีวิตคู่กับภรรยา “ยุ้ย คนึงนิจ ศิริพงษ์ปรีดา” ซึ่งล่าสุดไทด์ได้ออกมาเผยว่าความรักถึงทางตัน 3 ปี ไร้เซ็กซ์
“อย่างที่ผมบอกไปว่าชีวิตครอบครัว มีทั้งประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จมันเกิดจากอะไร มันมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ครอบครัวเราเมื่อก่อนที่ยังหวานชื่น อะไรๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักไปหมด ประทับใจไม่ลืมเลือน แต่พอมา ณ จุดหนึ่งมันก็เกิดการหมางเมิน ชินชา แล้วรู้สึกว่าใครคนใดคนหนึ่งไม่สำคัญ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันก็เกิดการแหนงหน่าย การเริ่มหมดใจก็เริ่มเพิ่มขึ้นมา”
“เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้วที่เป็นอย่างนี้ มีครั้งหนึ่งที่เราเหมือนจะแยกกัน มีผู้ใหญ่คนหนึ่งมาเคลียร์ให้จบแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ไม่ถึงปีก็เกิดความรู้สึกเดิมขึ้นมาอีก เราก็รู้สึกว่ามันหมดใจกันแล้วเหรอ ที่จะมาต่อให้เหมือนเดิมขึ้นมาได้ ถามตัวเอง ปีหนึ่งผ่านไป สองปีผ่านไป มันไม่กลับมาแล้ว ก็รอให้ลูกๆ อายุมากขึ้นจะได้อธิบายเรื่องราวให้เขาฟัง ถ้าเขาเปิดใจยอมรับได้ ก็จะลุกขึ้นมาขอใช้ชีวิตของใครของมันแล้วกัน แต่ลูกเราก็ยังดูแล”
“คือครอบครัวทุกครอบครัวผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีแค่เราสองคนสามีภรรยาเท่านั้น ที่รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับครอบครัว อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องวุ่นวาย เราสองคนรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นผมพูดไป ทางโน้นเหมือนเขากำลังจะพร้อมแล้ว พอดีมีเรื่องว่าผมมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง มันเลยใหญ่โต ยืดยาวขึ้นมา แต่คิดว่าอีกไม่น่านน่าจะเคลียร์กันได้ลงตัว”
เผยไม่มีเซ็กซ์ 3 ปี รอจนลูกรับได้จึงขอแยกทางเมีย
“เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า อย่าไปเอาคนที่เขาไม่เกี่ยวข้องมายุ่งกับครอบครัวเรา ให้เขารับความจริงว่าครอบครัวเราแยกกันอยู่เกือบ 3 ปีแล้ว แยกกันนอน ไม่มีอะไรกัน ไม่มีเพศสัมพันธ์กันมาเกือบ 3 ปี บางครั้งต้องนอนเตียงเดียวกันเพราะลูกอยู่ด้วยกัน ทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อกับแม่ก็ยังรักกันอยู่ ลูกก็คอยดูพ่อแม่อยู่เหมือนกันว่าพ่อแม่จะเล่นละครหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ถึงวันหนึ่งผมบอกเขาว่าเราแยกทางกันดีกว่า เราอธิบายให้ลูกฟังแล้ว ลูกโอเค ถ้าพ่อมีความสุขก็ยอมรับได้ไม่อยากให้วันๆ ทำงานแล้วหน้าเครียดตลอดเวลา ถ้าพ่อมีความสุขลูกก็โอเค เลยมีวันนี้ว่าขอแยกทางกับภรรยา”
บอกเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะ บอกเลิกเมียปุ๊บ มีคนเข้ามาคุยด้วย คบใครต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ไม่คลุมเครือ
“มันประจวบเหมาะพอดี เหมือนวันนี้เราบอกเขาว่าเราเลิกกันดีกว่า เผื่อเขาเจอใครที่ดีกว่า เราเจอใครที่ดีกว่า มันประจวบเหมาะ วันนี้บอกปุ๊บ ก็มีคนไปชอบ คุยกันเฉยๆ มันเลยไปรู้ถึงหูเขา ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราว แต่มันไม่มีอะไร ผมบริสุทธิ์ใจมากๆ เพราะเกือบ 3 ปีมาแล้วเราไม่มีอะไรกันเลย ถ้าเราจะคบใครคนใดคนหนึ่งก็ให้เกียรติทั้งสองฝ่ายก็ต้องชัดเจนไม่คลุมเครือ หลอกกันไปหลอกกันมา ผมชัดเจน ขอเลิกก็คือขอเลิก ลูกเขาก็รับได้นะ เขาแฮปปี้ ถ้าพ่อมีความสุข พวกเราทุกคนพร้อมไปร่วมสุขกับพ่อ ไม่อยากเห็นพ่อมีความทุกข์ เครียดแล้ว”
โทษตัวเองไม่มีเวลาให้เมียจนสัมพันธ์ค่อยๆ ห่าง พ้อรักจืดจาง กลับบ้านก็ไม่มีกำลังใจ ไม่มีใครมาถามว่าหิวมั้ย เอาน้ำสักแก้วมาให้ดื่ม
“รักจืดจางครับ เป็นเพราะผมเองก็ได้ เมื่อก่อนทำงานทุกวัน ละคร 5 เรื่อง พิธีกร 5 รายกรแล้วไม่มีเวลาให้เขา เขาก็งอน รอให้เราไปง้อ แต่เราไม่มีเวลาไปง้อเขา พอไม่มีเวลาง้อเขา เขาก็โอเค ต่างคนต่างอยู่ เป็นแบบนี้มาตลอด บางทีผมกลับบ้านก็อยากมีกำลังใจ เอาน้ำสักแก้วมาให้ผมดื่ม กลับมาตีสองตีสามถามว่าหิวมั้ยสักคำมันก็ไม่มี เหมือนต่างคนต่างอยู่ จนวันหนึ่งเขาขอย้ายที่นอนลงไปนอนข้างล่าง ผมก็เริ่มรู้สึกแล้ว ย้ายไปอยู่เกือบปี ผมก็ไม่ได้แล้ว ก็ขอเอาตัวออกจากบ้านนั้นไปอยู่อีกบ้าน แยกกัน แต่เสาร์อาทิตย์เจอกันเพื่อลูก ลูกอยู่กับแม่ 4 วัน อยู่กับผม 3 วัน”
เตรียมหย่าวันที่ 13 ก.พ. อีกฝ่ายรู้แล้วว่ารั้งเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้ตนไม่ได้มีใครใหม่ ก็ต้องแยกกันอยู่แล้ว
“ตัดสินใจเลิกกันเมื่อประมาณธ.ค. ยังไม่ได้หย่า ตอนนี้กำลังดำเนินการทำเรื่องหย่า ตอนนี้เขาเริ่มรู้แล้วว่าไม่รู้จะรั้งไว้ทำไม ถ้ารั้งไว้ผมไม่ได้อะไรกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ถามว่าจะกลับมามั้ยก็ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ก็ต้องแยกกันอยู่อยู่แล้ว ก็พยายามบอกเขาว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรั้งผมไว้”
“เมื่อสองสามวันเขาก็เพิ่งคิดได้ บอกมาทางลูกว่าตอนนี้เขาพร้อมแล้ว ให้ผมดำเนินการเรื่องทรัพย์สินต่างๆ แล้วแต่ให้เขา เขาก็พร้อมที่จะหย่าให้เลย ก็ถือว่าเป็นข่าวดี เราก็ใจหายหน่อยนะ เราอยู่มา 12 ปีกว่าๆ ก็ใจหายทุกคน แต่ก็ภาวนาให้ชีวิตเขารุ่งเรืองไปเจอคนที่รักเขา มีเวลาให้กับเขา ผมก็บอกแล้วว่านักแสดง เรื่องเวลาสำคัญมาก ใครอยู่กับนักแสดงได้ คนนั้นโชคดีมาก แต่บางคู่เขาก็อยู่กันยืด เพราะภรรยาจะไปกับสามี สามีไปไหนภรรยาไปด้วยมันเกี่ยวก้อยกันไป แต่ถ้าสามีไปถ่ายหนังละคร ภรรยาอยู่บ้าน อีกไม่นาน จริงๆ ครับ คู่เก่าๆ ที่ผมดูๆ มาก็เป็นแบบนี้”
“คิดว่าทุกอย่างจะจบวันจันทร์หน้า 13 ก.พ. ก่อนวันวาเลนไทน์(หัวเราะ) บอกลูกไปว่าบอกหม่าม๊าด้วยนะถ้าวันจันทร์พ่อไม่ได้ถ่ายละคร พ่อขอนัดทำทุกอย่างให้เสร็จในวันนั้น เคยโทร.ไปคุยกับเขา เขาไม่รับสาย เขาคงไม่พร้อมคุยกับเรา เขาก็ผ่านลูกมาหาเรา เราก็ผ่านลูกไปหาเขาลูกน่ารักมากเหมือนเป็นสื่อ เขายังไงก็ได้ วันที่ 13 ถ้าไม่ถ่ายละครก็น่าจะจบวันนั้น ก็เป็นเพื่อนกันเขาไม่มีอะไรเสียหายแต่ด้วยเวลามันห่างกัน การใช้ชีวิตอยู่มันต่างกัน ในเมื่อมันอยู่ไม่ได้ก็แยกทางกัน”
ภาพพจน์เสียเพราะฝ่ายเมียเอารูปเก่าๆ สมัยหวานชื่นมาโพสต์ วอนโซเชียลอย่าฟังความข้างเดียว และไม่โกรธที่ “นิ้ง กุลสตรี” ออกมาปกป้องพี่สาว
“ผมไม่ไดโกรธโซเชียลเลยนะ อยากให้มองทั้งสองฝ่าย อย่าฟังความฝ่ายเดียว บางครั้งฝ่ายโน้นเอาภาพเก่าๆ มาลงเพื่อให้เห็นว่าเรายังรักกันอยู่หวานชื่น ทำให้ภาพพจน์ผมเสียว่าเฮ้ย คุณยังอยู่กับภรรยา คุณยังมีความสุข ยังรักกันอยู่ ทำไมมีผู้หญิงคนอื่นแล้วมาหย่าเขาคนอื่นไม่เข้าใจก็ประณามผมแล้ว”
“ผมไม่โกรธ ไม่ได้ตอบโต้สักคำ ผมคิดว่าสักวันหนึ่งผมจะมีโอกาสมาบอกให้สังคมได้รับรู้ว่าชีวิตครอบครัวไม่มีใครรู้ดีไปกว่าสามีภรรยาว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไม่ได้อยู่กับผมไม่ได้อยู่กับภรรยาของผม อย่าเอาข้อมูลคิดไปเองมโนไปเองว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งญาติเขาก็มาคอมเมนต์ผม เฮ้ย เอาภาพมาดูว่าไปกินข้าวกันอยู่เลยโน่นนี่นั่น ก็ช่วยพี่สาวเขาเต็มที่ ต้องดูด้วยว่ารูปนี้ถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ รูปนี้ที่ผมไปเขาก็ขอร้องให้ผมไป คือผมไม่ได้อยากไป ตอนนั้นเราแยกกันอยู่แล้วแต่ไปเพื่อให้เกียติครอบครัวเขาเท่านั้นเอง ก็ไม่โกรธครับ”
ย้ำจบดี ขอบคุณที่ให้เกียรติมาหย่า!
“จบด้วยดี ก็ขอบคุณเขาจริงๆ ที่ให้เกียรติมาหย่าด้วยดี และเราก็ขอเป็นเพื่อนกัน มีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็พร้อมช่วยเหลือตลอดเวลา ไปหย่ากันที่เขตพระนครครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000013801